-- อยากเปลี่ยนทุกปีเหมือกันครับ แต่ช่างบอกว่ายังใสอยู่ครับพี่ ผมคิดเองนะว่าเปลี่ยนน้ำมันเบรค+คลัช เป็นงานที่เสียเวลา
คิดค่าแรงมากก็ไม่ได้ ช่างก็ไม่ค่อยอยากทำ
-- ใครอยู่ชะอำมีอู่รับถ่ายน้ำมันเบรค+คลัชบอกด้วยนะ
ใสแต่อาจมีความชื้น
นม.เบรค ควรเปลี่ยนอย่างน้อย เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมเปลี่ยนทุกปี ก่อนปีใหม่ ซักเดือนครึ่งเดือน
เมื่อก่อนใช้ดอท3 ยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ร้านเขาขาย ส่วนใหญ่ก็เชล
แต่ตอนนี้ใช้ATE DOT 4 มาตลอดครับ (0.5L 180 บาท)
น้ำมันเบรค มองด้วยตา ดูสี ช่ายครับไม่รู้หรอกว่า ความชื้นปนในเนื้อ เท่าไหร่
ต้องใช้อุปกรณ์ตรวจวัด เท่านั้น
ใครอยากรู่้ ผมวัดให้ได้ ฟรีๆ ครับ
มีเครื่องมือ แล้วก็อยากใช้ให้เป็นประโยชน์
ส่วนเรื่อง dot อื่นๆ ก็ลองพิจารณาดู ว่าจำเป็นหรือไม่นะ
(ไปก๊อปเค้ามาขีเกียจพิมพ์)
DOT 5 นั้นเป็น Silicone base ซึ่งนอกจากจะ compress ได้ ทำให้รู้สึก"ยวบๆ"แล้ว คุณสมบัติอีกกย่างคือจะไม่ผสมกับน้ำ
ฟังดูดีแต่ถ้ามีน้ำในระบบ(หรือความชื้นเกิน 3%) แล้วน้ำมันเบรคร้อนถึงจุดเดือด น้ำในระบบจะกลายสภาพเป็นไอน้ำ
และเนื่องจากระบบเบรคนั้นเป็นระบบปิด ไอน้ำนั้นจะทำให้เกิดความดันในระบบ ทำให้เบรคติดหรือเลียจานได้
DOT 3, 4, 5.1 นั้นเป็น Glycol base แตกต่างกันที่จุดเดือด แต่จุดเดือดที่ว่านั้นมีสองอย่างคือ Dry boiling point (จุดเดือดเมื่อไม่มีความชื้น)
และ Wet boiling point (จุดเดือดที่มความชื้นมากกว่า 3%) สำหรับรถแข่งซึ่งเปลี่ยนน้ำมันเบรคกันเป็นว่าเล่น จะสนใจ Dry boiling point เพราะไม่เคยมีความชื้นในระบบ
ถ้ารถใช้บนถนนประจำวัน ต้องสนใจ Wet boiling point เพราะมีความชื้นในระบบประจำ
รถบ้านนั้น นานๆจะเจอปัญหาน้ำมันเบรคเดือดซักครั้งในชีวิต ยกเว้นว่าชอบใช้เบรคกันหนักๆ
ซึ่งบอกตรงๆว่าหาคนใช้เบรคหนักๆขนาดน้ำมันเบรคเดือดนั้นยากกว่างมเข็มในมหาสมุด มหาดินสอ มหายางลบ อีก