:] ใครเก่งบัญชีช่วยอธิบายหน่อยครับ

[~ Funky_nu_NoO :]

- ซื้อของเข้าบริษัท เพราะอะไรต้องขอบิล Vat
- แล้วถ้าซื้อของกับคนที่ไม่ได้เปิดเป็นบริษัท ไม่มีบิล Vat มีแต่บิลเงินสด บริษัทจะเสียผลประโยชน์เหรอครับ  

ถามบัญชีที่บริษัทก็ไม่มีใครอธิบายได้เข้าใจอ่ะ 

[Djpog_TФCФβů]

ง่ายๆเลยก็เอาบิล vat มาหักภาษีปลายปีของบริษัทครับให้บริษัทมีกำไรน้อยก็จะได้เสียภาษีน้อย

ถ้าไม่มี vat ก็ทำให้บริษัทไม่ได้ลดภาษีประจำปีครับ ไม่เชิงว่าเสียประโยชน์หรอกครับ

[Skyline R92]

ก็เท่ากับว่าบริษัทจะเสียภาษีรายได้แพงขึ้นใช่ไม๊อ่ะคับ

[smilegames]

ต้องเข้าใจคำว่า Vat ก่อนนะ ก็คือ ภาำษีมูลค่าเพิ่ม เราก็เสียภาษีตามมูลค่าที่เพิ่มไงครับ ตอนซื้อมามี Vat ขายไปมูลค่าเพิ่มขึ้น เราก็จ่ายส่วนที่ต่างกันไงครับ ดังนั้น ของไม่มี Vat มา เราก็จ่าย Vat ทั้งหมดไงครับ ทางบัญชี มันจะหักลบทางภาษีซื้อภาษีขาย ครับ ฝ่ายบัญชี เข้ามองภาพรวม บางทีก็ทำงานเป็นส่วนๆไป เลยอาจจะอธิบายไม่ได้ครับ  ซึ่งจริงๆ บริษัทก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายนะ คนซื้อเป็นคนจ่ายภาษี  บริษัทเป็นคนเก็บภาษีให้ แต่พอเงินมันผ่านเข้ามาแล้ว ก็ไม่อยากจ่ายออกมาก เป็นธรรมดา

เช่น ซื้อของ 100 บาท ภาษีซื้อ 7 บาท  เราขายไป 150 บาท ภาษีขาย 10.5 บาท ก็ ภาษีขาย-ภาษีซื้อ ส่งภาษีให้รัฐ 3.5 บาท เราก็ได้ 50 บาท
     ซื้อของ 100 บาท ไม่มีภาษี  เราขายไป 150 บาท ภาษีขาย 10.5 บาท ก็ ภาษีขาย-ภาษีซื้อ ส่งภาษีให้รัฐ 10.5 บาท  เราก็ได้ 50 บาท แตุ่ถ้าเราหาบิลภาษีซื้อได้โดยไม่้ต้องจ่าย เราจะได้เพิ่มอีก 7 บาท

ตามความเข้าใจผมนะ ที่เคยคุยกับผู้จัดการที่เป็นรุ่นพี่ สมัยทำงานบริษัท

[plew_ch]

1.ซื้อของเข้าบริษัท เพราะอะไรต้องขอบิล Vat
ตอบ บิล vat มันคือเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วน เอามาลงบัญชีได้ หักค่าใช้จ่ายได้ เต็มฯทุกบาท
2. แล้วถ้าซื้อของกับคนที่ไม่ได้เปิดเป็นบริษัท ไม่มีบิล Vat มีแต่บิลเงินสด บริษัทจะเสียผลประโยชน์เหรอครับ
ตอบ มันเอามาลงบัญชีไม่ได้ หรือได้บางส่วนเท่านั้น เอามาหักค่าใช้จ่ายไม่ได้ (มันเลยส่งผลให้สิ้นปี ในทางบัญชี บริษัท มีกำไรมากขึ้น แล้วต้องเสียภาษีจากกำไรมากขึ้นตามสัดส่วน)

[THanasak]

บอกตรงๆนะคุยเรื่องบัญชีต้องนึกก่อนเลยว่าเราพอมีพื้นหรือเปล่า ถ้าไม่มี ทำความเข้าใจยากมากครับ
เหมือนพูดภาษาประกัน ถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงการ เหมือนโฆษณาน่ะ ฟังเหมือนภาษาต่างดาว

[BOOK]

ตัวอย่าง
1. บริษัท ก ซื้อรองเท้าจากบริษัท ข มาขาย บริษัท ข ขายรองเท้าให้ราคา 100 บาท ภาษี vat 7 บาท รวมขายให้ราคา 107 บาท (บริษัท ข อยู่ในระบบ vat จึงต้องเก็บ vat )
2. บริษัท ก ขายรองเท้าที่ซื้อมาให้ผู้บริโภค ในราคา 200 บาท บวก vat 14 บาท รวมขายให้ในราคา 214 บาท (บริษัท ก ก็อยู่ในระบบ vat ด้วยจึงต้องเก็บ vat )
3. เวลาเสียภาษี vat บริษัท ก ก็จะเอา vat ที่เก็บจากผู้บริโภค 14 บาท มากหัก vat ที่ถูกบริษัท ข เก็บไป 7 บาท คงเหลือ vat ที่ต้องไปเสียให้ราชการ 7 บาท ( 14-7 )
4. จากข้อ 1. ถ้าบริษัท ข ไม่ได้อยู่ในระบบ vat ก็จะเรียกเก็บ vat จากบริษัท ก ไม่ได้ บริษัท ก ก็จะซื้อรองเท้าจากบริษัท ข เพียงราคา 100 บาท เวลาเสียภาษี vat ก็ไม่มี vat ที่ถูกเก็บจากบริษัท ข มาหัก จึงต้องเสียภาษี vat ให้ราชการ  จำนวน 14 บาท ( vat 14 บาทนี้ผู้บริโภคเสียให้กับบริษัทตามข้อ 2 )
5. vat เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อ แล้วผู้ขายนำมาส่งให้ทางราชการ บริษัทผู้ขายไม่ได้เสียประโยชน์ บริษัทที่ซื้อมาแล้วขายไป ก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไร เพราะก็จะไปเรียกเก็บจากผู้ซื้อคนต่อต่อไป ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ต้องเสียภาษี vat จริงจริงคือผู้บริโภคคนสุดท้าย
  

[~ Funky_nu_NoO :]

เข้าใจชัดเจนแล้วครับ ขอบคุณมาก