ผมลองเขามาคับ ลองอ่านดู
รถเบนซิน(อย่างเดียว) ไม่มีทางเลือกก็ต้องสตาร์ทด้วยเบนซิน
แต่ถ้ามีทางเลือก "สตาร์ทแก็ส" สามารถลดการสึกหรอ-ตอนเครื่องเย็นได้ ครับ
ช่วยกลับไปถาม "วิศวกร" ที่จูนให้คุณว่า
1) เขารู้หรือไม่ว่า ตอนเครื่องเย็น สตาร์ทด้วยเบนซิน มันสึกหรอ อย่างไร ?
2) ทำไม สตาร์ทด้วยเบนซิน เครื่องจึงสึกหรอมากกว่าสตาร์ทด้วยแก็ส ?
ช่วยกลับไปถาม "วิศวกร" ว่า ผมบอกผิดไหม ?
กรุณาอย่าอ้าง วิศวกร
>>>>>>>
ผมไม่ชอบให้อ้างอย่างนี้เลย
เรื่องเทคนิค ผิด หรือ ถูก ไม่ใช่ใครบอก ผิด หรือ ถูก มันอยู่ที่เหตุผล
คุณ เข้าใจผิด ที่ให้ความสำคัญ "วุฒิ" มากกว่า "ความชำนาญ" อย่างเรื่องจูนแก็ส นี่นะ มันจำเป็นต้องใช้ วุฒิ วิศวกร ตรงไหน ครับ ? การจูนแก็ส จำเป็นต้องใช้ ความรู้ และความชำนาญ
"รู้" ว่าจะจูนตัวไหน จูนแล้ว ตอบสนองอย่างไร จะต้องปรับตรงไหน ช่างที่จะปรับแก้ได้รวดเร็วแบบว่า หมุนทีเดียวเสร็จ ... อันนี้ต้องใช้ "ความชำนาญ"
ต่อให้มี "วุฒิ ระดับ วิศวกร หรือสูงกว่า" ก็ต้องใช้ "ความชำนาญ" ความรู้ สูงๆ มันไม่ได้บอกว่า "สกรูเดินเบา หรือ เพาเวอร์" อยู่ตรงไหน หน้าตาเป็นอย่างไร เพราะใน U เขาไม่ได้สอน ครับ
อยากให้เข้าใจครับ
เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าน้ำมันทำให้เครื่องสึกหรอมากกว่าแก๊สอีก
>>>>>>>>
จัง หวะสตาร์ทเครื่องเย็น เมื่อเครื่องเย็น มีความร้อนน้อย ==> เบนซินก็ระเหยเป็นไอยาก ทำให้ส่วนผสมไอดี A/F บางกว่าปกติ ส่งผลให้ .. สตาร์ทยาก .. ถึง ไม่ติดเลย
ด้วยเหตุนี้... จึงต้องมีกลไก enrichment เพิ่มส่วนผสมเบนซิน เช่น "โช๊ค" เพิ่มส่วนผสมเบนซินให้มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้ส่วนผสม A/F หนาพอดีจะติดไฟได้ง่าย
ทีนี้ ... เบนซินที่"ฉีดเพิ่ม"ตอนเครื่องเย็น มันก็ระเหยได้บางส่วน คือระเหยไม่หมด (เพราะ heat ไม่พอ) เบนซินที่เหลือ (ยังเป็นของเหลว) เข้าไปผสมกับฟิล์มน้ำมันเครื่องที่เกาะตามผนังกระบอกสูบ เกิด fuel dilution น้ำมันเครื่องเจือจางชะล้างน้ำมันเครื่องที่เคลือบผิวผนังสูบ ทำให้เครื่องสึกหรอมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ ไอน้ำมันเบนซิน เมื่อไปโดนผนังสูบที่เย็นๆ ก็กลั่นตัวกลับเป็นของเหลว .... effect คล้ายหยดน้ำที่เกาะกระจกหน้าต่างตอนอากาศเย็น
จะเห็นได้ว่า การสตาร์ทตอนที่เครื่องเย็นๆ ...เป็นช่วงเวลาที่เครื่องยนต์สึกหรอมาก เขาพยายามจะลดเวลาช่วงนี้ให้ "น้อยที่สุด" พยายามทำให้เครื่องร้อนเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ .... โดยใช้เทอร์โมสตัท ช่วยให้เครื่องร้อนเร็วที่สุด
หรือ
โปรแกรมช่วง warm-up ให้เร่งเครื่องยนต์เอาไว้ที่รอบสูงๆ ไม่ยอมให้เดินเบาๆ ที่รอบเดินเบา
หรือ
โปรแกรม การเปลี่ยนเกียร์ออโตเมติก สั่งให้เกียร์เปลี่ยนที่รอบสูงกว่าปกติ มีอาการเหมือนเรา"ขับลากเกียร์" ทำอย่างนี้ เพื่อจะเร่งให้เครื่องร้อนเร็วที่สุด
พอเราติดตั้งแก็ส เราก็มีทางเลือกที่จะสตาร์ทด้วยแก็ส หรือ เบนซิน ในเมื่อเรารู้ว่า สตาร์ทเบนซิน เครื่องสึกหรอ เพราะเบนซินมันเปียก มันเข้าไปล้างน้ำมันเครื่อง ,ตอนเครื่องเย็น
--ทำไมเรา ไม่สตาร์ทด้วยแก็ส เล่าครับ แก็สมันเข้าไปในสภานะ vapor ไม่ใช่ liquid จึงไม่สามารถเข้าไปผสมกับน้ำมันเครื่องให้เจือจางได้ การสึกหรอก็ไม่มาก
--ทำไม เราต้องจ่ายเงินเพิ่ม ? จ่ายค่า switch Auto สับเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก็ส ครับ ลองคิดให้ดี ใครได้ประโยชน์ และ ใครเสียเงินเพิ่ม เสียเงินเพิ่มแล้ว ยังเสียประโยชน์ เพราะเครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้น เสียเงินทำไมครับ ?
1)--ทำไม เรา ไม่สตาร์ทด้วยแก็ส เล่าครับ แก็สมันเข้าไปในสภานะ vapor ไม่ใช่ liquid จึงไม่สามารถเข้าไปผสมกับน้ำมันเครื่องให้เจือจางได้ การสึกหรอก็ไม่มาก
2) --ทำไมเราต้องจ่ายเงินเพิ่ม ? จ่ายค่า switch Auto สับเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก็ส ครับ
>>>>>>>>>
คำถามทั้ง 2 ข้อนี้
จะ ได้คำตอบว่า "สตาร์ทด้วยแก็ส สตาร์ทยาก" บางคนบอกว่า สตาร์ทไม่ติด เครื่องเย็น .. สตาร์ทยาก สตาร์ทแก็สไม่ติด 555 ปัญหาอย่างนี้ มันไม่ใช่ข้ออ้างนี่ครับ
มันเป็น "งาน" ของช่างคนติดแก็ส
มันเป็น "หน้าที่" ของเขาที่จะปรับจูนให้ลูกค้า
นี่เล่น บอกลูกค้าด้วยข้ออ้าง
-สตาร์ทน้ำมัน "ให้เบนซินหมุนเวียน" บ้าง .... (จะมาหมุนเวียนตอนเช้า นี่นะ)
-มี extra option มี Auto Switch จัดการสับเปลี่ยนน้ำมัน-->แก็ส อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า .... แหม. ฟังหรู ดูดี ครับ เพราะ ลูกค้าได้คุยอวดกัน ของชั้นมี extra option นะเธอ .... เฮ้อ
รถ LPG ในเมืองนอก อากาศเย็นกว่าเมืองไทยเยอะ ไม่เห็นเขา สตาร์ทด้วยน้ำมัน เลย ครับ แล้วรถ LPG เมืองไทย มันเป็นอะไร ถึงสตาร์ทแก็ส ไม่ติด ครับ
เหตุที่ แก็ส สตาร์ทยากกว่า
เพราะ
1) ช่วงการติดไฟของแก็ส "แคบกว่า" เบนซิน
ดังนี้
% Fuel / Air
Propane 2.4--9.5
Butane 1.8--8.4 ... ส่วนผสม หนาเกินไป บางเกิน จะสตาร์ทไม่ติด
Benzin 1.5--16 ...... กว้างมาก ส่วนผสม หนามาก ก็สตาร์ทติด
2) ignition point
Propane 490--550 C
Butane 470--550 C
Benzin 350--380 C
หัว เทียน รถแก็สต้องใช้พลังไฟสูงกว่า มี energy สูงกว่า ดังที่เรามักจะได้ยินเสียงบ่น "เปลืองหัวเทียน" เพราะ หัวเทียนเสื่อมเพียงเล็กน้อย มีผลกระทบโดยตรงต่อแรงไฟ และ energy ทำให้ส่งผลโดยตรงกับรถแก็ส .... อาการที่พบบ่อย คือ จอดติดนานๆ พอเร่งออกตัว จะฟอด หมดแรง ....
ในขณะที่ "หัวเทียนตัวเดียวกัน" ยังใช้กับเบนซินได้ โดยไม่แสดงอาการผิดปกติ ครับ
credit
http://www.neo-club.com/forums/index.php?a...e;topic=13210.0