ติดมาแล้วครับ. เยี่ยม รถเพียบเลย
ป้ายแดงก็เยอะ บางคนก็ซื้อไปติดเอง ง่ายๆไม่ยาก
แต่ให้เค้าติดให้ดีที่สุด เพราะอุปกรณ์ปลั้กหัวฉีดบางรุ่นแปลกๆ
ผมว่าคุ้มนะ. แรงกว่าเดิมนิดๆ แบบสัมผัสได้
กลิ่นหอมฉุย น้ำมันถูกๆ อุดหนุนประเทศชาติเราเอง
มีข่าวดีมาบอก ไม่ได้มาขายของนะ
เห็นของดี เลยมาบอกกัน ไม่ได้มีส่วนได้เสีย
และจะไปติดตั้งเหมือนกันครับ
ปั๊มเพียว มีโปรโมชั่นติดกล่องชุดe85. ราคา5000บาท
ฟรีคูปองเติมน้ำมัน2000.-บาท แถมน้ำมันเครื่องอีก4ลิตร. ซินเธติก สำหรับe85ด้วย
ได้ของแถมตามที่กล่าวมา เหมือนเสียเงินไปแค่ 2500 ใช้เวลาชั่วโมงเศษ
ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นี้ วันที่ 2-4 สค.
ที่ปั้ม เพียว อ.นครหลวง อยุธยา. และ อ.พนัสนิคม ชลบุรี
วิ่งแป๊ปเดี๋ยวก็ถึงแล้ว. ต้องจองคิวนะ.
หลายคันไปไม่จอง อด ครับ
ใครอยากติด บอกผมเลย
เฉพาะ รถ เบนซิน เครื่องปี 95 ขึ้นไป
4AGE20V 4A-FE ตระกูลหัวฉีด ได้หมด
หรือจะพายี่ห้ออื่นมา บอกได้เลยครับ
ขอเฉพาะคนที่่ต้องการติดจริงๆ
บอกชื่อ ทะเบียนรถ รุ่น เครื่องยนต์ เบอร์โทรศัพท์ มา
เดี๋ยวจัดโปรนี้ให้ ชักช้า คิวเต็ม อดเด๋อ
จองก่อน ผมก็ลงคิวให้ก่อนนะครับอยากประหยัด อยากเซฟตังค์ หรืออยากแรง
แค่ปรับปุ่มคอลโทล
E85 ลิตรละ 23 บาทกว่าๆ
บอร์ดอื่นๆติดกันเพียบเลย ลองไปค้นหากันดูนะ
ไม่ต้องมาถามในนี้ นะ ว่าดี เสีย อย่างไร รบกวนไปหาข้อมูลกันเอง ว่าติดแล้วเป็นอย่างไร
ขอพื้นที่นี้ สำหรับ คนที่ มาลงจองคิว ติดตั้ง นะครับ
รายชื่อผู้ที่จะไปกะผม
1.สุธันว์
2.ชานนท์
3.Sprintter@TZ
4.
5.
กล่องยี่ห้อนี้ ปกติ ลองไปเซฟหาดู ราคาติดตั้ง ตั้งแต่ หกเจ็ดพันขึ้นไป
งานนี้ผมว่าคุ้มโคตร......
ไปหาบทความดีๆ มาให้ศึกษากันเพิ่มเติม ครับSOURCE: http://www.facebook.com/VsrPerformancePbMotor
เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาและสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางคนอยากจะเติมใช้แต่ก็กลัวว่า
จะมีปัญหาตามมาเพราะคิดว่ารถที่ใช้อยู่ไม่ได้ทำมารองรับ วันนี้เลยจะขอสรุปข้อมูลตามประสบการณ์และเท่าที่ได้ค้นคว้ามานะครับ
E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ
ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วยเหมือนกัน
(ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าการกัดกร่อนนี้เป็นยังไงและผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหานี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารตะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัดกร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้นานๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสมเอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็นเหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเอง
แน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเรื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่องคาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเคลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรงงานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว
ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับเหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากการกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางกรอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่านั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคราะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีรอยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)
มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผสมน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า
เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกรองตันหรือเปล่า?
- อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่วนเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรือสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลายออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเบนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้วก็น่าจะหมดปัญหา
เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
- ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องตกใจครับ แค่ถ่ายออก (อย่าถ่ายทิ้งนะครับ เอามาให้ที่ PB Motor ใช้ก็ได้ ) แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผสมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่นอน
เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่า?
- จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเกือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้มากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ
E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า?
- จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริมาณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างชัดเจน
ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะใช้ E85 นะครับ
- รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอยู่
- ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการสมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื่อความประหยัด
- อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
- ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
- ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปรับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone
วันนี้ก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ
*Denatured Alcohol - การทำให้เอธานอลไม่บริสุทธิหรือเป็นพิษเพื่อทำให้ไม่สามารถบริโภคได้
เอาไปดูอีกบทความ เจ๋งๆ กัน ==> E85 <== แรงจริง? ประหยัดจริง? คุ้มจริง? ทุกคำตอบ กับทุกคำถาม สำหรับเพื่อนๆ ชาว Fiesta มีข้อมูลใหม่ๆมาอัพเดทเรื่อยๆครับ
--------------------------------------------------------------------------------
เอาหลักการทำงานของ ชุดคิท E85 หรือ E85 kit ก่อนนะครับ ซึ่งมันจะทำงานเหมือนๆกันทุกยี่ห้อ คือเพิ่มปริมาณน้ำมันด้วยการขยายช่วงเวลาการยกหัวฉีด เหตุผลคือ E85 ให้ค่าพลังงานต่อหน่วยน้อยกว่าเบนซิน เลยจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณน้ำมันเพื่อให้ได้พลังงานที่ใกล้เคียงกับเบนซินครับ (มันเป็นเรื่องของค่า stoichiometric ratio ด้วย) ซึ่งโดยรวมเราจะประหยัดเงินค่าน้ำมันได้ราวๆ 20-30% ครับ โดยชุดคิต E85 แต่ละยี่ห้อจะต่างกันที่ความแม่นยำในการทำงาน ความเสถียรของเฟิร์มแวร์และเกรดของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคที่ใช้นำมาประกอบเป็นวงจรครับ ซึ่งตรงนี้ชุดคิดดีๆจะส่งผลด้าน อัตราเร่ง อัตราบริโภค การทำงานที่ราบเรียบของเครื่องยนต์ รอบเดินเบาไม่สะอึกหรือ ไฟรูปเครื่องที่จะไม่มาโชว์กวนใจ
มาถึงคำถามที่ถามกันบ่อยๆนะครับ
1) โซฮอล์ระเหยเร็วกว่าเบนซิน แล้วถ้าเป็น E85 จะไม่ยิ่งระเหยเร็วเหรอ?
ตอบ = เป็นความเชื่อผิดๆครับ จริงๆเบนซินระเหยเร็วกว่าโซฮอล์ แค่ข้อแรกก็ขัดแย้งกับความเชื่อแล้ว อิอิ
ตามไปดูในลิงค์เองละกัน THAIDRiVER พิสูจน์จริงลบความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง
2) ทำไมต้อง E85? ไม่ E100 ไปเลยล่ะ?
ตอบ = จากคำตอบในข้อ 1 จะได้คำตอบว่า E100 สตาร์ทยากกว่าเพราะระเหยเป็นไอยากกว่า
3) ทำไมต้อง E85? ติด Gas ไปเลยประหยัดกว่าเห็นๆ
ตอบ = ถูกต้องที่ราคา Gas ถูกกว่า แต่ค่าติดแพงกว่า คืนทุนช้ากว่า ต้องแบกน้ำหนักถังกับแก็ส เสียพื้นที รถอืด ขนาดร้านเจ๋งๆที่จูนไดโน่ ม้ายังมีหายไป 5% - 10% (เค้าบอกจะเอาแรงขึ้นอีก 5% - 10% จนได้แรงม้าใกล้เคียงกับน้ำมันก็ทำได้ แต่จะกินแก็สขึ้นไปอีกเยอะเลยไม่คุ้มที่จะจูนเอาแรงเท่าน้ำมัน) ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงราคา Gas ขาขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้คืนทุนช้าไปอีก แถมเราต้องมาลุ้นอีกว่าอู่ที่ให้บริการมีฝีมือจริงรึป่าว ถ้าเจออาการวิ่งไม่นิ่งหรือเบาดับอาจต้องกลับไปจูนเรื่อยๆ สรุปโดยรวมถ้าวิ่งเยอะจริงๆติด Gas คุ้มกว่าทุกกรณี เพราะยังไงเงินค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ก็เหลือๆพอไว้ซ่อมรถหรือวางเครื่องใหม่ได้เลยด้วยซ้ำไป
แต่ก็มีเพื่อนๆหลายคนที่เลือก E85 ให้กับรถคันใหม่ จากประสพการณ์ในรถคันเดิมที่เคยติดแก็ส ซึ่งประหยัดกว่าในตอนแรกก็จริง แต่หลังๆชักซ่อมบ่อย ซึ่งค่าซ่อมอาจจะไม่ได้แพงกว่าค่าแก็สที่ประหยัดไป แต่มันเสียเวลาและยุ่งยากเวลาต้องเอารถเข้าอู่ สุดท้ายทำให้ต้องเปลี่ยนรถเร็วกว่าที่เคยคิดไว้เพราะปัญหาจุกจิกกวนใจ สรุปว่า E85 จะคุ้มกว่ารึป่าวคุณเองเท่านั้นที่สามารถตอบคำถามให้กำกับตัวคุณเองได้
4) ปั๊ม E85 มีแค่ไม่กี่ปั๊ม ลำบากเวลาต้องไปวนหาไกลๆ
ตอบ = แนวโน้มรถรุ่นๆใหม่ๆที่เปิดตัว จะรองรับ E85 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเบนซิน 91 ที่กำลังถูกยกเลิก ทำให้ปั๊มต่างๆต้องมองหาตัวเลือกน้ำมันประเภทอื่นมาลงแทนถังเก็บน้ำมันและหัวจ่ายเดิม ทำให้หวยไปออกที่ E85
บางจากฯ ตั้งเป้ามีปั๊มขายน้ำมันอี 85 ให้ได้ 100 แห่งในปีหน้า | MCOT.net
จริงๆแนวโน้มพลังงานทางเลือกมันมาเรื่อยๆนะครับ
เล็งเลิกขายโซฮอล์91อ้างลดซ้ำซ้อน | ไทยโพสต์
5) หาปั๊ม E85 ไม่ได้จริงๆ ต้องเติม E10 หรือ E20 รู้สึกยุ่งยากที่ต้องคำนวนและปรับจูนค่าอัตราส่วนเอทานอล
ตอบ = ECU ของรถมันฉลาดครับ มีความสามารถในการชดเชยน้ำมันด้วยค่า LTFT และ STFT ทำให้ไม่ต้องปรับปุ่มเลือกอัตราส่วนเอทานอลให้ตรงแปะก็ได้โดยที่รถยังใช้งานได้ปกติ หรือปรับคร่าวๆก็ใช้ได้ จริงๆการเลือกใช้ชุดคิต E85 ที่เป็นระบบ Auto ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ
6) ปุ่มปรับจูนอัตราส่วนเอทานอล ถ้าปรับจูนไว้ไม่ถูกต้องก็จะมีผลกับอัตราเร่งหรืออัตตราบริโภคนะสิ
ตอบ = อัตราเร่งและอัตราบริโภค ไม่ได้ถูกกำหนดจากปุ่มดังกล่าว ปุ่มดังกล่าวเป็นตัวชดเชยไม่ให้น้ำมันบางไปจนเกินความสามารถของ ECU ที่จะช่วยชดเชย หรือเพื่อไม่ให้ไฟรูปเครื่องขึ้นโชว์ (คำตอบนี้ใช้กับรถที่เป็นระบบ close loop ที่มี O2 เซนเซอร์)
7) จากข้อ 6 มันเริ่มมั่วแล้วเค้าก็พูดกันโครมๆว่าปุ่มปรับของ E85-Kit มันสามารถ ปรับให้แรงได้ หรือ ให้ประหยัดได้ นะเฟ้ย
ตอบ = ไม่ได้มั่วนะครับ O2 เซนเซอร์เป็นตัวจับว่าการเผาไหม้ของน้ำมันมันหนาไปหรือบางไป แล้วก็จะสั่ง STFT ชดเชยในรอบการฉีดถัดไป เพื่อให้ได้ค่าแลมดา = 1 ดังนั้นกระบวนการทำงานแบบ close loop นี้ เราจะสามารถตอบได้ว่า ไม่ว่าจะปรับปุ่มให้มันหนาหรือบางไป ยังไง ECU ก็เอาสัญญาญแรงดันจาก O2 เซนเซอร์ มาประมวลผลแล้วสั่งให้ STFT ชดเชยจนได้ค่าแลมดาเท่ากับ 1 หรือ แรง/ ประหยัดเท่าเดิมอยู่ดี
นอกซะจากว่าเราปรับให้มันบางจนเกินความสามารถที่ STFT และ LTFT จะชดเชยไหว รถจะวิ่งสะดุด อืด กินน้ำมันกว่าเดิมด้วยซ้ำครับ แถมไฟรูปเครื่องจะขึ้นโชวร์ด้วย ส่วนรถรุ่นเก่าๆมากๆ ปรับน้อย(บาง)=แรง(ร้อนเครื่องพัง) น้อยมาก(บางเกินไป)=แรงตก(จุดระเบิดไม่ติด) ปรับมาก(หนา)=แรง(เปลือง) ปรับมากเกิน=น้ำมันท่วม(แรงหาย) ตามที่เราเข้าใจเลยครับ
มาถึงคำถามสุดคลาสสิค 95, 91, G95(E10), G91(E10), E20 หรือ E85 อันไหนแรงกว่ากัน
ตอบ = ถ้าดูจากค่าพลังงานของเชื้อเพลิง ณ.ค่าแลมดา = 1 จะตอบได้คร่าวๆว่า E85 แรงสุด แต่ต้องมีการปรับจูนรถด้วยนะครับ
ดังนั้นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเลยก็คือ แล้วแต่รถแล้วแต่รุ่นเลย ถ้า ECU มีโปรแกรมปรับองศาจุดระเบิดให้รองรับค่าออกเทนสูงๆไว้ ก็เป็นไปได้ที่ E85 จะแรงที่สุด เพราะ E85 มีค่าออกเทนถึง 105 ถ้า ECU MAP รองรับแค่ออกเทน 95 คำตอบก็คือแรงกว่าเดิมแค่นิดหน่อย และอีกเงื่อนไขคือแรงดันปั๊มติ๊ก เพราะ E85 ต้องใช้ปริมาณน้ำมันมากกว่าเบนซินถึง 20% กว่าๆดังนั้นความสามารถในการฉีดน้ำมันของปั๊มติ๊กจะมีผลในเรื่องของความแรงด้วยครับ ใครมีคำถามเพิ่มหรืออยากพูดคุยก็ยินดีครับผม
9) ท่อยางต่างๆที่เค้าไม่ได้ออกแบบให้ใช้กับ E85 มันจะบวมแตกรึไม่?
ตอบ = ถ้าพูดกันด้วยสเป็คของท่อยางที่รองรับ E10-E20 ได้ มันจะสามารถรองรับ E85 ได้ด้วยครับ แต่ข้อมูลตัวนี้มันขัดแย้งกันอยู่นะครับ ข้อมูลของเดิมๆสเป็คเค้าจะบอกว่าท่อยางที่รองรับ E10-E20 จะยังไม่สามารถรองรับ E85 ได้ครับ แต่จากการใช้งานของรถที่รอบรับ E10 แล้วใช้น้ำมัน E85 ตลอด 3-4 ปี ก็ยังใช้งานก็ได้ปกติไม่มีอาการท่อยางเปื่อยหรือแตกง่ายๆอย่างที่กังวลกันครับ เจ้า E85 เค้าก็ผสมสาร additive ให้การกัดกร่อนน้อยที่สุดใกล้เคียง E20 ที่สุด กระทู้ในลิงค์ด้านล่างเค้าก็ทำการทดสอบไว้ว่าการกัดกร่อนไม่ได้เร็วและน่ากลัวอย่างที่กังวลกันครับ และเพื่อนๆในกระทู้ก็ได้พูดคุยกันด้วยว่าโซฮอร์มีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายมากกว่าที่จะเป็นสารกัดกร่อน อย่างรถเก่าๆอายุเกือบ 10 ปี เติม E85 ไม่กี่ถังกรองเบนซินก็จะเริ่มตันจากการที่โซฮอร์ไปทำละลายคราบต่างๆที่ตกค้างในถังได้ดีกว่าเบนซินครับ
ส่วนท่อ R7 ที่ติดมากับรถที่รองรับ E10/E20 จะทน E85 ได้ด้วยครับ และรถรุ่นใหม่ๆส่วนใหญ่ท่อจะเป็นท่อพลาสติกหุ้มยางกันหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าท่อจะมีโอกาสบวมและแตกได้เหมือนรถรุ่นเก่าๆครับ แถมท่อเฟียสต้าจริงๆเป็นพลาสติกหุ้มยางโอกาสที่จะบวมหรือแตกแบบท่อยางนิ่มๆแทบไม่มี
Fuel Line/PCV/Emission Control Hose SAE 30R7 | Goodyear® Engineered Products
SAE 30R7 Specific Fuel:
Leaded and unleaded gasoline, diesel fuel, gasoline blends of ethanol (E10), E-85 and sour gas.
10) ลูกลอยที่ค้างกันในรถหลายรุ่นมีสาเหตุจากอะไร ทำไมเฟียสต้าไม่เป็นไร?
ตอบ = ลูกลอยค้างเกิดจากแผงวงจรความต้านทานในรถบางรุ่นเกิดสนิมได้ครับ แก้ไขได้โดยการเคลือบน้ำยาใหม่ที่ทนต่อการกัดกร่อนครับ แต่รถส่วนใหญ่จะไม่เป็นไรจะมีเฉพาะรถรุ่นด้านล่างที่ควรอัพเกรดครับ
ข้อมูลจาก Xugarflex
Honda Civic FD
Honda Accord G7/G8(2003-2010)
Honda CRV G3
Toyota Yaris
Toyota Camry 2006-2011
Nissan March
11) โอริงที่เราเห็นมันเสื่อมกันในรถรุ่นอื่นๆ แล้ว Fiesta ของเราจะมีปัญหารึเปล่า?
ตอบ = มันส่งผลในระยะยาว 1-2-3 ปีขึ้นไปครับ โดยจะต้องเปลี่ยนโอริงเป็นเกรด Viton ตัวละ 200- ควารเปลี่ยนทั้ง 2 ตำแหน่งเลยคือ
- โอริงในปั๊มติ๊ก 4 ตัว ค่าแรง 500 รวมเป็น 1,300- ผมต่อราคาเฟียสต้าไว้ที่ 900- (เห็นมีเสื่อมกันในรถหลายรุ่นถึงจะเติมแค่ E10 E20 ก็เถอะ ผ่านไปสัก 4-5 ป๊ ก็เริ่มได้ซ่อมปั๊มติ๊กกันละ เพราะมันแช่อยู่ในน้ำมันตลอด)
- โอริงหัวฉีด 8 ตัว(รถรุ่นอื่นใช้ 4 ตัว) ค่าแรง 300- รวมเป็น 1,900- ราคาที่ผมต่อไว้สำหรับเฟียสต้าคือ 1,500- (โอกาสเสื่อมยากกว่าเพราะพื้นที่สัมผัสน้ำมันไม่ถึง 50%)
เปลี่ยนได้ที่อู่ KW auto service ให้บอกช่างเต้ ว่า "เอก เฟียสต้าแดง" แนะนำมาครับผม ผมไปเปลี่ยนมาเรียบร้อยละครับ ไปพร้อมกับคุณ Jack ที่เพิ่งติดชุคิท E85Ezy ไปสดๆร้อนๆ
มาแนะนำอู่ซ่อม ฟอร์ด - มาสด้า โดยเฉพาะ คุยง่ายเป็นกันเองครับ
แจ้งเตือน e85 ทำ o-ring ในปั้มติ้กเสื่อมเร็ว
12) พวกวัสดุที่เป็นโลหะต่างๆเช่นลูกสูบ เสื้อสูบ วาล์ว ต้องมีการเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อนเพื่อให้ใช้ E85 ได้มาจากโรงงานก่อนไม่ใช่เหรอ?
ตอบ = อันนี้ต้องยอมรับว่าจริงครับ ขึ้นชื่อว่าพลังงานทางเลือกความหมายมันก็ตรงตัวอยู่แล้ว ว่าเป็นทางเลือกรองครับ
อันนี้ผู้ใช้ต้องใช้วิจารณญาณเอาเองกว่า จะเติมน้ำมันเหมือนเดิม หรือ จะไป E85 หรือ จะไป Gas ยังไงทางเลือกมันก็มีข้อดีข้อเสียในตัวมันอยู่แล้ว แต่จากข้อมูลผู้ใช้ E85 รวมทั้งตัวผมเอง ยังไม่เห็นเคสที่มีปัญหาเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ เหมือนกรณีที่เราใช้ Gas นะครับ แต่ระยะยาวเป็น 10 ปีก็ยังตอบไมได้เหมือนกัน เพราะ E85 ยังใหม่มากในบ้านเรา แต่ถ้าเป็นต่างประเทศเค้าใช้ E100 กันด้วยซ้ำครับ
13) ติดแล้วหมดประกันรึป่าว?
ตอบ = แน่นอนครับ ประกันระบบไฟ กับประกันระบบการจ่ายน้ำมัน ขาดแน่ๆ เมื่อรถเกิดปัญหาใน 2 ส่วนนี้ ถ้า!...รถเราเกิดปัญหาอย่างไดอย่างหนึ่ง เราเอารถเข้าไปแจ้งซ่อมที่ศูนย์โดยไม่ถอดตัว E85-Kit ออกซะก่อน แต่ถ้าเราถอดออกศูนย์เค้าก็ไม่ได้จะมานั่งจับผิดถึงขนาดนั้นว่าเราเคยติดอะไรมามั่งเพราะว่ามันก็เป็นที่รู้กันว่าใครๆเค้าก็ท่าแบบนี้รวมทั้งคนที่ทำงานในศูนย์บริการนั้นเองด้วย ผมหมายถึงอุปกรณ์อะไรก็ช่างที่ติดเข้าไปในรถ บางทีช่างศูนย์ก็เป็นคนแนะนำเองด้วยซ้ำว่า "พี่ถอดอุปกรณ์อย่างอื่นออกก่อนที่จะแจ้งเคลมนะครับ จะได้ไม่มีปัญหากับทางบ." คำตอบก็ประมาณนี้แหล่ะครับ (แต่ติดแก็สจะถอดแบบนี้ไม่ได้เน้อ)
ส่วนการเช็คระยะก็นำเข้าได้ปกติครับ ไม่มีใครเค้ามานั่งสนใจขนาดนั้นบางทีเราก็กังวลมากไปเอง ตอนผมไปเคลมเกียร์ลูกใหม่ก็ไม่มีใครสนใจทั้งกรองไฟทั้ง E85-kit เลยอ่ะ
14) ติดตั้งไปแล้วจะถอดออกเองได้รึป่าว?
ตอบ = ได้ครับ เพราะมันไม่ได้มีการ ตัด เจาะ หรือ ดัดแปลงตัวรถใดๆทั้งสิ้น เป็นเพียงการถอด-เสียบ ปลั๊กหัวฉีดแค่นั้น
15) E85 จะเป็นพลังงานแห่งอนาคตจริงๆเหรอ?
ตอบ = จริงแท้แน่นอน ถ้าเราใช้พลังงานจากพืชที่เราปลูกได้เอง ประเทศเกษตรกรรมอย่างเราก็ไม่ต้องไปสนใจราคาน้ำมันในตลาดโลกอีกต่อไป แต่การที่จะไปถึงจุดนั้นมันยากมากบราซิลเองก็ใช้เวลานานและต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลจากภาครัฐช่วยสนับสนุนในช่วงแรกๆครับ
16) จะหาปั๊ม E85 ยังไง?
ตอบ = นี่เลยครับแผนที่ปั๊ม E85 เผื่อบางคนไม่รู้ว่ามีปั๊ม E85 อยู่ใกล้ๆบ้านๆ เพราะจริงๆปั๊ม E85 ในกรุงเทพถือว่ามีเยอะนะครับ ในแผนที่สามารถหาปั๊ม E85 ได้ง่ายดายสะดวกขั้นเทพ ช่วยให้การวางแผนเติม E85 เวลาเดินทางไกลเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นครับ
https://maps.google.co.th/maps/ms?ie...cdfee3d6eb88fcหรือจะลองไปหา Sygic 13.1.0 มาใช้ครับ เพราะมีเพื่อนเค้าทำตำแหน่งปั๊ม E85 ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ชีวิตก็จะง่ายขึ้นไปอีกครับ ถ้าใครลงเวอร์ชั่นก่อนๆไว้อยู่แล้ว ก็มีคนทำ POI ให้ด้วยครับ
E85-iGO - Download - 4shared - Bancha Pienprasertkul
POI-E85-Sygic - Download - 4shared - Bancha Pienprasertkul
ตอนนี้ก็มาถึง E85-Kit ยี่ห้อที่ผมเลือกใช้นะครับ มันคือ Xugarflex, M Tronic และ E85Eazy ครับ ผมไม่ได้บอกว่ายี่ห้อนั้นดี หรือยี่ห้อนี้ไม่ดีนะครับ ทุกยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับ ซึ่งผมได้ทดลองและเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วว่ายี่ห้อเหล่านี้ไม่มีปัญหาจุกจิกหรือไฟรูปเครื่องโชว์ครับ
Xugarflex
- เป็นจ้าวแรกๆในไทย
- มีผู้ใช้เยอะสุด
- รับประกันสินค้า 2 ปี
ข้อดีของปุ่มปรับใน Xugarflex ที่มีค่า E กำกับบนปุ่มคือ เวลาเราหา E85 เติมไม่ได้ แล้วจำเป็นต้องเติม E20 หรือ E10 เราสามารถคำนวนส่วนผสมของค่า E คร่าวๆในใจแล้วนำค่าที่ได้มาปรับที่ปุ่มชดเชยได้เลยครับ ยกตัวอย่างเช่น ไฟเตือนว่าน้ำมันใกล้หมดจะเหลือน้ำมันในถังอยู่ประมาณ 10 ลิตร แวะเติม E20 ไป 300 บาท ซึ่งจะได้น้ำมันคร่าวๆเกือบ 10 ลิตร คำนวนส่วนผสม E คร่าวๆในใจได้ E50 ก็ปรับไปที่ E50 ได้เลยครับผม ใช้ชีวิตกับ E85 มันง่ายกว่าที่คิดเยอะครับ อิอิ
M Tronic
- รับประกันความพึงพอใจ คืนเงินภายใน 15 วัน
- รับประกันสินค้า 3 ปี ในขณะที่ยี่ห้ออื่น รับประกัน 1 - 2 ปี
- ปุ่มปรับชดเชยน้ำมันเป็นดิจิตอลขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจนปรับตั้งค่าได้สะดวก
- เฟิร์มแวร์เขียมมาดีมาก ทั้งการขับขี่ทั่วไป หรือแม้กระทั่งรอบเครื่องยนต์สูงๆ (เอาไปลองวิ่งในสนามแก่งกระจานมาแล้ว แรงไม่รอรอบ)
*** เพื่อนๆที่ไม่กล้าเติม E85 ถึงแม้ท่านจะใช้ E20 เดิมๆรถก็แรงขึ้นได้ ถ้าใครสนใจแวะมาลอง M-Tronic กับน้ำมันเดิมๆในถังก่อนตัดสินใจติดตั้งก็ได้นะครับ ไม่มีสับขาหลอกด้วยการรีเซตขั้วแบตแน่นอนครับ
M Tronic คือใคร? มาจากไหน? กล่องจีนแดง? Software จีนแดง?
- คือใคร? คือผู้มีประสพการณ์และเชี่ยวชาญ รับติดตั้งและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ E85 มานานหลายปี
- มาจากไหน? การที่ได้ทำงานเกี่ยวข้องโดยตรงทำเห็นข้อเด่นข้อด้อยที่ยังสามารถนำมาพัฒนาได้อีก
- คือกล่องไทย Software โดยคนไทย ที่มีแนวคิดว่า "ของดีเดี๋ยวมันก็ขายได้ด้วยตัวของมันเอง" ว่างั้น
E85Eazy
จากทีมงานวิจัยโดยคนไทยเพื่อคนไทย เป้าหมายของงานวิจัยเพื่อส่งเสริมให้คนไทยใช้พลังงานที่ผลิตได้ภายในประเทศ โดยต้องไม่ทำให้ผู้ใช้มีความกังวลหรือยุ่งยากเมื่อต้องใช้ชีวิตร่วมกับน้ำมัน E85 ผู้วิจัยมีการเก็บข้อมูลรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่วิ่งในสภาพอากาศและน้ำมันของเมืองไทย เพื่อนำมาวิเคราะห์ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ให้สมบูรณ์มากที่สุด
- เป็นระบบ Auto ที่มีการชดเชยปริมาณน้ำมันที่แตกต่างกัน ในรอบเครื่องยนต์ต่างๆ
- ใช้งานได้จริงกับน้ำมันทุกแบบ G95 G91 E20 E85 หมดปัญหาจุกจิก
- จุดเด่นอยู่ที่อัตราบริโภคที่ประหยัดกว่า เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
- 100% Satisfaction Guarantee รับประกันความพึงพอใจคืนเงินได้ภายใน 30 วัน รับประกันสินค้า 2 ปี
การชดเชยปริมาณน้ำมันแบบ Auto : ขออธิบายระบบแบบเก่าก่อนนะครับ คือเป็นการปรับค่าการชดเชยน้ำมันไว้ค่ากลางๆ โดยหมุนปรับปุ่มชดเชย "ภายในตัวกล่อง" ไว้ประมาณ +-10% ซึ่งมีค่าเท่ากับการใช้ Kit แบบ Manual ที่มีปุ่มปรับเป็นสายรีโมทหรือแบบมีปุ่มปรับภายนอกกล่อง แล้วปรับชดเชยไว้ประมาณ +-10% การปรับค่าแบบนี้มีโอกาสที่ไฟรูปเครื่องจะขึ้นโชว์ได้บ่อยทั้งการเติม E85 หรือ กลับไปเติม G91 G95 E20 แต่... ระบบ Auto ของ E85Eazy จะมีโปรแกรมการปรับเปลี่ยนการชดเชยน้ำมันในค่าที่แตกต่างกันในแต่ละรอบเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นระบบ Auto ที่ราคาจับต้องได้และใช้งานได้จริง ต่างกับระบบ Auto อีกแบบที่ต้องมีเซนเซอร์วัดประเภทของน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีราคาสูงกว่ากันมาก
จากการทดสอบกับ Fiesta เรื่องอัตราเร่งดีขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในเมือง ทางไกล และเส้นทางที่ใช้งานเป็นประจำ ผมรู้สึกประทับใจมาก อันนี้เปรียบเทียบระหว่าง E20 กับ E85 ของรถทั้ง 2 คันนะครับ สาเหตุน่าจะมาจาก ECU ของ Fiesta ที่ฉลาดกว่าของ Mazda3 เพราะทั้ง STFT, LTFT และ องศาจุดระเบิด มีช่วงการทำงานที่กว้างและปรับเปลี่ยนได้เร็วกว่าเห็นๆ ใช้ OBD bluetooth ดูค่าบน Smart phone ครับ สงสัยตรงไหนลองโทรมาสอบถามได้ครับผม
