AE. Racing Club
02 ตุลาคม 2024 01:36:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 3 [4]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปรับแต่ง เครื่อง 4ag20v ฝาขาว-ฝาดำ คุยปัญหาเชิญห้องนี้ครับ  (อ่าน 12268 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Tong KKT OBD
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #60 เมื่อ: 03 กันยายน 2013 17:22:47 »

หลายหน่วยปวดหัวครับ ผมไม่ค่อยสนเท่าไหล่นะ จะมากจะน้อย

Dyno ปกติเค้าไปหาองศาไฟกันตอนจูนอะครับ ว่าดันได้แค่ไหน มันทำให้จูนเนอร์ทำงานง้ายและปลอดภัยกว่ามาเดาบนถนน (ผมกะพี่ที่จูนให้ผมชอบเดาเป็นการส่วนตัวเพราะไม่อยากเสียค่า Dyno เลยจูนถนน อิอิ) ส่วนมากก็เอาไว้ประมาณนี้อะครับ เพราะวัดแต่ละ Dyno ค่าที่ได้ไม่เคยจะเท่ากันเลย เลยไม่ค่อยสนใจว่าไครมากไครน้อยเพราะเวลาจะลองกันจริงๆคือวิ่งจริงรู้เรื่องกว่าครับ กราฟส่วนบางที่ก็วิ่งไม่ดี กราฟกากๆบางทีมันก็วิ่งอร่อยนะ เรื่องพวกนี้ตอบยากครับ

(ปกติที่อาจารย์ผมสอนมานะคือให้ดูที่กราฟแรงบิดครับแล้วค่อยๆดันไฟพร้อมกับแต่งส่วนผสมตามองศาไฟไปเลื่อยๆจนถึงจุดนึงถ้ากราฟแรงบิดมันไม่ขยับขึ้นแล้วให้ลดไฟลงนิดนึงแล้วไปแต่งส่วนผสมในจุดที่ยังไม่ดีให้พอดีครับนี้คือขอดีขอ Dyno)

อ่อ.....คือจะบอกว่าการจูนบน Dyno บางครั้งที่ผมเจอพอมาวิ่งจริงต้องมาลดไฟกันอีกทำให้ไปวัดม้าอีกรอบได้น้อยกว่าจูนรอบแรกอะครับ เลยไม่รู้ว่าอะไรตรงไหนดี 

ที่เบสว่ามา ผมเห็นด้วยทั้งหมดเลยนะ ทุก ๆ เรื่องเลย

แต่ Dyno มันทำให้จูนเนอร์ขายงานได้ง่ายนะ เพราะมันเป็นเครื่องมือวัด วิทยาศาสตร์ที่ทุกคนเชื่อถือ การไปพูดด้วย Feeling มันใช้กับลูกค้าระดับที่เล่นรถมาเยอะ ๆ แล้วเท่านั้น แต่ใครจะตีความกราฟบนไดโน่ที่เห็นมันก็เป็นอีกเรื่องนึง

เล่นรถแบบไทย ๆ เวลาไปขึ้น Dyno ต้องดูที่ แรงม้าสูงสุดครับ แรงบิด หรือ ดูว่ากราฟสวยไม่สวยไม่ได้สนใจกันหรอก คือแรงม้าสูงสุดเอาไว้โม้ หรือขายงานได้

ส่วนเวลาดันองศาไฟจุดระเบิดเยอะ ๆ แล้วแรงม้าแรงบิด ได้เยอะเวลาลงถนนต้องจูนลดลงเพราะว่า
โหลดถนนจริงมันหนักกว่าโหลด Dyno ครับพอโหลดเยอะ องศาไฟจุดระเบิดจะเยอะไม่ได้ แรงต้านจากโหลดเยอะ ลูกสูบจะเคลื่อนตัวช้าลง
ไปจูนองศาไฟเยอะ ๆ มันได้แรงดันไม่ดี เลยต้องยอมลดองศาไฟจุดระเบิดลง

บางคนสงสัย เรื่องจูนไฟจุดระเบิดทำไมไม่ใช้ Knock monitor ฟังเสียง Knock เอาล่ะ จะได้รู้ว่าเพิ่มไฟ ok หรือเปล่า
ผมขอตอบแทนเลยครับ กรณีน้ำมัน octance สูง ๆ เช่น E85 เราไม่สามารถจับเสียง knock ได้เลยครับ ในช่วงที่ไฟเริ่มแก่ ไฟต้องแก่มาก ๆ จริง ๆ จึงจะมีเสียง knock คือ E85 ไฟแก่มาก ๆ ยังไงก็ไม่ knock แต่ว่าแรงบิดร่วงลงไปแล้ว

จูนเนอร์ใหม่ ๆ มักจะหลงประเด็นเรื่ององศาไฟกับ E85 เพิ่ม ๆ ๆ ๆ เข้าไปเพราะยังไม่ knock สุดท้ายรถวิ่งไม่ได้เรื่องเพราะองศาไฟจุดเยอะไปนี่ล่ะ






บันทึกการเข้า
mana
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,792


http://www.corollaclubrace.com/forum/index.php?top


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 03 กันยายน 2013 23:33:15 »

หลายหน่วยปวดหัวครับ ผมไม่ค่อยสนเท่าไหล่นะ จะมากจะน้อย

Dyno ปกติเค้าไปหาองศาไฟกันตอนจูนอะครับ ว่าดันได้แค่ไหน มันทำให้จูนเนอร์ทำงานง้ายและปลอดภัยกว่ามาเดาบนถนน (ผมกะพี่ที่จูนให้ผมชอบเดาเป็นการส่วนตัวเพราะไม่อยากเสียค่า Dyno เลยจูนถนน อิอิ) ส่วนมากก็เอาไว้ประมาณนี้อะครับ เพราะวัดแต่ละ Dyno ค่าที่ได้ไม่เคยจะเท่ากันเลย เลยไม่ค่อยสนใจว่าไครมากไครน้อยเพราะเวลาจะลองกันจริงๆคือวิ่งจริงรู้เรื่องกว่าครับ กราฟส่วนบางที่ก็วิ่งไม่ดี กราฟกากๆบางทีมันก็วิ่งอร่อยนะ เรื่องพวกนี้ตอบยากครับ

(ปกติที่อาจารย์ผมสอนมานะคือให้ดูที่กราฟแรงบิดครับแล้วค่อยๆดันไฟพร้อมกับแต่งส่วนผสมตามองศาไฟไปเลื่อยๆจนถึงจุดนึงถ้ากราฟแรงบิดมันไม่ขยับขึ้นแล้วให้ลดไฟลงนิดนึงแล้วไปแต่งส่วนผสมในจุดที่ยังไม่ดีให้พอดีครับนี้คือขอดีขอ Dyno)

อ่อ.....คือจะบอกว่าการจูนบน Dyno บางครั้งที่ผมเจอพอมาวิ่งจริงต้องมาลดไฟกันอีกทำให้ไปวัดม้าอีกรอบได้น้อยกว่าจูนรอบแรกอะครับ เลยไม่รู้ว่าอะไรตรงไหนดี 

ขอบคุณครับ ต้องใจรักจริงๆเรื่องพวกนี้
บันทึกการเข้า

mana
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,792


http://www.corollaclubrace.com/forum/index.php?top


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 03 กันยายน 2013 23:36:46 »

หลายหน่วยปวดหัวครับ ผมไม่ค่อยสนเท่าไหล่นะ จะมากจะน้อย

Dyno ปกติเค้าไปหาองศาไฟกันตอนจูนอะครับ ว่าดันได้แค่ไหน มันทำให้จูนเนอร์ทำงานง้ายและปลอดภัยกว่ามาเดาบนถนน (ผมกะพี่ที่จูนให้ผมชอบเดาเป็นการส่วนตัวเพราะไม่อยากเสียค่า Dyno เลยจูนถนน อิอิ) ส่วนมากก็เอาไว้ประมาณนี้อะครับ เพราะวัดแต่ละ Dyno ค่าที่ได้ไม่เคยจะเท่ากันเลย เลยไม่ค่อยสนใจว่าไครมากไครน้อยเพราะเวลาจะลองกันจริงๆคือวิ่งจริงรู้เรื่องกว่าครับ กราฟส่วนบางที่ก็วิ่งไม่ดี กราฟกากๆบางทีมันก็วิ่งอร่อยนะ เรื่องพวกนี้ตอบยากครับ

(ปกติที่อาจารย์ผมสอนมานะคือให้ดูที่กราฟแรงบิดครับแล้วค่อยๆดันไฟพร้อมกับแต่งส่วนผสมตามองศาไฟไปเลื่อยๆจนถึงจุดนึงถ้ากราฟแรงบิดมันไม่ขยับขึ้นแล้วให้ลดไฟลงนิดนึงแล้วไปแต่งส่วนผสมในจุดที่ยังไม่ดีให้พอดีครับนี้คือขอดีขอ Dyno)

อ่อ.....คือจะบอกว่าการจูนบน Dyno บางครั้งที่ผมเจอพอมาวิ่งจริงต้องมาลดไฟกันอีกทำให้ไปวัดม้าอีกรอบได้น้อยกว่าจูนรอบแรกอะครับ เลยไม่รู้ว่าอะไรตรงไหนดี 

ที่เบสว่ามา ผมเห็นด้วยทั้งหมดเลยนะ ทุก ๆ เรื่องเลย

แต่ Dyno มันทำให้จูนเนอร์ขายงานได้ง่ายนะ เพราะมันเป็นเครื่องมือวัด วิทยาศาสตร์ที่ทุกคนเชื่อถือ การไปพูดด้วย Feeling มันใช้กับลูกค้าระดับที่เล่นรถมาเยอะ ๆ แล้วเท่านั้น แต่ใครจะตีความกราฟบนไดโน่ที่เห็นมันก็เป็นอีกเรื่องนึง

เล่นรถแบบไทย ๆ เวลาไปขึ้น Dyno ต้องดูที่ แรงม้าสูงสุดครับ แรงบิด หรือ ดูว่ากราฟสวยไม่สวยไม่ได้สนใจกันหรอก คือแรงม้าสูงสุดเอาไว้โม้ หรือขายงานได้

ส่วนเวลาดันองศาไฟจุดระเบิดเยอะ ๆ แล้วแรงม้าแรงบิด ได้เยอะเวลาลงถนนต้องจูนลดลงเพราะว่า
โหลดถนนจริงมันหนักกว่าโหลด Dyno ครับพอโหลดเยอะ องศาไฟจุดระเบิดจะเยอะไม่ได้ แรงต้านจากโหลดเยอะ ลูกสูบจะเคลื่อนตัวช้าลง
ไปจูนองศาไฟเยอะ ๆ มันได้แรงดันไม่ดี เลยต้องยอมลดองศาไฟจุดระเบิดลง

บางคนสงสัย เรื่องจูนไฟจุดระเบิดทำไมไม่ใช้ Knock monitor ฟังเสียง Knock เอาล่ะ จะได้รู้ว่าเพิ่มไฟ ok หรือเปล่า
ผมขอตอบแทนเลยครับ กรณีน้ำมัน octance สูง ๆ เช่น E85 เราไม่สามารถจับเสียง knock ได้เลยครับ ในช่วงที่ไฟเริ่มแก่ ไฟต้องแก่มาก ๆ จริง ๆ จึงจะมีเสียง knock คือ E85 ไฟแก่มาก ๆ ยังไงก็ไม่ knock แต่ว่าแรงบิดร่วงลงไปแล้ว

จูนเนอร์ใหม่ ๆ มักจะหลงประเด็นเรื่ององศาไฟกับ E85 เพิ่ม ๆ ๆ ๆ เข้าไปเพราะยังไม่ knock สุดท้ายรถวิ่งไม่ได้เรื่องเพราะองศาไฟจุดเยอะไปนี่ล่ะ








ขอบคุณครับน้า ^^ ผมคิดว่า ประสมการการฝึกฝน นั้นตัดสินได้ครับ
บันทึกการเข้า

COROLLABOY
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,467


I มิถุนา ing = ฉันกำลัง JUN งงปะ กิกิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #63 เมื่อ: 04 กันยายน 2013 17:08:34 »

ฟังเสียง Knock จริงๆแล้วถ้าเราเข้าใจว่าองศาที่ดีที่สุดของเครื่องคืออะไร เราจะไม่ได้ยินเสียงนี้นะครับนอกจากเครื่องมีการเปลี่ยนแปลง Load แบบกระทันหันเท่านั้นอาจมีเสียงได้บ้าง

องศาจุดระเบิดที่ดีที่สุด คือ องศาที่ให้แรงบิดมากที่สุดในกราฟ แต่ต้องเป็นองศาที่อ่อนที่สุดในขณะแรงบิดสูงที่สุดนะครับ สมมุติดังอีก 4-5 องศาแล้วแรงบิดไม่ขยับขึ้นสักเท่าไหล่อย่าฝืนดันต่อครับ ยังไงก็เขกครับ ผมชอบองศาพอดีแล้วน้ำมัน A/F สัก 13.0-13.5 ครับ จะวิ่งลื่นดี เสียงดี แต่ช่วงสับเกียร์จะเทให้มันหน่อย 12.8-13.00 อะไรอย่างนี้อะ แต่ถ้าไปวิ่งพีระก็เทเข้าไปอีกหน่อย 12.5 น่าจะสวยครับ เอาเซฟๆ

อันนี้คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากอาจารย์หลายท่านและก็มั่วเองบ้างบางจุดนะครับ
บันทึกการเข้า

อยากได้ท่อไอเสียโทรมา 084-3608339
https://www.facebook.com/BestThorThep
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=108304.0
Tong KKT OBD
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: 05 กันยายน 2013 00:00:21 »

ฟังเสียง Knock จริงๆแล้วถ้าเราเข้าใจว่าองศาที่ดีที่สุดของเครื่องคืออะไร เราจะไม่ได้ยินเสียงนี้นะครับนอกจากเครื่องมีการเปลี่ยนแปลง Load แบบกระทันหันเท่านั้นอาจมีเสียงได้บ้าง

องศาจุดระเบิดที่ดีที่สุด คือ องศาที่ให้แรงบิดมากที่สุดในกราฟ แต่ต้องเป็นองศาที่อ่อนที่สุดในขณะแรงบิดสูงที่สุดนะครับ สมมุติดังอีก 4-5 องศาแล้วแรงบิดไม่ขยับขึ้นสักเท่าไหล่อย่าฝืนดันต่อครับ ยังไงก็เขกครับ ผมชอบองศาพอดีแล้วน้ำมัน A/F สัก 13.0-13.5 ครับ จะวิ่งลื่นดี เสียงดี แต่ช่วงสับเกียร์จะเทให้มันหน่อย 12.8-13.00 อะไรอย่างนี้อะ แต่ถ้าไปวิ่งพีระก็เทเข้าไปอีกหน่อย 12.5 น่าจะสวยครับ เอาเซฟๆ

อันนี้คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากอาจารย์หลายท่านและก็มั่วเองบ้างบางจุดนะครับ

เป็นจูนเนอร์ได้เลยนะเนี๊ย ไม่ต้องหลักการอะไรมากเลย แค่จับจุดได้ตรง ๆ จูนยังไงก็แรง
บันทึกการเข้า
Jay หมอศรี @ WZ Zone
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,819



ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 05 กันยายน 2013 00:44:43 »

เรื่องไฟแก่มากๆแล้ววิ่งไม่ออก (แต่ไม่เขก) กับ E85 ผมโดนมากับตัวเลยครับน้าโต้ง เป็นจริงเลย

ดันไฟไปเย๊อะ แล้วยังไม่เขก เราก็ดันขึ้นไปอีก (เพราะพี่ชายเคยให้ฟังเสียงเบนซิน 95 มันเขกได้ชัดเจนเลย)

แต่ E85 ดันไฟขึ้นไปแก่มากๆประมาณนึงแล้ว พบว่ารถมันไม่วิ่ง แต่พอลดไฟลง อย่างตอนนั้นพี่เค้าก็ลดให้ดูประมาณ 3-5 องศา

ปรากฏว่ามันถีบตัวออกไปได้ดีขึ้น ^__^ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 2 3 [4]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!