20V ไปเลยค้าบบบ
กำลังคิดว่า จะฮอล หรือจะวางใหม่ อันไหนจบประหยัดตังกว่ากัน
ฮอนใหม่4A-FE ประหยัดกว่าแน่นอนค้าบบพี่ ส่วนฝาดำเดี๋ยวนี้ ค่าเครื่อง+เกียร์ ราคาแม่มไป4ปลายๆถึงเกือบ5แล้วพี่ ยิ่งบางเจ้าที่ขายนะ 6เกียร์ไม่มีเต็ดล่อไป53000ค้าบบผม ลองดูค้าบบพี่
3s-fe เลยคับน้า อิอิ
3S-GE โลด
โว้ๆๆๆ ยุให้สามเอี๊ยดเลยหรอ อิอิอิ
รายนี้ บรรลุสามเอสจีอี เรียบร้อยโรงเรียนเออีคลับไปแว้ว เป็นยังไงครับ สนุกกับการขับและมีความสุขกับเคร่องใหม่ไหมครับ
วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมพาป่าป๊ากับคุณแม่ มากรุงเทพ(ไปกลับเลยตีจากอุบลมารับท่านที่โคราช แล้วก็อัดเข้ากรุงเทพเลย) ขากลับ เจอฟอร์ดเรนเจอร์รุ่นล่าสุดมาเล่นด้วย เลยจัดให้ด้วยเครื่องสี่เอเอฟอีโอโต้ เหอะๆๆ แต่รถคืนนั้นมันเยอะมากๆๆๆๆๆ ช้าๆๆๆทั้งนั้นวิ่งเต็มไปหมดทั้งกลาง ซ้าย ขวา ผมละงงกะประเทศนี้จริงๆ ช้า ทามไมมันไม่อยู่ซ้าย ดันวิ่งขวางโลก จะไปก็ไม่ได้ รถช้าเต็มไปหมดทุกเลนส์ เหอะๆๆ แต่อาศัยชั่วโมงบินกว่าสองล้าน ไปทั่วไทย ผมเลยทำความเร็วเฉลี่ยได้ที่ร้อยสี่ถึงร้อยเจ็ดตลอดการเดินทางครับ อยู่หน้าฟอร์ดเกือบตลอด นับจากกลางดงเป็นต้นมา มีแซงผมได้แค่ช่วงเดียวครั้งเดียวจริงๆ ตอนจะเข้าสีคิ้ว(ตอนนั้นจังหว่ะรถมันว่างแค่นิดเดียว หากผมไม่ยกก็ไม่พ้นครับ เสี่ยงจริงๆพวกกระบะบ้าพลังเนี่ย ) ผมก็เลยจัดคืนให้ที่กว่าร้อยหกสิบในเกือบจะทันทีเหมือนกัน อยู่หน้าผมได้ไม่ถึงสามนาทีครับ ตอน รถช้าๆตรึม ก่อนถึงซีเกด(สีคิ้ว) ตอนนั้นเกือบๆห้าทุ่มแล้วครับ แล้วไม่ยกอีกเลย ทิ้งหายวับเข้าโคราชไปเลย แต่ถ้าเป็นกลางวันสงสัยเสร็จมัน อิอิอิ
เลยนึกถึงสามเอ๊ยดของคุณอัลฟ่าตระหงิดๆเลยล่ะ น่าจะเจอแบบผมในคืนนั้น สงสัยจัดแค่ครึ่งเดียว ฟอร์ดมีสิทธิอายม้วนเลย อิอิอิ สี่เอของผมขนาดไม่สมบูรณ์แล้วเน้อ จัดเต็ม ยังทิ้งฟอร์ดหายวับไปกับความมืดเลยครับ
เอาๆมาเข้าเรื่องกันซะที ตอนนี้สี่เอผมก็มีอาการคล้ายๆกันกับน้องเจ้าของกระทู้ครับ เด๋วเล่าสาเหตุให้อ่านนิดแต่อาจจายาวไปหน่อยเด้อ คริ คริ
เริ่มจากวันเสาร์ที่แล้วก่อนเสาร์ที่ผ่านมา ผมไปกลับโคราชครับ ออกจากอุบลตีสี่กว่าๆ เช็ครถเรียบร้อย แต่ดันลืมปิดฝาหม้อน้ำ เหอะๆๆๆๆๆๆ วางไว้ที่แบต วิ่งออกมาแค่ห้วยขยุง(ยี่สิบกว่าโล) เข้าโค้ง เสียงอะไรเหมือนมันกระเด็นใส่ตัวถังด้านล่าง ภรรยาผมก็บอกว่าคงเป็นก้อนหินมั๊ง เหอะๆๆๆๆ ผมว่าไม่ใช่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเสียงฝาหม้อที่ลืมปิด อิอิอิ ก็คนมันแก่แล้วครับ จังหว่ะนั้น ที่ลืม(ปรกติไม่เด้อ คริ ๆ) ภรรยาผมดันออกจากบ้านมาที่รถแล้วชวนคุย ผมก็ปิดฝากระโปรง(รถสตาร์ทแล้วครับ ไล่ลมในระบบ แต่ดันลืมปิดฝา) วิ่งจากอุบลมาจนถึงสำโรงทาบ ร้อยยี่สิบสามสิบกิโลนี่ล่ะ อยู่ๆ (น้ำน่าจะหมดหรือเกือบๆแล้วครับ เข็มความร้อนไม่ขึ้นเลย(ปรกติ ) ไม่มีอะไรเตือนในห้องโดยสาร ฝนก็ตกนิดๆด้วยตอนนั้นน่าจะตีห้าแล้วล่ะ แต่แก๊สผมยังไม่หมด เหลืออีกวิ่งได้น่าจะร้อยกิโล ทำไมรถมันถึงออกอาการเหมือนแก๊สหมด เยียบไม่ไปครับ ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ตอนนั้นร้อยยี่คงที่ ผ่อนดันไป เยียบวูบๆ ห้วย รถมันเป็นอีหยังเนี่ย ผมก็กดเป็นน้ำมัน แรกๆก็ดีขึ้นครับ แต่เหมือนตื้อๆยังไงบอกไม่ถูก (เรียกว่ามันผิดปรกติ) ภรรยาก็บอกให้จอดดูก่อน ผมก็ดันมั่นใจไม่ยอมจอด เพราะเกจ์ในรถมันไม่มีอะไรผิดปรกติเลย วิ่งน้ำมันก็ตื้อลงๆเรื่อยๆ ผมเลยลองกดเป็นแก๊สดู ปรากกฎว่าเครื่องยนต์ดับเลยครับ(ที่ความเร็วประมาณเก้าสิบ) จำเป็นต้องปลดเป็นเอ็นแล้วจอดข้างทาง สตาร์ทเท่าไรก็ไม่ติด ยิ่งอีตอนสตาร์ททีนี้ มันฝืดยังกะไดสตาร์ทเสีย ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก เลยต้องลงไปเปิดฝากระโปรงดู ภาพแรกที่เห็นหม้อต้มเป็นน้ำแข็งเกาะขาวโพลนไปหมด แล้วมีไอน้ำพุ่งออกมาจากหม้อ เหอะๆๆๆ ฝามันไปไหนฟ่ะ เลยนึกถึงเสียงที่โค้งห้วยขยุง กะเปิดแล้ววางไว้ที่แบตได้ กำแล้วตรู งานเข้าแล้ว วิ่งไปทั่วประเทศ ดันลืมปิดฝาหม้อน้ำก็คราวนี้ ทำไงดีวุ้ย แล้วทริปนี้ เป็นทริบเดียวที่ไม่ได้เอาเครื่องไม้เครื่องมือติดรถไปเลย จะมีก็แค่เครื่องมือพื้นๆไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เพราะตีไปกลับแค่อุบลโคราชครับ
ต่อ ครับ อิอิ ฝนก็รินๆลงมาแระ ทำไงดีวุ้ย ผมก็ถามภรรยาว่าในรถเรามียางสติคไหม ก็ได้คำตอบว่ามีอยู่สามสี่เส้น เหอะๆๆ ค่อยยังชั่ว ผมก็เอาน้ำเติมลงไป เท่านั้นล่ะ พุ่งกระฉุด พรวดๆๆ ออกมาจนเกือบถึงฝากระโปรงที่เปิดเลยครับ ต้องรอเกือบๆยี่สิบนาที ถึงจะเติมน้ำลงไปได้ครับ ของผมดีหน่อยที่มีคราบน้ำมันแค่นิดเดียว พอเย็นหลังยี่สิบนาทีไปแล้ว ก็จัดการตามมีตามเกิด ค่อยๆเติมน้ำเข้าไปจนเต็ม แล้วติดเครื่อง ปาฏิหาริย์ครับ จึ้งเดียวติดเลยครับ ผมว่าระบบอีเลคทรอนิคมันตัดให้ครับ ไม่งั้นคงงานเข้าแน่ เครื่องสี่เอสำรองได้เอามาใช้แน่งานนี้ แต่อย่ากระนั้นเลย อ่านต่อเด้อ อิอิ พอเครื่องติด น้ำมันก็ยุฮวบๆอีก ผมก็หน้าด้านเติมจนเต็ม แต่มีฟองอากาศออกมาตลอดล่ะ จัดจนเกือบนิ่ง ฟองอากาศก็ยังมี ทีนี้ ผมก็เอาถุงหิ้ว พับๆสามสี่ทบ วางบนฝาหม้อ แล้วเอายางสติ๊ครัดมันโลด วิ่งต่อครับพี่น้อง เข้าสุรินทร์ ทีนี้แก๊สใกล้จะหมด พอดีมีปั๊มแก๊สด้านขวามือ ขับเลยไปแล้วเหลือบไปเห็น น่าจะเป็นเมืองทีก่อนเข้าสุรินทร์ เลยถอยหลังเข้าไปเติมเต็มถัง ที่ปั๊มมีน้ำบริการลูกค้าสำหรับเติมรถ ผมก็เอาขวดโค๊กลิตรครึ่ง สี่ขวดไปกรอกน้ำสำรองไว้ แล้วก็ลองเปิดฝาหม้อน้ำพิเศษที่เพิ่งทำเสร็จมาดๆดู ปรากฏว่า น้ำยังเต็มเหมือนเดิมครับ บ๊ะ ฝาถุงกรอบแกรบ หรือถุงหิ้วเนี่ย มันได้ผลนิ ทำไงได้เครื่องมือก็มีแค่ไชควงที่ติดรถไป ดันเอาลงหมด ไม่ได้เติมเลยเด้อ ก็เดินทางต่อ ไม่นานก็มาถึงสุรินทร์ ทีนี้ตอนนั้น ยังไม่หกโมงเช้าเลย (แหะๆๆ ร้านอะไหล่ที่ไหนมันจาเปิดครับ อิอิ) ก็เลยจัดต่อ เข้าปราสาท แล้วก็ต่อที่ประโคนชัย ตอนติดไฟแดงที่ประโคนชัยแล้วออกไฟเขียว เหลือบไปเห็นร้านอะไหล่เพิ่งเปิด อยู่มุมด้านซ้ายพอดี เลยปีนฟุตบาดขึ้นไปจอด แล้วลงไปซื้อฝาหม้อ เหอะๆๆ ขาจร ไปเจอ พวกก็ฟันไปสองร้อยยี่สิบ แต่ในฐานะที่ประเดิมเปิดร้าน ลดให้ยี่สิบ โดนไปสองร้อยครับ อิอิอิ จบภาคหนึ่งครับ ทนอ่านหน่อยแล้วกานเด้อพี่น้อง
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว อิอิอิ เมื่อวานนี้เอง และแล้วก็มีภาคสอง หลังจากที่ได้ฝาหม้อใหม่ ก็ขับเข้าโคราชเลยครับ จอดพักรถที่โคราช เปิดดู น้ำมันหายตลอดเลยครับ แต่เกจ์ที่ในรถเตือนให้รู้ตลอด ตอนที่มันไม่เตือนก็เพราะไม่มีน้ำครับ มีแต่ไอน้ำ เลยไม่รู้ ทีนี้พอเกจ์เริ่มแตะๆ เก้าสิบ ผมก็ต้องจอด เปิดฝากระโปรงเติมน้ำใหม่ ทำอย่างงี้นับแต่นั้น จนกลับอุบล แต่กว่าจะเติมใหม่ ผมก็หน้าด้านวิ่งไปเป็นร้อยๆกิโลครับ วิ่งไปเติมไปว่างั้นเหอะ ทำอย่างงี้มาตลอด จนถึงวันเสาร์ที่เกริ่นไว้แต่แรก ที่ต้องวิ่งเข้ากรุงเทพ แล้วตีกลับมานอนที่โคราชแล้วจัดเต็มกับฟอร์ดเรนเจอร์นั่นล่ะ วันอาทิตย์ก็กลับอุบลครับ พอถึง ผมก็จอดเจ้าเจดีย์ แล้วเอาเจ้าเจมส์บรอนด์ออกมาใช้ ตอนนี้ใช้เจ้าเจมส์บอนด์ได้สองวันแล้วครับ วันนี้เป็นวันที่สาม เลยอยากจะมาร่วมแจม แบ่งปันกัน เพราะผมดันดื้อ ฝืนขับรถ ที่น่าจะมีอาการคล้ายๆกับน้อง จขกท.นี้ครับ เมื่อวานโชคเข้าขาง งานต่อเนื่องเสร็จตกลงกันได้โดยไม่ต้องสืบพยาน วันนี้กะพรุ่งนี้เลยว่าง(แต่ก็ไม่ว่างมีงานอื่นรออยุ่อีก แต่น่าจะจัดได้ตอนเย็น) ผมจะลองเช็ค อาจจะแค่เปิดฝาวาวล์ ถอดแคม แล้วลองกวดน็อตฝาเข้าไป(เคยทำกับเครื่องสองอีครับ) ทีนี้หากฟองอากาศลดลง หรือหาย ก็ไม่ต้องเปิดฝาเปลี่ยนปะเก็น แล้วก็จะลองถอดวาวล์น้ำออกมาเช็ค จะลองสองตัวนี้ล่ะครับ (อ้อ.....ผมจัดเองโลดครับ) แต่ของผมคลาบน้ำมัน มันแทบไม่ออกแต่ก็ออกมานิดเดียวในตอนแรกครับ ลองคิดดูสิว่ามันถึกมันอึดขนาดไหนเน้อ เรียกว่าฮีทเต็มพิกัดเลยล่ะ ผมยังหน้าด้านใช้ทำงานต่ออีกเป็นอาทิตย์ แล้วยังหน้าด้านขับเข้ามาในกรุงเทพเฉย ฮีทที่จตุจักรครับ จอดแล้วเติมน้ำ ก็ไปต่อโลด ถึงวัดมกุฏฯทันเขาสวดพอดี งานศพเพื่อนรักคุณพ่อครับ ท่านเป็นอัยการสูงสุดอยู่โคราชครับ เป็นพ่อรักท่านหนึ่งซึ่งจากไปอยู่อีกภพภูมิ เสร็จงานก็ออกจากรุงเทพสองทุ่มครึ่ง ถึงโคราชห้าทุ่มตรงพอดีครับ รถติดๆนี่ล่ะ นับจากวัดเลย ลองคำนวณดูครับ วิ่งความเร็วเฉลี่ย จากวัดกลับโคราช รถติดๆนี่ล่ะ สองชั่วใมงครึ่ง แล้วใช้ความเร็วเกือบสูงสุด ทั้งที่เครื่อง(ไม่ใช่ๆ ระบบหล่อเย็นไม่สมบูรณ์) วันนี้รู้เรื่องครับแต่เย็นๆเด้อ เช้าพาลูกความไปมอบตัวก่อน เย็นๆค่อยว่ากัน ทีนี้น้องจขกท. ก็อย่างเพิ่งตกใจไปครับ อาจจะไม่ถึงกับงานเข้าหนักก็ได้ แต่ที่เพื่อนสมาชิกฟันธงมา ผมก็ว่าน่าจะไม่รอดเน้อ ที่ฝานั่นล่ะ แต่อ่านดู อาการน่าจะหนักกว่าผมเยอะเลยเน้อ ของผมที่รอด ผมต้องขอบคุณหัวเชื้อน้ำมันเครื่องเพียวซินเทติค ที่ผมใช้ผสมและเคลือบเครื่องยนต์มาตลอดยี่สิบปีที่ใช้รถยนต์ครับ สารนี้ จะเกาะติดชิ้นส่วน และไม่ละลายหรือสลายไปง่ายๆ ทนความร้อนสูงสุดมาก และไม่ไหลลงท้องอ่าง ปกป้องเครื่องยนต์ไม่ให้สึกหรอ ไม่งั้นนาซ่ามันไม่เอาไปใช้หล่อลื่นในกระสวยอวกาศรอก หากไม่มีตัวนี้คงงานเข้าหนักไปแล้วครับ เด๋วเช้านี้จะลองสตาร์ทดู จอดมาสองวันครึ่งแระ หากทีเดียวติด เย็นๆก็คงแก้จบ แล้ววันอาทิตย์ ไม่ก็จันทร์จะได้เอาเข้าเชียงรายเลย อิอิ กลับจากเชียงรายค่อยเปลี่ยนปะเก็นฝา ไม่ก็เปลี่ยนฝาใหม่ซึ่งผมทำไว้รอนานแล้ว จะได้ใช้ก็งานนี้ หากยังอึดอยู่ก็จะใช้ต่อไปจนควันขึ้นนิดๆ ตอนนี้ควันอะไรก็ไม่มีครับ เครื่องยังสมบูรณ์อยู่เลย เช้านี้แบ่งปันแค่นี้ก่อนนะครับ ใครทนอ่านจนจบ ขอให้มีปัญญาเยอะๆ แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่องได้ลุล่วงโดยตลอด แล้วให้ร่ำให้รวย ไม่เจ็บไม่จนทุกคนนะครับ