ก็คงเป็นที่ทราบดีแล้วนะครับเครื่องยนต์ที่ใช้ประเภทน้ำมันเบนซินทุกคันต้องมีก็คือหัวเทียน ที่ใช้ในการจุดระเบิดขับเคลื่อนกระบอกสูบ
โดยทั่วไปหัวเทียนจะมีอายุการใช้งาน ตั้งแต่ 8,000 - 20,000 กม. ขึ้นอยู่กับการขับของเรา เมื่อถึงระยะจึงเปลี่ยนเพื่อรักษาความสมบูรณ์ในการทำงานของเครื่องยนต์ แต่ก็มีหัวเทียนแพลตตินั่ม ที่ราคาสูงกว่าและอายุการใช้งานทนทานกว่า แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนนักเรื่องอายุการใช้งานว่าทนกว่ากี่เท่า
สิ่งทีอยากจะแนะนำ เราควรจะมีหัวเทียนสำรองเก็บไว้บ้างอันสองอัน ติดเอาไว้ในรถ เปลี่ยนเป็นไม่เป็นค่อยว่ากันอีกที เปลี่ยนไม่เป็นจริงๆ ก็ค่อยหาคนมาเปลี่ยนให้ก็ได้
เมื่อหัวเทียนทำงานอยู่นั้นหน้าที่ของมันก็คือการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เมื่อใช้งานไปนานๆ เข้า หัวเทียนก็จะสกปรกและสึกหรอ จากความร้อนและคราบเขม่าต่างๆ และแรงดัน เพราะอย่างนี้เราถึงต้องทำความสะอาดหัวเทียน และปรับตั้งของระยะเขี้ยวหัวเทียน แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยากหรือหัวเทียนสึกหรอจนปรับไม่ได้ หัวเทียนสำรองนี่ละที่มีประโยชน์
ถ้ารถคุณเป็นรถใหม่ก็ไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ ถ้าคุณยังใช้บริการศูนย์อยู่ แล้วเข้าเช็คตามระยะ ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้ เพราะทางศูนย์บริการจะเปลี่ยนให้ เมื่อเวลาครบกำหนด
วิธีการถอดหัวเทียนด้วยตัวเองก่อนอื่นต้องดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดฝากระโปรงและดึงสายหัวเทียนออกก่อน แล้วทำสัญลักษณ์ตัวเลขกำกับไว้ด้วยว่าสายใดเข้าที่เบ้าไหน จะได้เวลาใส่กลับจะได้ใส่ถูก ตามแล้วแต่ประเภทของเครื่องยนต์ของรถ แล้วใช้บล็อคถอดหัวเทียนขันหัวเทียนออกมา
*ที่สำคัญก่อนที่จะถอดหัวเทียนออก ให้ทำความสะอาดเบ้าหัวเทียนและรอบๆให้สะอาด เพื่อไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกตกลงไปในกระบอกสูบ
ล้างทำความสะอาดหัวเทียน
ในกรณีที่มีความรู้เรื่องช่างอยู่บ้าง หลังจากถอดแล้วให้เราเอากระดาษทราย มาขัดทำความสะอาดที่ขั้วหัวเทียน และอย่าลืมตรวจสอบว่า มีความปกติอะไรหรือไม่ เช่น มีความเปียกชื้น จากน้ำมันล่อลื่น มากเกินไปไหมหรือมีคราบเขม่าควันเยอะกว่าปกติ เพราะมาจากการทำงานผิดปกติของ หลังจากใช้กระดาษทรายเช็ดจัดไปแล้ว ถ้าใครมีอุปกรณ์เช็คระยะหัวเทียนก็นำมาวัดระยะแล้วปรับตั้งหัวเทียนได้เลย ให้ทำการล้างต่อด้วยน้ำมันเบนซิน และใส่กลับคืนมันกลับไปเหมือนเดิม
*ถ้ารถของท่านมีปัญหา สตาร์ทไม่ติด , ติดสะดุด เหมือนเดินไม่เต็มสูบไม่เต็มที่ ถ้าคิดอาการเหล่านี้เป็นเพราะหัวเทียน เราก็มีวิธีเช็คง่ายๆ ดังนี้1. ให้ถอดตัวหัวเทียนออกมาจากเบ้า แต่ให้เสียบสายหัวเทียนเอาไว้
2. ให้หาคีมที่ตัวด้ามจับเป็นฉนวน คีบหัวเทียน
3. นำไปจ่อกับชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ ใกล้ๆง่ายๆหน่อยก็เป็นตัวถังรถ แต่สิ่งระมัดระวังมากที่สุดห้ามอย่าจ่อไปกับ ที่มีน้ำมันเบนซิน และแบตเตอรรี่
4. แล้วลองไปติดเครื่องรถดู ว่ามีการเกิดประกายไฟหรือไม่ ถ้าไม่มีให้ทดสอบซ้ำ โดยนำหัวเทียนมาเปลี่ยนใส่สายหัวเทียนเส้นอื่น ถ้ายังไม่มีอีกแสดงว่าหัวเทียนเสียแล้วให้เปลี่ยนเลย
อาจจะเคยได้ยินเรื่องการเปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนสายหัวเทียนเป็นรุ่นอื่น ทำให้รถแรงขึ้น ขอบอกไว้ก่อนว่า ถ้ารถเราเป็นรถเดิมๆ ไม่แต่งหรือจูนเครื่องยนต์ ก็เปล่าประโยชน์ครับแถมเสียเงินโดยใช้เหตุอีกด้วย ถ้าเปลี่ยนหัวเทียน สายหัวเทียนแล้วรถแรงขึ้นเขาก็คงจะเปลี่ยนกันหมดทั้งประเทศทั้งโลกแล้วละ ถ้ารถอยากรถให้รถแรงมันต้องเซ็ตทั้งระบบครับ
ข้อมูลจาก
หัวเทียน สิ่งสำคัญของเครื่องยนต์http://www.toyotanon.com/