ความรู้พื้นฐานกล่อง HALTECH
ถ้าจะถามว่า กล่องโปรแกรม อะไรดี ไม่ดี ให้ดูจาก...
ความละเอียดในการปรับจูน ของกล่องนั้นๆ
ถ้าเรียงตามความละเอียดของกล่อง
ความละเอียดของกล่อง จะบอกได้ว่ากล่องตัวนั้น น่าเล่นแค่ไหน
จูนได้ละเอียดแค่ไหน
เช่นในช่วง 1000 รอบ ของรอบเครื่องยนต์
กล่องใบนั้นสามารถปรับแต่งได้ขนาดไหน
เช่น e-manage ปรับได้ 200 กว่า
แต่ Motec ปรับได้ 800 กว่า
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมระดับโปร จึงใช้แต่ Motec กัน
แต่บ้านเราที่นิยมใช้ F-con กัน ส่วนนึงเป็นเพราะการตลาด
แต่เมืองนอก รถที่สุดๆจริงๆ เค้าใช้ Motec
เพราะมันจูนได้ละเอียดที่สุด
กล่องโปรแกรม แยกเป็น 2 ประเภท
1.
กล่องประเภท piggy back
การทำงานคือ ไปหลอกกล่อง ECU เดิม
2.
ส่วนกล่อง ประเภท stand alone
ที่ระดับ Pro ชอบใช้กัน
ก็คือเปลี่ยน ECU และชุดไฟชุดใหม่เลย
จะทำงาน ได้แม่นยำ และละเอียดกว่า
ข้อดีอีกอย่างของ stand alone ก็คือเอาไปใส่เครื่องรุ่นไหน รถรุ่นไหนก็ได้
ไม่จำกัด ระบบไฟของเดิมถอดทิ้งหมด
ใช้ sensor และอุปกรณ์ชุดใหม่เลย
ซึ่งมีความละเอียดสูง ละเอียดกว่าของเดิมติดรถ
.
ยกตัวอย่าง สมมุติได้เครื่อง V12 ของ Ferrari มาราคาถูกๆแค่ 6-7 หมื่น บาท
เครื่องตัวนี้ ่ไม่มีชุดสายไฟ และ sensor อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ครบ
แต่อยากเอามาวาง Celica
ก็ใส่กล่อง Haltech ไปได้เลยไม่มีปัญหา
แต่ถ้าเป็นกล่องญี่ปุ่นพวก e-manage / Power FC / F-con
พวกนี้หมดสิทธิ ไปเลย
แต่ จะเอาเครื่อง Ferrari ลง Celica ได้ยังงัย อันนั้นคือปัญหา
ยี่ห้อหลักๆ ที่คนเล่นกัน
ส่วนใหญ่ จะเป็นของผรั่ง
ของยุ่นตอนนี้ก็มี Power FC (ใช้ชุดไฟและ sensor เดิมติดรถซึ่งไม่ค่อยละเอียด)
อีกอย่าง ถ้าซื้อกล่องสำหรับเครื่องรุ่นไหน ก็ใช้ได้แค่รุ่นนั้น
และ F CON V-pro ปกติคือ piggy back แต่สามารถเปลี่ยนชุดไฟ+sensor เป็น stand alone ได้
แต่รวมราคา+ประสิทธิภาพ แล้วสู้ของฝรั่งไม่ได้
-----------------------------------------------------
e-manage...........250 piggy back
Power FC............350 Stand Alone (ใช้ได้แค่รุ่นไหนรุ่นนั้น)
F CON V-pro........450 piggy back - Stand Alone
EMS.....................450 Stand Alone
Haltech...............750 Stand Alone
MoTec.................800 Stand Alone
------------------------------------------------------------
อันนี้คร่าวๆนะครับ ตัวเลขอาจบวกลบไปบ้าง
แต่ถ้าผิดไป + - กันไม่มาก
จะเห็นว่า ข้อดีของ Haltec ก็คือ ความละเอียดสูงใกล้เคียง Motec
แต่ราคาต่ำกว่า มาก
.
ลูกเล่นอย่างอื่น เยอะแยะอธิบายไม่หมด
เช่น คร่าวๆ
- ต่อ ซิพ ไล้ท์ ตั้งเองได้ (อันนี้เด็กๆ)
- ปรับบูส จะเอา hi หรือ lo ยังงัย
ออกตัวเป็น hi พอแช่นานๆ เป็น lo หรือให้สวิงยังงัย
ที่กี่พันรอบ อยากให้ตามรอบเครื่องยังงัย ปรับได้หมด
- คุมพัดลมไฟฟ้า ให้ทำงานที่อุณหภูมิ เท่าไหร่ เป็น speed ไหน
ตัดที่เท่าไหร่ พวกนี้สามารถตั้งเอง ได้หมด
- วอร์มเครื่อง ตอนเช้า จะให้ดึงรอบเครื่องขึ้นเป็นกี่พันรอบ ทำที่อุณหภูมิเท่าไหร่ จนถึงเท่าไหร่ ตัดที่อุณหภูมิ เท่าไหร่ อันนี้ตั้งโปรแกรมได้หมด
- พออัดรถ จะให้คอมพ์แอร์ ดัดเอง ที่ กี่พันรอบ ตัดนานกี่วิ พร้อมทั้งคอมพ์แอร์ ตัดที่บูสเท่าไหร่ ตามรอบและตามบูสยังงัย สามารถตั้งเองได้หมด ไม่ต้ิองเอามือไปปิดสวิชเองให้รำคาญ
- ล๊อครอบเครื่อง จะ ลิมิต ไว้แค่ไหน จะให้ล๊อคโดยการ ตัดไฟ หรือตัดน้ำมัน ยังงัยก็ได้
- ดาต้าล๊อค เรียกรายละเอียดข้อมูลที่เอาไปวิ่งมา พวก water temp / air temp / oil temp / a-f ได้ไม่จำกัด
- คุม V-TEC / VVti / Mivec หรือพวก แคมกระดิก ลิ้นกระดิก โปรแกรมให้เปิดปิดที่เท่าไหร่ ได้ทุกยี่ห้อ
- สามารถเอาเครื่อง non - air มาทำเป็นระบบ Direct Coil ได้เลย จะเอาของรุ่นไหนมาใช้ก็ได้ ฝากะลาจานจ่ายสายหัวเทียนของ non - air เดิม ถอดขายทิ้ง ได้เลย
- คุม Nitrus Oxide จะให้ฉีดที่เท่าไหร่ ตามรอบ ตามบูสยังงัย นานแค่ไหน
- มี out put อีก 4 ตัว ที่สามารถเอาไปใช้ คุมอะไรก็ได้ โปรแกรม ให้ทำงานตามรอบ ตามบูสเทอร์โบยังงัยก็ได้ แล้วแต่ ความคิดสา้งสรรค์ เช่น รอบถึง 7000 รอบแล้วดีด
เก้าอี้คนนั่ง ให้เด้งออก แบบหนัง เจมส์บอนด์ ก็ได้ 555
- ขายต่อออกตัวไม่ยาก หรือเอาไปใส่กับรถอะไรก็ได้ (แล้วแต่รุ่นของกล่องHaltech ) ส่วนใหญ่ ใช้ได้ตั้งแต่มอเตอร์ไซด์ 1 สูบ 2 สูบ หรือรถ หรือเรือ 3สูบ 4 สูบ 5 สูบ 6 สูบ 8 สูบ 10 สูบ 12 สูบ หรือ เครื่องโรตารี่ ได้ถึง 4 โรเตอร์
.
ยังมีอีกเยอะครับ ตอนนี้นึกออกได้แค่นี้ เอาคร่าวๆว่า ประสิทธิภาพ ใกล้เคียง Motec มาก
ทีมงานวิศวะกรผู้ผลิตก็มาจากทีมเดียวกัน แต่แยกตัวออกมา (ประมาณนั้นถ้าจำไม่ผิด)
ที่มา :
セ リ カ ク ラ ブ CЄLICA THAILAND
ข้อมูลของ HALTECH
http://www.freeforum101.com/exmo/vie...=0&mforum=exmohttp://www.haltech.com/