AE. Racing Club
02 มีนาคม 2568 14:37:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาการเคกของเครื่องยนต์..  (อ่าน 18145 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
^ooMilkZaoo^
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 35


รถไม่แรง..อย่าแซงทางโค้ง


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 10 มกราคม 2551 08:37:22 »

คืออยากจะถามพวกพี่ๆครับว่าอาการเคกของเครื่องยนต์..นั้นมันมีอาการเป็นยังไงอะคับ
รบกวนหน่อยนะคับ..ประดับความรู้จะได้เอาไปดูที่รถตัวเองมั้ง
บันทึกการเข้า

^o^  ^o^
     ooo
EE100_nkp
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 09:51:03 »

เวลากดคันเร่งค้างไว้ จะดังแก๊กๆ ของผมเคยตั้งกระทู้ถามแล้ว  และเพื่อนๆแนะนำให้ไปตั้งไฟใหม่ก็หาย เสียงจะมีบ้างเล็กน้อย 
ช่างบอกว่าเป็ฯออกเทนที่เราเติม 91 คับ 
บันทึกการเข้า
Tong KKT OBD
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 09:56:54 »

เวลากดคันเร่งค้างไว้ จะดังแก๊กๆ ของผมเคยตั้งกระทู้ถามแล้ว  และเพื่อนๆแนะนำให้ไปตั้งไฟใหม่ก็หาย เสียงจะมีบ้างเล็กน้อย 
ช่างบอกว่าเป็ฯออกเทนที่เราเติม 91 คับ 

เครื่อง 4E-FE xA-FE ของโตโยต้าเดิม 91 ได้อยู่แล้วนะครับ แต่อาจจะได้ระยะทางต่อ กม. สู้ 95 ไม่ได้
ที่ช่างบอกว่าเติม 91 ไม่ได้ แสดงว่าช่างยังไม่ได้เช็คองศาไฟจุดพื้นฐาน  หัวเทียน ระยะห่างเขี้ยว หรือสภาพเครื่อง
 
บันทึกการเข้า
Chan
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 942


BZ-Turing


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 10:00:50 »

ต้องใช้การฟังอะครับ ตอนเร่งเครื่องแล้วเสียงมันจะรู้สึกได้ครับ
จริงแล้วเกิดจากไฟจากจานจ่ายมันแก่ หรือองศาจุดระเบิดมันไม่ตรงกับค่าอ๊อกเทนครับ

รถเดิมตาม spec ใช้น้ำมันอ๊อกเทน 95 ครับ
พอใช้ 91 องศาจุดระเบิดมันไม่เท่ากัน  เท่ากับว่าไฟมันแก่ไปนั้นเองครับทำให้มีอาการเขก

แล้วก็คนที่ไปติด GAS มาก็จะมีอาการถ้าสับไปใช้น้ำมัน เพราะส่วนมากคนที่ติด GAS
จะต้องตั้งไฟให้แก่กว่าปรกติอยู่แล้วเพราะว่าอ๊อกเทนของ GAS มัน 100 UP ครับ

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มกราคม 2551 10:05:39 โดย Chan » บันทึกการเข้า
AE6263
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113


SUN SQUARE SILOM 21-23


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 10:03:14 »

ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่  เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)
บันทึกการเข้า
ople8124
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 10:36:33 »

ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่  เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)



เหมือนกันเลยครับ ทั้งเขกทั้งหยิก
บันทึกการเข้า
bay
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 16:45:33 »

ของผมก็เคกครับ เวลาหันไปมองสาวๆแถว ม.สยาม ที่ไหร่  เคกแรกมากเลย ดังโป้กเลย (เมียนะครับ ไม่เกี่ยวกับเครื่อง อิอิอิอิ)



เหมือนกันเลยครับ ทั้งเขกทั้งหยิก
โดนจายจิงๆ
บันทึกการเข้า
บุคคลคนหนึ่ง
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 146


I LOVE LADY IN LOAPAN WONGWAN


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 21:04:19 »

เสียงเขกเกิดจากการตั้งไฟครับ
บันทึกการเข้า

                     
                           ขอแท้ๆบ้างเหอะนะ เบื่อแล้วของก็อป
kang-ro
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 218


เปลี่ยนมันไปเรื่อย รถอะไรก็ขับได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 21:59:09 »

ของผมก็เขกเหมือนกัน





คนข้างๆนะคับ
บันทึกการเข้า

ยังงัยก็4Aอยู่แล้ว
รับจัดหาอะไหล่เดิม-อะไหล่ซิ่ง(ถ้ามี)
moza
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 632



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 10 มกราคม 2551 22:13:56 »

มันเป็นการชิงสุกก่อนห่ามครับ อิอิ ล้อเล่นอ่ะ (ระเบิดก่อนที่หัวเทียนจาจุด)ดัง แค๊ก ๆ ๆ ๆ  ๆ
บันทึกการเข้า
bay
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 11 มกราคม 2551 09:16:45 »

เครื่อง 4E-FE ครับ  เคยไปให้ศูนย์ โตโยต้ามหานคร ตั้งไฟให้ก็ยังไม่หายเลยครับ  ก็ยังเขกอยู่  แต่สังเกตุว่าถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น เช่น กลางคืน , ฝนตก หรือหน้าหนาว ของผมมันจะไม่เขก  แต่ถ้าช่วงอากาศร้อน  เช่น ตอนเที่ยงๆ หรือรถติดๆ มากๆ พวกเขกจนหัวโนเลยครับ...ปัจจุบันก็เลยทำใจครับ....
บันทึกการเข้า
เก่ง rainyboy
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 331



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 11 มกราคม 2551 17:38:02 »

เครื่อง 4E-FE ครับ  เคยไปให้ศูนย์ โตโยต้ามหานคร ตั้งไฟให้ก็ยังไม่หายเลยครับ  ก็ยังเขกอยู่  แต่สังเกตุว่าถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น เช่น กลางคืน , ฝนตก หรือหน้าหนาว ของผมมันจะไม่เขก  แต่ถ้าช่วงอากาศร้อน  เช่น ตอนเที่ยงๆ หรือรถติดๆ มากๆ พวกเขกจนหัวโนเลยครับ...ปัจจุบันก็เลยทำใจครับ....

ใส่กรองเปลือยหรือเปล่าครับ
จับมากั้นห้องหายครับวิ่งดีขึ้นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

My Word ->http://thaigarage.wordpress.com
My Club -> http://www.4EFTECLUB.com
MY Job -> ร้านหมูปิ้งมารวย2
DARKSTAR
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,369



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 11 มกราคม 2551 18:12:28 »

ขอเขกด้วยคน อยากมีส่วนร่วมอ่ะ 
บันทึกการเข้า

bay
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 11 มกราคม 2551 21:47:48 »

เครื่อง 4E-FE ครับ  เคยไปให้ศูนย์ โตโยต้ามหานคร ตั้งไฟให้ก็ยังไม่หายเลยครับ  ก็ยังเขกอยู่  แต่สังเกตุว่าถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น เช่น กลางคืน , ฝนตก หรือหน้าหนาว ของผมมันจะไม่เขก  แต่ถ้าช่วงอากาศร้อน  เช่น ตอนเที่ยงๆ หรือรถติดๆ มากๆ พวกเขกจนหัวโนเลยครับ...ปัจจุบันก็เลยทำใจครับ....

ใส่กรองเปลือยหรือเปล่าครับ
จับมากั้นห้องหายครับวิ่งดีขึ้นด้วยครับ
ไม่ได้ใส่ครับ....เดิมๆ เลยครับ  ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะครับ...
บันทึกการเข้า
carboys
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,571


ใช้สำหรับซิ่ง และ ซ่อม เท่านั้น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 12 มกราคม 2551 07:37:40 »

อาการเขกของเครื่อง มีสองอย่าง
1. Ping
2. Knock
เพราะบ้านเราไม่ค่อยแยกแยะว่าแบบไหนคืออะไร ก็เลยเรียกรวมๆ กันว่า "เขก"

รวมๆ กันแล้วก็จะเป็นอาการคล้ายๆ กัน คือมีการระเบิดของส่วนผสมและเริ่มให้
"แรงดัน" ในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ก่อนลูกสูบจะขึ้นสุ่จุดสูงสุด (ควรเลยมาเล็กน้อย)
หรือ เริ่มมีการเผาไหม้ก่อนการยิงไฟจากหัวเทียนไปจุดระเบิด (อันนี้เกิดจากความร้อนสะสม)

ทั้งหมดนี้อาการที่รับรู้ได้คือจะมีเสียง แต่ถ้าระดับฟังได้ด้วยหูเปล่าในห้องโดยสาร อาการนี้หนัก
มากมีแววว่าจะเกิดความเสียหายได้เยอะเลย เพราะปกติ ที่เราไม่ได้ยิน ก็มีการเขกอยู่แล้ว
ซึ่งต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วยในการตรวจับ ระดับที่ว่าเครื่องที่คุณคิดว่าเดินเรียบแล้ว ยังคงมี
อยู่ประปรายชนิดต้องเอาเครื่องขยายเสียงไปฟังกันเลยทีเดียว

เสียงที่ได้ยิน ก้จะเป็นเสียงของโลหะกระทบกันครับ ถ้าคุณไม่รุ้ว่ามันเป็นไง เอาส้อม ครับ
กำแน่นๆ แล้วเคาะกัน เสียงมันจะประมาณนั้นเลย แต่ว่า ใสกว่า (เพราะตอนคุณจับด้วยมือ
มันจะทึบ ถ้าจับด้วยคีมแล้วเคาะมันจะกระเด็นเสียเลือดเสียเนื้อกัน)

การแก้ก็ไม่ใช่ว่าแก้กันได้แบบเสมอไป ต้องขึ้นกับสาเหตุครับ โดยมากเครื่อง NA ระดับ 4A-FE
จะเป็นเพราะการตั้งจานจ่ายไม่เหมาะสมกับชนิดของเชื้อเพลิง ก็พอแก้ไขกันได้ การตั้งเขี้ยวหัวเทียน
ก็มีผล

แต่การแก้ไขของเครื่องยนต์ที่ mod มาแล้วนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น การแก้แบบพื้นฐาน
ก็มักจะไม่ได้แก้อาการ การเขกของเครื่อง mod นั้นมาจากหลายอย่าง เช่น เชื้อเพลิงบาง ส่วนผสมไม่
ถูกต้อง ความร้อนสะสมมาก ไอดีร้อน ไอเสียไม่ระบาย จุดระเบิดผิดพลาด เชื้อเพลิงไม่สะอาดหรือไม่ได้
คุณภาพ ฯลฯ เยอะครับ การแก้ให้ถูกต้องจึงมีหลายทาง คงไม่ง่ายแค่การตั้งจานจ่ายหรือฉีดน้ำมันเพิ่มลูกเดียว

เสียงเขกควรให้ความสนใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายใหญหลวง คุณควรไวต่อการได้ยินครับ
มันเป็น "มะเร็ง" ของเครื่องยนต์ รุ้ก่อน ลดความเสียหายครับ ถ้าขับอย่างเดียวไม่ใส่ใจ มันก็จะ "ตาย" ในที่สุด
อาจจะแป๊บเดียวก็ได้ เพราะการเขกหนักๆ สำหรับเครื่องยนต์ Turbo ละก็ถ้ามีอะไรหัก ไม่กี่วินาทีอย่างอื่นจะตาม
มาและมันก้อาจจบลงจากการเริ่มได้ยินเพียงไม่กี่นาทีก็ได้

การเขก ทำให้ shaft ร่อนเพราะถุกกระแทก
การเขก ทำให้ แหวนอัด หักได้ เพราะมีแรงกระทำสองทาง
การเขก ทำให้ ก้านสูบ คดงอ และหักได้
การเขก ทำให้ สลักสูบ คลอนหรือว่า หลุดได้
การเขก ทำให้ ลูกสูบ เคลื่อนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ตบข้าง" ทำให้เสื้อสูบเป็นรอย
การเขก ทำให้ ลูกสูบ ทะลุได้
การเขก ทำให้ เสื้อเครื่องแตกเนื่องจากก้านสุบหักมาก่อน
การเขก ทำให้ คุณเสียเงินในที่สุด (ไม่ว่าอากรเล็กหรือว่ามาก)

สำหรับเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไปตั้งมาแล้วแม้ศุนย์ toyota ก็แก้ให้ไม่ได้นั้น ขอให้ตรวจสอบหน่อยว่า
เครื่องรุ่นนี้มี knock sensor หรือไม่ และถ้ามีมันเสียหรือเปล่า ทดลองเปลี่ยนเป็นตัวอื่นดูหน่อยครับ
บันทึกการเข้า


Step Ahead with MasterCRAFT
โอ๋AE101.PZ
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 864



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 12 มกราคม 2551 08:45:50 »

อาการเขกของเครื่อง มีสองอย่าง
1. Ping
2. Knock
เพราะบ้านเราไม่ค่อยแยกแยะว่าแบบไหนคืออะไร ก็เลยเรียกรวมๆ กันว่า "เขก"

รวมๆ กันแล้วก็จะเป็นอาการคล้ายๆ กัน คือมีการระเบิดของส่วนผสมและเริ่มให้
"แรงดัน" ในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ก่อนลูกสูบจะขึ้นสุ่จุดสูงสุด (ควรเลยมาเล็กน้อย)
หรือ เริ่มมีการเผาไหม้ก่อนการยิงไฟจากหัวเทียนไปจุดระเบิด (อันนี้เกิดจากความร้อนสะสม)

ทั้งหมดนี้อาการที่รับรู้ได้คือจะมีเสียง แต่ถ้าระดับฟังได้ด้วยหูเปล่าในห้องโดยสาร อาการนี้หนัก
มากมีแววว่าจะเกิดความเสียหายได้เยอะเลย เพราะปกติ ที่เราไม่ได้ยิน ก็มีการเขกอยู่แล้ว
ซึ่งต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วยในการตรวจับ ระดับที่ว่าเครื่องที่คุณคิดว่าเดินเรียบแล้ว ยังคงมี
อยู่ประปรายชนิดต้องเอาเครื่องขยายเสียงไปฟังกันเลยทีเดียว

เสียงที่ได้ยิน ก้จะเป็นเสียงของโลหะกระทบกันครับ ถ้าคุณไม่รุ้ว่ามันเป็นไง เอาส้อม ครับ
กำแน่นๆ แล้วเคาะกัน เสียงมันจะประมาณนั้นเลย แต่ว่า ใสกว่า (เพราะตอนคุณจับด้วยมือ
มันจะทึบ ถ้าจับด้วยคีมแล้วเคาะมันจะกระเด็นเสียเลือดเสียเนื้อกัน)

การแก้ก็ไม่ใช่ว่าแก้กันได้แบบเสมอไป ต้องขึ้นกับสาเหตุครับ โดยมากเครื่อง NA ระดับ 4A-FE
จะเป็นเพราะการตั้งจานจ่ายไม่เหมาะสมกับชนิดของเชื้อเพลิง ก็พอแก้ไขกันได้ การตั้งเขี้ยวหัวเทียน
ก็มีผล

แต่การแก้ไขของเครื่องยนต์ที่ mod มาแล้วนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น การแก้แบบพื้นฐาน
ก็มักจะไม่ได้แก้อาการ การเขกของเครื่อง mod นั้นมาจากหลายอย่าง เช่น เชื้อเพลิงบาง ส่วนผสมไม่
ถูกต้อง ความร้อนสะสมมาก ไอดีร้อน ไอเสียไม่ระบาย จุดระเบิดผิดพลาด เชื้อเพลิงไม่สะอาดหรือไม่ได้
คุณภาพ ฯลฯ เยอะครับ การแก้ให้ถูกต้องจึงมีหลายทาง คงไม่ง่ายแค่การตั้งจานจ่ายหรือฉีดน้ำมันเพิ่มลูกเดียว

เสียงเขกควรให้ความสนใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายใหญหลวง คุณควรไวต่อการได้ยินครับ
มันเป็น "มะเร็ง" ของเครื่องยนต์ รุ้ก่อน ลดความเสียหายครับ ถ้าขับอย่างเดียวไม่ใส่ใจ มันก็จะ "ตาย" ในที่สุด
อาจจะแป๊บเดียวก็ได้ เพราะการเขกหนักๆ สำหรับเครื่องยนต์ Turbo ละก็ถ้ามีอะไรหัก ไม่กี่วินาทีอย่างอื่นจะตาม
มาและมันก้อาจจบลงจากการเริ่มได้ยินเพียงไม่กี่นาทีก็ได้

การเขก ทำให้ shaft ร่อนเพราะถุกกระแทก
การเขก ทำให้ แหวนอัด หักได้ เพราะมีแรงกระทำสองทาง
การเขก ทำให้ ก้านสูบ คดงอ และหักได้
การเขก ทำให้ สลักสูบ คลอนหรือว่า หลุดได้
การเขก ทำให้ ลูกสูบ เคลื่อนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ตบข้าง" ทำให้เสื้อสูบเป็นรอย
การเขก ทำให้ ลูกสูบ ทะลุได้
การเขก ทำให้ เสื้อเครื่องแตกเนื่องจากก้านสุบหักมาก่อน
การเขก ทำให้ คุณเสียเงินในที่สุด (ไม่ว่าอากรเล็กหรือว่ามาก)

สำหรับเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไปตั้งมาแล้วแม้ศุนย์ toyota ก็แก้ให้ไม่ได้นั้น ขอให้ตรวจสอบหน่อยว่า
เครื่องรุ่นนี้มี knock sensor หรือไม่ และถ้ามีมันเสียหรือเปล่า ทดลองเปลี่ยนเป็นตัวอื่นดูหน่อยครับ
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มากเลยครับ
บันทึกการเข้า
Tong KKT OBD
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 12 มกราคม 2551 09:01:36 »

ปกติแล้ว เวลาเราเดินคันเร่งหนัก  ๆ ECU มันจะ advance องศาจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งมรสัญญาณ Knock ส่งกลับมา มันจะค่อย ๆ ปรับลดลง ทีละ step ๆ  ตาม Amplitude ของการ Knock ที่ detect ได้ ซึ้งมันจะไวมาก เรายังไม่ทัน ได้ยินเสียงหรอก
 ECU มันจับได้แล้วว่ามีการ knock ซึ่งมันเป็นวิธีการ ทำให้เครื่องเรามันวิ่ง octene น้ำมันต่ำได้ไงครับ (ต่ำกว่าไม่มากเกินไปนะ เช่น 91)

แต่ที่ระบบปกติแล้วยัง knock ให้ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะว่า องศาจุดล่วงหน้าพื้นฐานที่สามารถตั้งได้จาก จานจ่ายนั้น ตั้งแก่มากไป
เพราะ สัญญาณ knock ลูแรกมันใหญ่เกินไป กว่าที่ ECU จะปรัะบลดองศาจุดระเบิด ได้ทัน เพราะมันต้องปรับทีละ step ก็จะเกิด การ knock แบบเบา ๆ ให้ได้ยินบ้าง แก้ไขด้วยการปรับลงองศาพื้นฐาน โดยให้ Timing light ซะก็น่าจะ OK

อีกแบบคือ ห้องเผาใหม่เปลี่ยนไป กำลังอัดมากขึ้น อาจจะมาจาก เขม่าเกาะที่หัวสูบ ฝาสูบ หรือวาล์ว หรือ ประกายไฟจุดระเบิด จากหัวเทียนไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดการ knock ที่ ECU ไม่สามารถควบคุมได้่ครับ

กรณีของ จขกท. เอารถไป 0 Toyota ให้เขาตั้งให้ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ ทั้ง ๆ ที่รถรุ่นนี้ ก็เติม 91 วิ่งกันทั้งเมือง แต่ไหนแต่ไร
มันแสดงถึงระดับความรับผิดชอบ ของ 0 ที่มีและทักษะในการให้บริการได้เลยครับ ...








บันทึกการเข้า
bay
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 มกราคม 2551 21:24:42 »

ปกติแล้ว เวลาเราเดินคันเร่งหนัก  ๆ ECU มันจะ advance องศาจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งมรสัญญาณ Knock ส่งกลับมา มันจะค่อย ๆ ปรับลดลง ทีละ step ๆ  ตาม Amplitude ของการ Knock ที่ detect ได้ ซึ้งมันจะไวมาก เรายังไม่ทัน ได้ยินเสียงหรอก
 ECU มันจับได้แล้วว่ามีการ knock ซึ่งมันเป็นวิธีการ ทำให้เครื่องเรามันวิ่ง octene น้ำมันต่ำได้ไงครับ (ต่ำกว่าไม่มากเกินไปนะ เช่น 91)

แต่ที่ระบบปกติแล้วยัง knock ให้ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะว่า องศาจุดล่วงหน้าพื้นฐานที่สามารถตั้งได้จาก จานจ่ายนั้น ตั้งแก่มากไป
เพราะ สัญญาณ knock ลูแรกมันใหญ่เกินไป กว่าที่ ECU จะปรัะบลดองศาจุดระเบิด ได้ทัน เพราะมันต้องปรับทีละ step ก็จะเกิด การ knock แบบเบา ๆ ให้ได้ยินบ้าง แก้ไขด้วยการปรับลงองศาพื้นฐาน โดยให้ Timing light ซะก็น่าจะ OK

อีกแบบคือ ห้องเผาใหม่เปลี่ยนไป กำลังอัดมากขึ้น อาจจะมาจาก เขม่าเกาะที่หัวสูบ ฝาสูบ หรือวาล์ว หรือ ประกายไฟจุดระเบิด จากหัวเทียนไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดการ knock ที่ ECU ไม่สามารถควบคุมได้่ครับ

กรณีของ จขกท. เอารถไป 0 Toyota ให้เขาตั้งให้ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ ทั้ง ๆ ที่รถรุ่นนี้ ก็เติม 91 วิ่งกันทั้งเมือง แต่ไหนแต่ไร
มันแสดงถึงระดับความรับผิดชอบ ของ 0 ที่มีและทักษะในการให้บริการได้เลยครับ ...










ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ...แต่ขอออกตัวก่อน  ผมม่ายช่ายเจ้าของกระทู้ครับ  เพียงแต่เขกเหมือนกัน เลยเข้ามาร่วมถามด้วยครับ (เดี๋ยวเจ้าของกระทู้งอนผมเอา)
บันทึกการเข้า
^ooMilkZaoo^
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 35


รถไม่แรง..อย่าแซงทางโค้ง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 14 มกราคม 2551 15:43:24 »

ผมไม่งอนหรอกครับ..ดีแล้วครับจะไปเป็นความรู้ใหม่ๆของผม..และเพื่อนๆ..พี่ๆกันต่อไป
บันทึกการเข้า

^o^  ^o^
     ooo
rkimoto
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,236


92 myfriends


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 14 มกราคม 2551 15:56:50 »

 
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!