AE. Racing Club
18 พฤศจิกายน 2024 11:07:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามความรู้เกี่ยวกับรถครับ . . .  (อ่าน 2200 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
gundam
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 15:54:43 »

คือว่า ผมไม่มีความรู้เรื่องรถเลยครับ แบบว่าขับเป็นอย่างเดียว

ก็เลยอยากได้ความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของรถอ่ะครับ ไ่ม่ทราบว่า มีท่านผู้ใดจะให้ความรู้ได้บ้าง หรือผมจะหาข้อมูลได้จากทีไหน ( ขอแบบละเอียดนะครับ)

ความรู้ขอแบบตั้งแต่พื้นฐานเลยนะครับ ที่เอาไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

1.ส่วนประกอบต่างๆ ของรถ

2.ส่วนประกอบต่างๆ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง

3.วิธีตรวจเช็ค สภาพของส่วนประกอบ อุปกรณ์ต่างๆ ของรถ ด้วยตนเอง

ขอบคุณล่วงหน้าครับ
บันทึกการเข้า
Aj.Moo
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,899



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 16:05:36 »

ข้อมูลตัวอย่าง


การตรวจเช็ครถเบื้องต้น ด้วยตัวเอง

« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 09:42:03 AM »




--------------------------------------------------------------------------------

การบำรุงรักษารถด้วยตนเองที่นำเสนอนี้ เป็นแนวทางทั่วๆไป อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งที่นำเสนอนี้ต่างไปจากหนังสือคู่มือรถ ก็ขอให้ยึดถือข้อมูลในหนังสือคู่มือเป็นหลัก รายการที่ควรตรวจเช็ค

        1. น้ำหล่อเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็คในขณะที่ดับเครื่อง และเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมากก็อาจจะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป)

        2. ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับเครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้า เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม
ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เครื่องอยู่ระหว่าง " F " กับ " L " แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ

ข้อควรระวัง
   - หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
   - ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติมน้ำมันเครื่องลงไป

        3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVELและไม่ควรเติมเกินกว่าระดับ UPPER/LEVEL เพราะถ้าเติมมากเกินไป น้ำยาอิเลคโทรไลท์ซึ่งเป็นสารละลายกรดซัลฟูริค จะเจือจางทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงนอกจากนี้ น้ำยาอิเลคโทรไลท์อาจจะกระเด็นออกทางรูระบายไอ และไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ได้
ข้อควรระวัง
              - ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
              - ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวกและลบขันแน่น
              - แบตเตอรี่ยึดแน่นกับฐานที่ตั้ง

        4. ระดับน้ำมันเบรค ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรคมีคำว่าMAX และ MINระดับน้ำมันเบรคควรอยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได ้ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรคลดลงต่ำลงมี 2 ข้อ คือ
              - มีการรั่วของน้ำมันเบรคออกจากระบบเบรค
              - การสึกหรอของผ้าเบรค ซึ่งระดับน้ำมันเบรคจะลดลงน้อยและช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรค
         ถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรคลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คสาเหตุ

        5. ระดับน้ำมันคลัทช์ ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับน้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุ

        6. ระดับน้ำมันเกียร์ AUTO ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็คน้ำมันเกียร์ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัดน้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมา อีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่า ระดับน้ำมันเกียร์ปกติ

        7. ตรวจเช็คระดับน้ำมัน POWER ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุก น้ำมันPOWER จะติดอยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้านวัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้านถ้าวัดตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน HOT ถ้าเป็นรุ่นใหม่ให้ดูที่กระปุกน้ำมันPOWERจะเป็นพลาสติกใส ที่กระปุกจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ ถ้าดูตอนเครื่องยนต์ เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอนเครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
 
        8. ตรวจเช็คสภาพของสายพาน โดยวิธีการมองดูที่สายพาน ถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้นควรทำการเปลี่ยน แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ก็ควรตรวจดูความตึงของสายพานด้วย โดยการใช้นิ้ว กดลงบนสายพานตรงกลางระหว่างมู่เล่สองข้างถ้าสามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม.ก็น่าจะพอใช้
ได้ (ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างตรวจสอบเพราะการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ผู้ตรวจต้องมีความชำนาญพอสมควร)

        9. ตรวจเช็คสภาพภายในห้องเครื่อง โดยวิธีการมองดูรอบๆภายในห้องเครื่อง ให้สังเกตดูว่า มีอะไร ผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำมีคราบน้ำซึมหรือไม่ สายไฟภายในห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือไม่ มีหนูขึ้นมากัดหรือไม่ มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น

        10. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ เปิดไฟทั้งหมดดูว่าทำงานตามปกติหรือไม่ มีหลอดไหนไม่ติดหรือไม่ ถ้าพบว่ามีไฟหลอดไหนไม่ติดควรเปลี่ยนให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ค

        11. ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ก็อาจมีการเสื่อมสภาพซึ่งเนื่องมาจากสาเหตุเหล่านี้
             - ผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอ จากการทำงานปกติของใบปัด
             - มีสิ่งสกปรก และหินทรายละเอียดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกหรอ
             - เมื่อใบปัดน้ำฝนผ่านการใช้งานนานๆ ยางใบปัดน้ำฝนจะแข็งตัว การยืดหยุ่นจะลดลงและความ บกพร่องในการปัดจะเกิดขึ้น เนื่องจากหน้าสัมผัสระหว่างยางใบปัดกับกระจกไม่ดี รวมทั้งอาจเกิดจากใบปัดน้ำฝนเกิดอาการสั่นเต้น หรืออาการอื่นๆถ้าพบอาการเหล่านี้ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่

        12. ตรวจเช็คยาง ควรเช็คแรงดันลมยางอยู่เสมอๆ โดยใช้ความดันลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนด และควรเช็คขณะที่รถยังไม่ได้ใช้งาน( ยางยังไม่ร้อน ) ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติควรนำไปตรวจสอบว่า มีตะปูตำหรือไม่ ดูสภาพยางด้วยตาดูที่ผิวยางมีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่ ดูการสึกหรอของดอกยาง กล่าวคือ ดอกยางสึกมากไปหรือยัง หรือมีการสึกหรอผิดปกติ เช่น ลึกเฉพาะตรงกลางหน้ายาง (เติมลมมากเกินไป)สึกเฉพาะขอบยางทั้ง 2 ข้าง(ลมยางอ่อนเกินไป) หรือสึกด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ ซึ่งกรณีเหล่านี้ควรปรึกษา ช่าง เพราะควรจะมีการตรวจเช็คช่วงล่าง และศูนย์ล้อ เอาเล็บมือกดดูที่เนื้อยางว่า นิ่ม หรือ แข็ง ถ้ายาง หมดสภาพ เนื้อยางจะกดไม่ลงจะแข็งมาก

การบำรุงรักษารถด้วยตนเองที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ควรทำบ่อยแค่ไหน ?
        คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับรถของท่านว่า ใหม่หรือเก่า มีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าเป็นรถใหม่ๆทำอาทิตย์ละครั้งก็มากพอแล้วแต่ถ้าเป็นรถเก่าสภาพไม่ดีนักก็อาจต้องทำทุกวันคำแนะนำ
        ข้อควรระวังในการบำรุงรักษารถด้วยตัวของท่านเอง ถ้าท่านทำการบำรุงรักษารถด้วยตัวท่านเอง, ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่า ได้ปฏิบัติตามข้อควรระวังที่ให้ไว้ในส่วนนี้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
        คำแนะนำในส่วนนี้ใช้เฉพาะในการบำรุงรักษารถ เฉพาะส่วนที่บำรุงรักษาง่าย ๆ การทำงานใด ๆเกี่ยวกับรถยนต์ของท่านควรจะใช้ความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นตามคำแนะนำ หรือคำเตือนดังต่อไปนี้

คำเตือน :
             - ขณะเครื่องยนต์กำลังทำงาน ระวังอย่าให้มือ , เสื้อผ้า และเครื่องมือต่างๆเข้าใกล้ใบพัด และสายพานขับเครื่องยนต์ ( ควรถอดแหวน , นาฬิกา และเนคไท ออกก่อนทำการตรวจซ่อม )
             - หลังจากใช้รถให้ระวังอย่าสัมผัสกับเครื่องยนต์ , หม้อน้ำ และท่อไอเสีย เนื่องจากความร้อนของสิ่งเหล่านี้
             - อย่าสูบบุหรี่ ใกล้น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากไอน้ำมันเชื้อเพลิงจะไวไฟมาก
             - ให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำกรด และไอน้ำกรดจากแบตเตอรี่ เมื่อทำงานอยู่กับแบตเตอรี่
             - อย่าเข้าใต้ท้องรถโดยมีเพียงแม่แรงรองรับเท่านั้น ควรใช้ขาตั้งรองรับเสียก่อน
             - ใช้อุปกรณ์ป้องกันตาขณะทำงานในที่ที่อาจมีของตก มีการพ่นหรือละอองของเหลวกระเด็นออกมาไม่ว่าจะอยู่บนหรือใต้รถก็ตาม
             - ควรระมัดระวังเมื่อมีการเติมน้ำมันเบรค เนื่องจากน้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อตาของท่านและทำลายสีรถได้ ถ้าน้ำมันเบรคกระเด็นเข้าตาหรือโดนสีรถให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดโดยทันที

    ข้อควรระวัง 

             - จำไว้ว่าสายจากแบตเตอรี่และสายไฟจุดระเบิด มีกระแสหรือแรงดันไฟสูงมากจะต้องระมัดระวังอย่าให้เกิดการลัดวงจร
             - ก่อนปิดกระโปรงหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่ลืมเครื่อมืออุปกรณ์ต่างๆ ไว ้
             - ถ้าท่านทำน้ำมันต่างๆ หกรดโดนชิ้นส่วนต่างๆ ให้รีบล้างออกโดยน้ำสะอาดเพื่อป้องกันชิ้นส่วน หรือสีเสียหาย
             - อย่าเติมน้ำมันเกียร์อัตโนมัติมากเกิน มิฉะนั้นระบบเกียร์อาจเสียหายได้
             - อย่าเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์มากเกิน มิฉะนั้นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์อาจจะเสียหายได้

ที่นี่สามารถช่วยตอบคำถามทุกอย่างได้ครับ

www.google.co.th ครับผม
บันทึกการเข้า
Mart AE100 ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,573


4e bo ...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 16:08:58 »

น้าหมูละเอียดมาก สมกับที่เค้าเรียกอาจารย์ ...

บันทึกการเข้า

Jub@92GTI
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,836


เบอร์สนทนา081-651-3810


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 16:18:37 »

หาคู่มือประจำรถ ที่ต้องการถ่ายเก็บไว้ครับ ช่วยได้มากเลย

มีเกือบทุกอย่าง ที่ผู้ใช้รถควรรู้ ครับ

ลองขอดูในนี้ก็ได้  เผื่อไกล้ ใครก็ไปยืมถ่ายเก็บไว้ ครับ
บันทึกการเข้า

Toyota  Honda ใส่เบรควัน ส/อ รับแค่ วันละสองคัน โปรดนัดคิวล่วงหน้า และมีชุดเบรคแปลงเสร็จพร้อมส่ง ตจว.ใส่เองได้ โทรเช็คของก่อนนะครับ
คุยเรื่องเบรคมาเลยครับที่นี่  http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=86532
เรื่องสตรัทโช้คท่อ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=96595
eagle44z
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,074



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 16:42:59 »

 เหวอ
บันทึกการเข้า
keng110 >SZ<
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,732


20V inside


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 19:47:17 »

คู่มือประจำรถไปโหลดได้ที่หน้าบทความเลยครับ
น้านิวจัดให้ สุดยอด
บันทึกการเข้า

มีงานให้กลุ้ม ดีกว่ากลุ้มเพราะไม่มีงาน
THanasak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,863


อิอิ...ลายไม้..ทำเอง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012 20:08:47 »

ผมไม่ได้ว่า จขกท.นะ เรื่องพวกนี้ถ้ามีทักษะบ้างคงไม่ยากครับ แต่ถ้าไม่มีเลยผมว่าสิ่งที่เราควรรู้
น่าจะเป็นเรื่องการใช้งานอย่างถูกต้อง การบำรุงรักษาพื้นฐาน การเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะที่เหมาะสม
มีความเข้าใจและช่างสังเกตุกรณ๊ที่รถเรามีอาการแปลกจากปกติ บางเรื่องหาความรู้จากในเวป(เรา)ก็พอแก้ไข
เบื้องต้นได้ แต่บางอย่างอาจจะต้องยอมเสียเงินให้ช่างบ้างครับ
ดูตัวอย่างที่อาจารย์หมูยกมานี่แค่ดูแลเบื้องต้นแค่นั้นนะครับ เรื่องบางเรื่องก็มาจากประสบการณ์ไม่มีในคู่มือหรอกครับ
ยกตัวอย่าง คุณที่ไว้ผมยาว ไม่ควรก้มหน้าดูเครื่องยนต์ขณะติดเครื่องหากจะเป็นควรหาหมวกหรือผ้าโพกศีรษะไว้
เพราะหากสายพานดึงผมเราเข้าไป...ไม่รอดครับ
บันทึกการเข้า
EmMeT
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 524



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2012 17:46:36 »

เห็นมัยครับมีน้าๆๆ มาตอบแล้วต้องถามห้องนี้ครับ ให้ถูกห้องคราบบ ส่วนการดูแล และความรู้ ตามน้าด้านบนเลยจร้า
บันทึกการเข้า
ATEE90 <® Zone>
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 401



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2012 19:46:22 »

ซื้อตำราพวกเด็กเรียนช่างยนต์ เลยมั้ยครับ ละเอียดยิบเลย
บันทึกการเข้า

EE90 เครื่องกากๆ
jeabb_26
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 619


พิทักษ์แดนใต้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2012 20:01:34 »

ข้อมูลตัวอย่าง


การตรวจเช็ครถเบื้องต้น ด้วยตัวเอง

&laquo; เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 09:42:03 AM &raquo;




--------------------------------------------------------------------------------

การบำรุงรักษารถด้วยตนเองที่นำเสนอนี้ เป็นแนวทางทั่วๆไป อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งที่นำเสนอนี้ต่างไปจากหนังสือคู่มือรถ ก็ขอให้ยึดถือข้อมูลในหนังสือคู่มือเป็นหลัก รายการที่ควรตรวจเช็ค

        1. น้ำหล่อเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็คในขณะที่ดับเครื่อง และเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมากก็อาจจะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป)

        2. ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับเครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้า เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม
ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เครื่องอยู่ระหว่าง " F " กับ " L " แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ

ข้อควรระวัง
   - หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
   - ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติมน้ำมันเครื่องลงไป

        3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVELและไม่ควรเติมเกินกว่าระดับ UPPER/LEVEL เพราะถ้าเติมมากเกินไป น้ำยาอิเลคโทรไลท์ซึ่งเป็นสารละลายกรดซัลฟูริค จะเจือจางทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงนอกจากนี้ น้ำยาอิเลคโทรไลท์อาจจะกระเด็นออกทางรูระบายไอ และไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ได้
ข้อควรระวัง
              - ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
              - ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวกและลบขันแน่น
              - แบตเตอรี่ยึดแน่นกับฐานที่ตั้ง

        4. ระดับน้ำมันเบรค ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรคมีคำว่าMAX และ MINระดับน้ำมันเบรคควรอยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได ้ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรคลดลงต่ำลงมี 2 ข้อ คือ
              - มีการรั่วของน้ำมันเบรคออกจากระบบเบรค
              - การสึกหรอของผ้าเบรค ซึ่งระดับน้ำมันเบรคจะลดลงน้อยและช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรค
         ถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรคลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คสาเหตุ

        5. ระดับน้ำมันคลัทช์ ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับน้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุ

        6. ระดับน้ำมันเกียร์ AUTO ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็คน้ำมันเกียร์ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัดน้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมา อีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่า ระดับน้ำมันเกียร์ปกติ

        7. ตรวจเช็คระดับน้ำมัน POWER ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุก น้ำมันPOWER จะติดอยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้านวัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้านถ้าวัดตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน HOT ถ้าเป็นรุ่นใหม่ให้ดูที่กระปุกน้ำมันPOWERจะเป็นพลาสติกใส ที่กระปุกจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ ถ้าดูตอนเครื่องยนต์ เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอนเครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
 
        8. ตรวจเช็คสภาพของสายพาน โดยวิธีการมองดูที่สายพาน ถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้นควรทำการเปลี่ยน แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ก็ควรตรวจดูความตึงของสายพานด้วย โดยการใช้นิ้ว กดลงบนสายพานตรงกลางระหว่างมู่เล่สองข้างถ้าสามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม.ก็น่าจะพอใช้
ได้ (ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างตรวจสอบเพราะการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ผู้ตรวจต้องมีความชำนาญพอสมควร)

        9. ตรวจเช็คสภาพภายในห้องเครื่อง โดยวิธีการมองดูรอบๆภายในห้องเครื่อง ให้สังเกตดูว่า มีอะไร ผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำมีคราบน้ำซึมหรือไม่ สายไฟภายในห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือไม่ มีหนูขึ้นมากัดหรือไม่ มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น

        10. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ เปิดไฟทั้งหมดดูว่าทำงานตามปกติหรือไม่ มีหลอดไหนไม่ติดหรือไม่ ถ้าพบว่ามีไฟหลอดไหนไม่ติดควรเปลี่ยนให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ค

        11. ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ก็อาจมีการเสื่อมสภาพซึ่งเนื่องมาจากสาเหตุเหล่านี้
             - ผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอ จากการทำงานปกติของใบปัด
             - มีสิ่งสกปรก และหินทรายละเอียดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกหรอ
             - เมื่อใบปัดน้ำฝนผ่านการใช้งานนานๆ ยางใบปัดน้ำฝนจะแข็งตัว การยืดหยุ่นจะลดลงและความ บกพร่องในการปัดจะเกิดขึ้น เนื่องจากหน้าสัมผัสระหว่างยางใบปัดกับกระจกไม่ดี รวมทั้งอาจเกิดจากใบปัดน้ำฝนเกิดอาการสั่นเต้น หรืออาการอื่นๆถ้าพบอาการเหล่านี้ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่

        12. ตรวจเช็คยาง ควรเช็คแรงดันลมยางอยู่เสมอๆ โดยใช้ความดันลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนด และควรเช็คขณะที่รถยังไม่ได้ใช้งาน( ยางยังไม่ร้อน ) ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติควรนำไปตรวจสอบว่า มีตะปูตำหรือไม่ ดูสภาพยางด้วยตาดูที่ผิวยางมีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่ ดูการสึกหรอของดอกยาง กล่าวคือ ดอกยางสึกมากไปหรือยัง หรือมีการสึกหรอผิดปกติ เช่น ลึกเฉพาะตรงกลางหน้ายาง (เติมลมมากเกินไป)สึกเฉพาะขอบยางทั้ง 2 ข้าง(ลมยางอ่อนเกินไป) หรือสึกด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ ซึ่งกรณีเหล่านี้ควรปรึกษา ช่าง เพราะควรจะมีการตรวจเช็คช่วงล่าง และศูนย์ล้อ เอาเล็บมือกดดูที่เนื้อยางว่า นิ่ม หรือ แข็ง ถ้ายาง หมดสภาพ เนื้อยางจะกดไม่ลงจะแข็งมาก

การบำรุงรักษารถด้วยตนเองที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ควรทำบ่อยแค่ไหน ?
        คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับรถของท่านว่า ใหม่หรือเก่า มีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าเป็นรถใหม่ๆทำอาทิตย์ละครั้งก็มากพอแล้วแต่ถ้าเป็นรถเก่าสภาพไม่ดีนักก็อาจต้องทำทุกวันคำแนะนำ
        ข้อควรระวังในการบำรุงรักษารถด้วยตัวของท่านเอง ถ้าท่านทำการบำรุงรักษารถด้วยตัวท่านเอง, ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่า ได้ปฏิบัติตามข้อควรระวังที่ให้ไว้ในส่วนนี้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
        คำแนะนำในส่วนนี้ใช้เฉพาะในการบำรุงรักษารถ เฉพาะส่วนที่บำรุงรักษาง่าย ๆ การทำงานใด ๆเกี่ยวกับรถยนต์ของท่านควรจะใช้ความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นตามคำแนะนำ หรือคำเตือนดังต่อไปนี้

คำเตือน :
             - ขณะเครื่องยนต์กำลังทำงาน ระวังอย่าให้มือ , เสื้อผ้า และเครื่องมือต่างๆเข้าใกล้ใบพัด และสายพานขับเครื่องยนต์ ( ควรถอดแหวน , นาฬิกา และเนคไท ออกก่อนทำการตรวจซ่อม )
             - หลังจากใช้รถให้ระวังอย่าสัมผัสกับเครื่องยนต์ , หม้อน้ำ และท่อไอเสีย เนื่องจากความร้อนของสิ่งเหล่านี้
             - อย่าสูบบุหรี่ ใกล้น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากไอน้ำมันเชื้อเพลิงจะไวไฟมาก
             - ให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำกรด และไอน้ำกรดจากแบตเตอรี่ เมื่อทำงานอยู่กับแบตเตอรี่
             - อย่าเข้าใต้ท้องรถโดยมีเพียงแม่แรงรองรับเท่านั้น ควรใช้ขาตั้งรองรับเสียก่อน
             - ใช้อุปกรณ์ป้องกันตาขณะทำงานในที่ที่อาจมีของตก มีการพ่นหรือละอองของเหลวกระเด็นออกมาไม่ว่าจะอยู่บนหรือใต้รถก็ตาม
             - ควรระมัดระวังเมื่อมีการเติมน้ำมันเบรค เนื่องจากน้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อตาของท่านและทำลายสีรถได้ ถ้าน้ำมันเบรคกระเด็นเข้าตาหรือโดนสีรถให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดโดยทันที

    ข้อควรระวัง 

             - จำไว้ว่าสายจากแบตเตอรี่และสายไฟจุดระเบิด มีกระแสหรือแรงดันไฟสูงมากจะต้องระมัดระวังอย่าให้เกิดการลัดวงจร
             - ก่อนปิดกระโปรงหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่ลืมเครื่อมืออุปกรณ์ต่างๆ ไว ้
             - ถ้าท่านทำน้ำมันต่างๆ หกรดโดนชิ้นส่วนต่างๆ ให้รีบล้างออกโดยน้ำสะอาดเพื่อป้องกันชิ้นส่วน หรือสีเสียหาย
             - อย่าเติมน้ำมันเกียร์อัตโนมัติมากเกิน มิฉะนั้นระบบเกียร์อาจเสียหายได้
             - อย่าเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์มากเกิน มิฉะนั้นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์อาจจะเสียหายได้

ที่นี่สามารถช่วยตอบคำถามทุกอย่างได้ครับ

www.google.co.th ครับผม

สุดยอด ตรบมือ
บันทึกการเข้า

THanasak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,863


อิอิ...ลายไม้..ทำเอง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2012 22:23:29 »

เอาใจช่วย จบกท.นะอย่าเพิ่งท้อครับ พวกพี่ๆในนี้บางคนก็ตอบแรงครับแต่ผมว่าได้ข้อมูลที่ดีครับ
บันทึกการเข้า
gundam
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 13:04:08 »

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ
บันทึกการเข้า
smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 13:08:58 »

ผมก็เข้ามาแบบไม่เป็นเลย ตอนนี้ก็ยังไม่เป็นหมดครับ แต่พอเอาตัวรอดได้แล้ว เช่่น พวก แบต ไฟสัญญาณ ของจุกจิกๆ รอบคันชุดนี้ก็ใส่เองนะ ติดสติกเกอร์เองด้วย
บันทึกการเข้า

Bangyai01
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 912


อย่ามาจี้ตรูดเขานะเด๋วกดไฟเบรคให้ทิ่มตาบอดซะเลยนิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 14:26:00 »

ถ้าเบื้องต้นก็แบบน้าๆท่านบนบอกครับ ทำรถก็เหมือนผู้หญิงแต่งตัวกว่าจะออกบ้านได้แม่มล่อไปชั่วโมงครึ่งแต่ก็นะความสุขใครความสุขมัน งั้นวันนี้ขอนำเสนอ ภาพLaout ของเครื่อง 4AFE จุดของเซนเซอร์ต่างๆ และเวลาเครื่องยนต์มีปัญหาก็สามารถตรวจเช็คจาก error code ecu ได้ไม่ต้องเปลี่ยนมั่วๆแบบช่างข้างทาง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 ธันวาคม 2012 14:41:32 โดย Bangyai01 » บันทึกการเข้า
Bangyai01
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 912


อย่ามาจี้ตรูดเขานะเด๋วกดไฟเบรคให้ทิ่มตาบอดซะเลยนิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 14:31:48 »

ค่อยๆเรียนรู้กันไปครับ ถ้าใจรักซะอย่างอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะมนุษย์เกิดมาไม่ได้เก่งจากท้องพ่อท้องแม่ต้องเรียนรู้และฝึกหัด สู้เว้ย Laout ระบบเบรค เอาไว้รื้อเปลี่ยนผ้าเบรคด้วยตัวเอง ประแจเบอร์สิบสอง แม่แรง ประแจถอดล้อ ก็ทำเองได้แล้วครับ
บันทึกการเข้า
Bangyai01
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 912


อย่ามาจี้ตรูดเขานะเด๋วกดไฟเบรคให้ทิ่มตาบอดซะเลยนิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 14:33:55 »

ถ้าอยากได้แบบละเอียดยิบ ทิ้งอีแมวไว้ครับเดี๋ยวจัดให้จ้า หลักๆก็ไม่มีอะไรมาก น้ำมัน ไฟ อากาศ สิ่งที่สำคัญก็คือ ตาดูหูฟังจมูกดมกลิ่นเอ๊ะเกี่ยวกันไหมเนี่ย อิอิ ดูคดีเด็ดต่อดีก่า กิกิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 ธันวาคม 2012 14:49:00 โดย Bangyai01 » บันทึกการเข้า
taidin
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148



ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 22:44:06 »

เข้าอู่บ่อยๆครับ....อ้าว ม่ายใช่  เข้ามาในเว็ปนี้ แล้วหาอ่านไปทุกวัน บวกกับ สังเกตุที่รถตัวเองทุกวัน รู้จักส่วนประกอบ ต่างๆ หน้าที่ของอะไหล่แต่ละตัว ชื่ออะไหล่แต่ละตัว การบำรุงรักษา ถามใถ่เพื่อน พ้อง น้อง พี่ในเว็ป การ D.i Y ต่างๆ เดี๋ยวเก่งครับ เว็ปนี้มีเซียนหลายคนครับ
บันทึกการเข้า
N@MIN
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,562


ได้แค่ไหน...เอาแค่นั้น


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2012 22:51:53 »

เข้าอู่บ่อยๆครับ....อ้าว ม่ายใช่  เข้ามาในเว็ปนี้ แล้วหาอ่านไปทุกวัน บวกกับ สังเกตุที่รถตัวเองทุกวัน รู้จักส่วนประกอบ ต่างๆ หน้าที่ของอะไหล่แต่ละตัว ชื่ออะไหล่แต่ละตัว การบำรุงรักษา ถามใถ่เพื่อน พ้อง น้อง พี่ในเว็ป การ D.i Y ต่างๆ เดี๋ยวเก่งครับ เว็ปนี้มีเซียนหลายคนครับ
จริงๆเข้าอู่บ่อยๆเป็นไวสุด ฮ่าๆ
บันทึกการเข้า

กำลังตั้งชื่อ
Zest Up
ขายของนิดหน่อยครับ
Autorun.inf
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 497


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2012 19:37:46 »

เข้าอู่บ่อยๆครับ....อ้าว ม่ายใช่  เข้ามาในเว็ปนี้ แล้วหาอ่านไปทุกวัน บวกกับ สังเกตุที่รถตัวเองทุกวัน รู้จักส่วนประกอบ ต่างๆ หน้าที่ของอะไหล่แต่ละตัว ชื่ออะไหล่แต่ละตัว การบำรุงรักษา ถามใถ่เพื่อน พ้อง น้อง พี่ในเว็ป การ D.i Y ต่างๆ เดี๋ยวเก่งครับ เว็ปนี้มีเซียนหลายคนครับ
สุดยอด ตามนี้เลยคับ ขยันอ่านบ่อยๆ
บันทึกการเข้า

ตอนนี้อย่าพึ่งรีบซิ่ง เอาเครื่องให้นิ่งก่อน
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!