AE. Racing Club
22 กุมภาพันธ์ 2568 04:29:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ผ่อนรถต่อ แล้วปล่อยให้ยึด อย่าคิดว่าจบ และผู้ค้ำประกัน จ้า  (อ่าน 55327 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
samphop
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 เมษายน 2554 23:19:20 »

          คือว่าผมได้มีโอกาสทำงานด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการฟ้องร้องและการบังคับคดีของลูกหนี้ และหนึ่งในงานนั้นก็มีงานเกี่ยวกับรถยนต์ของยุ่น ที่เราคุ้นเคยกัน สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้บางท่านอาจรู้แล้วแต่ผมเชื่อว่ายังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ เลยอยากจะเล่าสู่กันฟัง (ที่ผมรู้คือรถมือหนึ่งนะครับ)
          
          หลายๆคนที่ซื้อรถยนต์มือหนึ่งที่อาจจะไม่มีเงินก้อนที่จะซื้อสดโดยไม่ต้องผ่อน โดยอาจจะเลือกที่จะซื้อผ่อนเพราะต้องเอาเงินไปหมุนเพื่อทำธุรกิจการงานต่างๆ หรือไม่ก็ดาว์รถในเงินจำนวนที่มากบวกกับเงินเดือนที่สูงประมาณนึงเพื่อจะไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกันในการซื้อรถและก็ผ่อนได้น้อยลง แต่บางท่านอาจจะต้องใช้ผู้ค้ำประกันในการซื้อรถยนต์
          
          บางท่านอาจคิดว่าซื้อรถมา "ไม่มีเงินผ่อนก็ปล่อยให้ยึดไปก็จบแล้ว" มันไม่จบนะครับ!! เพราะเขานอกจากจะทำการยึดรถแล้วเขายังคิดค่าสึกหรอค่าเสื่อมสภาพรถเพราะรถยนต์เป็นทรัพย์ที่ใช้ไปมีแต่เสื่อมสภาพเสื่อมราคาครับ และเขายังคิดค่าติดตามทวงถาม ค่าทนายความในการฟ้องร้องคดี และยังค่าดอกเบี้ยอีก(ตัวร้ายเลยแหละ) และบางคนก็ปล่อยให้เวลาผ่านไป เค้าติดตามทวงถามแล้วก็ไม่ยอมไปจ่ายเขา แล้วสักพักเงียบๆไป "อย่าคิดว่าเขาลืมหรือไม่สนใจนะครับ" เพราะนั้นเขากำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานในการฟ้องคดีท่านอยู่ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่ท่านต้องเสียนั้นยิ่งงอกเงย จนบางเคสที่ผมเคยเจอเหลือผ่อนอีกประมาณแค่แสนเดียวปล่อยเลยไปจนหนี้ประมาณสามแสนกว่าเลยนะครับ สรุปคือรถโดนยึดและเป็นหนี้สามแสนกว่า
          
         ผลจะเป็นยังไงหรอครับ เมื่อศาลพิพากษาแล้วให้ท่านชำระหนี้ตอนนี้คำพิพากษามันยังคงมีค่าเพียงแค่กระดาษแผ่นเดียวครับ แต่ขั้นตอนต่อไปคือการนำเอาคำพิพากษามาบังคับคดีครับ โดยการที่ทางโจทก์(เจ้าหนี้) เขาจะสืบหาทรัพย์สินของท่านหรือทรัพย์สินของคู่สมรสท่าน(ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการสมรสกัน แม้จะหย่ากันไปแล้วก็ตาม แต่ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสมันยังคงเป็นทรัพย์สินระหว่างสมรสอยู่เสมอ ยึดได้!!) ทรัพย์สินก็อาทิเช่น ที่ดิน, บ้าน, คอนโด, หรือบ้านพร้อมที่ดิน, รถยนต์, มอไซด์, แอร์, ทีวี, พัดลม, วิทยุ  หรืออะไรก็ตามที่สามารถนำมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ได้  ผมเคยได้รู้ว่าบางคนคิดจะหนีหนี้โดยการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ไม่ได้ผลเลยครับ  ขอแค่เขามีเพียงเลขบัตรประชาชน แม้ท่านจะเปลี่ยนไปสักสามสี่ชื่อเขาก็หาท่านเจอ เพราะยังไงตอนซื้อรถเขาต้องเอาสำเนาบัตร ปชช ของท่านอยู่แล้ว
        
        เมื่อผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆแล้วเขาก็จะนำเจ้าพนักงานบังคับคดีและตำรวจไปนำยึดทรัพย์สินของท่านถึงที่เลยครับ เดลิเวอลี่เลยทีเดียว รุ่นพี่ผมเล่าให้ฟังว่าเคยพาเจ้าพนักงานบังคับคดีและตำรวจไปนำยึดทรัพย์สินบ้านลูกหนี้ บางทีเขาต้องหลบไปอัดบุหรี่เลยครับ เพราะเห็นภาพลูกหนี้หมดตัว เขาทรุดหน้าบ้านตัวเอง รับไม่ได้เห็นแล้วสลด แต่มันต้องทำ
        
         ประเด็นต่อมานะครับ  "ผู้ค้ำประกัน"
         คนค้ำประกันเนี่ยเขาให้การค้ำประกันด้วยความที่เชื่อใจกัน เกรงใจกัน รักกัน เป็นเพื่อนเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกัน แต่เชื่อมั้ยครับ พี่น้องกันต้องบาดหมางกัน แทบจะฆ่ากันตายก็มีมาแล้ว "เพราะว่า ร้อยละ90%!! ผู้ค้ำประกันจะโดนครับ" โดยวิธีขั้นตอนเหมือนที่ผมแพร่มมาอะครับ มันเป็นความจริงที่ผมได้รู้ก็ไอตอนที่ทำงานพวกนี้แหละครับ ผมเคยคุยกับลูกหนี้คนนึง เขาค้ำประกันให้สามีของน้อง(เรียกว่าอะไรไม่รู้) ต่อมามันเลิกกะน้องแล้วไม่ผ่อนรถต่อครับ เชื่อมั้ยครับแม้แต่สีรถเขายังไม่รู้เลยว่ารถเป็นสีอะไร ล้อก็ยังไม่เคยเห็น แต่ตอนนี้ต้องทำงานใช้หนี้สี่แสนกว่าบาทอะครับ "ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อน คิดให้มั่นใจก่อน ก่อนจะค้ำประกันให้ใครนะครับ"
        
         วิธีแก้ไม่ให้ต้องชำระหนี้ (บ้านๆเลยคือวิธีที่จะไม่จ่าย)
         "ไม่มีครับ" มีแต่อย่าให้มันลุกลามเป็นมะเร็งร้ายในชีวิตครับ  เมื่อเขามายึดรถหรือเราจ่ายไม่ไหว ถามเขาเลยว่าจะต้องทำอะไรบ้างต้องชำระเท่าไหร่ยังไงต่อ เพราะกฎระเบียบภายในขั้นตอนของแต่ละที่แต่ละยีี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน คุยกับเขาประนอมหนี้กับเขา อย่าปล่อยให้ค้างไว้นาน  เป็นหนี้ต้องชำระครับมันเป็นสัจธรรม
  เผื่อสิ่งที่ผมแพร่มมาทั้งหมดนี้อาจเป็นความรู้ให้หลายๆท่านได้   ขอบคุณที่ช่วยอ่านครับ

                    
          
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 เมษายน 2554 21:36:19 โดย samphop » บันทึกการเข้า
AE.พาฝัน
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,910



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 เมษายน 2554 00:36:21 »

 
บันทึกการเข้า
nogpompam
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 810


น้องข้าวปั้นฝากตัวด้วยนะคร้าบ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 เมษายน 2554 01:04:27 »

ไม่เป็นหนี้ดีทีสุด 
บันทึกการเข้า
thirachot
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 292



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 เมษายน 2554 10:00:09 »

ผ่อนไม่ไหวให้คนอื่นที่เขาต้องการรถไปผ่อนต่อเลยไม่ต้องดาว ไม่ต้องกลัวเสียบเปรียบผมคิดว่าเป็นทางออกที่ดีนะ แต่ต้องเปลี่ยนสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อบเดี๋ยวไม่จบง่าย

เห็นแถวบ้านผมเขากลัวเสียเปรียบไม่ยอมให้ไคร  เขาผ่อนรถไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้วผ่อนไม่ไหว มีคนถามขอซื้อดาวต่อแต่ให้เงินดาวน้อยเลยไม่ขายปล่อยให้ยึดดีกว่าเสียเปรียบคนอื่นสุดท้ายต้องเสียเงินเพิ่มอีหลายหมื่น รถก็โดนยึดแถมต้องใช้หนี้อีก ตามที่เจ้าของกระทู้บอกเลย  ถ้าขายให้คนอื่นหรือยกให้คนอื่นน่าจะดีกว่านะแต่ต้องย้ำว่าต้องเปลี่ยนสัญญาเท่านั้น
บันทึกการเข้า

มาณพ
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 155


ยินดีไม่มีปัญหา


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 เมษายน 2554 10:35:31 »

 
บันทึกการเข้า
aoffer26.CZ
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 25 เมษายน 2554 10:42:58 »

ขอบคุณมากครับทำงานแบบเดียวกันครับ
ให้ความรู้ไว้เยอะๆครับจะได้แก้ก่อนที่จะโดนยึด
เพราะมันไม่จบ
บันทึกการเข้า

sakuraba
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 เมษายน 2554 22:51:17 »

ยอมขายดาวน์แบบขาดทุนน้อยหน่อยก็ไม่น่าเกลียดหรอกนะผมว่า  บางคนกลัวแต่ขาดทุน ทำไมไม่คิดถึงเวลาใช้รถไปนะ  มันสึกไปตั้งเยอะ   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!