ของผมอย่างที่บอกครับ ตอนนั้นอยากเปลี่ยนเครื่องขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะเครื่องเดิมมันถึกก็จริง แต่เวลาวิ่งต่างจังหวัดนี่อย่าให้เซด
แต่ตอนนั้นผมใช้เงินไปกับบุหรี่ เหล้า เที่ยวกลางคืน (อบายมุขทั้งนั้น) เยอะมากครับ โดยที่หัวเรือใหญ่(เพื่อนคนหนึ่ง) พอปลายสัปดาห์ก็มักจะโทรมา
แต่ผมสังเกตดูว่า มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง(คนที่ขึ้นไปเชียงใหม่กับผมนั่นแหละ) เขาไม่ค่อยมาเที่ยวด้วย อ้างว่างานเยอะ
ผมเที่ยวจนมีอยู่ช่วงหนึ่ง ช๊อตถังแตก ตูดขาดก่อนถึงปลายเดือนครับ ผมก็เลยเริ่มคิดละ ว่าต้องหยุดๆมั่ง
ทีนี้พอมันชวนอีกผมก็ออกปากปฎิเสธไป ทำไปทำมา ก็มีเงินเก็บต่อเดือนเพิ่มขึ้นมาครับ (จากที่เคยเป็นหนี้ เพราะไปยืมชาวบ้านมากินข้าว)
ก็เลยโทรไปคุยกับรุ่นพี่คนนี้ เขาก็เห็นด้วย บอกว่าทำอะไรสมควรประมาณตัวหน่อย เพราะไอ้คนชวนนั่นเงินเดือนมันครึ่งล้านครับ
มันเที่ยวได้สบายทุกวัน แต่พวกเราไปตามมัน เราก็ตายหยังเขียดครับ
แต่ผมคำนวณแล้ว มันก็ต้องเก็บอีกเป็นปีเลยนี่หว่า (คูณ 12 เดือน)
ก็เลยหันมาเลิกบุหรี่นั่นแหละครับ
พอดีช่วงนั้นมีวิกฤติน้ำท่วมกรุงเทพฯ บ้านผมก็หนีไปชลบุรีกันทั้งบ้าน เหมือนครอบครัวอื่นๆ
ผมก็เลยถือโอกาสไปเลิกที่นั่น
ก่อนจะเลิกก็ไปซื้อหนังสือนวนิยายกำลังภายในมาเรื่องหนึ่ง(6 เล่มได้มั้งครับ)
ตั้งปณิธานว่า ก่อนจะอ่านจบ ตูต้องเลิกบุหรี่ให้ได้
จากนั้นผมก็นั่งอ่านไอ้นิยายเนี่ยครับ(เขียนห่วยแตกสิ้นดี
)
พอเกิดอาการอยากขึ้นมา ก็กดมันไว้ แล้วหันไปเพ่งสมาธิกับหนังสือที่อ่าน
อาการสามวันแรกไม่รู้สึกอะไรเลยครับ หลังจากนั้นก็อยากอย่างรุนแรง
ผมก็อดใจไม่ไหว ไปเอาตัวนึงมาจุดสูบ(มาร์ลโบโร ไลท์)
สูบได้ประมาณครึ่งตัวก็รู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมา ว่าตัวนี่ช่างใจอ่อนเสียจริง แล้วก็เลยโยนบุหรี่ทิ้ง
แล้วคว้าหนังสือมาอ่านครับ
ผมจำไม่ได้แล้วว่าอาการอยากบุหรี่ หายไปตอนอ่านไปถึงเล่มไหน
พอใกล้ๆจะกลับกรุงเทพฯ ผมเดินผ่านคนสูบบุหรี่ ผมก็รู้สึกชักจะเหม็นแล้วแฮะ
ในใจก็รู้สึกดีใจ แสดงว่าใกล้จะเลิกได้สำเร็จ
กลับมากรุงเทพฯแล้ว นานๆทีก็มีอาการอยากพลุ่งขึ้นมาบ้างครับ แต่น้อยมากเหลือเกิน(ผมสูบมาตั้งแต่อายุ 17ปี เพิ่งมาเลิกเมื่อไม่นานนี้ จะให้มันไม่รู้สึกอะไรเลย คงเป็นเรื่องโกหก)
แต่ก็กดไว้ได้ครับ
พอเลิกบุหรี่ได้ปุ๊บ สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับบุหรี่เช่น "กาแฟสด"
เพราะคนสูบบุหรี่คอจะแห้ง มักจะชอบกินกาแฟสด ผมก็เลิกกินไปเลยครับ
ผมกินดิโอโร่ แก้วนึงตั้ง 70 บาท แล้วผมกินวันนึงไม่ต่ำกว่า 3 แก้ว
ตอนนี้ที่ทำได้อีกขั้น คือเลียนแบบเพื่อน คนที่เป็นหัวเรือใหญ่ชวนเพื่อนเที่ยวนั่นแหละครับ
รายนี้ตอนหลังโดนหมอสั่งห้ามกินเหล้า และให้เลิกบุหรี่ มันก็ยังเที่ยวได้อยู่ครับ แต่ไปยืนซดน้ำเปล่า
แรกๆผมก็งง มาทำไมวะ มายืนกินน้ำเปล่า แต่ตอนหลังพอผมเลิกบุหรี่ เลิกเหล้าแล้ว(อันนี้ผมไม่ได้ติด แต่สุขภาพไม่เอื้อแล้ว)
ผมก็เลยเลียนแบบเพื่อนมั่ง ไปยืนซดน้ำเปล่าคุยกัน ก็ดีครับ เอารถไปได้สบายเลย ก็ผมไม่ได้เมานี่หว่า จะกลัวอะไร
เลิกอบายมุขได้ทั้งหมด เหลือตังค์เก็บ "บาน" ครับท่าน
เจ้าของอู่ไปไหนวะ ทำเลวแล้วเนียน
ช่างเขาเถอะครับ ลูกค้าเขาคงเยอะ...