ผมว่าไม่มีใครผลิตเท่าที่จองหรอกครับ ถ้ายอดจอง 50,000 คันแล้วผลิตแค่นั้น แย่เลยครับเขาต้องมียอดผลิตขั้นต่ำอยู่แล้ว จากการประเมิณตลาดส่วนนึงครับ ขายช้าก็เพิ่มโปร ตกแต่งเพิ่ม ไมเนอเชน เปลี่ยนแม็ก ใส่ชุดแต่งก็แค่นั้น แต่ถ้ามีพวกทิ้งใบจอง อันนั้นอยู่ในส่วนที่เขาต้องประเมิณไว้แล้วทั้งนั้นครับ ยังไงๆเขาก็จะผลิตขั้นต่ำมาอยู่แล้ว เนื่องจากไม่ได้ขายแค่ในประเทศครับ เช่น .... การประเมิณขั้นแรก ให้ผลิต 50,000 คัน แต่พอเปิดตัวยอดไม่เดินเท่าทีควร อาจจะมีโปรแถมของ แถมประกัน ส่วนลดพิเศษ มากระตุ้นให้เดินตามเป้า แบบนี้แระครับ ถ้ามันเดินช้าจริงๆ ก็ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง แค่นั้น ส่วนรถที่เหลือล็อตสุดท้ายแบบ VIOS YARIS พวกนี้ก็ต้องลดราคาเนื่องจาก เปิดตัวรถใหม่ไปแล้ว เพราะดื้อเกินไป ประเมิณผิดพลาดก็ต้องทำใจ เพราะผมไม่เชื่อว่า เหลือเพราะผลิตเยอะเกินหรือถูกทิ้งใบจองครับ น่าจะเกิดจากการประเมินว่ายังขายสู้รถรุ่นใหม่ๆของคู่แข่งได้ จึงยังผลิตอยู่ จึงต้องมาลดราคาแบบนี้ แต่กระตุ้นยังไงก็เดินช้าเพราะ คนส่วนใหญ่รู้ว่าจะมีรุ่นใหม่ที่ดีกว่ามากๆรอเปิดตัวอยู่ แค่นั้นเองครับ ครับ อันนั้นก็อีกส่วนครับ แต่การผลิตรถรุ่นนึงเขาใช้วิธีแชร์แพลทฟอร์มกับรุ่นอื่นจนคุ้มที่สุดครับ เพราะnow how เป็นอะไรที่แพงมากครับ การออกรถหนึ่งเซกเมนต์ อาจใช้ชิ้นส่วนกับรถอีกคนละประเภทเลยใด้ด้วยครับ และยังทำอย่างนี้กับอีกหลายรุ่นในค่าย ดังนั้น การออกรุ่นรถหนึ่งรุ่น จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สามารถผลิตออกมาโดยอิงจำนวนจากยอดจองใด้ และสามารถทำตลาดทั้งในแลถต่างประเทศใด้ครับ
แก้นิดนึง ที่ถูกต้อง เรียกว่า Know how ครับผม
รถหลาย ๆ รุ่น ก็ใช้ floor plan เดียวกัน ดูอย่าง AE101 /111 / hitorque ตำแหน่งรูยึดต่าง ๆ เช่นรูยึดเบาะ ใช้รูแทบจะตรงกันทุกอย่าง
fortuner ก็เอา vigo มาผ่าตัดนิดหน่อย Trailblazer ก็เอา corollado มาทำ
แถมบางตัว ยังผลิตขายในหลายยี่ห้ออีก
เชพ แคปติว่า ในเกาหลี ขายในชื่อ แดวู ออสเตรีย ขายในชื่อ.......อ้าว ลืมชื่อซะแล้ว
คนเล่นรถ จะคะเนอายุรถแต่ละรุ่นได้ ออกโฉมใหม่มา จะมีไมเนอร์เชนต์เปลี่ยนโน่นนี่นั่นไปเรื่อย พอ 5-6 ปี ก็จะเป็นโมเดลเชนต์แทน
ถ้าจะซื้อรถ เค้าจะรอรุ่นใหม่ที่เป็นโมเดลเชนต์ออกจึงซื้อ แต่บางคนไม่รู้ ไปหลงของแต่งของแถม ของคุยว่าลิติเต็ท ก็เสร็จบริษัทรถไป
แต่แท้จริง มันคือการเร่งระบายรถรุ่นเก่าออกให้หมด หรือเกือบหมด ก่อนจะเปิดตัวรุ่นใหม่