ชี้ความกระจ่างทีครับระหว่าง Swithching กับ หม้อแปลงเครื่องชาจ

[kaImušIc CBŽ™]

ผมหาข้อมูลจนปวดหัวล่ะคับ เริ่มสับสนกับข้อมูลต่างๆ ที่ให้ไม่ค่อยจะตรงกันบ้าง

ผมจะเอามาใช้งานเปิดเครื่องเสียงให้ได้ด้วย แล้วก็ให้มันชาจต์ได้ด้วย ตอนเอาไปเปิด

จนแบตหมดตอนเปิดข้างทาง  บางคนก็บอก Swithching เปิดได้อย่างเดียว ชาจต์ไม่ได้

บางคนบอกได้ หม้อแปลงชาจต์ ก็ดูๆจะเหมาะกว่าไม๊ ไปเปิดหมดมาแล้วค่อยมาชาจต์ทิ้งไว้ที่บ้าน

ตอนนอน

ปล. ไดร์เดิมชาจต์ไม่ทันครับ สตาทเครื่องตลอดครับตอนเปิดข้างทาง (แบต 2 ลูก 65+70 Amp กึ่งแห้ง  Panasonic+Puma)

[yong]

มารอด้วยคน อิอิ

[nontype]

ตามความเห็นส่วนตัว ผมว่า Switching สเถียรกว่านะครับ เพราะวงจร Regulate แม่นยำกว่า + จ่ายกระแสได้ดีกว่า จังหวะไฟกระเพื่อม-กระชาก Switching จะตอบสนองได้ไวกว่าครับ (แต่ต้องเป็น Switching  ดีๆนะครับ)

[doraemonarak]

อ้าว ทั้งสองอย่างต้องต่อไฟบ้านทั้งคู่นี่ครับ
อย่างไรก็ตาม หากต่อเข้ากับแบต ควรถอดออกก่อนสตาร์ทนะครับ ป้องกันวงจรพัง(ของผมมีเครื่องชาร์ทแบต ลืมถอดออกก่อน) หรือไม่ก็ต่อแยกไม่ผ่านแบต น่าจะดีที่สุด ส่วนสวิทช์ชิ่งราคาจะแพงกว่านะครับ แต่นิ่งกว่า (เคยใช้ที่ทำงานเก่า ต่อไฟ LED hyper นิ่งดีครับ เพราะวงจรขับกระแสบางอย่างจะพังเมื่อไฟตก)

[lek-4374]

อ้าว ทั้งสองอย่างต้องต่อไฟบ้านทั้งคู่นี่ครับ
อย่างไรก็ตาม หากต่อเข้ากับแบต ควรถอดออกก่อนสตาร์ทนะครับ ป้องกันวงจรพัง(ของผมมีเครื่องชาร์ทแบต ลืมถอดออกก่อน) หรือไม่ก็ต่อแยกไม่ผ่านแบต น่าจะดีที่สุด ส่วนสวิทช์ชิ่งราคาจะแพงกว่านะครับ แต่นิ่งกว่า (เคยใช้ที่ทำงานเก่า ต่อไฟ LED hyper นิ่งดีครับ เพราะวงจรขับกระแสบางอย่างจะพังเมื่อไฟตก)

[lek-4374]

อ้าว ทั้งสองอย่างต้องต่อไฟบ้านทั้งคู่นี่ครับ
อย่างไรก็ตาม หากต่อเข้ากับแบต ควรถอดออกก่อนสตาร์ทนะครับ ป้องกันวงจรพัง(ของผมมีเครื่องชาร์ทแบต ลืมถอดออกก่อน) หรือไม่ก็ต่อแยกไม่ผ่านแบต น่าจะดีที่สุด ส่วนสวิทช์ชิ่งราคาจะแพงกว่านะครับ แต่นิ่งกว่า (เคยใช้ที่ทำงานเก่า ต่อไฟ LED hyper นิ่งดีครับ เพราะวงจรขับกระแสบางอย่างจะพังเมื่อไฟตก)
   

[lek-4374]

หม้อแปลง เป็นขดลวดทองแดง  Switching เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค

[kaImušIc CBŽ™]

ยังรอ ข้อมูลท่านอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ

[Nueng.k]

วงจรสวิชชิ่งกับหม้อแปลง แต่ต่างกันในหลาย ๆ ด้านครับทั้งในเรื่องขนาด การบริโภคพลังงานและความเสถียรครับ แต่ก็แตกต่างในเรื่องการนำไปใช้งานด้วยครับจริง ๆ หลายคนคิดว่าวงจรสวัตช์ชิ่งไม่ได้ใช้หม้อแปลง แต่จริง ๆ แล้ววงจรสวิตช์ชิ่งก็ยังคงไม่หม้อแปลงเป็นส่วนประกอบด้วยอยู่ดีครับ เพียงแต่บทบาทของการใช้หม้อแปลงลดลง ในอดีตวงจรไฟฟ้าส่วนใหญ่ในทีวี วิทยุ เครื่องเสียงแต่ก่อนจะใช้หม้อแปลงเป็นหลักครับ แต่มายุคสมัยนี้วงจรสวิตช์ชิ่งเข้ามาแทนที่ครับเนื่องจากวงจรสวิตช์ชิ่งนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าให้อัตรากำลังไฟดีกว่าแต่กระแสไม่ได้แรงหรือมากไปกว่าแบบหม้อแปลงเท่าไรนัก ถ้าเปรียบเทียบน่ะครับขอเปรียบเทียบแบบนี้ครับ

วงจรสวิชชิ่ง ข้อดี
1.ขนาดวงจรเล็ก
2.กินไฟน้อยกว่าหม้อแปลง
3.มีวงจรป้องกันไฟเกินในตัว (วงจร Protect)
4.ให้กระแสไฟที่นิ่งกว่าแบบหม้อแปลง
5.ไม่ร้อนถ้าเทียบกับวงจรแบบหม้อแปลง
ข้อเสีย
1.เอาไปใช้งานที่ต้องการกำลังไฟสูง ๆ ไม่ได้เช่นเครื่องเสียงขนาดใหญ่
2.ให้กระแสไฟที่น้อยเมื่อเทียบกับวงจรหม้อแปลง
3.เอาไปใช้กับโหลดหนัก ๆ มากไม่ได้

วงจรหม้อแปลง
1.ให้กำลังไฟที่มากได้แต่ไม่เสถียรเท่าไร (ขึ้นอยู่กับวงจรด้วย)
2.บริโภคไฟเยอะกว่าวงจรสวิตช์ชิ่งมากกกก
3.ร้อนกว่าแบบวงจรสวิจช์ชิ่ง
4.วงจรมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กับขนาดหม้อแปลง
5.ไม่มีวงจร Protect ที่ดีเท่าที่ควร (ประมาณว่าเกิดช๊อตขึ้นมาหม้อแปลงพังก่อนเลย)

จริง ๆ หลายคนมองว่าวงจรสวิจช์ชิ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าแต่ขอบอกว่าไม่ใช่ทุกเรื่องครับ สังเกตุได้ว่าพวกเครื่องเสียงขนาดใหญ่ หรือเครื่องเสียงตามบ้านใช้วงจรแปลงไฟที่เป็นหม้อแปลง เนื่องจากวงจรที่เป็นหม้อแปลงมีหม้อแปลงหลายประเภทครับ ตั้งแต่แบบห่วย ๆ ไปจนถึงดี ๆ ครับ เช่นหม้อแปลง ทรอยด์ (ที่เป็นหม้อแปลงกลม ๆ คล้ายโดนัท ให้กระแสไฟได้มากและกระแสนิ่งจึงนิยมเอามาทำเครื่องเสียงตามบ้าน)

สุดท้ายครับ สังเกตุว่า Inverted  ที่แปลงไฟ 12V DC เป็น 220V AC ก็ใช้ทั้งวงจรสวิตช์ชิ่งและ หม้อแปลงรวมกันครับ

*** ไม่ว่าอย่างไรวงจรทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับ ขึ้่นอยู่กับการนำไปใช้งานและการออกแบบ ***

...ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ ...

[kaImušIc CBŽ™]

วงจรสวิชชิ่งกับหม้อแปลง แต่ต่างกันในหลาย ๆ ด้านครับทั้งในเรื่องขนาด การบริโภคพลังงานและความเสถียรครับ แต่ก็แตกต่างในเรื่องการนำไปใช้งานด้วยครับจริง ๆ หลายคนคิดว่าวงจรสวัตช์ชิ่งไม่ได้ใช้หม้อแปลง แต่จริง ๆ แล้ววงจรสวิตช์ชิ่งก็ยังคงไม่หม้อแปลงเป็นส่วนประกอบด้วยอยู่ดีครับ เพียงแต่บทบาทของการใช้หม้อแปลงลดลง ในอดีตวงจรไฟฟ้าส่วนใหญ่ในทีวี วิทยุ เครื่องเสียงแต่ก่อนจะใช้หม้อแปลงเป็นหลักครับ แต่มายุคสมัยนี้วงจรสวิตช์ชิ่งเข้ามาแทนที่ครับเนื่องจากวงจรสวิตช์ชิ่งนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าให้อัตรากำลังไฟดีกว่าแต่กระแสไม่ได้แรงหรือมากไปกว่าแบบหม้อแปลงเท่าไรนัก ถ้าเปรียบเทียบน่ะครับขอเปรียบเทียบแบบนี้ครับ

วงจรสวิชชิ่ง ข้อดี
1.ขนาดวงจรเล็ก
2.กินไฟน้อยกว่าหม้อแปลง
3.มีวงจรป้องกันไฟเกินในตัว (วงจร Protect)
4.ให้กระแสไฟที่นิ่งกว่าแบบหม้อแปลง
5.ไม่ร้อนถ้าเทียบกับวงจรแบบหม้อแปลง
ข้อเสีย
1.เอาไปใช้งานที่ต้องการกำลังไฟสูง ๆ ไม่ได้เช่นเครื่องเสียงขนาดใหญ่
2.ให้กระแสไฟที่น้อยเมื่อเทียบกับวงจรหม้อแปลง
3.เอาไปใช้กับโหลดหนัก ๆ มากไม่ได้

วงจรหม้อแปลง
1.ให้กำลังไฟที่มากได้แต่ไม่เสถียรเท่าไร (ขึ้นอยู่กับวงจรด้วย)
2.บริโภคไฟเยอะกว่าวงจรสวิตช์ชิ่งมากกกก
3.ร้อนกว่าแบบวงจรสวิจช์ชิ่ง
4.วงจรมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กับขนาดหม้อแปลง
5.ไม่มีวงจร Protect ที่ดีเท่าที่ควร (ประมาณว่าเกิดช๊อตขึ้นมาหม้อแปลงพังก่อนเลย)

จริง ๆ หลายคนมองว่าวงจรสวิจช์ชิ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าแต่ขอบอกว่าไม่ใช่ทุกเรื่องครับ สังเกตุได้ว่าพวกเครื่องเสียงขนาดใหญ่ หรือเครื่องเสียงตามบ้านใช้วงจรแปลงไฟที่เป็นหม้อแปลง เนื่องจากวงจรที่เป็นหม้อแปลงมีหม้อแปลงหลายประเภทครับ ตั้งแต่แบบห่วย ๆ ไปจนถึงดี ๆ ครับ เช่นหม้อแปลง ทรอยด์ (ที่เป็นหม้อแปลงกลม ๆ คล้ายโดนัท ให้กระแสไฟได้มากและกระแสนิ่งจึงนิยมเอามาทำเครื่องเสียงตามบ้าน)

สุดท้ายครับ สังเกตุว่า Inverted  ที่แปลงไฟ 12V DC เป็น 220V AC ก็ใช้ทั้งวงจรสวิตช์ชิ่งและ หม้อแปลงรวมกันครับ

*** ไม่ว่าอย่างไรวงจรทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับ ขึ้่นอยู่กับการนำไปใช้งานและการออกแบบ ***

...ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ ...

ข้อมูลดีมากเลยครับ  อย่างผมควรใช้แบบไหนดีครับ (แต่ผมคิดไว้ในใจว่า อยากได้แบบ ชาจ ไปด้วย เปิดเพลงไปได้ด้วยอ่ะครับ)

[Nueng.k]

อันนี้คือพี่จอดรถอยู่บ้าน แล้วต้องการเปิดเพลงไปด้วยชาร์จไปด้วยถูกไหมครับ ถ้าต้องเปิดเพลงไปด้วยชาร์จไปด้วยผมคิดว่า สวิตช์ชิ่งไม่มีกำลังขับมากพอทั้งสองอย่าง ยิ่งเปิดเครื่องเสียงรถยนตร์แล้วละก้อเห็นเปิดกันทีคงไม่เปิดเบา ๆ เป็นแน่   เชื่อว่าช่วงเบสขับออกหนัก ๆ ไฟตกชัวซึ่งผมไม่แนะนำให้ ชาร์จไปเปิดเครื่องเสียงรถยนตร์ไปครับ เพราะเครื่องเสียงรถยนตร์กินกระแสไฟมากกว่า พวกวงจรไฟบ้านครับ วงจรไฟบ้านอย่างมากก็อาจจะขับกระแสได้ไม่เกิน 5-10 Amp (ขึ้นอยู่กับวงจรและคนออกแบบ) ซึ่้งเครื่องเสียงรถยนตร์ต้องการบริโภคกำลังไฟมากกว่านั้นสังเกตุได้ว่าทำไมเวลาต่อเครื่องเสียงรถยนตรี์ทำไมต้องใช้สายไฟเส้นใหญ่ ๆ นั้นก็เพื่อให้ Amp วิ่งได้เต็มที่


***ผิดพลาดประการใดต้องขออภับครับ   ***

[kaImušIc CBŽ™]

switching สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์  ปรับแรงดันได้ตั้งแต่ 12-15V กระแสเต็ม
เจ้า Switching ในที่นี้ทำหน้าที่แปลงไฟบ้าน 220VAC มาเป็นไฟแรงดันต่ำกระแสสูง 12V-15VDC  100A-300A
เพียงพอที่จะนำมาใช้แทนแบตเตอรี่ได้เลย   หรือนำไปใช้ชาร์จแบตเตอรีเพื่อฟังเครื่องเสียงรถยนต์โดยไม่ต้อง
สตาร์ทเครื่องยนต์ให้เปลืองน้ำมันครับ

คุณสมบัติ รุ่น 100A
    • แรงดันอินพุต ................................................................180V-240 VAC
    • กำลังวัตต์เอาต์พุตต่อเนื่อง..................................................1,500 วัตต์
    • แรงดันเอาพุต.................................................................12V-15V
    • จัดรูปแบบวงจรแบบ..........................................................Haft-Bridge Converter
    • ระบบควบคุมแรงดัน.........................................................voltage feedback
    • ระบบป้องกัน..................................................................Current limit Protection & AC fuse 10A


คุณสมบัติ รุ่น 150A
    • แรงดันอินพุต ................................................................180V-240 VAC
    • กำลังวัตต์เอาต์พุตต่อเนื่อง..................................................2,250 วัตต์
    • แรงดันเอาพุต.................................................................12V-15V
    • จัดรูปแบบวงจรแบบ..........................................................Haft-Bridge Converter
    • ระบบควบคุมแรงดัน.........................................................voltage feedback
    • ระบบป้องกัน..................................................................Current limit Protection & AC fuse 15A


คุณสมบัติ รุ่น 200A
    • แรงดันอินพุต ................................................................180V-240 VAC
    • กำลังวัตต์เอาต์พุตต่อเนื่อง..................................................3,000 วัตต์
    • แรงดันเอาพุต.................................................................12V-15V
    • จัดรูปแบบวงจรแบบ..........................................................Haft-Bridge Converter
    • ระบบควบคุมแรงดัน.........................................................voltage feedback
    • ระบบป้องกัน..................................................................Current limit Protection & AC fuse 20A


คุณสมบัติ รุ่น 300A
    • แรงดันอินพุต ................................................................180V-240 VAC
    • กำลังวัตต์เอาต์พุตต่อเนื่อง..................................................4,500 วัตต์
    • แรงดันเอาพุต.................................................................12V-15V
    • จัดรูปแบบวงจรแบบ..........................................................Full Bridge Converter
    • ระบบควบคุมแรงดัน.........................................................voltage feedback
    • ระบบป้องกัน..................................................................Current limit Protection & AC fuse 30A




12-15V 100A 4500 บาท
12-15V 150A 5500 บาท
12-15V 200A 7000 บาท
12-15V 300A 9000 บาท

https://www.facebook.com/thai.kanu

เคติด http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?PHPSESSID=104ec170a4fb6fc2855187a3d0721fd9&topic=201218.40
สนใจแบบนี้อยู่ครับ แต่้ไม่แน่ใจว่า มันทำงานแทนตัวชาจต์แบตได้เลยรึป่าวครับ

[Nueng.k]

ผมว่าพี่ต้องลองถามข้อมูลเลยดีกว่าครับ ว่าสามารถเปิดใช้งานพร้อมกับชาร์จได้เลยหรือไม่ครับ

[ohm]

พอไม่พอต้องเอากำลังวัต์ของเครื่องเสียงมาตำนวลครับ รวมถึง วัตต์ของการช๊าทด้วย ก็จะได้รู้ว่าPower Supply ที่จะเอามาพ่วงมันพอไหวหรือไม่ไหวครับ

[yong]

 

[Aim-Aem]

จัดรูปแบบวงจรแบบ..........................................................Full Bridge Converter ถ้าเครื่องเสียงต้องรุ่นนี้นะครับ เสียงมันจะดีมี noise ต่ำ ถ้าต้องการเสียงดี ต้องหม้อแปลงครับ switching คุณภาพเสียงด้อยกว่า แต่ถ้ากลางแจ้งswitching ก็ โอเคครับ