มันคือการตลาดของการแย่งพื้นที่ข่าว...ดูแค่รถจดบอกdsiเอาจริงพอถึงวันนี้มีผลออกมาจากการตรวจรถราคาเกิน4ล้าน ห้าร้อยกว่าคัน
มีผิดจริงๆที่ยึดไว้ได้แค่8คัน ทำไมdsiมันแยกไม่ออกเลยเหรอว่ารถจดมันเป็นยังไงถามเด็กเชียงกงมันยังดูออกเลยคันไหนจดคันไหนไม่จด
ที่เหลืออีกหกพันกว่าคันรอคิวเรียกมาตรวจทั้งสมัครใจและบังคับให้มาตรวจ เราคิดว่าไม่ต้องเรียกก็ได้มั่งเสียเวลาเปล่า ออกเป็นคำสั่งมาเลย
ให้รถที่เจ้าของรถรู้อยู่แก่ใจว่าใช้รถจดนำรถมาเสียภาษีเพิ่มให้เต็มจำนวน ถ้าไม่มาเสียในเวลาที่กำหนดมีโทษปรับหรือจำก็แล้วแต่ระบุไปเลย
ส่วนผู้แจ้งเบาะแสรถจดที่พบเห็นในซอยบ้าน บนถนน หรือที่ซ่อน จะได้รางวัลนำจับ50%ของราคาขายทอดตลาด รับรองเรื่องรถจดหมดปัญหา
แน่นอน มีรายได้เข้ารัฐบานตะไท สร้างรายได้แก่ผู้พบเห็นดีกว่านโยบายประชานิยมหลอกลวงอีก เรียกมาตรวจตั้งแต่กระป้อวิ่งในซอยยันหัวรถลาก
ที่จดไปแล้วและจอดซุุกหลังโกดังทั่วประเทศเอาว่าแตะแสนคันแน่นอน ขอประวัติที่ขนส่งมาดูก็รู้แล้ว หลังเล่มมันระบุอยู่แล้วว่ารถคันนี้ประกอบขึ้น
จากชิ้นส่วนอะไหล่ใช้แล้ว มันแดรกกันตั้งกะตู้ยังไม่ถึงท่าเรือจนถึงขนส่ง ทีรถจดเลี่ยงภาษีเห็นๆยังบังคับเค๊าไม่ได้ เสรือกจะมาบังคับรถเสียภาษีถูกต้อง
เกิน7ปีห้ามวิ่ง แหกตาดูบ้างว่าค่าครองชีพกับภาวะเศรฐกิจชะรอตัวทั่วโลกตอนนี้ ใครแมร่งจะมีปัญญาซื้อรถใหม่วะ กะว่าคนมีตังค์กับพวกที่แดรกจนรวย
เท่านั้นมั่ง มีสิทธ์ใช้ถนนใน กทม.ส่วนคนจนไม่มีสิทธิ์เพราะไม่มีปัญญาซื้อรถใหม่ เคยถามพวกเราที่เสียภาษีบ้างป่าวคุณเอาเงินเราไปทำอะไร
(ก็เอาไปถลุงกับโครงการประชานิยมไง) เมื่อไหร่นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐฝ่ายค้านและลิ่วล้อที่รับหน้าเสื่อเสนอนโยบายโยนหินถามทางหรือ
สร้างกระแสกลบข่าวฉาวเบี่ยงเบนความสนใจมันจะล้มหายตายจากหมดแผ่นดินนี้เสียที แล้วมีพวกรุ่นใหม่ที่อยากสร้างประเทศให้เจริญจริงเข้ามาแทนที่
แต่คงได้แค่ฝัน เพราะการเป็น สส.และรัฐมนตรี มันถูกผูกขาดด้วยระบบทายาทและพวกพ้อง จนเป็นประเพณีหรือวัฒนะธรรมการเมืองของประเทศไทย