AE. Racing Club
04 ธันวาคม 2024 17:35:48 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ว่าด้วยความโหลยโท่ยของบัตรประกันสังคม!!!(โดนมาเมื่อคืน)  (อ่าน 23030 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
UltraKw@nG
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,817


น้ำใจให้เท่าไหร ไม่มีวันหมด!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 10:24:14 »

มันแล้วแต่โรงพยาบาลครับ บางที่ก็ดี บางที่ก็.......
บันทึกการเข้า

พณฯท่าน บรรหาร
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 973


พณฯท่าน


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 12:33:31 »

หลักการดีครับกฎหมายตัวนี้ ไอ้พวกควายห้องแอร์ชอบออกมาเอาใจประชาชนพูดโน้นพูดนี่สุดยอดความโปรโมท แต่ถามหน่อยไอ้พวกควายห้องแอร์กี่ตัวที่มันใช้ บริการ ก็มีแต่จะขูดรีดประชาชนทุกคนที่ได้จ่ายเงินอย่างน้อยเดือนละ 400 บาท เพื่อหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า หากเกิดเจ็บป่วยแต่เงินไม่พอก็อาจจะได้รักษาโรคได้ ...
แล้วไงครับกองทุนประกันสังคมเป็นกองเงินกองทองของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เงินที่เข้ามีแน่นอนเพราะบังคับให้ลูกจ้างและนายจ้างต้องจ่ายให้ทุกคนมิฉะนั้นผิดกฎหมาย แล้วพวกข้าราชการทีทำงานเกี่ยวกับประกันสังคมสุดยอดการใช้เงินครับ แผ่นพับอย่างหรูพิมพ์แจกแต่ไม่มีใครอ่าน คอมที่ใช้เปลี่ยนรุ่นใหม่ ๆ ช่องจ่ายเงินให้มีพนักงานบริการเพียบ แต่ช่องเบิกเงินค่าชดเชยค่าโน่นนี่ที่เราได้ออกไปก่อนแมร่งมี 2 ช่อง
มันขูดรีดกันชัด ๆ มันไม่ต่างอะไรกับการขุดรีดประชาชนทุกคน แล้วเรื่องวัยทำงานน้อยรายที่จะเจ็บป่วย ไอ้เงินค่าทำฟันแมร่งให้ปีละ 500 บ้าไหม หลักการโน่นนี่เยอะแยะ ถ้าไม่ฉุกเฉินเข้าโดรงบาลข้ามไม่ได้ ต้องให้นิติกรตีความก่อนว่ากรณีนี้ฉุกเฉินหรือไม่...แล้วรอฟังคำสั่งก่อนถึงจะจ่ายเงินได้    แค่อยากระบายครับกับไอ้หน่วยงานประกันสังคมที่ขุดรีดประชาชนแต่บริการห่วยไม่ว่าจะเป็นตัวสำนักงานเอง และหน่วยงานโรงพยาบาลที่เข้าไปรับบริการ 

ปล.แค้นมันเพราะเสียปีละ 750 X 12  9000 บาท รอแก่เอาเงินชราภาพ   รอจนตายกว่าจะได้ใช้เงิน
บันทึกการเข้า

PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 13:19:29 »

อืมม บาทีมันอาจจะขึ้นอยู่กับโรงบาลด้วยละมั้ง

พี่สาวแฟนผม เดือนที่แล้วเป็นไส้ติ่ง ผ่าไป ประมาณ 5-60000 มั้ง ประกันสังคมจ่ายให้หมด
เดือนนี้ เป็นอะไรอีกไม่รู้(คนละที่กัน) ต้องผ่าอีก รวมพักก็ราวๆ 4-50000 ประกันสังคมจ่ายหมด

มันจะคุ้มทันทีเมื่อเราเจอปัญหาใหญ่ๆครับ แต่เรื่องบริการนี่ ...
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
noncook
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 649



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 15:24:07 »

ที่ทำงานบังคับทำ .............. เซงอูฐ
บันทึกการเข้า
aj dvd
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,121



ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 15:52:03 »

ก็แล้วแต่รพ นะครับ
จำชื่อรพไม่ได้ ที่เชียงใหม่ ของเอกชน ผ่าใส้ติ่ง บริการดีมาก

แต่บางที่ บัตรทอง ยังดีกว่าซะอีก

แต่ขอบ่นหน่อย เดือนละ750 ปีละ9000 เอาเงินนี้มาซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันจะได้ดีกว่า ไม่น่าบังคับจ่ายเลย

ขอชี้แจงเพื่อนๆทุกท่าหน่อยนะครับว่า เงินประกันสังคมที่หักเรา 5% หรือ 750 บ./เดือน แบ่งเป็น

3% คือเงินบำเหน็จ บำนาญ(กรณีชราภาพ ) ซึ่งเมื่อเกษียณ 55 ปี เพื่อนๆ จะได้รับ
- จ่ายเงินสมทบครบ 180 ด. ได้บำนาญ 3 พันกว่าบ.
- ไม่ครบ 180 ด. ได้บำเหน็จตามสัดส่วนที่จ่าย+ดอกผล(เป็นแสนเหมือนกันนะครับ)
ส่วน 2% ที่เหลือ ประกอบด้วย
0.5% เป็นเงินกรณีว่างงาน จ่าย 30% 3 ด. กรณีลาออกเอง จ่าย 50% 6 ด. กรณีโดนให้ออก
1.5% อันนี้แหละครับ คือ เงินที่เขาจ่ายให้กับเราเป็นค่ารักษาพยาบาล+คลอดบุตร+ทุพพลภาพ+สงเคราะห์บุตร+เสียชีวิต ค่า ซึ่งคำนวนดีๆ จาก 15000 บ. เท่ากับ 225 บ./ เดือน หรือ 2700 บ./ปีเท่านั้น

มีอะไรเรื่องกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน
หรือแง่กม.แรงงานก็ถามได้ครับ
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?lang=th&cat=109
1 ไว้เกษียน -จะมีสักกี่คนที่จะเป็นลูกจ้างไปจนเกษียนครับ ผมคนนึงละ ถ้าเก็บเงินได้จะลาออกไปรับเหมาเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่เคยคิดจะเป็นขี้ข้าต่างชาติให้จิกหัวใช้จนเกษียนแน่นอน  (ไม่รู้ว่าเงินมหาศาลส่วนนี้ออกไปสักกี่บาทก็ไม่รู้)
2 ประกันการว่างงาน- เงื่อนไขเยอะมากครับ ต้องสมัครงานแล้วถ้าเขาไม่รับ ต้องเอาใบรายละเอียกถึงสาเหตุที่ไม่รับมาเบิกเงิน ไหนจะต้องเข้าฝึกอาชีพ ได้มาอย่างหืดขึ้นคอ จนบางคนเบื่อกับเงื่อนไขจนไม่เอามันแล้ว
3 ค่ารักษาพยาบาล จ่ายให้ ประกันสุขภาพ aia300บาท(ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะแค่ยก ตย.) บริการราวฟ้ากับเหว ครับ
เวลาคิดอย่าลืมส่วนของบริษัทสมทบนะครับ ได้ไปเท่าไหร่ต่อหัว ไม่ใช่แค่750บาทนะคับ

อันนี้เป็นความอึดอัดกับเงินที่เสียไปอย่างสูญเปล่าและง่ายดาย พอเวลาจะได้คืนช่างยากเย็น และต้องรอจนแก่เจียนตาย บริการโรงพยาบาลอันแสนห่วยแตก
ทำงานแทบรากเป็นเลือด พอรับสลิป เห็นเงินที่หามาได้โดนขูดรีดไป750บาท มันน่าเจ็บใจนัก งอแง

แค่เล่าให้ฟังนะคับไม่ได้จะโต้เถียงอะไรกัน
บันทึกการเข้า
webslaf
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,368


ไม่วุ่นวาย ง่ายๆ อะไรก็ได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 16:06:11 »

ก็แล้วแต่รพ นะครับ
จำชื่อรพไม่ได้ ที่เชียงใหม่ ของเอกชน ผ่าใส้ติ่ง บริการดีมาก

แต่บางที่ บัตรทอง ยังดีกว่าซะอีก

แต่ขอบ่นหน่อย เดือนละ750 ปีละ9000 เอาเงินนี้มาซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันจะได้ดีกว่า ไม่น่าบังคับจ่ายเลย

ขอชี้แจงเพื่อนๆทุกท่าหน่อยนะครับว่า เงินประกันสังคมที่หักเรา 5% หรือ 750 บ./เดือน แบ่งเป็น

3% คือเงินบำเหน็จ บำนาญ(กรณีชราภาพ ) ซึ่งเมื่อเกษียณ 55 ปี เพื่อนๆ จะได้รับ
- จ่ายเงินสมทบครบ 180 ด. ได้บำนาญ 3 พันกว่าบ.
- ไม่ครบ 180 ด. ได้บำเหน็จตามสัดส่วนที่จ่าย+ดอกผล(เป็นแสนเหมือนกันนะครับ)
ส่วน 2% ที่เหลือ ประกอบด้วย
0.5% เป็นเงินกรณีว่างงาน จ่าย 30% 3 ด. กรณีลาออกเอง จ่าย 50% 6 ด. กรณีโดนให้ออก
1.5% อันนี้แหละครับ คือ เงินที่เขาจ่ายให้กับเราเป็นค่ารักษาพยาบาล+คลอดบุตร+ทุพพลภาพ+สงเคราะห์บุตร+เสียชีวิต ค่า ซึ่งคำนวนดีๆ จาก 15000 บ. เท่ากับ 225 บ./ เดือน หรือ 2700 บ./ปีเท่านั้น

มีอะไรเรื่องกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน
หรือแง่กม.แรงงานก็ถามได้ครับ
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?lang=th&cat=109
1 ไว้เกษียน -จะมีสักกี่คนที่จะเป็นลูกจ้างไปจนเกษียนครับ ผมคนนึงละ ถ้าเก็บเงินได้จะลาออกไปรับเหมาเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่เคยคิดจะเป็นขี้ข้าต่างชาติให้จิกหัวใช้จนเกษียนแน่นอน  (ไม่รู้ว่าเงินมหาศาลส่วนนี้ออกไปสักกี่บาทก็ไม่รู้)
2 ประกันการว่างงาน- เงื่อนไขเยอะมากครับ ต้องสมัครงานแล้วถ้าเขาไม่รับ ต้องเอาใบรายละเอียกถึงสาเหตุที่ไม่รับมาเบิกเงิน ไหนจะต้องเข้าฝึกอาชีพ ได้มาอย่างหืดขึ้นคอ จนบางคนเบื่อกับเงื่อนไขจนไม่เอามันแล้ว
3 ค่ารักษาพยาบาล จ่ายให้ ประกันสุขภาพ aia300บาท(ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะแค่ยก ตย.) บริการราวฟ้ากับเหว ครับ
เวลาคิดอย่าลืมส่วนของบริษัทสมทบนะครับ ได้ไปเท่าไหร่ต่อหัว ไม่ใช่แค่750บาทนะคับ

อันนี้เป็นความอึดอัดกับเงินที่เสียไปอย่างสูญเปล่าและง่ายดาย พอเวลาจะได้คืนช่างยากเย็น และต้องรอจนแก่เจียนตาย บริการโรงพยาบาลอันแสนห่วยแตก
ทำงานแทบรากเป็นเลือด พอรับสลิป เห็นเงินที่หามาได้โดนขูดรีดไป750บาท มันน่าเจ็บใจนัก งอแง

แค่เล่าให้ฟังนะคับไม่ได้จะโต้เถียงอะไรกัน


ถูกต้องเลยคับ เต้

ข้อ1. คงไม่มีใครคิดเป็นลูกจ้างไปจนเกษียณ แน่นอน เงินส่วนนี้.......ไปไหน
ข้อ2. สำคัญมาก เงื่อนไข หินมากๆ พี่ เคยจ่ายมา 7 ปี แล้วตกงาน จะไปทำเรื่องในส่วนนี้หละ ยุ่งยากมาก จากหน่วยงานเดียวกัน 20 กว่าคน ไม่เอาเลยซักคน

แต่ก็อ่ะคับ เคยมีข่าวออกมาให้ได้ยินเรื่อยๆ เกี่ยวกะ คนที่มีอำนาจในเงินส่วนนี้ มักจะ พาครอบครัวไป (เที่ยว)ทัศนะศึกษาดูงาน ต่างประเทศกันบ่อยๆ จนเป็นเรื่องเป็นราว หรือ จะเอาไปปล่อย กู้ มั่งหละ
แต่ ที่ คนจ่าย ตังค์ นี่ กว่า จะกู้ได้ บางทีรำคาญ ไม่กู้มันซะดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน 2010 16:11:32 โดย webslaf » บันทึกการเข้า

2E ปีศาจ... (น้าแม๊ก ว่ามางั้น) รอวันกลับมา....เหมือนเดิม
gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 21:02:33 »

ก็แล้วแต่รพ นะครับ
จำชื่อรพไม่ได้ ที่เชียงใหม่ ของเอกชน ผ่าใส้ติ่ง บริการดีมาก

แต่บางที่ บัตรทอง ยังดีกว่าซะอีก

แต่ขอบ่นหน่อย เดือนละ750 ปีละ9000 เอาเงินนี้มาซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันจะได้ดีกว่า ไม่น่าบังคับจ่ายเลย

ขอชี้แจงเพื่อนๆทุกท่าหน่อยนะครับว่า เงินประกันสังคมที่หักเรา 5% หรือ 750 บ./เดือน แบ่งเป็น

3% คือเงินบำเหน็จ บำนาญ(กรณีชราภาพ ) ซึ่งเมื่อเกษียณ 55 ปี เพื่อนๆ จะได้รับ
- จ่ายเงินสมทบครบ 180 ด. ได้บำนาญ 3 พันกว่าบ.
- ไม่ครบ 180 ด. ได้บำเหน็จตามสัดส่วนที่จ่าย+ดอกผล(เป็นแสนเหมือนกันนะครับ)
ส่วน 2% ที่เหลือ ประกอบด้วย
0.5% เป็นเงินกรณีว่างงาน จ่าย 30% 3 ด. กรณีลาออกเอง จ่าย 50% 6 ด. กรณีโดนให้ออก
1.5% อันนี้แหละครับ คือ เงินที่เขาจ่ายให้กับเราเป็นค่ารักษาพยาบาล+คลอดบุตร+ทุพพลภาพ+สงเคราะห์บุตร+เสียชีวิต ค่า ซึ่งคำนวนดีๆ จาก 15000 บ. เท่ากับ 225 บ./ เดือน หรือ 2700 บ./ปีเท่านั้น

มีอะไรเรื่องกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน
หรือแง่กม.แรงงานก็ถามได้ครับ
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?lang=th&cat=109
1 ไว้เกษียน -จะมีสักกี่คนที่จะเป็นลูกจ้างไปจนเกษียนครับ ผมคนนึงละ ถ้าเก็บเงินได้จะลาออกไปรับเหมาเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่เคยคิดจะเป็นขี้ข้าต่างชาติให้จิกหัวใช้จนเกษียนแน่นอน  (ไม่รู้ว่าเงินมหาศาลส่วนนี้ออกไปสักกี่บาทก็ไม่รู้)
2 ประกันการว่างงาน- เงื่อนไขเยอะมากครับ ต้องสมัครงานแล้วถ้าเขาไม่รับ ต้องเอาใบรายละเอียกถึงสาเหตุที่ไม่รับมาเบิกเงิน ไหนจะต้องเข้าฝึกอาชีพ ได้มาอย่างหืดขึ้นคอ จนบางคนเบื่อกับเงื่อนไขจนไม่เอามันแล้ว
3 ค่ารักษาพยาบาล จ่ายให้ ประกันสุขภาพ aia300บาท(ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะแค่ยก ตย.) บริการราวฟ้ากับเหว ครับ
เวลาคิดอย่าลืมส่วนของบริษัทสมทบนะครับ ได้ไปเท่าไหร่ต่อหัว ไม่ใช่แค่750บาทนะคับ

อันนี้เป็นความอึดอัดกับเงินที่เสียไปอย่างสูญเปล่าและง่ายดาย พอเวลาจะได้คืนช่างยากเย็น และต้องรอจนแก่เจียนตาย บริการโรงพยาบาลอันแสนห่วยแตก
ทำงานแทบรากเป็นเลือด พอรับสลิป เห็นเงินที่หามาได้โดนขูดรีดไป750บาท มันน่าเจ็บใจนัก งอแง

แค่เล่าให้ฟังนะคับไม่ได้จะโต้เถียงอะไรกัน


ถูกต้องเลยคับ เต้

ข้อ1. คงไม่มีใครคิดเป็นลูกจ้างไปจนเกษียณ แน่นอน เงินส่วนนี้.......ไปไหน
ข้อ2. สำคัญมาก เงื่อนไข หินมากๆ พี่ เคยจ่ายมา 7 ปี แล้วตกงาน จะไปทำเรื่องในส่วนนี้หละ ยุ่งยากมาก จากหน่วยงานเดียวกัน 20 กว่าคน ไม่เอาเลยซักคน

แต่ก็อ่ะคับ เคยมีข่าวออกมาให้ได้ยินเรื่อยๆ เกี่ยวกะ คนที่มีอำนาจในเงินส่วนนี้ มักจะ พาครอบครัวไป (เที่ยว)ทัศนะศึกษาดูงาน ต่างประเทศกันบ่อยๆ จนเป็นเรื่องเป็นราว หรือ จะเอาไปปล่อย กู้ มั่งหละ
แต่ ที่ คนจ่าย ตังค์ นี่ กว่า จะกู้ได้ บางทีรำคาญ ไม่กู้มันซะดีกว่า
ขอตอบนะครับว่า
1. เงินเกษียณนี่ ในกรณีลาออกไม่ทำงานอะไรเเล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยนะครับ
แต่คุณจะมีสิทธิได้รับคืนเมื่อายุ 55 ปี ดังนั้นเงินในส่วนนี้อย่าลืมไปติดตอเอาที่ประกันสังคมนะครับ
2. กรณีออกจากงาน ปัญหาคือการไปขึ้นทะเบียนที่กรมการจัดหางานเขาจะพยายามยัดให้เราทำงาน
มันก็มีเทดนิคคือ เวลาในใบสมัครงานของกรมการจัดหางาน เขาจะมีช่องให้กรอกเงินเดือน ใส่ไปเลยเยอะๆ
จะได้ไม่มีใครตามเราครับ(อันนี้เป็นเทคนิคที่ฝ่าย HR ที่บริษัทผมแนะนำน้องๆที่ลาออกแล้วกลัวโดนตาม)
3. กรณีเจ็บป่วย อันนี้ยอมรับว่าบริการประกันสังมันมีช่องว่างที่ไม่ดีจริงๆ แต่ประกันสังคมคือนโยบายของรัฐเป็น
การเฉลี่ยทุกข์-สุขกันในกลุ่มลูกจ้าง สรุปก็คือ เป็นการช่วยเหลือคนรากหญ้า เช่น พนักงานที่กินค่าแรงขั้นต่ำกลุ่มนี้
ให้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ และในกรณีเสียชีวิต คลอดบุตร และอื่นๆ ก็ได้เงิน ด้วยนะครับ

ปล. ผมไม่ได้เป็น ข้าราชการของ สนง.ประกันสังคมนะครับ แต่ผมทำงานทางด้าน HR เลยมีโอกาสได้รู้ถึงเหตุและผลของประกันสังคม
บันทึกการเข้า
Ralphy
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,188


Solitary Man@Phukadueng


ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 21:16:01 »

ประกันสังคมประเทศอื่นส่วนใหญ่เก็บเงินจากนายจ้างกับลูกจ้างแค่สองฝ่ายมีประเทศไทยรัฐอุดหนุนให้อีกก้อน...อย่างน้อยก็มีข้อดีหนึ่งข้อล่ะนะ
บันทึกการเข้า

4A-FE LPG Sequential Injection Kit and Multivalve by LOVATO GAS S.p.A. Vicenza , Italia.
gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 21:37:51 »

ประกันสังคมประเทศอื่นส่วนใหญ่เก็บเงินจากนายจ้างกับลูกจ้างแค่สองฝ่ายมีประเทศไทยรัฐอุดหนุนให้อีกก้อน...อย่างน้อยก็มีข้อดีหนึ่งข้อล่ะนะ
ตามนี้เลยครับ รัฐจ่าย 2.75%

โดยเป็นเงินกรณีเจ็บป่วย 1.5 / ชราภาพ 1 / ว่างงาน0.5 %
บันทึกการเข้า
SMIRF 101
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,570


ข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้แต่วินาทีนั้น "ฉันอิสระ"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #29 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2010 22:57:58 »

ของแบบนี่แล้วแต่มุมมองครับใครเคยใช้แล้วดีก็ว่าคุ้มใครใช้แล้วไม่ดีก็ว่าไม่ดี แต่ขอให้เห็นใจหมอและเจ้าหน้าที่ทางการแพท์บ้างนะครับ คนมาหาหมอกันวันนึงไม่ใช้น้อยๆหมอคนนึงตรวจคนไข้วันละเป็นร้อยๆคน ใครก็อยากได้รับบริการที่ดีและเร็วกันทั้งนั้น ทางโรงพยาบาลก็อยากจะทำให้ผู้มารักษาพอใจเช่นกันไม่มีโรงพยาบาลไหนอยากให้โรงพยาบาลตัวเองเสียชื่อหรอกครับ ทุกคนย่อมเป็นห่วงคนที่เรารักกันทุกคนครับ ของแบบนี้ต้องทำใจครับประเทศอีกหลายประเทศที่ผู้คนไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพท์ได้เลยลำบากกว่าไทยหลายเท่าก็มีครับ  โรงพยาบาลเอกชนบางที่เสียตังเป็นแสนรักษาห่วยกว่าโรงพยาบาลรัฐที่เสียแค่30บาทหรือปัจจุบันไม่ต้องเสียแล้ว มีให้เห็นเยอะไปครับ     แล้วแต่มุมมองครับมองกลางๆครับถึงอยู่ประเทศไทยอย่างมีความสุข
บันทึกการเข้า
pom626
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 274



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 00:13:09 »

ขอลอกหน่อยนะครับ

1. เงินเกษียณนี่ ในกรณีลาออกไม่ทำงานอะไรเเล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยนะครับ
แต่คุณจะมีสิทธิได้รับคืนเมื่อายุ 55 ปี ดังนั้นเงินในส่วนนี้อย่าลืมไปติดตอเอาที่ประกันสังคมนะครับ

คือผมเคยถามประกันสังคมได้ความว่า
1.ถ้าผมเคยทำงานมา5ปี สมมุติ เงินสะสม ที่ประกันสังคมมี 35000
  แล้วผมออกจากงาน ไม่ได้ส่งประกันสังคมนาน 5 เดือน แล้วกลับมาทำงาน ส่งเงินประกันใหม่
  เค้าบอกว่าเงินสะสมเก่า ไม่มีนะครับ ต้องสะสมใหม่ ขาดส่งเกิน3เดือนไม่ได้กลายเป็น 0 เลย
2.เงินสะสมที่ไว้เบิก ตอนเกษียนนี่นะครับ สมมุตินะครับ ผมทำงานตั้งแต่อายุ22 จนอายุ55 ส่งเงินไป
   250,000 แต่ถ้าผมมีการรักษาพยาบาล ใช้สิทธ์เบิกคลอดบุตร ก็จะโดนหักไปตามที่เราใช้ เหลือเท่าไร
   ก็จะจ่าย คืนตอนเกษียรน

ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า


 
ขาย บานพับหน้าต่าง มือจับ กลอน พุกเหล็ก พุกตะกั่ว อุปกรณ์ก่อสร้าง ราคาโรงงานคร้าบบบ
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 01:56:11 »

เลิกทำประกันสังคม แล้วครับ ออกงานมาพอดี ด้วย
เก็บตังไว้จ่าย หรือซื้อประกัน ยังดีกว่าอีก

เปาโล ที่ผมโดน ปวดท้องนอน สามชั่วโมง ได้ยาเข็มเดียว ตอนแรก จะไม่ฉีด บอกไม่ไหว แล้ว ไม่ฉีด ก้ขอบคุณ ผมไปละ มันก้ทำหน้าเซง ๆ แล้ว ก้ฉีด ผมก้กลับเลย เซง มาก
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 02:44:47 »

ผมคิดในแง่ดีนะ ประกันสังคม ช่วยคนเงินเดือนน้อยให้มีทางเลือกในการรักษาพยาบาล เหมือนเป็นการแชร์ทุกสุขกันอ่ะครับ ส่วนตัวคิดว่าเป็นการทำบุญไปอ่ะครับ
แต่บางอย่างก็แปลกๆ และทำให้ยุ่งยากไปสักนิด เช่น กรณีผม ทำงานบริษัท ส่งประกันสังคมไปแล้วเท่าไรไม่รู้อ่ะ ออกมาทำงานส่วนตัว 5 ปี อิอิ ต้องสะสมใหม่เลย เพราะไม่ได้ส่ง ช่วงนั้นก็ใช้สิทธิภรรยา จ่ายตรง(ราชการ) ทำก็รักษาฟัน ซึ่งเวลามันยาวนานมาก ช่วงหลังผมก็ไปทำงานหน่วยงานราชการ ก็จำเป็นต้องทำประกันสังคมอีกครั้ง ปัญหาเกิด ผมต้องใช้สิทธิ์ตัวเองแล้ว ที่ผมทำฟันนี่อ่ะ ได้สิทธิ์ประกันสังคม ปีละไม่เกิน 500.- ครั้งละไม่เกิน 250.-  
ครั้งแรก สี่ร้อยกว่าบาท ต้องไปเบิกประกันสังคม 250.- ส่วนที่เหลือ เบิกสิทธิ์ภรรยา
ครั้งที่สอง 220.- ต้องเบิกประกันสังคม ก็นึกว่าจบแค่นี้ แต่ไม่
ครั้งที่สาม ห้าร้อยกว่า อิอิ ต้องไปเบิกประกันสังคม 30.- (อย่างเซ็ง มันต้องให้ครบ 500.- ไม่อย่างนั้นเบิก สิทธิ์อื่นไม่ได้) ส่วนที่เหลือเบิกสิทธื์ภรรยา

จริงๆน่าจะเลือกสิทธิ์ได้นะ ต้องทำให้ยุ่งด้วยอ่ะ เงิน 500.- เอง ไม่เอาก็ได้อ่ะ เหอๆ เบิกสิทธิ์ำภรรยาอยู่แล้วอ่ะ
ส่วนตัวมีประกัน 2 ฉบับ ทำเป็น 10 ปีแล้ว เบิกแค่ครั้งเดี่ยวเอง ตอนขับมอไซต์ชนสุนัข ไปหาหมอคลินิก ค่ายา กับ ค่าที่เบิกประกันพอๆกันเลยอ่ะ ยังใช้ได้ไม่เต็มทีสักที
บันทึกการเข้า

ตั้ม_NT.Z#003
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,316


เต็มที่ เต็มใจ ให้ประชาชน


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 03:32:42 »

สมัยเรียนอยู่ปี 3 ปีพ.ศ.2545 ผมมี ประกันสังคม เพราะเป็นนักดนตรี ในผับ แล้วทางร้านเค้าบังคับให้ทำ หักเดือน 3-4 ร้อยบาท(ไม่แน่ใจ)

เจอกับตัวครับที่เชียงใหม่ ตอนค่ำๆผมรู้สึกเจ็บท้อง(ตรงใส้ติ่ง) ไข้ขึ้น เลยโทรไปหาพ่อ(พ่อเป็น จ.น.ท.ทำงานอยู่ ร.พ.รัฐแห่งหนึ่ง)

พ่อบอก งานเข้าใส้ติ่งอักเสบแน่นนอน ไปร.พ.ด่วนเลย ผมก็ขับมอไซด์ไป เองเลยครับ ประมาณ 2กิโล จากหอพัก (หลังจากที่นอน โอดโอย มาตั้งแต่ตอนเย็น)

 5 ทุ่มก่าๆ ถึงร.พ.(เอกชน แห่งหนึ่ง) หมอตรวจ สรุป ผมใส้ติ่งแตก มาประมาณ 5ชั่วโมง

หมอยัง งง งง ว่าทำไมผมไม่ตาย ปกติ ใส้ติ่งแตก ไม่มีทางรอด(เพราะ เชื้อโรค ที่แตกในใส้ จะกระจายกัดกิน อวัยวะภายใน)

หมอให้ผมนอนรอดูอาการ ตั้งแต่ เที่ยงคืน จนถึง 7โมงเช้า(อีกวัน) มันบอกว่ารอดูอาการ ถ้าผ่านคืนนี้ไป แล้วไม่ตาย ก็จะผ่าท้องแล้วทำความสะอาดให้

ตกเช้า่มา ผ่าให้ครับ แล้วพี่ๆน้องๆ คิดดูครับ แค่เจ็บท้องโรคกระเพาะก็ทรมานแล้ว แต่นี่ผม ใส้ติ่งแตก ทั้งๆทีหมอรู้แต่ก็ปล่อยผมนอนเตียงห้องER ทั้งคืน

แล้วร.พ.ก็เป็นร.พ.ย่านในเมือง คนไข้เข้าทั้งคืน รถชน โดนยิง ต่อยกัน กินยาฆ่าตัวตาย สยองครับ นอนอยู่แล้วเห็นเค้ารักษเตียงข้างๆ

แต่ที่น่าเจ็บใจคือ พวกพยาบาล จ.น.ท.คุยกันว่าเอางัยดี เค้ามีประกันสังคม จะให้แอทมิตมั๊ย หรือต้องรอหมอมาคอนเฟริม์....นั่น งานเข้าตูเลย

ผมก็ได้นอน ร.พ. 5วัน แผลผ่าตัดไม่เย็บนะครับ ต้องเปิดแผลเพื่อดูการอักเสบของแผล ล้างแผล 3มื้อหลังอาหาร วันสุดท้ายก่อนออกร.พ.ถึงจะเย็บแผลให้

จบงาน เคลียร์ค่า รักษา 5 หมื่น กว่าบาท พ่อผม ตกใจเลย เพราะ ร.พ.รัฐไม่ถึงหมื่น ราวๆ8-9พัน คิดว่า เอกชนน่าจะไม่มากไปกว่านี้ คิดไว้ ไม่เกิน 3หมื่น

พ่อไม่ยอมครับ วิ่งหาผู้ใหญ่ที่รู้จัก เค้าให้คำแนะนำคือ ใส้ติ่งอักเสบ คือโรคทั่วไป(ไม่อันตราย)

ในเคสผม ใส้ติ่งแตก ถือเป็นอุบัติเหตุ(ฉุกเฉิน) สามารถใช้บัตร ป.ก.ส หรือบัตรทองได้ทุก ร.พ.ในประเทศไทย ไม่แบ่งว่าเป็นรัฐเหรือเอกชน

จบงานเคลียร์ไปครับ ป.ก.ส.ชดเชยให้ หมื่น5 ครับ ยอดรวมจบงานครับ หลังจากที่ทางผู้ใหญ่เค้าแนะนำมา(เค้าบอกว่า ถ้า ร.พ. ไม่ยอม ฟ้อง แม่มเลย)..........
บันทึกการเข้า


"If You Want Peace, Prepare For War"
"แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์"
พณฯท่าน บรรหาร
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 973


พณฯท่าน


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 06:39:42 »

ประกันสังคมมันไม่ควรใช้คำนี้นะ ต้องใช้คำอื่น เพราะ ใช้หลักการเดียวกับการออกภาษีขูดรีดประชาชน คือ อย่างน้อยเกิอบทุกคนต้องจ่าย
1.หลักการประกันต้องมีความยินยอมระหว่างผู้เอาประกันและผู้รับประกัน และเหนืออื่นใดคือการได้รับบริการที่ดีจากโรงพยาบาล
2.หากเป็นการทำประกันกับบริษัทเอกชน หากบริการไม่ดีหรือถูกร้องเรียนมีหน่วยงานของรัฐควบคุม คือ คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ซึ่งผู้ให้บริการด้านประกันภัยเรียกว่า "พ่อ" ได้เลยเพราะกลัวมาก
3.แต่กรณีนี้เหมือนรัฐบาลเป็นผู้ให้บริการด้วยตนเองโดยออกกฎหมายมาบังคับนายจ้างและลูกจ้างซึ่งที่จริงควรจะให้เลือกว่ายินยอมจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่ใครไม่ทำผิดกฎหมาย
4.แล้วสัดส่วนเงินที่เสียกับประโยชน์ที่ได้รับควรสมเหตุสมผลโดยเทียบกับการเสียเบี้ยประกันให้กับผู้ให้บริการประกันภัยเอกชน ไม่ใช่ว่า "คนทำประกันสังคมคือมนุษย์ชั้นสอง"ที่โรงพยาบาลมอง มันต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่ากับผู้ที่ทำประกันกับผู้ให้บริการประกันภัยเอกชนด้วย
5.กฎหมายฉบับนี้คือกฎหมายกดขี่ประชาชนในเรื่องรายได้อย่างชัดเจน ไม่ต่างกับการออกกฎหมายมาขูดรีดภาษีประชาชนเพียงแต่หากเป็นเรื่องออกภาษีโดยตรงคนส่วนใหญ่จะไม่ยอมแน่นอน ดังนั้นจึงใช้ถ้อยคำที่ดูดีสร้างสรรค์ ว่า "ประกันสังคม" แต่ความจริงนโยบายเดียวคือ เพื่อนำเงินเข้าคลัง แล้วใครได้ประฏยชน์สูงสุด  ขอให้คิดกันเอง แต่ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปแน่นอน
6.สำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงายของรัฐที่ทำเงินได้มากติดอันดังต้น ๆ
7.หากจะใช้ชื่อประกันสังคมจริงมันต้อง รัฐจ่าย 100 % หรืออย่างน้อย 50 % อีก 50 % นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจ่าย

ปล.หากินกับผู้มีรายได้ที่แน่นอนทุกเดือน คือความมั่นคงของชาติ
บันทึกการเข้า

gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #35 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 06:45:31 »

ขอลอกหน่อยนะครับ

1. เงินเกษียณนี่ ในกรณีลาออกไม่ทำงานอะไรเเล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยนะครับ
แต่คุณจะมีสิทธิได้รับคืนเมื่อายุ 55 ปี ดังนั้นเงินในส่วนนี้อย่าลืมไปติดตอเอาที่ประกันสังคมนะครับ

คือผมเคยถามประกันสังคมได้ความว่า
1.ถ้าผมเคยทำงานมา5ปี สมมุติ เงินสะสม ที่ประกันสังคมมี 35000
  แล้วผมออกจากงาน ไม่ได้ส่งประกันสังคมนาน 5 เดือน แล้วกลับมาทำงาน ส่งเงินประกันใหม่
  เค้าบอกว่าเงินสะสมเก่า ไม่มีนะครับ ต้องสะสมใหม่ ขาดส่งเกิน3เดือนไม่ได้กลายเป็น 0 เลย
2.เงินสะสมที่ไว้เบิก ตอนเกษียนนี่นะครับ สมมุตินะครับ ผมทำงานตั้งแต่อายุ22 จนอายุ55 ส่งเงินไป
   250,000 แต่ถ้าผมมีการรักษาพยาบาล ใช้สิทธ์เบิกคลอดบุตร ก็จะโดนหักไปตามที่เราใช้ เหลือเท่าไร
   ก็จะจ่าย คืนตอนเกษียรน

ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

จทน. อธิบายมั่วไปกันใหญ่แล้ว จะบอกว่าข้อ
1. ที่เขาบอกว่าสะสมใหม่ คือ สมมุติคุณจ่ายไป 5 ปีแล้วออกใช่ไหมครับ ช่วงที่คุณไม่ได้ทำงาน ก็เท่ากับว่าคุณไม่ส่ง มีเทคนิคคือการทำประกันสังคมตาม ม.39 จ่ายเดือนละ 432 บ.
ได้รับความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลด้วยครับ
2. เงินประกันสังคมเป็นการเฉลี่ยทุกข์-สุข ไม่มีการหักเงินที่เราจ่ายไปนะครับ
จนท.ประกันสังคมบางคน ที่ผมเคยดิวงานด้วย ยอมรับเลยไม่ค่อยมีความรู้+มั่วเองก็เยอะนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 พฤศจิกายน 2010 06:49:08 โดย GreenG » บันทึกการเข้า
ballcrma
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 533



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 07:02:23 »

อย่างนี้หล่ะครับ ประกันสังคม บัตรคนแก่ด้วย แต่ผมไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก ของผมจ่ายตรง อยากเอาค่ายาเท่าไหร่ก็เอาไป เพราะผมไม่ได้จ่ายเอง
บันทึกการเข้า

ต่อหน้าข้าศึก ข้าคือพยัคฆ์  ต่อหน้าเมียรัก ข้าคือ "แมว"
aj dvd
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,121



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2010 08:59:54 »

ขอลอกหน่อยนะครับ

1. เงินเกษียณนี่ ในกรณีลาออกไม่ทำงานอะไรเเล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยนะครับ
แต่คุณจะมีสิทธิได้รับคืนเมื่อายุ 55 ปี ดังนั้นเงินในส่วนนี้อย่าลืมไปติดตอเอาที่ประกันสังคมนะครับ

คือผมเคยถามประกันสังคมได้ความว่า
1.ถ้าผมเคยทำงานมา5ปี สมมุติ เงินสะสม ที่ประกันสังคมมี 35000
  แล้วผมออกจากงาน ไม่ได้ส่งประกันสังคมนาน 5 เดือน แล้วกลับมาทำงาน ส่งเงินประกันใหม่
  เค้าบอกว่าเงินสะสมเก่า ไม่มีนะครับ ต้องสะสมใหม่ ขาดส่งเกิน3เดือนไม่ได้กลายเป็น 0 เลย
2.เงินสะสมที่ไว้เบิก ตอนเกษียนนี่นะครับ สมมุตินะครับ ผมทำงานตั้งแต่อายุ22 จนอายุ55 ส่งเงินไป
   250,000 แต่ถ้าผมมีการรักษาพยาบาล ใช้สิทธ์เบิกคลอดบุตร ก็จะโดนหักไปตามที่เราใช้ เหลือเท่าไร
   ก็จะจ่าย คืนตอนเกษียรน

ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

จทน. อธิบายมั่วไปกันใหญ่แล้ว จะบอกว่าข้อ
1. ที่เขาบอกว่าสะสมใหม่ คือ สมมุติคุณจ่ายไป 5 ปีแล้วออกใช่ไหมครับ ช่วงที่คุณไม่ได้ทำงาน ก็เท่ากับว่าคุณไม่ส่ง มีเทคนิคคือการทำประกันสังคมตาม ม.39 จ่ายเดือนละ 432 บ.
ได้รับความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลด้วยครับ
2. เงินประกันสังคมเป็นการเฉลี่ยทุกข์-สุข ไม่มีการหักเงินที่เราจ่ายไปนะครับ
จนท.ประกันสังคมบางคน ที่ผมเคยดิวงานด้วย ยอมรับเลยไม่ค่อยมีความรู้+มั่วเองก็เยอะนะครับ
1 หมายถึงถ้าอยากได้เงินบำเนจบำนาญ ต้องส่งต่อ432ทุกเดือนจนอายุ55 ถูกไหม๊ครับ มันก็ไม่ต่างจากตอนเป็นพนักงานที่จ่าย750บาท ทุกเดือนเท่าไหร่เลยคับ
2เข้าใจครับเฉลี่ยทุกข์สุข ยินดีที่จะแบ่งปันให้กับคนที่ด้อยกว่า แต่แบ่งจนเหลือไม่รู้จะเหลือยังไง ทั้งลงหุ้นทั้งปล่อยกู้ เงินในคลังปกส.ก็ยังเหลือๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 พฤศจิกายน 2010 09:02:16 โดย TAE EE101 » บันทึกการเข้า
จี่จี๋ รักในหลวง
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,892



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2010 08:33:01 »

บัตรประกันสังคม ทำมา 20 ปี ยังไม่เคยใช้บริการเลย
เพราะสวัสดิการที่ทำงานสามารถเบิกจาก รพ.เอกชน ได้ปีละไม่เกิน 100,000 บาท
ถ้าเป็น รพ.รัฐบาล เบิกได้ไม่จำกัด ตามที่จ่ายจริง ซึ่งสวัสดิการที่ทำงานผม
ดีกว่าประกันสังคมเป็นร้อยเท่า อิอิ แต่กฎหมายก็บังคับให้ทำประกันสังคม
ที่ทำงานอุทรณ์แล้ว(ให้จ่ายบางส่วน) แต่ก็แพ้ ยังไงต้องเข้าสู่ระบบจ่ายเต็มเหมือนกันหมด
ปัจจุบันนี้ลาออก มาทำธุรกิจส่วนตัว ก็ยังทำประกันสังคมต่อ มาตรา 39 สมทบเอง
ที่ทำต่อเพราะ มีเงินสะสมอยู่ในนั้นประมาณ เกือบ 2 แสน ถ้าไม่ต่อถือว่าสละสิทธิ์
ก็เลยต้องต่อประกัน ส่งเดือนละ 432 บาท เรื่องค่ารักษาไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยใช้ ไปหาคลีนิคข้างบ้าน
ถ้าจะให้ดี ผมว่า ทำบัตรประกันสุขภาพของพวกประกันต่างๆ สัก 1 ใบ คงจะดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 พฤศจิกายน 2010 08:37:48 โดย บุคคลอื่น » บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!