AE. Racing Club
27 พฤศจิกายน 2024 10:12:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 3 [4] 5 6 ... 76  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ  (อ่าน 295998 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
art-art
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 09:38:05 »



มีข้อมูลมาเสนอเพิ่มครับ
อ้างอิงข้อมูลจากลิงค์ เป็นข้อมูลของพลังที่ได้จากเชื้อเพลิงนะครับ ส่วนการคำนวนผมทำเอง  อ่านหนังสือ
http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?pageid=3&bookID=1619&read=true&count=true
สำหรับค่าพลังงานความร้อนที่ได้จากเชื้อเพลิง ผมพิจารณาในเทอมของ Work  ส่วนในเทอม Thermal ไม่พูดถึงเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์กับเครื่องยนต์

ผมจะลองคำนวนคร่าวๆแล้วกันเนาะ เพราะผมจับค่า A/F ได้คร่าวๆว่าเท่ากันระหว่าง E20 หัวฉีดเดิม กับ E85 หัวฉีด 1JZ  
หัวฉีดเดิม 5A มีปริมาณการฉีดประมาณ 170 cc. ต่อครั้ง

E20 ได้มาจาก Ethernal 20% ผสมกับ เบนซิล 80%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.20x23.50) + (0.80x34.83)      MJ/Liter
                                       = 4.700 + 27.864     MJ/Liter
                                       = 32.564     MJ/Liter   #  
ทีนี้มาคำนวน E85 ที่หัวฉีด 1jz gte vvti 250 cc. ต่อครั้ง กัน
ซึ่งมีค่ามากกว่าหัวฉีดเดิมเป็น 250/170 = 1.47 เท่าของหัวฉีดเดิม
และ
E85 ได้มาจาก Ethernal 85% ผสมกับ เบนซิล 15%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.85x23.50) + (0.15x34.83)      MJ/Liter
                                       = 19.975 + 5.225     MJ/Liter
                                       = 25.20     MJ/Liter   #  
เมื่อนำ 25.20x1.47= 37.044   MJ/Liter   #


คิดเป็น    ( 37.044/32.564 ) x 100   =   113.493 %  ของ ค่าพลังงานที่ได้จาก E20  
แถมราคาถูกกว่าด้วย ถ้าเทียบกับการที่ใช้ไปจากการเผาไหม้ที่เท่ากัน  





จากสมการ สามารถบอกได้ว่า E20 ให้พลังงานมากกว่าน้ำมัน E85 ครับ  (ไม่ใช่ E85 ให้พลังงานมากกว่า E20 113.493% ครับเดี๋ยวจะเข้าใจผิด)

หรือแปลอีกอย่างนึงคือ การที่จะทำให้ E85 ได้ค่าพลังงาน เท่ากับ E20 จะต้องฉีดน้ำมัน E85 เพิ่มขึ้น 1.29 เท่าครับ  
(E20 ใช้ 1 ลิตร เท่ากับต้องใช้ E85 1.29 ลิตร ถึงจะได้พลังงานเท่ากัน หรือจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น 30% โดยประมาณ อ้างอิงจากที่คุณคำนวณนะ ซึ่งถือว่าถูกต้อง)


ถ้าเอาละเอียดจริงๆ ต้องใช้ค่า BSFC (Brake Specific Fuel Consumption) มาคำนวณอีกครับ และค่าดังกล่าวนี้ รถ NA กับ รถ Turbo ก็ไม่เหมือนกันอีกครับ


จำง่ายๆครับ  1 แรงม้า ใช้น้ำมัน E85 = 7.25cc (NA)  และ 8.54cc (Turbo)  (คิดที่ Duty Cycle 80% ครับ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มิถุนายน 2012 10:03:43 โดย art-art » บันทึกการเข้า
supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,310



ดูรายละเอียด
« ตอบ #61 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 10:11:15 »



มีข้อมูลมาเสนอเพิ่มครับ
อ้างอิงข้อมูลจากลิงค์ เป็นข้อมูลของพลังที่ได้จากเชื้อเพลิงนะครับ ส่วนการคำนวนผมทำเอง  อ่านหนังสือ
http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?pageid=3&bookID=1619&read=true&count=true
สำหรับค่าพลังงานความร้อนที่ได้จากเชื้อเพลิง ผมพิจารณาในเทอมของ Work  ส่วนในเทอม Thermal ไม่พูดถึงเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์กับเครื่องยนต์

ผมจะลองคำนวนคร่าวๆแล้วกันเนาะ เพราะผมจับค่า A/F ได้คร่าวๆว่าเท่ากันระหว่าง E20 หัวฉีดเดิม กับ E85 หัวฉีด 1JZ 
หัวฉีดเดิม 5A มีปริมาณการฉีดประมาณ 170 cc. ต่อครั้ง

E20 ได้มาจาก Ethernal 20% ผสมกับ เบนซิล 80%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.20x23.50) + (0.80x34.83)      MJ/Liter
                                       = 4.700 + 27.864     MJ/Liter
                                       = 32.564     MJ/Liter   # 
ทีนี้มาคำนวน E85 ที่หัวฉีด 1jz gte vvti 250 cc. ต่อครั้ง กัน
ซึ่งมีค่ามากกว่าหัวฉีดเดิมเป็น 250/170 = 1.47 เท่าของหัวฉีดเดิม
และ
E85 ได้มาจาก Ethernal 85% ผสมกับ เบนซิล 15%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.85x23.50) + (0.15x34.83)      MJ/Liter
                                       = 19.975 + 5.225     MJ/Liter
                                       = 25.20     MJ/Liter   # 
เมื่อนำ 25.20x1.47= 37.044   MJ/Liter   #


คิดเป็น    ( 37.044/32.564 ) x 100   =   113.493 %  ของ ค่าพลังงานที่ได้จาก E20 
แถมราคาถูกกว่าด้วย ถ้าเทียบกับการที่ใช้ไปจากการเผาไหม้ที่เท่ากัน 





จากสมการ สามารถบอกได้ว่า E20 ให้พลังงานมากกว่าน้ำมัน E85 ครับ  (ไม่ใช่ E85 ให้พลังงานมากกว่า E20 113.493% ครับเดี๋ยวจะเข้าใจผิด)

หรือแปลอีกอย่างนึงคือ การที่จะทำให้ E85 ได้ค่าพลังงาน เท่ากับ E20 จะต้องฉีดน้ำมัน E85 เพิ่มขึ้น 1.29 เท่าครับ 
(E20 ใช้ 1 ลิตร เท่ากับต้องใช้ E85 1.29 ลิตร ถึงจะได้พลังงานเท่ากัน หรือจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น 30% โดยประมาณ อ้างอิงจากที่คุณคำนวณนะ ซึ่งถือว่าถูกต้อง)


ถ้าเอาละเอียดจริงๆ ต้องใช้ค่า BSFC (Brake Specific Fuel Consumption) มาคำนวณอีกครับ และค่าดังกล่าวนี้ รถ NA กับ รถ Turbo ก็ไม่เหมือนกันอีกครับ


จำง่ายๆครับ  1 แรงม้า ใช้น้ำมัน E85 = 7.25cc (NA)  และ 8.54cc (Turbo)  (คิดที่ Duty Cycle 80% ครับ)




อ๋อ อันนั้นถูกต้องครับ เพราะการคำนวนอ้างอิงคนละอย่าง ของน้าอ้างอิงที่พลังงานเท่ากันโดยดูว่าจะต้องใช้ปริมาณ E85 มากกว่า E20 เท่าไหร่ ใช่มั๊ยครับ  จุดประทัด
ของผมอ้างอิงจาก air/fuel ratio ครับ เพราะรถซิ่งมักจะอ้างอิงตัวนี้ในการปรับจูนมากกว่า ผมจึงกำหนดปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องการโดยให้ A/F ที่ผมทดสอบมาได้นั้น
คร่าวๆคือเท่ากัน จึงคำนวนออกมาได้เป็นค่าพลังงานที่ได้ครับซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความแรงของรถที่เพิ่มขึ้นครับ
บันทึกการเข้า

ปั้น AE ดีก่า ^^
art-art
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


ดูรายละเอียด
« ตอบ #62 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 10:26:02 »

ถ้าอ้างอิง A/F  E20 จะอยู่ที่ 12:1 ครับ    E85 จะอยู่ที่ 9:1 ครับ  (Stoichiometric)
ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า ต้องใช้ปริมาณน้ำมันที่เยอะกว่าครับ (ทฤษฎีกับปฏบัติเป็นจริงครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มิถุนายน 2012 10:33:28 โดย art-art » บันทึกการเข้า
ModmaniA.CBZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,449


เพราะชีวิต . . คือการแต่งรถ . .


ดูรายละเอียด
« ตอบ #63 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 10:55:59 »

แล้วถ้าเทียบกับเบนซิน 95 ละครับ อยากรู้อะ ไม่ทราบจริงๆครับ

และมีข้อสงสัยเพิ่มครับ ไม่เอาเรื่อง ราคาน้ำมันนะครับ

ระหว่าง

เบนซิน 95  เบนซิน 95 E10 , E20 และ E85

ตัวไหนเติมแล้วทำให้รถวิ่งดี ที่สุดครับ ในพื้นฐานเครื่องตัวเดียวกัน  เพราะบางท่านก็ว่าต่าง บางท่านก็ว่าไม่ต่าง . . .

 คำนับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มิถุนายน 2012 11:00:25 โดย ModmaniA.CBZ » บันทึกการเข้า


C i V i C  Si
7MGTE
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 532


ทำแอร์ วายริ่งสายไฟ จูนกล่อง KKT E85 085-8623973 ช่างต้อม


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 11:04:15 »

แล้วถ้าเทียบกับเบนซิน 95 ละครับ อยากรู้อะ ไม่ทราบจริงๆครับ

และมีข้อสงสัยเพิ่มครับ ไม่เอาเรื่อง ราคาน้ำมันนะครับ

ระหว่าง

เบนซิน 95  เบนซิน 95 E10 , E20 และ E85

ตัวไหนเติมแล้วทำให้รถวิ่งดี ที่สุดครับ ในพื้นฐานเครื่องตัวเดียวกัน  เพราะบางท่านก็ว่าต่าง บางท่านก็ว่าไม่ต่าง . . .

 คำนับ

E85 แน่นอนคับ  ลองเองเลยคับ แล้วจะรู้ว่ามันดียังไง
บันทึกการเข้า

รับทำแอร์ แก้ปัญหาแอร์สู้แดดไม่ได้ วายริ่งสายไฟ ต่อเกจวัดทุกชนิด จำหน่ายติดตั้งและจูน  KKT Easy Tuner ทำ direct coil ทำระบบน้ำมัน E85 4A-GE 4A-GE20V 4A-FE 7A-FE 4E-FTE 4E-FE/KKT Speed manager http://www.facebook.com/pages/KKT-Easy-Tuner-KKT-Speed-manager/260179994046505 By ช่างต้อม 085-8623973
art-art
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 11:08:28 »

โดนแซงเลย ฮ่าๆ

น้ำมันทุกตัวดีหมดครับผม เเต่ น้ำมันแต่ละชนิดจะมีองศาไฟที่เหมาะสมของมันครับ
ถ้าจะเอาให้ดีที่สุดกับเครื่องยนต์เดิมๆของแต่ละรุ่น ก็ควรเติมตามคู่มือที่กำหนดครับ

ตอนนี้ที่ลองแล้วก็จะมี Vpower กับ E85 ครับใกล้เคียงกัน แต่ราคาต่างกันเยอะ คนจึงนิยมจูนใช้ E85 ครับ เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
บันทึกการเข้า
ModmaniA.CBZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,449


เพราะชีวิต . . คือการแต่งรถ . .


ดูรายละเอียด
« ตอบ #66 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 11:33:06 »

แล้วถ้าเทียบกับเบนซิน 95 ละครับ อยากรู้อะ ไม่ทราบจริงๆครับ

และมีข้อสงสัยเพิ่มครับ ไม่เอาเรื่อง ราคาน้ำมันนะครับ

ระหว่าง

เบนซิน 95  เบนซิน 95 E10 , E20 และ E85

ตัวไหนเติมแล้วทำให้รถวิ่งดี ที่สุดครับ ในพื้นฐานเครื่องตัวเดียวกัน  เพราะบางท่านก็ว่าต่าง บางท่านก็ว่าไม่ต่าง . . .

 คำนับ

E85 แน่นอนคับ  ลองเองเลยคับ แล้วจะรู้ว่ามันดียังไง

ขอบคุณครับช่างต้อม

โดนแซงเลย ฮ่าๆ

น้ำมันทุกตัวดีหมดครับผม เเต่ น้ำมันแต่ละชนิดจะมีองศาไฟที่เหมาะสมของมันครับ
ถ้าจะเอาให้ดีที่สุดกับเครื่องยนต์เดิมๆของแต่ละรุ่น ก็ควรเติมตามคู่มือที่กำหนดครับ

ตอนนี้ที่ลองแล้วก็จะมี Vpower กับ E85 ครับใกล้เคียงกัน แต่ราคาต่างกันเยอะ คนจึงนิยมจูนใช้ E85 ครับ เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

 คำนับ

ผมก็เข้าใจผิดมาตลอดเลยว่า เติม เบนซิน 95 แล้ว วิ่งดีกว่า E10 หรือ V-power  อ้อน  ก็เลยเติมแต่เบนซิน 95 แพงๆ มาตลอดเลย เอิกๆๆ . .

 แหะ.. แหะ..

 คำนับ
บันทึกการเข้า


C i V i C  Si
Tonsuan
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,000



ดูรายละเอียด
« ตอบ #67 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 12:04:23 »

E85ออคเทนประมาณ105ครับ ได้ความเย็นด้วย วิ่งดีกว่าอยู่แล้ว(ถ้าจูนA/Fถูกต้อง) สุดยอด
บันทึกการเข้า

Tonsuan
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,000



ดูรายละเอียด
« ตอบ #68 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 12:10:20 »

ลองมาให้อ่านกันเล่นๆคร้าบ
พอดีไปเห็นบทความจาก Facebookของ VSR Performance & PB Motor  สุดยอด


เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาและสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางคนอยากจะเติมใช้แต่ก็กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาเพราะคิดว่ารถที่ใช้อยู่ไม่ได้ทำมารองรับ วันนี้เลยจะขอสรุปข้อมูลตามประสบการณ์และเท่าที่ได้ค้นคว้ามานะครับ
 
E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ?
 - ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วยเหมือนกัน (ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าการกัดกร่อนนี้เป็นยังไง) และผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหานี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารตะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัดกร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้นานๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสมเอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็นเหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเอง
 
แน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเรื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่องคาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเคลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรงงานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว
 
ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับเหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากการกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางกรอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่านั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคราะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีรอยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)
 
มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผสมน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า
 
เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกรองตันหรือเปล่า?
 - อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่วนเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรือสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลายออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเบนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้วก็น่าจะหมดปัญหา
 
เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
 - ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องตกใจครับ แค่ถ่ายออก (อย่าถ่ายทิ้งนะครับ เอามาให้ที่ PB Motor ใช้ก็ได้ Tongue) แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผสมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่นอน
 
เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่า?
 - จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเกือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้มากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ
 
E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า?
 - จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริมาณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างชัดเจน
 
ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะใช้ E85 นะครับ
 - รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอยู่
 - ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการสมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื่อความประหยัด
 - อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
 - ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
 - ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปรับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone
 
วันนี้ก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ
 
*Denatured Alcohol - การทำให้เอธานอลไม่บริสุทธิหรือเป็นพิษเพื่อทำให้ไม่สามารถบริโภคได้
 **โพสใหม่แก้ข้อความที่ขาดหายไปช่วงต้น
ที่มา : http://www.facebook.com/VsrPerformancePbMotor  <--ตามไปกดไลค์กันได้นะคร้าบ สุดยอด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มิถุนายน 2012 00:23:30 โดย Tonsuan » บันทึกการเข้า

4A ONLY
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111


ดูรายละเอียด
« ตอบ #69 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 12:21:30 »

ขอบคุณครับ
เริ่มมาเนื้อหาทางวิชาการให้ศึกษากันละ ลิงจั๊กๆ
คิดว่าคงได้เริ่มใช้อี85 ในไม่เกินสัปดาห์หน้า ครับ
จะมาแชร์ในนี้อีกที หลังจากลองด้วยตัวเองครับ คำนับ
บันทึกการเข้า
supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,310



ดูรายละเอียด
« ตอบ #70 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 13:17:27 »

ลองมาให้อ่านกันเล่นๆคร้าบ
พอดีไปเห็นบทความจาก Facebookของ VSR Performance & PB Motor  สุดยอด


เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาแล​ะสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่ บางคนอยากวันนี้เลยจะขอสรุปข้อม​ูลตามประสบการณ์และเท่าที่ได้ค้​นคว้ามานะครับ
 
E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ​?
 - ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วย​เหมือนกัน (ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าก​ารกัดกร่อนนี้เป็นยังไง) และผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหา​นี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนม​าใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทน​ต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารต​ะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเ​ป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั​้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัด​กร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้​นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้น​านๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสม​เอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็น​เหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเอง
 
แน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเ​รื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่​เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่อง​คาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเค​ลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน​้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไ​ว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรง​งานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว
 
ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับ​เหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากกา​รกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางก​รอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี​้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่า​นั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยน​ต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมา​ข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคร​าะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษ​ณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที​่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีร​อยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)
 
มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผส​มน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห​้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผ​ลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า
 
เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกร​องตันหรือเปล่า?
 - อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่ว​นเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำใ​ห้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรื​อสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้​ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลา​ยออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั​๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเ​ยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเ​บนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้ว​ก็น่าจะหมดปัญหา
 
เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
 - ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องต​กใจครับ แค่ถ่ายออก (อย่าถ่ายทิ้งนะครับ เอามาให้ที่ PB Motor ใช้ก็ได้ Tongue) แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ​ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใ​ส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผ​สมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่​นอน
 
เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่​า?
 - จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเก​ือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้ม​ากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน​ 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ
 
E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่​า?
 - จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริม​าณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพ​ิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับ​กลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิใ​นการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้​นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรง​ในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดก​ารเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว​่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างช​ัดเจน
 
ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที​่คิดจะใช้ E85 นะครับ
 - รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอ​ยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอ​ยู่
 - ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน​สูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการ​สมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื​่อความประหยัด
 - อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้​ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
 - ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
 - ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปร​ับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone
 
วันนี้ก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ
 
*Denatured Alcohol - การทำให้เอธานอลไม่บริสุทธิหรือ​เป็นพิษเพื่อทำให้ไม่สามารถบริโ​ภคได้
ที่มา : http://www.facebook.com/VsrPerformancePbMotor   สุดยอด




 สุดยอด สุดยอด สุดยอด
บันทึกการเข้า

ปั้น AE ดีก่า ^^
PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #71 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:02:35 »



มีข้อมูลมาเสนอเพิ่มครับ
อ้างอิงข้อมูลจากลิงค์ เป็นข้อมูลของพลังที่ได้จากเชื้อเพลิงนะครับ ส่วนการคำนวนผมทำเอง  อ่านหนังสือ
http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?pageid=3&bookID=1619&read=true&count=true
สำหรับค่าพลังงานความร้อนที่ได้จากเชื้อเพลิง ผมพิจารณาในเทอมของ Work  ส่วนในเทอม Thermal ไม่พูดถึงเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์กับเครื่องยนต์

ผมจะลองคำนวนคร่าวๆแล้วกันเนาะ เพราะผมจับค่า A/F ได้คร่าวๆว่าเท่ากันระหว่าง E20 หัวฉีดเดิม กับ E85 หัวฉีด 1JZ 
หัวฉีดเดิม 5A มีปริมาณการฉีดประมาณ 170 cc. ต่อครั้ง

E20 ได้มาจาก Ethernal 20% ผสมกับ เบนซิล 80%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.20x23.50) + (0.80x34.83)      MJ/Liter
                                       = 4.700 + 27.864     MJ/Liter
                                       = 32.564     MJ/Liter   # 
ทีนี้มาคำนวน E85 ที่หัวฉีด 1jz gte vvti 250 cc. ต่อครั้ง กัน
ซึ่งมีค่ามากกว่าหัวฉีดเดิมเป็น 250/170 = 1.47 เท่าของหัวฉีดเดิม
และ
E85 ได้มาจาก Ethernal 85% ผสมกับ เบนซิล 15%  ดังนั้น จะได้ค่า
       Heat(work) Energy = (0.85x23.50) + (0.15x34.83)      MJ/Liter
                                       = 19.975 + 5.225     MJ/Liter
                                       = 25.20     MJ/Liter   # 
เมื่อนำ 25.20x1.47= 37.044   MJ/Liter   #


คิดเป็น    ( 37.044/32.564 ) x 100   =   113.493 %  ของ ค่าพลังงานที่ได้จาก E20 
แถมราคาถูกกว่าด้วย ถ้าเทียบกับการที่ใช้ไปจากการเผาไหม้ที่เท่ากัน 




ผมลองอ่านๆดู

ที่การเผาใหม้เท่ากันจริง แต่ปริมาณการ consume มันไม่เท่ากัน ถ้าเอา e20 เป็นตัวตั้ง e85 จะกินมากกว่าถึง 47% จากสมมติฐานที่คำนวณขึ้นมา ถ้าเอาราคา e85 วันนี้คือ 20.58 มาคำนวณ ราคาของ e20 ที่จะ balance สมการ น่าจะอยู่ที่ ราคา e85+47% คือ 30.25 ซึ่งปัจจุบันราคา e20 คือ 32.88 สรุปคือ ณ ราคาปัจจุบัน ถ้าใช้ e85 จะได้พลังงานและความประหยัด มากกว่า e20 เล็กน้อยเท่านั้น โดยจะต้องเทียบดูราคาน้ำมันเป็นหลักด้วย

มันทำให้อัตราความประหยัดเงิน e85 กับ e20 มันไม่หนีกันครับ จริงๆแล้ว e85 ให้พลังงานที่น้อยกว่าจึงต้องฉีดในปริมาณที่มาก แต่จากสมการถ้าไม่ดูให้ละเอียดจะคิดไปว่า e85 ให้พลังงานมากกว่า

แต่ประเด็นตอนนี้คือ e85 ทำให้รถมีกำลังมากกว่าเดิมได้แน่ ก็ต้องดูว่า ความทนทานของอุปกรณ์ส่วนควบ การหาปั๊มเติม และ ความต้องการของผู้ใช้เป็นแบบไหน

พิมเองเริ่มงงเอง เวียนหัว เวียนหัว เวียนหัว

มันเป็นการคำนวนอย่างคร่าวแบบอุดมคติครับ
หากอยากได้ตัวเลขที่แท้จริงคงต้องมีการทดลองและเก็บข้อมูลมาอย่างละเอียดอ่ะครับ
เพราะการคำนวนของผม ยังถือว่าหยาบมากกกกก แต่ก็ทำให้รู้ว่าได้พลังงานมากกว่า
แต่เงินที่ใช้ไปเราคงต้องมีการทดลองเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมาคำนวนความคุ้มค่าอีกทีครับ  อ่านหนังสือ
อย่าพึ่ง งง ครับ อย่าพึ่ง งง ผมคุยกับเพื่อนที่มันเก่งด้านนี้ ตอนนั้น งง กว่านี้อีกครับ  ยกธงขาว

ที่ผม quote มา คือจะบอกว่า e85 นั้น จริงๆถ้าเทียบต่อ 1 หน่วยเท่ากัน จะให้พลังงานน้อยกว่า e20 ครับ

พอดีสมการที่ให้มา เห็นสรุปว่า e85 ให้พลังงานมากกว่า e20 ผมเลย แย้งให้เห็นว่า สมการนั้นมีตัวแปรที่ไม่เท่ากันคือ consumpton ratio ทำให้ข้อสรุปของสมการ มันไม่ตรงความจริงซะทีเดียว แค่นั้นละครับ

แล้วก็ ถ้าจูน a/f สำหรับ e85 ไว้ราวๆ 14.xx น่าจะบางนะครับ ซัดหนักๆอาจหลับได้ 555
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
Jay หมอศรี @ WZ Zone
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,819



ดูรายละเอียด
« ตอบ #72 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:06:01 »

ถ้าระบบน้ำมันปัจจุบัน แค่สตาร์ทยังสัปดาห์ละ 800 บาท ผมว่าระบบน้ำมันมีปัญหานะครับ มันกินน้ำมันมากเกินไป
อาจเป็นได้ว่า
1. ท่อทางน้ำมัน อาจมีรั่วซึม
2. ท่อระบายแรงดันน้ำมันเข้าชาร์โคลรั่วหรือไม่ และท่อแวคคั่มดูไอเบนซินจากชาร์โคลเข้าชุดวาล์วปีกฝีเสื้อแตกรั่วหรือเปล่า
3. ฝาถังน้ำมัน รั่วหรือเปล่า
4. ท่อน้ำมันจากช่องเติมน้ำรั่วซึมหรือเปล่า

เคยได้กลิ่นเบนซินตอนจอดหรือเดินเบา ในห้องเครื่อง หรือใต้ท้องรถ หรือรอบๆ รถหรือเปล่า ครับ

คือมันผิดปกติจริงๆ นะน้า อยากให้ตรวจสอบจริงๆ มันไม่ปลอดภัย
เสี่ยงต่อ คาร์บอมใต้รถ ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงหยด รั่วออกมาจากระบบทางเดินน้ำมัน

เกิดมีคนสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นไม่ดับให้เรียบร้อย ลมพัดเข้าไปไใต้ท้อง อาจจะเห็นรถของท่านเป็น พญาวิหกเพลิงได้
ฮากลิ้ง ฮากลิ้ง แต่มันหาปั๊มยากจริงๆ น้าเจเติมแถวไหนอะคับ
ผมมาเรียนศาลายา ไปส่งแฟนที่ ศิริราช ขากลับเติมปั๊มเส้นถนนบรมราชชนนี ก่อนออก กาญจนาภิเษกครับ
บันทึกการเข้า
PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #73 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:07:09 »

ผมถามต่อนิดนึง พอดีรถผมไม่ได้ใช้งานประจำ(รถแข่งใช้เดือนละครั้ง) ถ้าเปลี่ยนเป็นถัง safety เดี่ยวๆเลย และเติมเต็มถังไว้เวลาจอด มันจะแก้ปัญหาการกัดกร่อนหรือสนิมอะไรนี่ได้ไหมครับ ผมกังวลอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
สันต์ครับ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,826



ดูรายละเอียด
« ตอบ #74 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:12:49 »

ไช้ e85 ระวังเรื่องระบบรั่วด้วยนะครับตรวจเช๊คให้ถี่ๆ มันติดไฟง่าย ถังดับเพลิงก็ควรหาชื้อติดรถไว้เลยนะครับ เป็นห่วงครับคอเเรง คำนับ ประกาศ
บันทึกการเข้า

4A ONLY
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111


ดูรายละเอียด
« ตอบ #75 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:41:05 »

ดีว่าแถวบ้านมีปั๊มบางจากอยู่ 2-3 ปั๊มครับ
ขับผ่านก็ดูราคาทุกวัน มันช่างยั่วยวน เหอๆๆ
บันทึกการเข้า
supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,310



ดูรายละเอียด
« ตอบ #76 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 14:43:09 »

ไช้ e85 ระวังเรื่องระบบรั่วด้วยนะครับตรวจเช๊คให้ถี่ๆ มันติดไฟง่าย ถังดับเพลิงก็ควรหาชื้อติดรถไว้เลยนะครับ เป็นห่วงครับคอเเรง คำนับ ประกาศ

ถัง A มิเนียมครับน้า ไม่เป็นสนิม

บันทึกการเข้า

ปั้น AE ดีก่า ^^
art-art
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


ดูรายละเอียด
« ตอบ #77 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 15:08:18 »

ผมถามต่อนิดนึง พอดีรถผมไม่ได้ใช้งานประจำ(รถแข่งใช้เดือนละครั้ง) ถ้าเปลี่ยนเป็นถัง safety เดี่ยวๆเลย และเติมเต็มถังไว้เวลาจอด มันจะแก้ปัญหาการกัดกร่อนหรือสนิมอะไรนี่ได้ไหมครับ ผมกังวลอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ

ถัง safety ถ้าเป็นพลาสติก ก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ ใช้ได้เลย จริงๆถังเดิมก็ได้นะ ไม่เป็นอะไรแน่นอน
แต่สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแน่นอนคือท่อยางระบบน้ำมันเชื้อเพลิงครับ ต้องใช้เกรด SAE R9 ขึ้นไปครับ (R9 ใช้ในส่วนลำเลียง , R10 ใช้สำหรับแช่น้ำมัน)
เพราะเกรด R9 ขึ้นไปสามารถป้องกันเอทานอลซึมผ่านผนังท่อยางได้ 100% ครับ


ทุกวันนี้ผมก็ใช้ LPG กับ E85 อยู่ครับ (E85 เน้นซิ่ง) ผมไม่ได้ขับโยต้านะครับ ผมขับฮอนด้าครับ แต่แชร์ข้อมูลกันได้ครับ แลกเปลี่ยนกัน

จริงๆน้ำมัน E85 มันไม่ได้วิเศษอะไรหรอกครับ แต่มันช่วยลดข้อจำกัดการโมดิฟายเครื่องยนต์ได้ครับ คือเหมาะสำหรับเครื่องที่ทำกำลังอัดสูงๆ หรือบูสหนักๆ จะเห็นผลชัดเจน
คือใช้ประโยชน์จาก ออกเทน 105 ของมันครับ (LPG ออกเทนก็ประมาณนี้ ถ้าจูนดีๆก็แรงเหมือนกัน)

พระเอกของการจูนใช้งานที่หลายคนมองข้ามคือ องศาการจุดระเบิดครับ ใครจูนตรงนี้ถูก แรงมากครับ จูนไม่ดีพังครับ

เติมออกเทน100 ในราคา 20 บาท ก็โอเคนะ

จากเดิม เติมโซฮอล95 วิ่งได้ 10โล/ลิตร ครับ  พอจูนเป็น E85 วิ่งได้ 8.8 โล/ลิตร ครับ แต่แรงขึ้น 10 แรงม้า  (กดเต็มที่ A/F 9:1)

แต่ถ้าขับชิวๆก็ประหยัดนะครับ

บันทึกการเข้า
Tong KKT OBD
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #78 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 17:31:10 »

ผมถามต่อนิดนึง พอดีรถผมไม่ได้ใช้งานประจำ(รถแข่งใช้เดือนละครั้ง) ถ้าเปลี่ยนเป็นถัง safety เดี่ยวๆเลย และเติมเต็มถังไว้เวลาจอด มันจะแก้ปัญหาการกัดกร่อนหรือสนิมอะไรนี่ได้ไหมครับ ผมกังวลอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ

ถัง safety ถ้าเป็นพลาสติก ก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ ใช้ได้เลย จริงๆถังเดิมก็ได้นะ ไม่เป็นอะไรแน่นอน
แต่สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแน่นอนคือท่อยางระบบน้ำมันเชื้อเพลิงครับ ต้องใช้เกรด SAE R9 ขึ้นไปครับ (R9 ใช้ในส่วนลำเลียง , R10 ใช้สำหรับแช่น้ำมัน)
เพราะเกรด R9 ขึ้นไปสามารถป้องกันเอทานอลซึมผ่านผนังท่อยางได้ 100% ครับ


ทุกวันนี้ผมก็ใช้ LPG กับ E85 อยู่ครับ (E85 เน้นซิ่ง) ผมไม่ได้ขับโยต้านะครับ ผมขับฮอนด้าครับ แต่แชร์ข้อมูลกันได้ครับ แลกเปลี่ยนกัน

จริงๆน้ำมัน E85 มันไม่ได้วิเศษอะไรหรอกครับ แต่มันช่วยลดข้อจำกัดการโมดิฟายเครื่องยนต์ได้ครับ คือเหมาะสำหรับเครื่องที่ทำกำลังอัดสูงๆ หรือบูสหนักๆ จะเห็นผลชัดเจน
คือใช้ประโยชน์จาก ออกเทน 105 ของมันครับ (LPG ออกเทนก็ประมาณนี้ ถ้าจูนดีๆก็แรงเหมือนกัน)

พระเอกของการจูนใช้งานที่หลายคนมองข้ามคือ องศาการจุดระเบิดครับ ใครจูนตรงนี้ถูก แรงมากครับ จูนไม่ดีพังครับ

เติมออกเทน100 ในราคา 20 บาท ก็โอเคนะ

จากเดิม เติมโซฮอล95 วิ่งได้ 10โล/ลิตร ครับ  พอจูนเป็น E85 วิ่งได้ 8.8 โล/ลิตร ครับ แต่แรงขึ้น 10 แรงม้า  (กดเต็มที่ A/F 9:1)

แต่ถ้าขับชิวๆก็ประหยัดนะครับ



ถูกต้องครับ เคล็ดลับของการวิ่ง E85 ได้ดี คือการจูนไฟจุดระเบิดครับ

กล่องที่ทำกันทั่ว ๆ ไปจะเป็นการ ต่อสัญสาณฉีดน้ำมัน ลง Ground ให้ยาวขึ้นเฉย ๆ ไม้ได้ปรับองศาจุดระเบิดใหม่ จะปรับแบบละเอียด ตามโหลด ตามคันเร่ง ตามรอบก็ไม่ได้
เรื่องไฟนี้ ถ้าไม่ปรับลืมได้เลย เรื่องความแรง จะต้องปรับองศาจุด Advance มากกว่า LPG อีกครับ

น้ำมันจ่ายไปหนามาก ถึง 8.0 - 9.1 AFR  จะต้องปรับ Advance เพิ่มถึ ง 15-20 องศาเลยครับ
ปรับได้เยอะ โดยไม่เขกเท่าไหร่ ก็แรงม้า แรงบิดมาเท่านั้นครับ

E85 มีข้อดี ที่ช่วง A/F ปรับได้กว้างครับ  7.0 -10.0 AFR มันก็ยังวิ่งได้ ไม่หนืด ไม่ห้อย เปลี่ยนแค่หัวฉีด ปรับ A/F นิดหน่อย เล่นไฟเอาเยอะ ก็วิ่งแล้วครับ

ถ้ากด ให้ได้ช่วง Full load 7-8 AFR เติมไฟเยอะ วิ่งกระจายครับ

AFR > 12 มันจะเริ่มวิ่งไม่ได้ครับ ไม้่ทราบว่าเอาอะไรมาวัด ระวังจะหลับนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มิถุนายน 2012 17:34:06 โดย Tong KKT OBD » บันทึกการเข้า
6.9
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #79 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 17:51:00 »

http://www.knfilters.com/airfuelmonitors.htm

บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
หน้า:  «  1 2 3 [4] 5 6 ... 76  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!