ข้อมูลดีๆจากtoyota engine technologyในหนังสือxoคับ

ถ้ามีอะไรตกหล่นก้อขออภัยนะคับเพราะผมนั่งพิมพ์จากหนังสือเอาคับอิอิถ้ายังไงก้อไปหาอ่านกันคับ
เพราะมันจะมีรูปประกอบคับ ขอขอบคุณหนังสือxoคับ เริ่มเลยนะคับ
TOYOTA Engine Line up จะมีเครื่องที่มีนามสกุลต่างๆกันไปอย่างเช่นgeหรือgte หรือ gzeตัวtคือเทอร์โบzหมายถึงซุปเปอร์ชาร์ทถ้าเป็นนามสกุลที่ขึ้นต้นว่าgก้อหมายถึงThe sport-type twin cam Engine Line up ก้อไม่ต้องแปลนะคับ ตรงตัวเลยว่า เครื่องยนต์ที่เน้นไปในลักษณะสปอร์ต ก้ออย่างที่เราคุ้นเคยกันดีน่ะคับ เพราะมีหลายตัวที่บ้านเรานิยมเล่นกัน ตั้งแต่1-2JZGTE 3S GTE 4AGEพวกนี้แหละคับ สำหรับรถใช้งานทั่วไปที่เริ่มใช้ระบบDOHC 4 valveหรือทวินแคม4วาล์วต่อ1สูบก้อจะเริ่มมาจากบล็อค1g-ge 6สูบเรียง2ลิตรเปิดตัวในเดือนสิงหาคมปี1982จริงๆแล้วTOYOTAก่อนหน้านั้นก้อมีเครื่องทวินแคมอยู่แล้วพวก2tg 3tgteแต่ใช้แค่2วาล์วต่อ1สูบ พอหลังจากนั้นก้อตามมาด้วย3sg+7mg+4agซึ่งเครื่องยนต์พวกนี้ก้อจะเน้นสมรรถนะในแนวสปอร์ต แรงม้าแรงบิดมารอบสูง ทางTOYOTAเรียกเครื่องนามสกุลFว่าเป็นHigh Efficiency Twin Cam Engine ลักษณะโดยรวมก้อยังคงเป็นฝาสูบแบบDOHC 4 Valveอยู่นั่นเอง แต่มีการปรับปรุงลักษณะของห้องเผาไหม้ใหม่ ให้เหมาะกับรอบต่ำและรอบกลาง โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ฝาสูบแบบFรุ่นแรกก้อคือ3sfเปิดตัวในเดือนสิงหาคม1986 และยังใช้แพร่หลายกันในปัจจุบัน ถ้าจะพูดกันจริงๆฝาสูบแบบFก้อเหมือนกับเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องแคมเดี่ยวกับเครื่องแคมคู่นั่นเอง เป็นการนำเอาจุดดีของฝาสูบทั้งสองชนิดนี้มารวมกันแต่จะอิงไปในทางประหยัดเป็นหลักจากข้อมูลที่นำมาอ้างอิงก้อได้บอกไว้ว่าเครื่องแบบSOHCจะมีข้อด้อยอยู่เหมือนกันอันดับแรกจะต้องมีกระเดื่องวาร์วที่จะให้แคมเตะ เพื่อไปเปิด ปิด วาล์วอีกที ก็จะทำให้มีชิ้นส่วนมาก แรงเฉื่อยเยอะ ตอนรอบสูงๆจะไม่ค่อยดี อีกเรื่องคือห้องเผาไหม้จะเป็นแบบ อสมมาตร หัวเทียนจะไม่อยูตรงกึ่งกลางซะทีเดียวทำให้บาล้านซ์ในการจุดระเบิดสู้แบบหัวเทียนอยู่ตรงกลางและห้องเผาไหม้แบบสมมาตรไม่ได้ พอเจอจุดอ่อนแบบนี้ ทางTOYOTAก้อเลยออกแบบระบบเปิดปิดวาล์วแบบใหม่ โดยเอาข้อดีของระบบDOHCมาใช้ซึ่งแคมทั้ง2แท่งจะเปิดปิดวาล์วคนละฝั่ง แยกเอกเทศทังไอดีไอเสีย ลูกเบี้ยวจะเตะไปบนวาล์วตรงๆหรือที่เรียกว่าDirict Drive Valve Train ก้อจะทำให้ส่งกำลังได้เร็วกว่าชิ้นส่วนน้อยลงทำให้ลดภาระของเครื่องยนต์ในรอบสูงก้อจะช่วยเพิ่มแรงม้าได้และการจุดระเบิดก้อสมบูรณ์กว่าเนื่องจากหัวเทียนอยู่ตรงกลางพอดีและวาล์วก้อวางได้เต็มพื้นที่ก้อได้เรื่องflowที่ดีเหมือนกัน ทางโตโยต้าก้อเลยออกแบบฝาสูบแบบใหม่ ฝาสูบกว้างแบบนามสกุลGห้องเผาไหม้มันเป็นโดมครึ่งวงกลม วาล์วทั้งสองฝั่งทำมุมกัน50องศา พวกนี้มันflowดีแต่ในรอบต่ำอากาศมันไหลช้ามีจังหวะover lapเยอะหน่อย ไอดีที่เข้ามามันก้อไหลตามไอเสียออกไปซะเยอะด้วยความที่มันflowดี อีดเรื่องก้อคือห้องเผาไหม้ที่กว้างจะมีหน้าสัมผัสระหว่างฝาสูบกับห้องเผาไหม้เยอะ ตัวฝาสูบเองก้อมีน้ำมาระบายความร้อนที่มาก มากที่สุดในทุกส่วนของเครื่องยนต์ เพราะเป็นส่วนที่รับแรงระเบิดเต็มๆ เมื่อฝาสูบกว้างเนื้อที่ในการระบายความร้อนเยอะ ดังนั้นในช่วงรอบต่ำความร้อนน้อย ระบายความร้อนดีเกินไปก้อจะทำให้เย็นเกินไปเป็นการสูญเสียพลังงาน อย่าลืมว่าพลังงานเกิดจากความร้อน ดังนั้นในช่วงรอบต่ำจะมีการสูญเสียพลังงานเกิดขึ้นเยอะเลยทำให้ไม่ค่อยมีแรง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก แต่ในรอบสูงทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วต้องการประจุอากาศมาก ฝาสูบแบบนี้จะทำหน้าที่ได้ดี จากflowที่เยอะของมันนั่นเอง เลยทำให้เครื่องสกุลGมีแรงม้าแรงบิดดีที่รอบสูงเหมาะกับรถสปอร์ต แต่เครื่องสกุลFจะถูกออกแบบให้ตรงกันข้าม ห้องเผาไหม้จะเป็นทรงแคบ(หน้าจั่วแหลม)วาล์วจะทำมุมตั้งกว่าแบบGคือทำมุมกันแค่22-25องศาเท่านั้น ฝาสูบแคบๆก้อจะflowยากกว่าแต่มันจะดีในรอบต่ำการสะสมความร้อนจะดีกว่า วาล์วเล็ก พอร์ทแคบกว่าก้อจะช่วยรีดอากาศในรอบต่ำให้เร็วขึ้น เลยทำให้เครื่องมีแรงบิดดีในรอบต่ำและรอบกลางๆ ส่วนรอบสูงๆจะflowไม่ดีนัก แรงม้าก้อจะไม่เยอะมาก แต่ไปได้เรื่องขับง่าย สบาย ประหยัดเชื้อเพลิง ก้อเป็นทางของรถใช้งานทั่วไปนั่นเอง

เฮ้อ...หมดแระคับ เมื่อยนิ้วเลยอิอิ ยังไงไปหาอ่านกันคับเพราะมันมีรูปประกอบด้วยคับ จะได้เป็นข้อมูลในการวางเครื่องคับ ว่าเราใช้เครื่องแบบไหน กำลังที่ดีอยู่ในย่านไหน
ใช้งานทั่วไป หรือ ต้องการใช้เครื่องแบบสปอร์ต ลองดูคับ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ข้อมูลดีๆจากtoyota engine technologyในหนังสือxoคับ (อ่าน 5149 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้