AE. Racing Club
21 ตุลาคม 2024 03:06:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: lสอบถามเรื่องชุดคลัทช์ที่ใช้กับ20วาวล์พี่น้องใช้กันแบไหนบ้างคลับ  (อ่าน 4738 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2011 15:31:32 »

ไปเจอมาครับ อาจารย์

++ บทความเรื่องคลัช ++(ครัช Standard กับ ครัชทองแดง)

ขอบคุณ http://www.coronathailand.com ครับ

"ถ้าวัสดุที่เป็นผ้าคลัทช์เหมือนกัน จะเต็มแผ่น หรือ 3 4 6 8 ก้อน . . . ก็จับได้พอๆกันหมด
ขนาดพื้นที่ผิวสัมผัสไม่มีผลแบบมีนัยะ(มีผลน้อยมากๆ)ต่อความสามารถในการจับ"


ข้อความข้างบนอาจค้านความรู้สึกว่าผ้าเยอะๆ ทำไมมันไม่จับดีกว่า . .
เดี๋ยวจะขยายความให้ดูครับ




มามองที่หน้าที่พื้นฐานของคลัทช์ก่อน
 
> คลัทช์ทำหน้าที่จับแรงบิดไม่ใช่แรงม้า . . .
ดังนั้นสิ่งที่ต้องมองคือ คลัทช์นั้นรับแรงบิดได้ขนาดไหน . . .
คลัทช์ Vigo 160 ม้า มีแรงจับสูงกว่าของเครื่อง B18CR 200 ม้า
เพราะแรงบิดของ Vigo สูงกว่า B18 เยอะ แม้ม้าจะน้อยกว่า



ปัจจัยที่ทำให้คลัทช์รับแรงบิดได้ขนาดไหนก้มี . .

- ขนาดจาน,
 
- แรงกดจาน(Cover),

- ค่าความฝืด (วัสดุที่ใช้ทำผ้าคลัทช์),

- จำนวนแผ่นของผ้าคลัทช์


มามองในแง่การปรับปรุงคลัทช์ ในปัจจัยต่างๆ

- ขนาดจาน . .
มีผลน้อย เพราะเราไม่สามรถเพิ่มขนาดจานคลัทช์ได้ง่ายๆ เพราะทุกอย่างต้องตามมาหมด
ทั้ง ฟลายวีลและ Cover . . ถึงทำได้ก็คงใหญ่ขึ้นแค่ 10-20 มม.
เมื่อเทียบกับขนาดเดิมคิดเป็น % แล้วนิดเดียว
เมื่อเทียบความสามารถที่เพิ่มขึ้นกับความยุ่กยาก > ไม่คุ้มเหนื่อย



- แรงกด . . .
มีผลโดยตรง ต่อความสามารถในการจับแรงบิด . . .
แต่ก้ต้องแลกด้วยการออกแรงที่มากขึ้น น่องโป่ง


- ค่าความฝืด . . .
เห็นผลชัดเจน เปลี่ยนจากผ้าธรรมดาเป็นผ้าโลหหะ
เช่น ทองแดง หรือโลหะชนิดอื่น หรือวัสดุอื่นๆที่มีค่า มิวสูงกว่า . .
จะเห็นผลได้ชัดเจนว่าจับดีขึ้น แม้จะใช้ Cover เดิม . . .


บางอย่างยิ่งร้อนยิ่งฝืด บางอย่างอาจจะร้อนแล้วฝืดน้อยลง แต่ก้ยังทนอุณหภูมิได้สูงกว่าผ้าเดิม
ที่อุณหภูมิสูงๆก้ยังฝืดกว่าผ้าเดิม . . . . แต่ยิ่งฝืดความนุ่มนวลในการจับก็มักจะหายไปแปรผันตรงกับค่าความฝืด
เพราะมันยอมให้ Slip ตอนคลัทช์กำลังจะจับได้น้อยลง

- จำนวนแผ่น . . .

นี่ก็เห็นผลชัดเจนที่สุด เพิ่มคลัทช์เข้าไปอีกแผ่น แรงจับเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทันที แม้จะใช้แรงกดเท่าเดิม . .
คลัทช์หลายแผ่นจึงไม่หนักแต่จับแรงบิดได้สุงกว่ามากๆ . . . .

คลัทช์แผ่นเดียวทำยังไงมันก็มี limit สูงสุดที่มันจะรับแรงบิดได้
ไม่ว่าจะใช้ผ้าเนื้ออะไร เพิ่มแรงกดเป็นเท่าไร . . .

รถแรงๆที่ยังไงก็มีแรงบิดเกินกว่าที่แผ่นเดียวจะรับได้
ก้ต้องเพิ่มแผ่น เพราะสามารถรับแรงบิดได้เท่าตัวในทันที

ดังนั้นในรถที่ไม่แรงจริงๆ เช่นรถ NA ม้าไม่เกิน 300 แรงบิดไม่เยอะ
ส่วนใหญ่คลัทช์แผ่นเดียวดีๆก็เอาอยู่ . . . ดังนั้นการใส่คลัทช์เกินกว่า 1 จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น
และจะทำให้รถช้าลง เพราะมากแผ่น ชุดคลัทช์ก็หนักขึ้น . .

ชุดคลัทช์มันก็ต้องหมุนไปกับฟลายวีลตลอด ก็ต้องหมุนของหนักให้มันกินแรงเล่นไปเปล่าๆ . . .
 คลัทช์หลายแผ่นเขาไว้ใช้กับรถแรงจริงๆที่คลัทช์แผ่นเดียวเอาไม่อยู่แล้ว . . .

ถ้ายังไม่ถึงจุดนี้ อย่าใช้ เสียเงินเปล่า แพงและหนัก


-------------------------------------------------------------------------------------------------------



ทีนี้มาลองมองที่ว่า . . ทำไมขนาดพื้นที่หน้าสัมผัสไม่มีผล ต่อการรับแรงบิด

> แรงกดจาก Cover

สมมุติมีแรงกด 100 กิโล . . .
พื้นที่จานจะมีเท่าไร แรงกดก้คือ 100 เท่าเดิม
แต่การกระจายแรงไปในแต่ละพื้นที่ต่างกันไป

3 ก้อนก็มีแรงกด 33.3 กิโลต่อก้อน . .

4 ก้อนเหลือ 25 . .

6 ก้อนเหลือ 16.6 . . . แต่แรงกด รวมยังเท่าเดิม . . .

ดังนั้นการรับแรงบิดจึงเท่าเดิม




แล้วมีมากก้อน น้อยก้อน เต็มแผ่น . . ต่างกันยังไง?

> ต่างกันที่ความนุ่มนวลในการจับ และความทนทาน . . . .
ตอนก่อนคลัทช์จะจับเต็ม ช่วงที่เกิดการ Slip . จากการเฉลี่ยแรงกดต่อพื้นผิวสัมผัส

พื้นที่มาก แรงกดเฉลี่ยน้อยลง การค่อยๆจับจะเป็นไปได้ดีกว่าการกดโครมลงไปในพื้นที่เล็กๆ . . .

ซึงการเฉลี่ยแรงกดนี้ ก็สืบต่อไปถึงเรื่องของความทนทานด้วย
กดแรงก็สึกเยอะ(เหมือนเหยียบเบรคแรงๆ กดหนักสึกเร็ว กดเบาๆก็ทนหน่อย)

ดังนั้นพื้นที่เยอะ เฉลี่ยแรงกดลงมาน้อยลง ก้สึกช้าหน่อย . . . .
นี่คือเหตุผลว่าทำไม รถเดิมๆจากโรงงานจึงใช้ผ้าเต็มแผ่น นุ่มนวล ทนทาน

ทีนี้สืบเนื่องจากแรงกดเฉลี่ยต่อพื้นที่น้อยลง
ก็ทำให้การทำงานของคลัทช์ในการใช้งานหนักๆต่อเนื่อง ได้ดีขึ้น . . .

ทุกครั้งที่คลัทช์จะจับ จะเกิดความร้อน พื้นที่เยอะการกระจายความร้อนเฉลี่ยก็ดีขึ้น
เกิดความร้อนน้อยลง . . . ความร้อนที่น้อยลง


ตัวผ้าคลัทช์เองก้สามรถรักษาค่าความฝืดได้อย่างมีเสถียรภาพดีขึ้น
(ซึ่งอาจจะหมายถึงยังจับดีกว่า เมื่อต้องทำงานหนักๆต่อเนื่อง)


แต่ที่อุณหภูมิเดียวกัน . . .
ขนาดพื้นที่ผิวที่มากหรือน้อย
ไม่มีผลต่อความสามรถในการจับแบบมีนัยยะครับ

เรื่องพื้นที่สัมผัส อาจขัด อาจค้านความรู้สึก . . .
แต่เรื่องจริงๆมันเป็นเช่นนี้ครับ



เรื่องแรงกดเฉลี่ยต่อพื้นที่ก็สามรถนำไปใช้อธิบายเรื่องเบรคได้เช่นเดียวกัน . . .

ผ้าเบรคใหญ่ ดีเรื่องทน

คาลิปเปอร์ลูกสูบเยอะๆ

เฉลี่ยแรงกดต่อพื้นที่ได้ดีขึ้น ผ้าทน
เฟดช้ากว่าและจับนุ่มนวลขึ้นกว่าผ้าเบรคพื้นที่เล็กๆ . . .

บังเอิญเบรคมันสร้างความร้อนเยอะ ผ้าเล็กๆจึงร้อนและเฟดจนกลายเป็นเบรคห่วยไป


-------------------------------------------------------------------------------------------------------



เพิ่มเป็น 2 แผ่น ทำไมเพิ่มแรงจับเท่าตัว


มันเพิ่มขึ้นเพราะ มันสามารถทำให้แรงกดรวมที่ลงบนผ้าคลัทช์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น

มองให้ง่ายขึ้น

เอาไม้มาแผ่นนึง เอาน้ำหนัก 100 กก. มากดลงไป

ที่พื้นก้รับน้ำหนัก 100 ที่แผ่นไม้เองก้ 100 . . . .

เอาไม้มาเพิ่มเป็น 2 แผ่น น้ำหนัก 100 เหมือนเดิม ที่พื้นก็ยังรับแรงกด 100 .
ไม้ทั้ง 2 แผนแต่ละแผ่นก้ยังมีแรงกด 100 อยู่เท่าเดิม . . . .

ถ้านับที่หน้าสัมผัสของแผ่นไม้แต่ละหน้า ทุกหน้าสัมผัสมีแรงกด 100 เท่ากันหมด . . .
จะ 1 หรือ 2 แผ่น แต่ละหน้าสร้างแรงเสียดทานได้เท่าเดิม

แต่แรงเสียดทานรวมที่พื้นผิวมากขึ้น 1 เท่าตัว (เพราะมีมีไม้มาเพิ่มอีกแผ่น...อันนี้ผมเติมนะ)


มองแบบคณิตศาสตร์ ของคลัทช์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

การรับแรงบิดของคลัทช์เกิดจากสูตรดังนนี้

แรงบิดคลัทช์ = ขนาดเส้นผ่าน0กลาง x ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน x แรงกด x จำนวนแผ่น





มองตัวแปรทั้งหลาย

- ขนาดจานเพิ่มขึ้น
อย่างเก่งไม่เกิน 10-20% . . .
ผลลัพธ์ก็แตกต่างไม่เกิน 10%

- ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน . . .
ผ้าธรรมดา...................มีค่านี้แถวๆ 0.25 . . .
ผ้าโลหะทั้งหลาย................มี แถวๆ 0.3 -0.32 . . .

แตกต่างกัน 20-25% . . .
คลัทช์ก็มีความสามารถรวมขึ้น 20-25% . . .
ผ้าคลัทช์เนื้อแปลกๆบางตัวมีค่านี้เพิ่มขึ้นได้ถึง 50%

- แรงกด . . .
มีปัญญาเพิ่มเท่าไรเท่าที่เหยียบไหว
เพิ่มขึ้นกี่%
การรับแรงบิดก็เพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ

- ผ้าคลัทช์ . .
 
เพิ่มจาก 1 เป็น 2 มัน 100% ในทันที . .

3 แผ่นก็ 200% ทันทีเหมือนกัน

มองเป็นสูตรแบบนี้ คงพอมองเห้นง่ายขึ้นนะครับว่าทำไมเพิ่มแผ่นแล้วแรงกดเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว





รถโดยทั่วไป
ใช้ผ้าคลัทช์ฝืดๆ + เพิ่มแรงกดซัก 20-30%
ก็รับแรงบิดเพิ่มขึ้นได้ ประมาณ 50%


ซึ่งก็น่าจะเหลือพอสำหรับรถที่ไม่โมกันแบบแรงชนิดแรงขึ้นเป็นเท่าตัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กุมภาพันธ์ 2011 15:35:13 โดย TAOTAO-TZ#056- » บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
หน้า:  «  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!