^ooMilkZaoo^
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 35
รถไม่แรง..อย่าแซงทางโค้ง
|
|
« เมื่อ: 10 มกราคม 2008 08:37:22 » |
|
คืออยากจะถามพวกพี่ๆครับว่าอาการเคกของเครื่องยนต์..นั้นมันมีอาการเป็นยังไงอะคับ รบกวนหน่อยนะคับ..ประดับความรู้จะได้เอาไปดูที่รถตัวเองมั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
^o^ ^o^ ooo
|
|
|
EE100_nkp
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 09:51:03 » |
|
เวลากดคันเร่งค้างไว้ จะดังแก๊กๆ ของผมเคยตั้งกระทู้ถามแล้ว และเพื่อนๆแนะนำให้ไปตั้งไฟใหม่ก็หาย เสียงจะมีบ้างเล็กน้อย ช่างบอกว่าเป็ฯออกเทนที่เราเติม 91 คับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Tong KKT OBD
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 09:56:54 » |
|
เวลากดคันเร่งค้างไว้ จะดังแก๊กๆ ของผมเคยตั้งกระทู้ถามแล้ว และเพื่อนๆแนะนำให้ไปตั้งไฟใหม่ก็หาย เสียงจะมีบ้างเล็กน้อย ช่างบอกว่าเป็ฯออกเทนที่เราเติม 91 คับ เครื่อง 4E-FE xA-FE ของโตโยต้าเดิม 91 ได้อยู่แล้วนะครับ แต่อาจจะได้ระยะทางต่อ กม. สู้ 95 ไม่ได้ ที่ช่างบอกว่าเติม 91 ไม่ได้ แสดงว่าช่างยังไม่ได้เช็คองศาไฟจุดพื้นฐาน หัวเทียน ระยะห่างเขี้ยว หรือสภาพเครื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Chan
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 10:00:50 » |
|
ต้องใช้การฟังอะครับ ตอนเร่งเครื่องแล้วเสียงมันจะรู้สึกได้ครับ จริงแล้วเกิดจากไฟจากจานจ่ายมันแก่ หรือองศาจุดระเบิดมันไม่ตรงกับค่าอ๊อกเทนครับ รถเดิมตาม spec ใช้น้ำมันอ๊อกเทน 95 ครับ พอใช้ 91 องศาจุดระเบิดมันไม่เท่ากัน เท่ากับว่าไฟมันแก่ไปนั้นเองครับทำให้มีอาการเขก แล้วก็คนที่ไปติด GAS มาก็จะมีอาการถ้าสับไปใช้น้ำมัน เพราะส่วนมากคนที่ติด GAS จะต้องตั้งไฟให้แก่กว่าปรกติอยู่แล้วเพราะว่าอ๊อกเทนของ GAS มัน 100 UP ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มกราคม 2008 10:05:39 โดย Chan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AE6263
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 10:03:14 » |
|
ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่ เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ople8124
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 10:36:33 » |
|
ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่ เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)
เหมือนกันเลยครับ ทั้งเขกทั้งหยิก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bay
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 38
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 16:45:33 » |
|
ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่ เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)
เหมือนกันเลยครับ ทั้งเขกทั้งหยิก โดนจายจิงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
บุคคลคนหนึ่ง
มือเก่าหัดแข่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 146
I LOVE LADY IN LOAPAN WONGWAN
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 21:04:19 » |
|
เสียงเขกเกิดจากการตั้งไฟครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอแท้ๆบ้างเหอะนะ เบื่อแล้วของก็อป
|
|
|
kang-ro
มือเก่าหัดแข่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 218
เปลี่ยนมันไปเรื่อย รถอะไรก็ขับได้
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 21:59:09 » |
|
ของผมก็เขกเหมือนกัน
คนข้างๆนะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ยังงัยก็4Aอยู่แล้ว รับจัดหาอะไหล่เดิม-อะไหล่ซิ่ง(ถ้ามี)
|
|
|
moza
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 10 มกราคม 2008 22:13:56 » |
|
มันเป็นการชิงสุกก่อนห่ามครับ อิอิ ล้อเล่นอ่ะ (ระเบิดก่อนที่หัวเทียนจาจุด)ดัง แค๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เก่ง rainyboy
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 11 มกราคม 2008 17:38:02 » |
|
เครื่อง 4E-FE ครับ เคยไปให้ศูนย์ โตโยต้ามหานคร ตั้งไฟให้ก็ยังไม่หายเลยครับ ก็ยังเขกอยู่ แต่สังเกตุว่าถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น เช่น กลางคืน , ฝนตก หรือหน้าหนาว ของผมมันจะไม่เขก แต่ถ้าช่วงอากาศร้อน เช่น ตอนเที่ยงๆ หรือรถติดๆ มากๆ พวกเขกจนหัวโนเลยครับ...ปัจจุบันก็เลยทำใจครับ.... ใส่กรองเปลือยหรือเปล่าครับ จับมากั้นห้องหายครับวิ่งดีขึ้นด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
bay
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 38
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 11 มกราคม 2008 21:47:48 » |
|
เครื่อง 4E-FE ครับ เคยไปให้ศูนย์ โตโยต้ามหานคร ตั้งไฟให้ก็ยังไม่หายเลยครับ ก็ยังเขกอยู่ แต่สังเกตุว่าถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น เช่น กลางคืน , ฝนตก หรือหน้าหนาว ของผมมันจะไม่เขก แต่ถ้าช่วงอากาศร้อน เช่น ตอนเที่ยงๆ หรือรถติดๆ มากๆ พวกเขกจนหัวโนเลยครับ...ปัจจุบันก็เลยทำใจครับ.... ใส่กรองเปลือยหรือเปล่าครับ จับมากั้นห้องหายครับวิ่งดีขึ้นด้วยครับ ไม่ได้ใส่ครับ....เดิมๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
carboys
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 12 มกราคม 2008 07:37:40 » |
|
อาการเขกของเครื่อง มีสองอย่าง 1. Ping 2. Knock เพราะบ้านเราไม่ค่อยแยกแยะว่าแบบไหนคืออะไร ก็เลยเรียกรวมๆ กันว่า "เขก"
รวมๆ กันแล้วก็จะเป็นอาการคล้ายๆ กัน คือมีการระเบิดของส่วนผสมและเริ่มให้ "แรงดัน" ในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ก่อนลูกสูบจะขึ้นสุ่จุดสูงสุด (ควรเลยมาเล็กน้อย) หรือ เริ่มมีการเผาไหม้ก่อนการยิงไฟจากหัวเทียนไปจุดระเบิด (อันนี้เกิดจากความร้อนสะสม)
ทั้งหมดนี้อาการที่รับรู้ได้คือจะมีเสียง แต่ถ้าระดับฟังได้ด้วยหูเปล่าในห้องโดยสาร อาการนี้หนัก มากมีแววว่าจะเกิดความเสียหายได้เยอะเลย เพราะปกติ ที่เราไม่ได้ยิน ก็มีการเขกอยู่แล้ว ซึ่งต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วยในการตรวจับ ระดับที่ว่าเครื่องที่คุณคิดว่าเดินเรียบแล้ว ยังคงมี อยู่ประปรายชนิดต้องเอาเครื่องขยายเสียงไปฟังกันเลยทีเดียว
เสียงที่ได้ยิน ก้จะเป็นเสียงของโลหะกระทบกันครับ ถ้าคุณไม่รุ้ว่ามันเป็นไง เอาส้อม ครับ กำแน่นๆ แล้วเคาะกัน เสียงมันจะประมาณนั้นเลย แต่ว่า ใสกว่า (เพราะตอนคุณจับด้วยมือ มันจะทึบ ถ้าจับด้วยคีมแล้วเคาะมันจะกระเด็นเสียเลือดเสียเนื้อกัน)
การแก้ก็ไม่ใช่ว่าแก้กันได้แบบเสมอไป ต้องขึ้นกับสาเหตุครับ โดยมากเครื่อง NA ระดับ 4A-FE จะเป็นเพราะการตั้งจานจ่ายไม่เหมาะสมกับชนิดของเชื้อเพลิง ก็พอแก้ไขกันได้ การตั้งเขี้ยวหัวเทียน ก็มีผล
แต่การแก้ไขของเครื่องยนต์ที่ mod มาแล้วนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น การแก้แบบพื้นฐาน ก็มักจะไม่ได้แก้อาการ การเขกของเครื่อง mod นั้นมาจากหลายอย่าง เช่น เชื้อเพลิงบาง ส่วนผสมไม่ ถูกต้อง ความร้อนสะสมมาก ไอดีร้อน ไอเสียไม่ระบาย จุดระเบิดผิดพลาด เชื้อเพลิงไม่สะอาดหรือไม่ได้ คุณภาพ ฯลฯ เยอะครับ การแก้ให้ถูกต้องจึงมีหลายทาง คงไม่ง่ายแค่การตั้งจานจ่ายหรือฉีดน้ำมันเพิ่มลูกเดียว
เสียงเขกควรให้ความสนใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายใหญหลวง คุณควรไวต่อการได้ยินครับ มันเป็น "มะเร็ง" ของเครื่องยนต์ รุ้ก่อน ลดความเสียหายครับ ถ้าขับอย่างเดียวไม่ใส่ใจ มันก็จะ "ตาย" ในที่สุด อาจจะแป๊บเดียวก็ได้ เพราะการเขกหนักๆ สำหรับเครื่องยนต์ Turbo ละก็ถ้ามีอะไรหัก ไม่กี่วินาทีอย่างอื่นจะตาม มาและมันก้อาจจบลงจากการเริ่มได้ยินเพียงไม่กี่นาทีก็ได้
การเขก ทำให้ shaft ร่อนเพราะถุกกระแทก การเขก ทำให้ แหวนอัด หักได้ เพราะมีแรงกระทำสองทาง การเขก ทำให้ ก้านสูบ คดงอ และหักได้ การเขก ทำให้ สลักสูบ คลอนหรือว่า หลุดได้ การเขก ทำให้ ลูกสูบ เคลื่อนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ตบข้าง" ทำให้เสื้อสูบเป็นรอย การเขก ทำให้ ลูกสูบ ทะลุได้ การเขก ทำให้ เสื้อเครื่องแตกเนื่องจากก้านสุบหักมาก่อน การเขก ทำให้ คุณเสียเงินในที่สุด (ไม่ว่าอากรเล็กหรือว่ามาก)
สำหรับเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไปตั้งมาแล้วแม้ศุนย์ toyota ก็แก้ให้ไม่ได้นั้น ขอให้ตรวจสอบหน่อยว่า เครื่องรุ่นนี้มี knock sensor หรือไม่ และถ้ามีมันเสียหรือเปล่า ทดลองเปลี่ยนเป็นตัวอื่นดูหน่อยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Step Ahead with MasterCRAFT
|
|
|
โอ๋AE101.PZ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 12 มกราคม 2008 08:45:50 » |
|
อาการเขกของเครื่อง มีสองอย่าง 1. Ping 2. Knock เพราะบ้านเราไม่ค่อยแยกแยะว่าแบบไหนคืออะไร ก็เลยเรียกรวมๆ กันว่า "เขก"
รวมๆ กันแล้วก็จะเป็นอาการคล้ายๆ กัน คือมีการระเบิดของส่วนผสมและเริ่มให้ "แรงดัน" ในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ก่อนลูกสูบจะขึ้นสุ่จุดสูงสุด (ควรเลยมาเล็กน้อย) หรือ เริ่มมีการเผาไหม้ก่อนการยิงไฟจากหัวเทียนไปจุดระเบิด (อันนี้เกิดจากความร้อนสะสม)
ทั้งหมดนี้อาการที่รับรู้ได้คือจะมีเสียง แต่ถ้าระดับฟังได้ด้วยหูเปล่าในห้องโดยสาร อาการนี้หนัก มากมีแววว่าจะเกิดความเสียหายได้เยอะเลย เพราะปกติ ที่เราไม่ได้ยิน ก็มีการเขกอยู่แล้ว ซึ่งต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วยในการตรวจับ ระดับที่ว่าเครื่องที่คุณคิดว่าเดินเรียบแล้ว ยังคงมี อยู่ประปรายชนิดต้องเอาเครื่องขยายเสียงไปฟังกันเลยทีเดียว
เสียงที่ได้ยิน ก้จะเป็นเสียงของโลหะกระทบกันครับ ถ้าคุณไม่รุ้ว่ามันเป็นไง เอาส้อม ครับ กำแน่นๆ แล้วเคาะกัน เสียงมันจะประมาณนั้นเลย แต่ว่า ใสกว่า (เพราะตอนคุณจับด้วยมือ มันจะทึบ ถ้าจับด้วยคีมแล้วเคาะมันจะกระเด็นเสียเลือดเสียเนื้อกัน)
การแก้ก็ไม่ใช่ว่าแก้กันได้แบบเสมอไป ต้องขึ้นกับสาเหตุครับ โดยมากเครื่อง NA ระดับ 4A-FE จะเป็นเพราะการตั้งจานจ่ายไม่เหมาะสมกับชนิดของเชื้อเพลิง ก็พอแก้ไขกันได้ การตั้งเขี้ยวหัวเทียน ก็มีผล
แต่การแก้ไขของเครื่องยนต์ที่ mod มาแล้วนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น การแก้แบบพื้นฐาน ก็มักจะไม่ได้แก้อาการ การเขกของเครื่อง mod นั้นมาจากหลายอย่าง เช่น เชื้อเพลิงบาง ส่วนผสมไม่ ถูกต้อง ความร้อนสะสมมาก ไอดีร้อน ไอเสียไม่ระบาย จุดระเบิดผิดพลาด เชื้อเพลิงไม่สะอาดหรือไม่ได้ คุณภาพ ฯลฯ เยอะครับ การแก้ให้ถูกต้องจึงมีหลายทาง คงไม่ง่ายแค่การตั้งจานจ่ายหรือฉีดน้ำมันเพิ่มลูกเดียว
เสียงเขกควรให้ความสนใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายใหญหลวง คุณควรไวต่อการได้ยินครับ มันเป็น "มะเร็ง" ของเครื่องยนต์ รุ้ก่อน ลดความเสียหายครับ ถ้าขับอย่างเดียวไม่ใส่ใจ มันก็จะ "ตาย" ในที่สุด อาจจะแป๊บเดียวก็ได้ เพราะการเขกหนักๆ สำหรับเครื่องยนต์ Turbo ละก็ถ้ามีอะไรหัก ไม่กี่วินาทีอย่างอื่นจะตาม มาและมันก้อาจจบลงจากการเริ่มได้ยินเพียงไม่กี่นาทีก็ได้
การเขก ทำให้ shaft ร่อนเพราะถุกกระแทก การเขก ทำให้ แหวนอัด หักได้ เพราะมีแรงกระทำสองทาง การเขก ทำให้ ก้านสูบ คดงอ และหักได้ การเขก ทำให้ สลักสูบ คลอนหรือว่า หลุดได้ การเขก ทำให้ ลูกสูบ เคลื่อนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ตบข้าง" ทำให้เสื้อสูบเป็นรอย การเขก ทำให้ ลูกสูบ ทะลุได้ การเขก ทำให้ เสื้อเครื่องแตกเนื่องจากก้านสุบหักมาก่อน การเขก ทำให้ คุณเสียเงินในที่สุด (ไม่ว่าอากรเล็กหรือว่ามาก)
สำหรับเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไปตั้งมาแล้วแม้ศุนย์ toyota ก็แก้ให้ไม่ได้นั้น ขอให้ตรวจสอบหน่อยว่า เครื่องรุ่นนี้มี knock sensor หรือไม่ และถ้ามีมันเสียหรือเปล่า ทดลองเปลี่ยนเป็นตัวอื่นดูหน่อยครับ
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มากเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Tong KKT OBD
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 12 มกราคม 2008 09:01:36 » |
|
ปกติแล้ว เวลาเราเดินคันเร่งหนัก ๆ ECU มันจะ advance องศาจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งมรสัญญาณ Knock ส่งกลับมา มันจะค่อย ๆ ปรับลดลง ทีละ step ๆ ตาม Amplitude ของการ Knock ที่ detect ได้ ซึ้งมันจะไวมาก เรายังไม่ทัน ได้ยินเสียงหรอก ECU มันจับได้แล้วว่ามีการ knock ซึ่งมันเป็นวิธีการ ทำให้เครื่องเรามันวิ่ง octene น้ำมันต่ำได้ไงครับ (ต่ำกว่าไม่มากเกินไปนะ เช่น 91)
แต่ที่ระบบปกติแล้วยัง knock ให้ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะว่า องศาจุดล่วงหน้าพื้นฐานที่สามารถตั้งได้จาก จานจ่ายนั้น ตั้งแก่มากไป เพราะ สัญญาณ knock ลูแรกมันใหญ่เกินไป กว่าที่ ECU จะปรัะบลดองศาจุดระเบิด ได้ทัน เพราะมันต้องปรับทีละ step ก็จะเกิด การ knock แบบเบา ๆ ให้ได้ยินบ้าง แก้ไขด้วยการปรับลงองศาพื้นฐาน โดยให้ Timing light ซะก็น่าจะ OK
อีกแบบคือ ห้องเผาใหม่เปลี่ยนไป กำลังอัดมากขึ้น อาจจะมาจาก เขม่าเกาะที่หัวสูบ ฝาสูบ หรือวาล์ว หรือ ประกายไฟจุดระเบิด จากหัวเทียนไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดการ knock ที่ ECU ไม่สามารถควบคุมได้่ครับ
กรณีของ จขกท. เอารถไป 0 Toyota ให้เขาตั้งให้ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ ทั้ง ๆ ที่รถรุ่นนี้ ก็เติม 91 วิ่งกันทั้งเมือง แต่ไหนแต่ไร มันแสดงถึงระดับความรับผิดชอบ ของ 0 ที่มีและทักษะในการให้บริการได้เลยครับ ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bay
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 38
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 มกราคม 2008 21:24:42 » |
|
ปกติแล้ว เวลาเราเดินคันเร่งหนัก ๆ ECU มันจะ advance องศาจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งมรสัญญาณ Knock ส่งกลับมา มันจะค่อย ๆ ปรับลดลง ทีละ step ๆ ตาม Amplitude ของการ Knock ที่ detect ได้ ซึ้งมันจะไวมาก เรายังไม่ทัน ได้ยินเสียงหรอก ECU มันจับได้แล้วว่ามีการ knock ซึ่งมันเป็นวิธีการ ทำให้เครื่องเรามันวิ่ง octene น้ำมันต่ำได้ไงครับ (ต่ำกว่าไม่มากเกินไปนะ เช่น 91)
แต่ที่ระบบปกติแล้วยัง knock ให้ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะว่า องศาจุดล่วงหน้าพื้นฐานที่สามารถตั้งได้จาก จานจ่ายนั้น ตั้งแก่มากไป เพราะ สัญญาณ knock ลูแรกมันใหญ่เกินไป กว่าที่ ECU จะปรัะบลดองศาจุดระเบิด ได้ทัน เพราะมันต้องปรับทีละ step ก็จะเกิด การ knock แบบเบา ๆ ให้ได้ยินบ้าง แก้ไขด้วยการปรับลงองศาพื้นฐาน โดยให้ Timing light ซะก็น่าจะ OK
อีกแบบคือ ห้องเผาใหม่เปลี่ยนไป กำลังอัดมากขึ้น อาจจะมาจาก เขม่าเกาะที่หัวสูบ ฝาสูบ หรือวาล์ว หรือ ประกายไฟจุดระเบิด จากหัวเทียนไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดการ knock ที่ ECU ไม่สามารถควบคุมได้่ครับ
กรณีของ จขกท. เอารถไป 0 Toyota ให้เขาตั้งให้ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ ทั้ง ๆ ที่รถรุ่นนี้ ก็เติม 91 วิ่งกันทั้งเมือง แต่ไหนแต่ไร มันแสดงถึงระดับความรับผิดชอบ ของ 0 ที่มีและทักษะในการให้บริการได้เลยครับ ...
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ...แต่ขอออกตัวก่อน ผมม่ายช่ายเจ้าของกระทู้ครับ เพียงแต่เขกเหมือนกัน เลยเข้ามาร่วมถามด้วยครับ (เดี๋ยวเจ้าของกระทู้งอนผมเอา)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
^ooMilkZaoo^
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 35
รถไม่แรง..อย่าแซงทางโค้ง
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 14 มกราคม 2008 15:43:24 » |
|
ผมไม่งอนหรอกครับ..ดีแล้วครับจะไปเป็นความรู้ใหม่ๆของผม..และเพื่อนๆ..พี่ๆกันต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
^o^ ^o^ ooo
|
|
|
rkimoto
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 14 มกราคม 2008 15:56:50 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|