AE น้าๆเข็มไมล์ทะลุกันกี่โลแล้วครับ

มีแต่เก๋าๆทั้งนั้นเลย ล้านสองยังแจ๋ว มีมากกว่าอีกเหอะๆๆ วานซืนอยู่ขอนแก่น ยังคุยเล่นๆกันกับลูกความอยู่เลยว่า จะหาสติ๊กเกอร์มาติดที่กระจกหลัง ว่า " ยี่สิบยังแจ๋ว " ลูกความเค้าใช้ป้ายแดงยังหัวเราะกันอยู่เลย ใช้ลืมๆได้เลยมั๊งเนี่ย ของผมแค่สี่ห้าแสนเอง หนทางยังอีกยาวไกลนัก วันนี้ก็ออกทริ๊ปอีก เย็นๆโน่นล่ะ บุรีรัมย์ โคราช สามวัน ผมเคยขับสามห่วงป้ายแดงสองคัน ของญาติสนิท คันแรกเครื่องสองอี ออกป้ายแดงเลยเมื่อยี่สิบปีแที่แล้ว มันคล่องตัวดีมาก ผิดกับยุโรปที่ผมใช้สมัยนั้น ใหญ่เทอะทะ ตอนนั้นใช้โอลเด้นท์ เบลม้อง หกสูบ สามพันสามร้อยสิบซีซี ซดน้ำมันสามถึงห้ากิโลลิตรครับ แต่น้ำมันลิตรละสิบบาทเอง ผมถวายพระไปน่าจะมีสิบกว่าปี ทานก็เอาดีเซลวาง ตอนนี้น่าจะยังใช้อยู่ครับ อีกคันของน้องเขย เป็นรุ่นท๊อปพันหก มันซื้อป้ายแดงมาไม่ถึงอาทิตย์ ก็ยกเครื่องใหม่เอี่ยมสี่เอเอฟอีลงขายไปเฉย แล้วก็สั่ง สี่เอจีแซดอีมาวาง พร้อมโมอีกพอสมควร งานนั้นม้าใต้ฝากระโปรงคงมีเกินสองร้อย ผมไปลองขับ ลงมายังขาสั่นพรึบๆเลย(นี่ขนาดยี่สิบปีที่แล้วเด้) มันแต่งเต็มสูตรมันล่ะ หางหลังในยุคโน้นเป็นแบบทรงสูง คล้ายๆซูปร้า แต่เล็กกว่าเพราะอยู่ในบอดี้สามห่วง หลังติดเบาะทุกเกียรครับ นรกมีจริง แรงจริงๆ แล้วเวลามันดึงเนี่ย มาตั้งแต่รอบต้นๆเลย เจ้าหกสูบแถวเรียงที่ผมใช้ว่าแรงพอตัวแล้ว กลายเป็นเด็กอนุบาลไปเลยครับ แต่น้องเขยผมมันตายไปนานแล้ว ไม่งั้นคงได้ลองรถแรงๆอีกหลายคันครับ เฉพาะเครื่องเสียงที่มันลงในสามห่วงตอนยี่สิบปีที่แล้ว เกือบๆสองแสนบาทครับ ไอ้เนี่ยบ้าแต่งรถจริงๆ ผมยอมมันตรงที่ซื้อป้ายแดงมาแต่ง ยกเครื่องเดิมทิ้งเฉย ไอ้อู่ที่วางให้แต่งให้มันก็ยิ้มหวาน น้ำลายหยดติ๋งๆล่ะ ทุกวันนี้ผมยังเก็บเพาเวอร์แอมป็ที่ถอดจากสามห่วงคันนี้ไว้ตัวหนึ่ง จริงๆน่าจะมีห้าหกตัวมั๊ง(จำไม่ได้) มันเป็นระบบคอวทแอปม์ ที่เหลือพี่ชายผมสอยไปใส่อีกคัน
นึกไม่ถึงว่าอีกเกือบยี่สิบปี จะได้มาใช้สามห่วงแบบน้อง กะน้องเขย ยอมรับว่ามันอึด ทนจริงๆ นะ สิ บอก ไห่ สุดยอด

	ผู้เขียน	หัวข้อ: AE น้าๆเข็มไมล์ทะลุกันกี่โลแล้วครับ (อ่าน 2392 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้