ทุกวันนี้พวกเราเล่น facebook เพื่ออะไร
เด็กติดเหลือเกิน อดด่ามันไม่ได้ นัดเรียนอยู่ก็เล่น เดินซื้อของก็เล่น
นั่งกินข้าวกับแฟนก็เล่น (เล่นทั้งสอง คุยกันทางfacebook)
เบื่อสังคมแบบนี้จริงๆ
ผมไม่ได้เล่นเด้อ จะเรียกว่าตกเทรนก็ยอมรับ หรือจะเรียกว่าตกยุคก็ไม่ว่ากัน แต่ลูกสาวคนกลางเล่นจนติดงอมแงม ลูกชายคนเล็กเล่นมั่ง ลูกชายคนโต(เป็นคนทำเวปไซด์ของครอบครัว ดูแลระบบทั้งหมด) แต่มันเล่นเฟสไม่เป็นเหมือนผม เหอะๆๆๆ นี่แค่ยกตัวอย่างในครอบครัวเฉยๆนะ คนเล่นกลับไม่รู้ คนรู้กลับไม่เล่น ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนหรอกครับ ที่แน่ๆก็คือ ความแน่นอนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเสมอครับ อิอิ ยังไงเนี่ย อ่านดูหลายๆรอบแล้วกันเด้อ ที่อยากจะบอกก็คือ โลกมันเปลี่ยนไป คนก็เปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน แต่.......ใจเราเปลี่ยนหรือไม่เท่านั้นเอง(จิตเดิมแท้เป็นประภัสสร)
เราอย่าให้สิ่งที่เห็นมันเข้ามากระทบใจ อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นดึงเราจนเกิดคำถามดังที่ถาม เพียงแต่สิ่งที่เห็นก็สักแต่ว่าเห็น สิ่งที่รู้ก็สักแต่ว่ารู้ เมื่อมากระทบที่ใจก็สักแต่ว่ามากระทบเฉยๆ เราไม่หวั่นไหว เราไม่เปลี่ยนแปลง ใจเราที่แน่วแน่ ใจที่มั่นคง เห็นถูกตรงตามธรรม ปัญญามันก็จะเกิดเองล่ะครับ
ป๊าด......โลกมันเป็นเช่นนี้ไปแล้วหรอ ไหนๆ สอนป๊าให้เล่นเฟสหน่อย จิ...คริ คริ
ผมเองยังให้ลูกสาวกับเจ้าตัวเล็กมันสอนให้เล่นเฟสเลยครับ แต่ไม่มีเฟสเป็นของตัวเด้อ เวลาส่วนใหญ่ให้ไปกับสิ่งอื่นครับ หากเรา....เปิดใจรับในสิ่งที่มันเกิดมันเป็นอยู่ แม้จะกระทบใจเราบ้าง ก็ให้สักแต่ว่า สำคัญจิตเราไม่ตกก็พอแระ ปัญญาเกิดแน่ อันนี้ต้องพิจารณาเอาเอง มันเป็นปัจจัตตังครับ
สำหรับผมแล้ว คงตอบได้ว่า เด็กจะเล่น เด็กจะติด ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของเขา เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ตราบใดที่ไม่ไปกระทบสิทธิของเราหรือผู้อื่น ก็เล่นไปโลดครับ เหรียญมีสองด้านเสมอ ทุกอย่างเป็นของคู่ครับ ดังนั้นการอยู่รวมกันบนความต่างและเรียนรู้ที่จะอยู่รวมกันได้อย่างสันติสุข นั้นเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกชั้นหนึ่งครับ การปรับตัวให้อยู่ในความแตกต่างนั้น ใจเราเท่านั้นที่จะผ่านหรือเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงไปได้ครับ คงฝากให้คิดแค่นี้ครับ (เท่าที่อ่านดูกว่าเก้าสิบเปอร์ เกือบๆร้อยล่ะ ยกเว้นผม....แหะๆๆ แม้แต่คนถามก็เล่นแมร่นบ่อ...ผมไม่ได้เล่นครับ กับอีกไม่กี่คนเองที่ไม่เล่นนะ นอกนั้นเล่นหมดล่ะ ) เราคงต้องเลือกที่จะเสพครับ ในยามที่ตาใสๆอยู่นี่ ในยามที่ยังมีกำลังเหลือๆอยู่นี่ ผมเลื่อกที่จะเสพธรรม และเดินตามรอยพระพุทธองค์ครับ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะสิ่งที่ทำสิ่งที่สร้าง ล้วนเก็บสะสมเอาติดตัวไปได้ทุกภพชาติครับ แต่สิ่งที่เราสร้างด้วยตาเนื้อหรือหามาทั้งชีวิต หรือพยายามวิ่งตามมัน แต่ตามเท่าไรก็ไม่ทันซักที ผมหมายถึงกิเลส ตัณหา ราคะ ความอยาก ความโลภ โกรธ หลง หรือแม้แต่ทรัพย์สินเงินทอง หามาได้เท่าไรเวลาไป ก็ต้องส่งคืนแก่โลกจนหมดสิ้น ไม่เห็นมีสักคนที่จะหอบหรือขนเอาไปได้สักคนเดียว
หวังว่าคงดวงตาเห็นธรรมในข้อนี้นะครับ
มันเป็นธรรมชาติของมันเช่นนี้เองครับ สำหรับโลกวันนี้ แต่อีกร้อยปี หร้อล้านปี เฟส อาจจะเป็นของโบราณไปก็ได้ ใครจะรู้ จริงไหม