AE. Racing Club
24 กันยายน 2024 12:19:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 [3]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสี่ยงไปมั๊ย ที่จะจับเจ้าไฮทอล์คเติม E 20  (อ่าน 6943 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
super Matt
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 04 มกราคม 2013 15:48:47 »

ประเด็นที่เติมแล้ว "เขาว่า" พังนั้น อยู่ในระดับพอมีเค้าครับ  ถ้ามองในมุมของค่า octane number แล้วนั้น อี 20 มีประมาณ ออกเทน 91 ประมาณนั้นครับ อาจจะต้องปรับไฟให้อ่อนบ้าง แน่นอน สมถณะอาจด้อยลงบ้าง แต่ไม่เขก ไม่พัง แน่นอนครับ แต่ที่"เขาว่า"พัง นั้น เพราะ เอธานอลครับ มันจะกัดชิ้นส่วนที่เป็น ยาง ภายในเครื่องยนต์ (โอริง ซีลต่างๆ) แค่นั้น อาจจะเสื่อมสภาพ ไวกว่า บ้าง(ไอ้ที่ว่า พัง ก็ตรงนี้แหละครับ) สรุปคือ ใช้ใด้ครับ แต่อาจต้องหมั่นตรวจสอบหน่อย หรือจะใช้ "ยาวๆ" เลย ก็ อัพเกรด ครับ ประเก็น โอริง ซีลในเครื่อง ซีลหมวกวาวล์ ท่อยาง ท่อแช่ถัง หาเทียบกับรุ่นหรือเบอร์ใกล้เคียง ใช้แทนเลยครับหาเทียบกับรถรุ่นที่ใช้กับ อี 85 ไปเลยก็ใด้ครับ อาจจะแพงหน่อย ถ้าทำทีเดียว หรือทยอยทำก็ใด้ครับ ใช้เชื้อเพลิงไบโอ ครึ่งปีก็คืนทุนแล้วครับ

ไม่ใช่แค่เรื่องพังเพราะโอริงหรือซีลครับ แต่เป็นเรื่องส่วนผสมอัตราส่วนน้ำมันน้อยลงด้วยครับ เมื่อส่วนผสมน้ำมันบางลงก็จะทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นในห้องเผาไหม้ขณะจุดระเบิด มันจะพังจริงๆก็ตรงนี้ครับ

ส่วนน้ำมันE20 มีEthanol 20% ค่าออคเทน95(บางจาก) 98(ปตท) ครับผม

เรื่องท่อทางเดินน้ำมัน มีเวลาก็ควรเปลี่ยนครับ รุ่นR7ขึ้นไป เกิดดวงซวยท่อรั่วไฟไหม้ซะก่อน จะกลายเป็น "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"



ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่าครับ ด้วยที่ผมเติม E20 เพียว วิ่งทางไกลมาหลายถัง  อาทิตหนึ่งประมาน  เกือบ 600 กว่าโล ความเร็วอยู่ประมาน 120-160 ประจำ ตอนนี้ ปัญที่เจอก่อนปีใหม่แล้วเพิ่งเอารถเข้าไปทำคือ พวก ซีลต่าง  ซีลหน้า เครื่อง ซ้าย ขวา ซีลครอบวาล์ว ซีลตรงกรองน้ำมันเครื่อง ซีลอ่างน้ำมันเครื่อง พากันซึมหมดเลยครับ  ตอนนี้กำลังทำการเปลี่ยนอยู่ครับ เครื่องผมวางมาได้ประมานปี ตอนวางเปลี่ยนซีลทุกตัว รวมถึง สายพานราวลิ้น หลังวางวิ่ง สี่หมื่นกว่าโลแล้วครับ

ไม่เกี่ยวเลยครับ มันคนละส่วนการทำงานอย่างสิ้นเชิง
ถูกต้องครับ น้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังคุยกันอยู่ในส่วนการสันดาปครับ  ในขณะที่ปัญหาของน้าอยู่ที่ส่วนของแรงดันในเครื่อง คับน้าาา
บันทึกการเข้า
warrior
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22



ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 05 มกราคม 2013 18:03:17 »

ต้องลองเติมบ้างแล้ว Ae 112 ของผมปกติเติมแต่ แก๊สโซฮอล 91

เติม E20 น่าจะประหยัดได้อีก^o^
บันทึกการเข้า

ไปเรื่อยๆๆ กรูไม่รีบ วิวมันสวย
ถ้ารีบก้อแซงไปได้เลยไม่ต้องรอ ^o^

AE112  7AFE 1.8 auto
Tonsuan
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,000



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 08 มกราคม 2013 19:54:24 »

/ครับผม น้ำมัน อี 20 มันให้พลังในการจุดระเบิด(ค่าพลังงานความร้อน)น้อยกว่าน้ำมันธรรมดาน่ะครับ ในขณะที่กำลังอัดของเครื่องยังใช้สัดส่วนเดิมน่ะครับ ก้เลยกลายเป็นดูว่า "บาง"น่ะคับ (8 ต่อ 10, 9ต่อ10อะไรประมาณนั้น) ดังนั้น กำลังเครื่องจึงด้อยลงไป ถ้าจะให้รถทำงานใด้เต็มกำลังเครื่อง คือ เปลี่ยนหัวฉีด หากล่องจูนน้ำมันเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังเท่าเดิม คราวนี้ อัตราความประหยัดจะน้อยลงไปใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นมากขึ้น ซึ่งไม่ตรงความต้องการของ จขกท.น่ะครับ เลยแนะนำไปในข้างต้นน่ะครับ ถ้าพังเพราะความร้อนน่ะ ไม่จริงครับ ถ้าเราปรับส่วนต่างๆให้matchกับเชี้อเพลิง  ถ้าจะเอาแบบ เติมใด้ ประหยัด ไม่พัง แต่ กำลังด้อยลงบ้าง ก็ จัดเลยคับ    ......ส่วนน้าที่เติมแล้วน้ำมันซึมออกมาน่ะ ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ  ปล....มีอะไรเพิ่มเติม เอามาแชร์กันเยอะๆนะครับ ผิดถูกขออภัยน้าๆด้วย ผมเองก็อ่านมาจากตำรานะครับ (ม่ายรู้จะแปลถูกป่าวว)

ร้อนพังเจอกันเยอะแยะครับ พอส่วนผสมบาง หรือที่เรียกว่า "lean" ไม่ว่าจะใช้น้ำมันอะไร ถ้าค่าA/F lean จะเกิดความร้อนสูงขึ้นในห้องเผาไหม้ ผลไม่ได้เห็นทันทีทันใดครับ แต่จะทำให้เกิด ร่องแหวนลูกสูบแตก,ลูกสูบละลาย มีให้เห็นกันประจำครับ

ถ้าอยากพิสูจน์ ลองติดเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิไอเสียดูครับ แล้วทดสอบกับรถเดิมๆไม่ปรับอะไรเลย ลองใช้ เบนซิล เทียบกับ E85 แล้วจะกระจ่างครับ

ลองอ่านเพิ่มเติมในกระทู้ E85 ดูครับ มีการถกประเด็นต่างๆมาพอควรแล้ว
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=113293.0
บันทึกการเข้า

supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,310



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 08 มกราคม 2013 20:49:49 »

/ครับผม น้ำมัน อี 20 มันให้พลังในการจุดระเบิด(ค่าพลังงานความร้อน)น้อยกว่าน้ำมันธรรมดาน่ะครับ ในขณะที่กำลังอัดของเครื่องยังใช้สัดส่วนเดิมน่ะครับ ก้เลยกลายเป็นดูว่า "บาง"น่ะคับ (8 ต่อ 10, 9ต่อ10อะไรประมาณนั้น) ดังนั้น กำลังเครื่องจึงด้อยลงไป ถ้าจะให้รถทำงานใด้เต็มกำลังเครื่อง คือ เปลี่ยนหัวฉีด หากล่องจูนน้ำมันเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังเท่าเดิม คราวนี้ อัตราความประหยัดจะน้อยลงไปใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นมากขึ้น ซึ่งไม่ตรงความต้องการของ จขกท.น่ะครับ เลยแนะนำไปในข้างต้นน่ะครับ ถ้าพังเพราะความร้อนน่ะ ไม่จริงครับ ถ้าเราปรับส่วนต่างๆให้matchกับเชี้อเพลิง  ถ้าจะเอาแบบ เติมใด้ ประหยัด ไม่พัง แต่ กำลังด้อยลงบ้าง ก็ จัดเลยคับ    ......ส่วนน้าที่เติมแล้วน้ำมันซึมออกมาน่ะ ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ  ปล....มีอะไรเพิ่มเติม เอามาแชร์กันเยอะๆนะครับ ผิดถูกขออภัยน้าๆด้วย ผมเองก็อ่านมาจากตำรานะครับ (ม่ายรู้จะแปลถูกป่าวว)

กล่องเดิมติดรถมันช่วยทริมน้ำมันเพิ่มให้จนได้ปริมาณที่เหมาะสมครับ พิสูจน์ได้จากค่า A/F ติดรถที่ผมติดเข้าไป
แรกๆอาจจะบาง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆจะกลับมาหนาพอเหมาะเหมือนเดิมครับ

และถึงกล่องไปปรับให้ มันก็ไม่บางจนพังหรอกนะครับ เพราะกล่องเดิมมันสั่งจ่ายน้ำมันเอาไว้หนาเพื่อป้องกันเครื่องพังเอาไว้ด้วย
บันทึกการเข้า

ปั้น AE ดีก่า ^^
jen@171
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,966


Wanna be...!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 09 มกราคม 2013 03:57:29 »

/ครับผม น้ำมัน อี 20 มันให้พลังในการจุดระเบิด(ค่าพลังงานความร้อน)น้อยกว่าน้ำมันธรรมดาน่ะครับ ในขณะที่กำลังอัดของเครื่องยังใช้สัดส่วนเดิมน่ะครับ ก้เลยกลายเป็นดูว่า "บาง"น่ะคับ (8 ต่อ 10, 9ต่อ10อะไรประมาณนั้น) ดังนั้น กำลังเครื่องจึงด้อยลงไป ถ้าจะให้รถทำงานใด้เต็มกำลังเครื่อง คือ เปลี่ยนหัวฉีด หากล่องจูนน้ำมันเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังเท่าเดิม คราวนี้ อัตราความประหยัดจะน้อยลงไปใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นมากขึ้น ซึ่งไม่ตรงความต้องการของ จขกท.น่ะครับ เลยแนะนำไปในข้างต้นน่ะครับ ถ้าพังเพราะความร้อนน่ะ ไม่จริงครับ ถ้าเราปรับส่วนต่างๆให้matchกับเชี้อเพลิง  ถ้าจะเอาแบบ เติมใด้ ประหยัด ไม่พัง แต่ กำลังด้อยลงบ้าง ก็ จัดเลยคับ    ......ส่วนน้าที่เติมแล้วน้ำมันซึมออกมาน่ะ ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ  ปล....มีอะไรเพิ่มเติม เอามาแชร์กันเยอะๆนะครับ ผิดถูกขออภัยน้าๆด้วย ผมเองก็อ่านมาจากตำรานะครับ (ม่ายรู้จะแปลถูกป่าวว)

กล่องเดิมติดรถมันช่วยทริมน้ำมันเพิ่มให้จนได้ปริมาณที่เหมาะสมครับ พิสูจน์ได้จากค่า A/F ติดรถที่ผมติดเข้าไป
แรกๆอาจจะบาง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆจะกลับมาหนาพอเหมาะเหมือนเดิมครับ

และถึงกล่องไปปรับให้ มันก็ไม่บางจนพังหรอกนะครับ เพราะกล่องเดิมมันสั่งจ่ายน้ำมันเอาไว้หนาเพื่อป้องกันเครื่องพังเอาไว้ด้วย


เอ๋....ทำไมของผมมันพยายามปรับให้หนาขึ้น แต่แค่ถึงจุดๆหนึ่งก็ไปต่อไม่ได้ล่ะครับ   ปิดปาก 
รึผมเข้าใจอะไรผิดหว่า....... close loop มันช่วยปรับให้ได้เพียงแค่ถึงจุดๆนึง แต่พอกดคันเร่งเยอะๆจนกลายเป็นopen loop มันก็กลับมาบางเหมือนเดิมอ่ะครับพี่ ....แค่สงสัยนะครับ  เวียนหัว เวียนหัว

พิสูจน์ได้จากค่า A/F ที่ผมติดเข้าไป ตัวนี้ครับ  แหะ.. แหะ..

บันทึกการเข้า

TunedByJen
พรชัย เฮดเดอร์
CORONA CLUB
Club JZ
Mercedes Mania
กะเรกะราด
supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,310



ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 09 มกราคม 2013 11:31:38 »

/ครับผม น้ำมัน อี 20 มันให้พลังในการจุดระเบิด(ค่าพลังงานความร้อน)น้อยกว่าน้ำมันธรรมดาน่ะครับ ในขณะที่กำลังอัดของเครื่องยังใช้สัดส่วนเดิมน่ะครับ ก้เลยกลายเป็นดูว่า "บาง"น่ะคับ (8 ต่อ 10, 9ต่อ10อะไรประมาณนั้น) ดังนั้น กำลังเครื่องจึงด้อยลงไป ถ้าจะให้รถทำงานใด้เต็มกำลังเครื่อง คือ เปลี่ยนหัวฉีด หากล่องจูนน้ำมันเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังเท่าเดิม คราวนี้ อัตราความประหยัดจะน้อยลงไปใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นมากขึ้น ซึ่งไม่ตรงความต้องการของ จขกท.น่ะครับ เลยแนะนำไปในข้างต้นน่ะครับ ถ้าพังเพราะความร้อนน่ะ ไม่จริงครับ ถ้าเราปรับส่วนต่างๆให้matchกับเชี้อเพลิง  ถ้าจะเอาแบบ เติมใด้ ประหยัด ไม่พัง แต่ กำลังด้อยลงบ้าง ก็ จัดเลยคับ    ......ส่วนน้าที่เติมแล้วน้ำมันซึมออกมาน่ะ ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ  ปล....มีอะไรเพิ่มเติม เอามาแชร์กันเยอะๆนะครับ ผิดถูกขออภัยน้าๆด้วย ผมเองก็อ่านมาจากตำรานะครับ (ม่ายรู้จะแปลถูกป่าวว)

กล่องเดิมติดรถมันช่วยทริมน้ำมันเพิ่มให้จนได้ปริมาณที่เหมาะสมครับ พิสูจน์ได้จากค่า A/F ติดรถที่ผมติดเข้าไป
แรกๆอาจจะบาง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆจะกลับมาหนาพอเหมาะเหมือนเดิมครับ

และถึงกล่องไปปรับให้ มันก็ไม่บางจนพังหรอกนะครับ เพราะกล่องเดิมมันสั่งจ่ายน้ำมันเอาไว้หนาเพื่อป้องกันเครื่องพังเอาไว้ด้วย


เอ๋....ทำไมของผมมันพยายามปรับให้หนาขึ้น แต่แค่ถึงจุดๆหนึ่งก็ไปต่อไม่ได้ล่ะครับ   ปิดปาก 
รึผมเข้าใจอะไรผิดหว่า....... close loop มันช่วยปรับให้ได้เพียงแค่ถึงจุดๆนึง แต่พอกดคันเร่งเยอะๆจนกลายเป็นopen loop มันก็กลับมาบางเหมือนเดิมอ่ะครับพี่ ....แค่สงสัยนะครับ  เวียนหัว เวียนหัว

พิสูจน์ได้จากค่า A/F ที่ผมติดเข้าไป ตัวนี้ครับ  แหะ.. แหะ..



เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเองครับน้า ไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะ
บันทึกการเข้า

ปั้น AE ดีก่า ^^
Jay หมอศรี @ WZ Zone
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,819



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 09 มกราคม 2013 15:20:30 »

/ครับผม น้ำมัน อี 20 มันให้พลังในการจุดระเบิด(ค่าพลังงานความร้อน)น้อยกว่าน้ำมันธรรมดาน่ะครับ ในขณะที่กำลังอัดของเครื่องยังใช้สัดส่วนเดิมน่ะครับ ก้เลยกลายเป็นดูว่า "บาง"น่ะคับ (8 ต่อ 10, 9ต่อ10อะไรประมาณนั้น) ดังนั้น กำลังเครื่องจึงด้อยลงไป ถ้าจะให้รถทำงานใด้เต็มกำลังเครื่อง คือ เปลี่ยนหัวฉีด หากล่องจูนน้ำมันเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังเท่าเดิม คราวนี้ อัตราความประหยัดจะน้อยลงไปใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นมากขึ้น ซึ่งไม่ตรงความต้องการของ จขกท.น่ะครับ เลยแนะนำไปในข้างต้นน่ะครับ ถ้าพังเพราะความร้อนน่ะ ไม่จริงครับ ถ้าเราปรับส่วนต่างๆให้matchกับเชี้อเพลิง  ถ้าจะเอาแบบ เติมใด้ ประหยัด ไม่พัง แต่ กำลังด้อยลงบ้าง ก็ จัดเลยคับ    ......ส่วนน้าที่เติมแล้วน้ำมันซึมออกมาน่ะ ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ  ปล....มีอะไรเพิ่มเติม เอามาแชร์กันเยอะๆนะครับ ผิดถูกขออภัยน้าๆด้วย ผมเองก็อ่านมาจากตำรานะครับ (ม่ายรู้จะแปลถูกป่าวว)

กล่องเดิมติดรถมันช่วยทริมน้ำมันเพิ่มให้จนได้ปริมาณที่เหมาะสมครับ พิสูจน์ได้จากค่า A/F ติดรถที่ผมติดเข้าไป
แรกๆอาจจะบาง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆจะกลับมาหนาพอเหมาะเหมือนเดิมครับ

และถึงกล่องไปปรับให้ มันก็ไม่บางจนพังหรอกนะครับ เพราะกล่องเดิมมันสั่งจ่ายน้ำมันเอาไว้หนาเพื่อป้องกันเครื่องพังเอาไว้ด้วย


เอ๋....ทำไมของผมมันพยายามปรับให้หนาขึ้น แต่แค่ถึงจุดๆหนึ่งก็ไปต่อไม่ได้ล่ะครับ   ปิดปาก 
รึผมเข้าใจอะไรผิดหว่า....... close loop มันช่วยปรับให้ได้เพียงแค่ถึงจุดๆนึง แต่พอกดคันเร่งเยอะๆจนกลายเป็นopen loop มันก็กลับมาบางเหมือนเดิมอ่ะครับพี่ ....แค่สงสัยนะครับ  เวียนหัว เวียนหัว

พิสูจน์ได้จากค่า A/F ที่ผมติดเข้าไป ตัวนี้ครับ  แหะ.. แหะ..



เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเองครับน้า ไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะ
มี A/F Wideband งั้นน้าก็จัดกล่องพ่วงเข้าไป จะได้ Trim น้ำมันได้หนากว่าเดิมด้วยครับ ให้มันหลอกสัญญาณขากลับด้วย เพราะบางที กล่องเกิดฉลาด

อ่านค่าได้ว่าหนา จะมากลับค่าเดิมอีก

ส่วนเรื่องกดคันเร่งลึกๆ แล้ว A/F บางต่อนะครับ หัวฉีดน้าของอะไรเอ่ย บางทีดันเ้ย๊อะๆ หัวฉ๊ดก็เริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะครับ

เหมือนแบบว่า คนตัวเล็กอ่ะ จะไปฝืนให้มันทำอะไรหนักๆกว่าเดิม คงไม่ได้ แต่ถ้าเอาคนตัวใหญ่ๆ (หัวฉีดที่ใหญ่กว่าเดิม)

เราก็ค่อยมาลดน้ำมันแทนก็ได้ครับ เหลือดีกว่าขาด
บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 2 [3]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!