[[/color]
คนที่ทำด้วยจิตอาสาก็พอมี อันนี้สรรเสริญ แต่ส่วนมากที่เจออยากถามหน่อย รถกู้ภัยทำไมต้องแต่ง ลงล้อ ใส่อินเตอร์ ฯลฯ แต่งยังกะรถซิ่ง ถามจริงอยากซิ่งแบบเท่ห์ๆว่างั้น ขับเร็วซะ รถก็ไม่ใช่จะใหม่อะไร ไมตี้ ,สตราด้า,อีสุส พลาดมาเอาอยู่มั้ย?? กลัวจังกลัวว่าซักวันจะได้ไปรับศพพวกเดียวกัน
นี่แหละที่กลัวครับกลัวไปเก็บพวกเดียวกัน
รถกู้ภัยทำไมต้องแต่ง ลงล้อ ใส่อินเตอร์ ฯลฯ แต่งยังกะรถซิ่ง ถามจริงอยากซิ่งแบบเท่ห์ๆว่างั้น ไม่รุ็เหมือนกันครับว่าทำไมต้องแต่งขนาดนั้นแต่ก็พอที่จะเข้าใจได้ครับ คือรถกู้ภัยส่วนใหญ่เป็นรถอาสาครับที่แต่งก็เป็นเรื่องปกติที่เค้าแต่งกันก็เหมือนเราแต่งaeนี่แหละครับแต่พอเราติดตรากู้ภัยเข้าไปกลายเป็นรถกูภัยแต่งซะงั้น เรื่องนี้อธิบายเป็นคำพูดยากครับต้องไปสัมผัสว่าคนที่เป็นอาสาจริงๆที่ทำด้วยใจมันเป็นยังไง หลายคนพูดว่าเป็นเพราะอยากพกวิทยุทำเทห์ มันไม่เทห์หรอกครับถ้าไม่มีใบอณุญาติถูกตรวจสอบขึ้นมานี่ติดคุกน่ะครับหลายปีด้วย รถที่ใช้ก็ต้องขึ้นทะเบียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ารถคันนี้ได้ขออณุญาติถุกต้องมั๊ย แล้วยังถุกควบคุมมาตรฐานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินอีก รถทุกคันมีใบอณุญาติ1ปีต้องต่อปีต่อปีเยอะแยะครับพิมพ์ไม่ไหว
ทำใจเถอะครับ ทุกสังคม ทุกชนชั้น ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ปะปนกันไปครับ คนที่เค้าทำดีเราสรรเสริญเค้าก็ถูกต้องแล้วดีแล้ว
ส่วนคนที่เค้าทำไม่ดีเดี๋ยวอยู่ๆไปวันนึงเค้าก็จะเจอดีเองแหละครับ พูดไปแล้วรถกู้ภัยที่เป็นอาสาทุกคันหาตัวได้ไม่ยากเลยครับ ถ้าหากจะเอาเรื่องจริงๆ
ส่วนเรื่องที่ท่านสงสัยก็อย่าสงสัยเลยครับ ที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถอาสาฯ ทั้งนั้นแหละครับ ไม่ใช่รถของศูนย์ฯหรือมูลนิธิหรอกครับ
รถคันนึงเอามาทำรถกูภัย ต้องใช้ทุนทรัพย์เยอะมากนะครับ ค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตคน อุปกรณ์ปฐมพยาบาลแต่ละชิ้น ซื้อเองทั้งนั้นแหละครับ แต่ละชิ้นก็ไม่ใช่จะถูกๆครับ
ไม่ว่าจะเป็น เปลสไลด์ spinal board ambu ถังoxygen mask with bag ฯลฯ นับรวมไปกับพวกอุปกรณ์ที่สิ้นเปลือง กับปุกรณ์ภายนอก หลายๆอย่างด้วยครับ
เพื่อที่จะให้ผ่านการตรวจมาตรฐานของ สพฉ. อันนี้ยังต้องแบ่งเกรดของรถอีกนะครับ ของพวกนี้ใช้เงินเยอะเลยทีเดียวครับ ส่วนเรื่องล้อเรื่องอะไรก็นานาจิตตังครับ
ของบนรถราคาเป็นแสน เทียบกับพวกล้อยาง ราคา2-3หมื่น มันก็เป็นความสุขของเจ้าของรถน่ะครับอย่าว่ากันเลยครับ555 พูดถึงเดี๋ยวนี้รถกระบะออกมาใหม่ก็ล้อ 17"แล้วหนิครับ
คนที่เค้าทำดี มีเยอะแยะนะครับ โดยมากคนเราจะชินตาและจดจำกับคนที่ทำไม่ดีมากกว่าคนดีครับ ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสื่อมเสียไปด้วย สุดท้ายคนพวกนั้นก็อยู่ไม่ได้ไปเองแหละครับ
คนที่เป็นอาสาหรือเจ้าหน้าที่จริงๆแล้วทุกคนต้องผ่านการอบรมหลายหลักสูตรนะครับ กว่าจะมาขึ้นรถแล้วออกเหตุได้
ตลอดมานั้นมีคนที่ทำเพราะอยากเท่ก็มี คนที่ทำด้วยใจก็มี คนที่เมาแล้วขับมาบำเพ็ญประโยชน์ก็พอมีมาบ้าง ถ้าเกิดเราได้ไปอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุก็จะสังเกตุเห็นได้ชัดเจนมากครับ
(ถ้าเป็นท่านไปทำตรงนั้น เจอคนประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนแขน ขา หักเห็นกระดูกแทงออกมานอกผิวหนัง ท่านจะกล้าเข้าไปช่วยมั้ยครับ ส่วนใหญ่ผมเห็นแต่คนมุงดูเยอะมว๊าก555)
พูดถึงเรื่องการขับรถไปเหตุนั้น หลายๆท่านคงมองว่ารถกู้ภัยส่วนใหญ่ขับรถกวน... ถ้าเค้าไปเหตุจริงๆก็อย่าว่ากันเลยครับ (แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดี ว่ามันไปจริงป่าว555)
เพราะที่สุดแล้วชีวิตกับลมหายใจของคนเจ็บนั้น วัดกันเป็นวินาทีเลยก็ว่าได้ครับ
ถ้าเห็นสัญญาณไฟฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นรถambulance รถกู้ภัย ที่เค้าเปิดอยู่ ถ้าเป็นไปได้หลบให้เค้าไปก่อนได้จะดีมากๆ ถึงแม้ว่าเราไม่ทราบว่า ในรถมีคนเจ็บจริงๆหรือไม่ก็ตามครับ
อย่าไปหมั่นไส้เค้าเลยครับ ไม่มีอะไรดีหรอกครับ ทั้งตัวท่านและตัวเค้า เสียเวลาด้วยกันทั้งคู่ บ่อยครั้งที่ไปเหตุ โดนด่าว่าทำไมมาช้า ใช้น้ำมันตราเต่ารึไง ฯลฯ บางทีมันก็น่าน้อยใจจริงๆครับ
สุดท้ายแล้ว พูดไปว่าคนที่ไม่เคยเป็นคนเจ็บ ไม่มีวันรู้หรอกครับว่า การรอรถพยาบาลหรือรถกู้ภัย รอ 1 นาที เหมือนรอ 1 ชั่วโมงครับ ไม่เชื่อลองดูได้ครับ(อันนี้ล้อเล่นครับ555)
หากผมกล่าวอะไรออกไปแล้วไปกระทบฯท่านใด หรือทำให้ท่านใดไม่พอใจ ก็ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ