AE. Racing Club
02 ธันวาคม 2024 15:58:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2] 3  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดำรงค์ พิเดช สั่งรื้อบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ในพื้นที่อุทยานทับลาน...  (อ่าน 8770 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Red-Car@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2012 21:30:14 »



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=bgoJFpxIVOA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=bgoJFpxIVOA</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=zqgR6w8Wg_o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=zqgR6w8Wg_o</a>
บันทึกการเข้า

kids
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 216



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2012 23:10:54 »

ผืนป่าที่เหลือน้อยเต็มทีแล้ว เป็นของคนไทยทั้งชาติครับ


บันทึกการเข้า

Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 15:36:34 »

จริงๆ ผมว่า คนไทย ควรพูดกันดีๆ ผมไม่ชอบให้ใช้ความรุนแรงเลย ทำแบบนี้มันถูกหรือ? อีกอย่าง ศาลก็ยังไม่ได้สั่ง ก็ยังไม่มีสิทธิ์มารื้อถอน ถามหน่อย ถ้าเราเป็นเจ้าของรีสอร์ทแล้วโดนทุบทำลายแบบนี้ เราจะรู้สึกไง ใครจะชอบล่ะ จริงไหม ใจเค้าใจเราอะ ทำไมไม่คิด ผมไม่เห็นด้วย ที่คนไทยชอบใช้ความรุนแรง อีกอย่าง ผิดเต็มๆ เพราะ ศาลเค้ายังไม่ทันสั่งให้รื้อ ผมบอกตามตรงผมเห็นใจพวกเขามากกว่า เพราะถ้ามีใครมารื้อบ้านของคุณ คุณจะชอบไหม?Huh?
บันทึกการเข้า
Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 15:40:57 »

มารื้อตอนเที่ยงคืน คนกำลังนอน ถ้าคนตายขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ??? ชีวิตคน มันฟื้นได้หรือ ผมได้ข่าวมาว่า ชาวบ้านไม่ยอมออกจากบ้านพัก แา้วก็ไปอุ้มเค้าออกมา แล้วก็ทุบบ้านเค้า โห มันแรงไปไหม มันน่าเกลียดเกินไปอะ คนเค้าหลับอะ ผมไม่ชอบเลย ทำกับประชาชนขนาดนี้ ถามหน่อย ยังมีจิตใจอยู่รึป่าว โหด..น่ารัก..มเกินไปแล้ว บอกตามตรง ถ้ามารื้อบ้านของผม ผมก็ใม่ยอม!!!!!
บันทึกการเข้า
Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 15:42:54 »

คิดได้ยังไงอะ ทุบเสร็จแล้วด่าว่า "สะใจ" พูดได้ยังไง Huh??
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 18:09:59 »

วันนี้ (30 ก.ค.)นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  ให้สัมภาษณ์กรณีถึงกรณีเจ้าของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต เตรียมยี่นเรื่องฟ้องร้องตนและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต พร้อมทั้งเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้ามาจัดการเรื่องนี้มาว่า นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ประสานมายังตนว่านายกรัฐมนตรีต้องการดูเอกสารหลักฐาน ในเรื่องคำตัดสินของศาลกรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ตว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ตนก็ได้ส่งข้อมูลความเป็นมาของคดีทั้งหมดให้กับนายปรีชาเพื่อชี้แจงต่อ ครม.แล้ว  โดยเฉพาะหลักฐานสำเนาคำพิพากษาของศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 52/2554 หมายเลขแดงที่ 40/2544 ระหว่างพนักงานอัยการประจำศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ฝ่ายโจทก์ และ นางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ เป็นจำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านทะเลหมอก จำเลยที่ 2  ในเรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ  พร้อมทั้งสำเนาเอกสารผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องการรับมอบอาคารสิ่งปลูกสร้างเพื่อนำไปหาประโยชน์ในกิจการของกรมอุทยานฯ ลงวันที่ 23 ก.ค. 2553  ซึ่งมีใจความสำคัญว่ากรมอุทยานฯ ไม่สามารถรับมอบอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เพื่อนำมาหาประโยชน์หรือให้เช่าได้
 
นายดำรงค์ กล่าวว่า กรณีของรีสอร์ตบ้านทะเลหมอกนั้น โดยสรุปในส่วนของคำพิพากษาของศาลจังหวัดกบินทร์บุรี  จำเลยให้การรับสารภาพว่าเมื่อประมาณกลางปี 2541-ก.ค.2543 จำเลยได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินประโยชน์และอยู่อาศัยในที่ดิน ด้วยการแผ้วถางและก่นสร้าง ปลูกสร้างอาคารโรงแรม บ้านพัก จำนวน 11 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อประกอบกิจการให้บริการสถานที่พักตากอากาศรีสอร์ต  ซึ่งอยู่ในบริเวณป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ และป่าเขาสะโตน อันเป็นเขตป่าสงวนฯ และอุทยานฯ ทับลาน คิดเป็นเนื้อที่ 67 ไร่ โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ. อุทยานฯ 2504 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507  มีบทลงโทษตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว  ทั้งนี้ให้จำเลยและบริวารออกจากป่าสงวนแห่งชาติที่เกิดเหตุ และคดีถึงที่สุดโดยไม่มีการอุทธรณ์
 
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า  อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทางผู้ประกอบการได้ขอให้งดการบังคับคดีโดยไม่มีการบังคับคดีชั่วคราว โดยมีเหตุผลว่าได้ขอเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้ในขณะนั้น  และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมป่าไม้ มีสิ่งก่อสร้างเต็มพื้นที่มูลค่า 60 ล้านบาท จึงต้องดูแลทรัพย์สินไม่ให้เกิดความเสียหาย ช่วยเหลือคนในท้องถิ่นให้มีงานทำ  หากออกจากพื้นที่จะผิดสัญญา ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ให้งดการบังคับคดีชั่วคราว 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 2545  ต่อมากรมป่าไม้ได้จัดประชุมหารือแนวทางปฏิบัติ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2545 โดยมีหนังสือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขณะนั้นแจ้งไปยังนางวไลลักษณ์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2545 ว่าพื้นที่ของรีสอร์ตอยู่ในเขตอุทยานฯ ทับลาน ซึ่งตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 ไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจอธิบดีกรมป่าไม้หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เช่าพื้นที่อุทยานฯ ได้ ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการรีสอร์ตขอเช่าพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน จึงต้องยกอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้กับกรมป่าไม้ แล้วกรมป่าไม้จะพิจารณาให้ผู้ประกอบการได้เช่าอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานฯ 2536 ซึ่งผู้ประกอบการได้แจ้งความประสงค์ที่จะยกอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้กับกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2545
 
นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อกรมป่าไม้เปลี่ยนมาเป็นกรมอุทยานฯ และได้รับมอบอาคารสิ่งก่อสร้างของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต โดยอาศัยระเบียบกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานฯ ปี 2547  ซึ่งจะต้องนำสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินที่ราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์  กระทรวงการคลัง ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมีข้อโต้แย้งว่าสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายได้หรือไม่ เพราะตามบทบัญญัติของมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ออกไปทั้งหมด  ทั้งนี้กรมอุทยานฯ ได้มีหนังสือหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2552 และคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2553 แจ้งผลการพิจารณาเรื่องการรับมอบอาคารสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำไปหาประโยชน์ในกรณีของกรมอุทยานฯ สรุปได้ว่าการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างของห้างหุ้นส่วน จำกัด บ้านทะเลหมอกรีสอร์ต เป็นการดำเนินการฝ่าฝืนบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยอุทยานฯ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อให้เอกชนรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่อุทยานฯ และกรมอุทยานฯ ไม่มีอำนาจรับมอบอาคารสิ่งปลูกสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านทะเลหมอกรีสอร์ต พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่อุทยานฯ ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ และกรมธนารักษ์ได้ขอยกเลิกการรับมอบทรัพย์สินดังกล่าวขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุแล้ว
 
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้อุทยานฯ ทับลาน ได้มีหนังสือคำสั่งลงวันที่ 11 พ.ค. 2555 เรื่องให้นางวไลลักษณ์ ทำลายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานฯ ทับลาน โดยใช้อำนาจหัวหน้าอุทยานฯ ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 มิ.ย. 2555 โดยนางวไลลักษณ์ได้ขออุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวใน 7 ประเด็น อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นคำสั่งที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งสำนักอุทยานฯ กรมอุทยานฯ  พิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์เพราะที่ดินแปลงที่เกิดเหตุไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายที่ดิน และศาลจังหวัดกบินทร์บุรีได้มีคำพิพากษาปรับและให้จำเลยและบริวารออกจากป่าสงวนแห่งชาติที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยเรื่องนี้ไว้ชัดเจนแล้ว  อย่างไรก็ตามอุทยานฯ ทับลานได้มีหนังสือแจ้งเตือนอีกครั้งให้นางวไลลักษณ์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่อุทยานฯ ภายในวันที่ 10 ก.ค. 2555 หากพ้นกำหนดระยะเวลาพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทำลายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 2555 เป็นต้นไป โดยนางวไลลักษณ์จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนทั้งหมดด้วย
 
“การที่เจ้าของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ตอ้างว่าไม่มีการแจ้งเตือนและบุกเข้าไปดำเนินการยามวิกาลนั้น เป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น เพราะอุทยานฯ ทับลานได้ดำเนินการติดประกาศเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไปทราบว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทำลายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่บ้านทะเลหมอกรีสอร์ต และขอให้ระงับการมาใช้บริการโดยใช้ป้ายขนาดใหญ่ กว้าง 2 ม.ยาว 4ม.  ปิดไว้ที่บริเวณหน้าที่ทำการของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ตแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้พบเห็นและทราบข้อเท็จจริง ดังนั้นการมาอ้างว่าไม่มีการแจ้งเตือนก่อนจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเราต้องแจ้งเตือนไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนและเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าพักอยู่ ” นายดำรงค์ กล่าว

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนกำลังหารือกับผู้บริหารกรมอุทยานฯ ถึงการดำเนินการรื้อถอน รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศจำนวน 418 แห่งที่เหลือทั้งในส่วนที่คดีสิ้นสุดแล้วและที่ได้จับกุมดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยวางแผนว่าจะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนให้หมด อาศัยอำนาจตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 ที่ให้อำนาจอธิบดีและหัวหน้าอุทยานฯ ดำเนินการรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอศาล เพราะท้ายที่สุดเชื่อว่าศาลน่าจะพิจารณาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นออกจากพื้นที่เหมือนกับกรณีที่ได้รื้อถอนไปแล้ว  โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. ก่อนตนเกษียณอายุราชการ เพราะไม่อยากให้เป็นภาระกับคนที่จะมาเป็นอธิบดีต่อจากตน ทั้งนี้หลังการหารือและเตรียมความพร้อม ร่วมกับ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 16 สำนักทั่วประเทศแล้วจะทยอยดำเนินการโดยจะใช้กำลังคนทั้งหมดจำนวน 5,000 นายขึ้นไป  เข้าไปดำเนินการจุดละ 50 คน  ทยอยดำเนินการไปเรื่อยๆ คาดว่าก่อนตนเกษียณอายุราชการจะดำเนินการแล้วเสร็จแน่นอน
 
ขณะที่นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวว่า กรณีที่เจ้าของรีสอร์ตระบุว่าได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉินเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา และศาลนัดจะไต่สวนคำร้องในวันที่ 24 ส.ค.นั้น ที่ผ่านมาอุทยานฯ ทับลานไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และยังไม่มีเอกสารหรือคำสั่งใดๆ จากศาลปกครองเลยว่ามีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองจริงหรือให้อุทยานฯ ทับลานดำเนินการใดๆ ในกรณีนี้ ซึ่งคงต้องติดตามข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ต่อไป

>>>   http://www.dailynews.co.th/politics/146403
บันทึกการเข้า

PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #26 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 18:27:57 »

เชื่อเถอะว่าเคสแบบนี้ เจ้าของสถานที่ผิดซะ 95%

รีสอร์ทบ้านกุลละวณิชย์ เป็นของคนรู้จักผมเอง โดนรื้อไปตั้งแต่ปีที่แล้ว 555

นี่ทำผิดแล้วยังจะไปฟ้องร้องเขาอีก เพราะข้าราชการเดี๋ยวนี้สั่งได้ ตำรวจ นักการเมือง มีเงินก็ทำขาวเป็นดำ ทำผิดเป็นถูกได้ มันถึงไม่เจริญกัน

แล้วเขาจะรื้อถอนนี่ ราชการเขาไม่โฉ่งฉ่างไปรื้อเหมือนเอาคอไปพาดเขียงหรอกครับ อ่านไปอ่านมา จะตีความเข้าข้างคนผิดซะอีก คนทำผิดโดยเจตนา ไม่น่าสงสารหรอกครับ มันน่าสมเพชมากกว่า คำว่าประชาชนนี่มันวิเศษตรงไหน ถ้าประชาชนดีๆก็ดีอยู่ ถ้าประชาชนมันระยำก็สมควรโดนยิงทิ้งซะผมว่า
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
Moo@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,735


081-2797236


ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 18:34:45 »

ผมเชื่อกฎแห่งกรรม ไม่ช้าก็เร็ว พวกคนเหล่านี้จะได้รับผลแห่งกรรมนั้น
บันทึกการเข้า

Swimming
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 18:56:25 »

พวกคุณรู้จักว่ามันเกินไปไหมค่ะ ช่วยดูด้วยว่า เค้าเรียกว่ารื้อถอนหรือทำลาย ในทางกฏหมาย ถ้ารื้อถอน ต้องเก็บซากไปด้วยสิ แต่ไมปล่อยซากไว้แบบนี้ พวกคุณเป็นประชาชนบ้างรึป่าว ทำไมถึงไม่เห็นใจเค้าใจเราล่ะ ถ้าไปทำบ้านคุณบ้างหล่ะ จะว่าไง ดิฉันเชื่อนะ ผู้มีอำนาจอะ ตอนแรกพูดอีกอย่าง ตอนหลังก็พูดอีกอย่าง เข้าใจคำว่าหักหลังกันรึป่าวค่ะ บ้านฉันเคยโดนมาเหมือนกัน ถึงเข้าใจไง ว่าพวกมีอำนาจ ชอบพลิกไป พลิกมา เพื่อใคร? เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้นแหระ มาเรียกเก็บเงินเป็นล้านๆ ไม่ให้ก็มาทำร้ายกัน แบบนี้มันใช่หรอ ดิฉัน อยากให้ ฟังทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ว่า อะไรๆก็รัฐ อยากให้คนไทยมีเหตุผลมากกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่ ฟังอยู่ฝ่ายเดียว ถามหน่อย มีใครบ้างที่จะโทษตัวเอง เวลาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐพูดจาไม่เหมาะสม ถามว่า ข่าวเคยออกรึป่าว ทำร้ายประชาชน ถามว่า ข่าวออกบ้างรึป่าว คุณก็น่าจะรู้ว่า เจ้าหน้าที่ของไทย ชอบปกปิดความผิดของตัวเอง แล้วมาอ้างนู้นอ้างนี้ ลองพูดกันด้วยความจริง แบบตรงไปตรงมา อย่างซื่อสัตย์ คนโกงในประเทศไทยคงไม่มีแน่นอน แต่เพราะมันตรงกันข้ามไง ถึงเป็นกันซะแบบนี้ !
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:03:36 »

นายทุนบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=phPnAAI7Cqg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=phPnAAI7Cqg</a>


 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 สิงหาคม 2012 19:24:45 โดย Red-Car@RYZ » บันทึกการเข้า

PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:31:08 »

พวกคุณรู้จักว่ามันเกินไปไหมค่ะ ช่วยดูด้วยว่า เค้าเรียกว่ารื้อถอนหรือทำลาย ในทางกฏหมาย ถ้ารื้อถอน ต้องเก็บซากไปด้วยสิ แต่ไมปล่อยซากไว้แบบนี้ พวกคุณเป็นประชาชนบ้างรึป่าว ทำไมถึงไม่เห็นใจเค้าใจเราล่ะ ถ้าไปทำบ้านคุณบ้างหล่ะ จะว่าไง ดิฉันเชื่อนะ ผู้มีอำนาจอะ ตอนแรกพูดอีกอย่าง ตอนหลังก็พูดอีกอย่าง เข้าใจคำว่าหักหลังกันรึป่าวค่ะ บ้านฉันเคยโดนมาเหมือนกัน ถึงเข้าใจไง ว่าพวกมีอำนาจ ชอบพลิกไป พลิกมา เพื่อใคร? เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้นแหระ มาเรียกเก็บเงินเป็นล้านๆ ไม่ให้ก็มาทำร้ายกัน แบบนี้มันใช่หรอ ดิฉัน อยากให้ ฟังทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ว่า อะไรๆก็รัฐ อยากให้คนไทยมีเหตุผลมากกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่ ฟังอยู่ฝ่ายเดียว ถามหน่อย มีใครบ้างที่จะโทษตัวเอง เวลาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐพูดจาไม่เหมาะสม ถามว่า ข่าวเคยออกรึป่าว ทำร้ายประชาชน ถามว่า ข่าวออกบ้างรึป่าว คุณก็น่าจะรู้ว่า เจ้าหน้าที่ของไทย ชอบปกปิดความผิดของตัวเอง แล้วมาอ้างนู้นอ้างนี้ ลองพูดกันด้วยความจริง แบบตรงไปตรงมา อย่างซื่อสัตย์ คนโกงในประเทศไทยคงไม่มีแน่นอน แต่เพราะมันตรงกันข้ามไง ถึงเป็นกันซะแบบนี้ !
ทำผิดแล้วมาเรียกร้องใจเขาใจเรา

เป็นผมผมจะไม่ไปสร้างตั้งแต่แรก หรือถ้าผมสร้าง ถ้าศาลสั่งรื้อ ผมก็คงไม่มาเรียกร้องความสงสารหรอกครับ

กลัวเสียอะไร กลัวเสียดายเงินที่สร้างไปหรือครับ ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่า คุณสนใจผลประโยชน์เงินทอง มากกว่า ศีลธรรมความถูกต้องแล้วละครับ

จริงๆแล้วตัวบทลงโทษต่างๆในไทย มันยังเบาไปด้วยซ้ำ เมืองไทยก็แบบนี้ พวกกัน พี่กุน้องกุ จ่ายเงินได้ พอเวลาเขาเอาจริงมาร้องโอดโอย หาว่าเลือกปฎบัติ 2มาตรฐาน ทำเกินไป

รีสอร์ทเพื่อนผมโดนรื้อ ยังต้องยอมรับสภาพเลย
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:34:07 »

ถ้าเจ้าของเค้าผิดจริง ผมอยากรู้ว่า แล้วตอนเค้าจะสร้าง หรือสร้างตั้งแต่แรกๆ ไมไม่รื้อ ไมไม่ห้ามเค้าล่ะ ปล่อยให้เค้าลงทุนไปเป็นล้านๆแล้วค่อยมาทุบทีหลัง มันใช่หรอ ถ้าเป็นผมนะ เจ้าหน้าที่ไม่ห้ามแต่แรก จนเค้าลงทุนไปมากมายขนาดนี้ เป็นผม ผมก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายเลย เค้าปลูกป่า ปลูกต้นไม้ให้ ไม่ได้ทำลายป่าซะหน่อย แถมยังช่วยให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวดีขึ้นอีก ทำให้เงินเข้าประเทศเพิ่มขึ้นตั้งเยอะแยะ ทะเลหมอก ก็เป็นตัวดึงดูดลูกค้าเลย ใครๆเค้าก็อยากมาชม มาเห็น แล้วมันจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้ แต่่ผมว่าเพราะผลประโยชน์เรื่องเงินไง อย่างที่คุณswimmingพูด ไท่ให้เงิน ก็มาทำร้ายเขา แล้วก็เอาเรื่องนู่้นเรื่องนี้มาอ้าง ผมเห็น อีก8แห่ง ที่ไปทุบ ทำไมไม่ถ่ายเลย เพราะทุบนิดเดียว หรือทำพอเป็นพิธีใช่ไหม ผมได้ข่าวว่า ทุบเค้าเสร็จ พวกเค้าก็ซ่อมอยู่เหมือนเดิมแหระ ใจจริงอยากจะเล่นแต่บ้านทะเลหมอกรึป่าว จริงไหมล่ะ ทุบบ้านชาวบ้าน ไม่เห็นถ่ายให้ดูมากมายเลยล่ะ ผฝก็ไม่เข้าใจนะ ว่า ผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ เค้าไปทำลายสิ่งแวดล้อมก็ว่าไปอย่าง ได้ข่าวว่า เมื่อก่อน พื้นที่ตรงนั้น มีแต่ดินแดง ต้นไม้ ใช่วาจะมี รีสอร์ทหลายแห่ง ไปเพิ่มต้นไม้ตั้งเยอะ พวกคุณไม่เคย สมัยก่อน กับสมัยนี้ ว่าจำนวนต้นไม้ หรือ ธรรมชาติ มันดีขึ้นมากขนาดไหน ว่าเอาแต่ว่าประชาชน มีเหตุผลกันหน่อยเหอะครับ
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:38:29 »

      
บันทึกการเข้า

Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:41:27 »

บอกตามตรง มันผิดที่ เค้าสร้างตอนแรก ไมไม่บอก ไมไม่ห้าม นี้ตังหากที่เป็นต้นเหตุ ส่วนพอสร้างไปแล้วจะมารื้อ คำว่าทุบหน่ะ มันปลายเหตุแล้วครับบบบบบบบบบบบ เป็นคุณ คุณหมดตัวบ้างล่ะ คุณจะเดือดร้อนขนาดไหน ดูแค่นี้แหระ ก็น่าจะเข้าใจ ประชาชนคนนึงถ้าฟังเหตุฟังผล ก็จะรู้ว่าเอง ว่าต้นเหตุอะ ใครผิด? จบป๊ะ
บันทึกการเข้า
Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:43:25 »

คำสั่งศาลตอนไหนครับ ผมฟังข่าวดูแล้ว ศาลยังไม่ทันได้สั่งเลย ประชาชนเค้ากำลังรอพิจารณาอยู่ ฟังข่าวให้ดีนะครับ!
บันทึกการเข้า
Slender
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:49:32 »

บางที การที่ยังไม่รู้ลึก แล้วมาว่าๆๆๆๆเค้าเนี้ย มันถูกหรอ ยุติธรรมหรอ ฟังให้มันสองฝ่ายสิ แล้วมาค่อยมาด่ากัน จริงไหม ก็บอกตามเดิม ไมตอนแรกที่เค้าจะสร้าง หรือพึ่งสร้าง ไมไม่ห้ามล่ะ มาบอกตอน 14ปีผ่านไปเนี้ยนะ มันใช่หรือ? ถ้าบอก ก็ควรจะบอกตั้งแต่ปี 2541แล้วววววว จริงรึป่าวล่ะ ฟังแค่นี้ก็รู้ล่ะ ว่าผลประโยชน์จะเอาเงินใต้โต๊ะหรือไง
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 19:57:06 »

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 สิงหาคม 2012 20:19:56 โดย Red-Car@RYZ » บันทึกการเข้า

mana
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,792


http://www.corollaclubrace.com/forum/index.php?top


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 20:23:02 »

ทุบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สร้างต้นไม้ใหญ่ 1ต้น กับ สร้างบ้าน 1หลัง มันต่างกัน ครับ
บันทึกการเข้า

PonD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,554


zc72s


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 20:49:39 »

ผมสงสัยว่าสมัยตอนที่เค้ากำลังก่อสร้างสีสอร์ท เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่เหล่านั้นทำอะไรกันอยู่
บันทึกการเข้า
NARINTOI
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 208


ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2012 21:07:48 »

ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการท่านนี้ครับ  ถ้ามีคนอย่างท่านมากๆ  คนจะไม่กล้าทำผิดเหมือนทุกวันนี้

ส่วนคนที่เสียผลประโยชน์ ก็ไม่ต้องกลัวครับ รวมตัวกันไว้ แล้วนำเรื่องฟ้องศาล บอกศาลไปตามจริงว่า ตอนซื้อที่ไม่รู้จริงๆว่าที่ดินดังกล่าว

เป็นแบบไหน    แล้วตอนทำธุรกิจก็ไม่เห้นมีใครว่าอะไร    เดี๋ยวศาลท่านสอบสวนเองแหละครับ ลองดู
บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 [2] 3  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!