: ใครทำงานด้านนำเข้า-ส่งออก หรือ Shipping ขอถามหน่อยจ้า

[~ Funky_nu_NoO :]

ถาม 3 เรื่องเกี่ยวกับภาษีในการนำเข้า ของจากออฟฟิซไต้หวันนะครับ

1. ของราคาค่อนข้างสูง แต่ไม่เกิน 1,000 บาท โดนภาษีไม๊ครับ

2. มันคือเครื่องวัดความดันโลหิตจากจีน แต่ออฟฟิซดันอยู่ไต้หวัน แบบนี้เสี่ยงจะโดนหรือไม่
หรือต้องให้เขาส่ง Form-E ที่เลื่องลือมาด้วยครับ (เคยแต่อ่าน ไม่เคยเห็นตัวฟอร์มของจริง)
คลับคล้ายว่าเป็นใบที่ยืนยันว่าสินค้าทำจากจีนจริงๆ และเข้าข่ายยกว้นภาษี FTE อะไรซักอย่างนี่แหละ

...ท่านใดอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ รบกวนสงเคราะห์ทีครับ

3. เอาเข้ามาประมาณ 2-3 เครื่องเพื่อใช้เอง (Home use)
ส่งแยกจากกันเพราะสั่งคนละเจ้า ไม่ได้มาเป็นล๊อต
ที่เอามามากกว่า 1 เครื่อง เพราะจะได้ลองว่าอันไหนดีกว่ากัน อันที่ไม่ชอบค่อยให้ญาติไป 555


...ปกติผมสั่งของจากจีนผ่าน E-Bay ครับ ราคาไม่สูง แพงสุดไม่เกิน 300 บาท
ครั้งนี้เลยเสียวๆ หน่อย เพราะอยากมีที่วัดความดันซักอัน
ถ้าไม่ดีค่อยทิ้งแล้วซื้อของ Omron แพงๆ จากตัวแทนในประเทศก็ค่อยว่ากัน
แต่เห็นเนื้องานแล้วมั่นใจว่าดี 555+

 

[illusionx<NC.Z>]

ตอบเป็นข้อนะครับ

1.เสียภาษีและvat ปกติครับตามพิกัดสินค้า
2.ใช้ฟอร์ม อี ได้ครับ
3.สั่งมา จากหลาย ผู้ขายรึเปล่าครับไม่เข้าใจ

มีไรโทร ถามได้ครับ 0824864307 line :  steve_puak

หรือ0891221281 ถ้าโทรอีกเบอร์ไม่ติดนะคับ

[illusionx<NC.Z>]

เพิ่มเติมนะครับ ที่จัะสั่งเข้ามาเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ เข้ามาคิดว่าไม่น่าจะไดุ้ถ้าไม่มีใบรับรองจาก สมอ. และหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้อง เกรงว่าจะเอาเข้ามาไม่ได้ถ้าไม่มีใบอนุญาตินะครับ

เพื่อนส่งชอคโกแลตมา ไม่กี่โล ของดันติด อย
 เสียค่าต่างๆบาน ไม่ใบอนุญาติ สุดท้ายส่งกลับครับ

ถ้าโชคดี ของไม่ลงคลังก็ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องโดน อย แต่ช่วงนี้ ยากครับ คสช.  เข้ามาคุม ตรวจเข้มครับ

[illusionx<NC.Z>]

อธิบาย  form e คือ สิทธิทางการค้าเสรี ระหว่าง ไทยและจีน เผื่อลดหย่อน ภาษีครับ

สว่นรับรองแหล่งกำเนิดจะเป็นอีกใบนึง เรียกว่า CO.

[yugi]

ส่งคนขายส่งมาแบบ ไปรษณีย์ ต่างประเทศธรรมดาก็พอ ไม่ต้องไปส่งแบบ ดีเอชแอลหรอก  ของมาติดที่ ไปรษณีย์หลักสี่ก็ได้รับใบแจ้งไปเคลียเองก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะส่งมาให้ที่บ้านของผู้รับเลย น้อยรายที่จะถูกกักไว้แต่ถ้าถูกกักก็จะได้รับใบแจ้งแบบที่ว่านั้นเพื่อแจ้งให้ไปติดต่อรับของและภาษีนิดหน่อย   ของแค่ 1000 บาท คุยกับที่เราไปรับเองเลยดีกว่าง่ายกว่าบอกว่าเอามาลองใช้วัดความดันกับคนในบ้านเองแต่อย่าเกิน2 ตัวในคราวเดียวกันน่ะจะได้น่าเชือถือ

จะสอนวิธีคำนวนภาษีให้นะเผื่อไว้ไปคุยกับศุลกากรหรือ นายหน้า จะได้ไม่โดนเยอะ ประเทศไทยของเรานั้น คิดภาษีนำเข้าจาก นำมูลค่าสินค้า บวก ค่าขนส่ง บวก ค่าประกันภัย เรียกว่า C I F(เฉพาะเวลาคำนวนภาษีเท่านั้น)ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำประกันภัยมาด้วยน่ะ อ่านแล้ว งง กับไปอ่านใหม่[/u]

ราคาสินค้าสมมติ 33USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 1,000 บาท
ค่าขนส่งสมมุติ 33USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 1,000 บาท
ค่าประกันภัยประมาณ 15USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 500 บาท

รวมฐานภาษี    2,500 บาท
ภาษีประมาณ  10% เท่ากับ 250 บาท
คิดVATจาก ฐานภาษีรวมอากร ได้เท่ากับ 2,750 บาท

เพราะฉะนั้น Vat 7% เท่ากับ  182.50 บาท
รวมเป็นเงินที่คุณต้องเสียทั้งสิ้นประมาณ 442.50 บาทสำหรับสินค้าที่คุณบอกว่าประมาณ ไม่เกิน 1,000 บาท



ส่วน form e น่ะมีใว้ใช้ในทางการค้าดีกว่า คนธรรมดาเป็นผู้รับใช้ไม่ได้ และรายละเอียดการลดหย่อนเป็นไปตามข้อตกลงการค้าระหว่างไทยจีน ต้องดูเป็นตัวๆไป แต่ละตัวได้ลดหย่อนไม่เท่ากัน ต้องเอา HS Code เป็นตัวกำหนดว่าได้ลดหย่อนภาษีไหม เท่าไหร่ ไม่ได้ลดหย่อนทุกประเภทครับ  คนขายที่จีนทำ form e ได้ทุกอย่าง แต่เวลาทำให้แล้วส่งมาใช้ไม่ได้  สักแต่ว่าทำมาน่ะ  รายละเอียด ปลีกย่อยเยอะ ที่ถามมานะดีแต่ไม่จำเป็นครับสำหรับตัวนี้


ถ้าถามแค่นี้ บอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวลว่าจะเสียภาษีเยอะ เต็มที่ ก็แค่หลักร้อยครับ แต่ถ้าคุณเอาเข้ามาเยอะ ก็ค่อยมาว่ากันต่อไป ถึงเรื่องใบอนุญาตินำเข้า และต้องยื่นเรื่องกับ สมอ.อีกที  ก่อนนำเข้า อะไรก็ตามที่เป็นอุปกรณํไฟฟ้า อิเลคทรอนิค และ อื่นๆต้องยื่นสมอ.ก่อน เป็นความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้าเอามาแค่นี้ไม่ต้องไปสนใจ สมอ.แต่ต้องสนใจว่า ใช้เองปลอดภัยไหม เท่านั้น

[illusionx<NC.Z>]

yugi  คุณต้องการไรจากผมครับ ลง ปล. เสียดสีผมรึ ??

ผมพิมในโทรสับ ไม่ถนัด โทรอธิบายจะสะดวกกว่าแค่นั้น คุณต้องการไรครับว่ามาครับพ่อคนเก่งเชี่ยวมากครับ

[recesz]

ตอบแบบที่เคยทำงานบริษัท ชิปปิ้งนะครับผิดถูกขออภัยครับ

ของที่นำเข้ามา 2-3 มาพร้อมกันหรือไม่ครับ ถ้าไม่พร้อมกัน เสียภาษีตามพิกัดอย่างที่น้าท่านอื่นบอกครับ เช็คดูพิกัดให้แน่นอนด้วยก็ดีครับ ที่เว็บของกรมศุลกากร

ในส่วนเรื่องของ FORM-E ต้องดูพิกัดประเภทสินค้าด้วยครับใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ และอย่างที่น้าข้างบนบอกไว้ครับของที่สั่งนำเข้ามาเป็นอุปกรณ์การแพทย์จะยุ่งยากในเรื่องพิธีการเหมือนกันครับ

ช่วงนี้ของที่เข้ามาคงลำบากหน่อยนะครับเพราะตอนนี้หน่วยงานต่างๆคงเข้มงวดตามคำสั่ง คสช. ด้วย ตุกติกอาจจะยากครับ

ปล.ตอบจากที่เคยทำงานชิปปิ้งครับ เคยมีสินค้าจำพวกนี้เข้ามาเหมือนกันแต่นานมากแล้ว นานๆจะมาทีครับ ส่วนใหญ่ผมทำพวกผ้าดิบ ผิดถูกขออภัยด้วยครับ 

[illusionx<NC.Z>]

yugi คุณ edit ข้อความทิ้งทำไม ลฟุกผู้ชายเปล่า หรือว่าตุ๊ด มาด่าเสียดคนอื่นเอาสนุก แล้วพอผมถามหน่อย ก็ลบ กลัวคนอื่นมาเห็นรึ

คุณลง ปล. ว่า ไม่ต้องลงเบอร์โทรด้วย (แบบว่าเชี่ยวมาก)

ต้องการอะไรครับ อย่าทำตัวไม่ลูกผู้ชายแบบนี้ครับ

[illusionx<NC.Z>]

ส่งคนขายส่งมาแบบ ไปรษณีย์ ต่างประเทศธรรมดาก็พอ ไม่ต้องไปส่งแบบ ดีเอชแอลหรอก  ของมาติดที่ ไปรษณีย์หลักสี่ก็ได้รับใบแจ้งไปเคลียเองก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะส่งมาให้ที่บ้านของผู้รับเลย น้อยรายที่จะถูกกักไว้แต่ถ้าถูกกักก็จะได้รับใบแจ้งแบบที่ว่านั้นเพื่อแจ้งให้ไปติดต่อรับของและภาษีนิดหน่อย   ของแค่ 1000 บาท คุยกับที่เราไปรับเองเลยดีกว่าง่ายกว่าบอกว่าเอามาลองใช้วัดความดันกับคนในบ้านเองแต่อย่าเกิน2 ตัวในคราวเดียวกันน่ะจะได้น่าเชือถือ

จะสอนวิธีคำนวนภาษีให้นะเผื่อไว้ไปคุยกับศุลกากรหรือ นายหน้า จะได้ไม่โดนเยอะ ประเทศไทยของเรานั้น คิดภาษีนำเข้าจาก นำมูลค่าสินค้า บวก ค่าขนส่ง บวก ค่าประกันภัย เรียกว่า C I F(เฉพาะเวลาคำนวนภาษีเท่านั้น)ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำประกันภัยมาด้วยน่ะ อ่านแล้ว งง กับไปอ่านใหม่[/u]

ราคาสินค้าสมมติ 33USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 1,000 บาท
ค่าขนส่งสมมุติ 33USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 1,000 บาท
ค่าประกันภัยประมาณ 15USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 500 บาท

รวมฐานภาษี    2,500 บาท
ภาษีประมาณ  10% เท่ากับ 250 บาท
คิดVATจาก ฐานภาษีรวมอากร ได้เท่ากับ 2,750 บาท

เพราะฉะนั้น Vat 7% เท่ากับ  182.50 บาท
รวมเป็นเงินที่คุณต้องเสียทั้งสิ้นประมาณ 442.50 บาทสำหรับสินค้าที่คุณบอกว่าประมาณ ไม่เกิน 1,000 บาท



ส่วน form e น่ะมีใว้ใช้ในทางการค้าดีกว่า คนธรรมดาเป็นผู้รับใช้ไม่ได้ และรายละเอียดการลดหย่อนเป็นไปตามข้อตกลงการค้าระหว่างไทยจีน ต้องดูเป็นตัวๆไป แต่ละตัวได้ลดหย่อนไม่เท่ากัน ต้องเอา HS Code เป็นตัวกำหนดว่าได้ลดหย่อนภาษีไหม เท่าไหร่ ไม่ได้ลดหย่อนทุกประเภทครับ  คนขายที่จีนทำ form e ได้ทุกอย่าง แต่เวลาทำให้แล้วส่งมาใช้ไม่ได้  สักแต่ว่าทำมาน่ะ  รายละเอียด ปลีกย่อยเยอะ ที่ถามมานะดีแต่ไม่จำเป็นครับสำหรับตัวนี้


ถ้าถามแค่นี้ บอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวลว่าจะเสียภาษีเยอะ เต็มที่ ก็แค่หลักร้อยครับ แต่ถ้าคุณเอาเข้ามาเยอะ ก็ค่อยมาว่ากันต่อไป ถึงเรื่องใบอนุญาตินำเข้า และต้องยื่นเรื่องกับ สมอ.อีกที  ก่อนนำเข้า อะไรก็ตามที่เป็นอุปกรณํไฟฟ้า อิเลคทรอนิค และ อื่นๆต้องยื่นสมอ.ก่อน เป็นความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้าเอามาแค่นี้ไม่ต้องไปสนใจ สมอ.แต่ต้องสนใจว่า ใช้เองปลอดภัยไหม เท่านั้น

ตลกนะครับ เรื่อง ฐานภาษี ไม่มีใครโกงลูกค้าได้หรอกครับ คุณทำงานด้านนี้จิงรึเปล่า หรือ จ้องจะโจมตีผู้อื่นตลอดเวลา

ภาษีมันตายตัว ใครจะมาคิดโกงได้ครับ คีย์ในโปรแกรมแล้วยิงเข้าไปที่กรมศุล เขามี เรทตายตัวบังคับจากกรมศุลอยุ่แล้ว

พิกัด ก็ใช้กันทั่วโลก ใครจะโก่งได้
vat ก็เท่าไร็ก็ทราบกันดี
มีที่จะเปลี่ยนทุกเดือน ก็แค่ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน ในเดือนนั้นๆ

วิธีคำนวนภาษีไม่ต้องเอาไปคุยกับ ศุลการกรครับ เขาไม่ฟังคุณหรอก เอาเรื่องพิกัดไปคุยอย่างเดียวครับถ้าโดนแย้งมา แล้วกับนายหน้าที่จ้างเคลียร์ก็เสียแค่ค่าบริการให้เขาไปครับ ตามนั้น

yugi คุณเคยลงไปเคลียร์เองป่าวครับ หรือ เมื่อสมัย 10ปีที่แล้วที่ต้องส่งตั๋วแบบ manual สมัยนี้ online ครับ paperless รุ้จักมั้ยเน้อ

[~ Funky_nu_NoO :]

อว๊าก ใจเย็น~เย๊นนน น้าตีฟ ไม่ได้เข้ามาดูวันเดียวเพราะติดงาน กลายเป็นทู้เดือดซะแว้ว 


ผมคงอธิบายไม่กระจ่างเอง ต้องขอโทษด้วยครับ...ขอใส่เพิ่มดังนี้


การนำเข้าจะเป็นแบบ Free Shipping ที่ผู้ขายใน Ebay รวมไว้ในบริการแล้ว
คือไม่เคยคิดจะเอาเข้ากับ Shipping เอกชนรายใดครับ
ข้อเสียคือไม่มีประกันภัย ไม่มีเช็คเลข Tracking หายคือหาย ไม่มีอะไรเลย...แต่ก็แลกด้วยราคาที่ถูกกว่ามากๆ
(เพราะถ้าส่งเอกชน แค่ค่าส่งก็แพงกว่าค่าของประมาณเท่าตัวแล้ว) 


จุดประสงค์ที่ต้องการก็อย่างที่ว่าครับ แค่ไม่เกิน 3-4 ตัวต่อรอบ ไม่ได้คิดทำเป็นธุรกิจ
เผลอๆ แค่ 2 ตัวจบ แต่ถ้ามีรุ่นที่น่าสนใจอีกก็เอามาอีก ที่เหลือก็แจกจ่ายให้ญาติที่มีอายุหน่อย


ส่วนที่ต้องถามคนที่ทำงานด้าน Shipping และผู้เกี่ยวข้องในการนำเข้า
เพราะผมไม่เคยซื้ออุปกรณ์การแพทย์แบบเอามาเองครับ เลยไม่รู้ว่ามีเงื่อนไขทางกฎหมายยังไงบ้าง
เพราะงั้นถึงน้าตีฟจะให้เบอร์มาแล้วผมโทรไปก็ตาม เขาก็ไม่ได้งานจากผมแต่อย่างใด 555
ซึ่งเรื่องนี้เขาเองคงเข้าใจอยู่แล้วว่าเจตนาผมไม่ได้นำเข้ามาเป็นตู้แบบธุรกิจที่เขาทำ
เรื่องนี้ต้องขอบคุณน้าตีฟที่แสดงให้เห็นเลยว่าต้องการให้คำปรึกษาผมจริงๆ 


และถึงไม่ได้งานจากผม เขาก็มีงานมากมายจากรายใหญ่รออยู่แล้ว 55+

-------------

ส่วนท่าน Yugi ผมอ่านเก็บแต่ความรู้ได้แบบเน้นๆ เลยครับ กระจ่างทุกคำพูด
ผมมาไม่ทันก่อน edit นะ หลังแก้คำพูดผมเลยได้สาระเต็มๆ อันนี้ก็ต้องขอบคุณเช่นกันครับ 

[~ Funky_nu_NoO :]

ในส่วนที่ไม่รู้ และอยากรู้เพิ่มเติมคือ

การนำเข้าแบบ Free Shipping เนี่ย เขาเอามายังไง ทางไหน : เพราะที่ผ่านมาสินค้าราคาไม่เกิน $12 (เครื่องวัดความเร็วรอบห่วยๆ) ก็ไม่เห็นต้องเสียภาษีหรือมีใบเรียกเก็บอะไร เขามีเกณฑ์หรือมาตรฐานอะไรในกรเก็บภาษี

มาต่อความรู้กันเถอะครับ รักกัน ๆ

ศัตรูที่แท้จริงของเราคือหน่วยงานบางแห่ง ที่มีรายได้จากภาษีนำเข้าแบบอื้อซ่าต่างหาก และเราควรจะหนีการเป็นเหยื่อจากหน่วยงานนั้น อันนี้ความคิดของผมนะ

[~ Funky_nu_NoO :]

ตอบแบบที่เคยทำงานบริษัท ชิปปิ้งนะครับผิดถูกขออภัยครับ

ของที่นำเข้ามา 2-3 มาพร้อมกันหรือไม่ครับ ถ้าไม่พร้อมกัน เสียภาษีตามพิกัดอย่างที่น้าท่านอื่นบอกครับ เช็คดูพิกัดให้แน่นอนด้วยก็ดีครับ ที่เว็บของกรมศุลกากร

ในส่วนเรื่องของ FORM-E ต้องดูพิกัดประเภทสินค้าด้วยครับใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ และอย่างที่น้าข้างบนบอกไว้ครับของที่สั่งนำเข้ามาเป็นอุปกรณ์การแพทย์จะยุ่งยากในเรื่องพิธีการเหมือนกันครับ

ช่วงนี้ของที่เข้ามาคงลำบากหน่อยนะครับเพราะตอนนี้หน่วยงานต่างๆคงเข้มงวดตามคำสั่ง คสช. ด้วย ตุกติกอาจจะยากครับ

ปล.ตอบจากที่เคยทำงานชิปปิ้งครับ เคยมีสินค้าจำพวกนี้เข้ามาเหมือนกันแต่นานมากแล้ว นานๆจะมาทีครับ ส่วนใหญ่ผมทำพวกผ้าดิบ ผิดถูกขออภัยด้วยครับ 

ไม่พร้อมครับ ส่งมาทีละตัวโดยไม่ผ่าน Shipping แบบเสียเงินรายใด
ซึ่งผมไม่รู้ว่าแบบนี้มีขั้นตอนการนำเข้าแบบไหน (อยากรู้มาก 55)
และจะโดนภาษีหรือต้องสำแดงอะไรแบบส่งกับ Shipping เอกชนรึเปล่า

เพราะเคยได้ยินว่าส่งกับเอกชน โดนทุกราย ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน
เพราะจากที่อ่านดูในเว็บอื่นอย่าง pantip เขาก็เดาเสี่ยงดวงกันหมดว่าจะโดนไม๊
บางคนไม่โดน บางคนกระอัก ทั้งที่เป็นสินค้าตัวเดียวกัน

ผิดถูกไม่เป็นไรครับ แค่เข้ามาตอบก็ดีใจมากแล้วจ้า

[wing man]

ส่วนผม วันนี้ต้องไปยื่น ตรวจต้นทุนเพื่อขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
ที่กองบริหารการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่กระทรวง
แค่เข้ามาบอกว่า เจ้าหน้าที่ น่ากลัววววววววววววววม๊ากกกกกกก
จุ๊ๆๆ

[illusionx<NC.Z>]

free shipping และ free duty  เด๋วช่วงบ่ายผมนั่งเขียนในคอมให้นะครับมือถือพิมลำบาก แต่วิธีนี้ คือ ดวงล้วนๆ แล้วช่วงนี้ ดวงไม่ค่อยดี เพราะ คสช. ดูทุกเม็ดครับ

[~ Funky_nu_NoO :]

ผมยัง งง อยู่ว่า คสช.เกี่ยวด้านใดกับการนำเข้า
เพราะได้ยินมาหลายคนแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องยังไง

รออ่านครับ

[~ Funky_nu_NoO :]

ส่วนผม วันนี้ต้องไปยื่น ตรวจต้นทุนเพื่อขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
ที่กองบริหารการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่กระทรวง
แค่เข้ามาบอกว่า เจ้าหน้าที่ น่ากลัววววววววววววววม๊ากกกกกกก
จุ๊ๆๆ

โปรดบรรยายครับ น่ากลัวว่าจะโดนเท่าไหร่รึเปล่า

[illusionx<NC.Z>]

ส่วนมาก ซื้อของ ผ่าน เวป Ebay หรือ สั่งของชิ้นเล็กจากต่างประเทศ ส่วนมากจะส่งมาผ่านพวก FEDEX DHL TNT พวกขนส่ง Express พวกนี้ ซึ่งเหมาะกับ สินค้า น้ำหนักไม่กี่กิโล ค่าขนส่งมันไม่กี่ตัง

ซึ่งพอของมันมาถึงไทย ที่ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ มันจะ มีเจ้าหน้าที่หน้าด่าน คอยสแกนสินค้า ดูชื่อสินค้าและมูลค่า สินค้า

พวกชื่อและมูลค่ามันมีผลว่า สินค้าพวกนี้ สมควรลงคลังหรือไม่ หรือปล่อยของได้เลย

ซึ่งลงคลังกับไม่ลงคลังมีผลต่างกันอย่างไร ?

1. ลงคลัง..... สินค้าต้องเสียภาษี ทุกอย่างปกติ จนถึง ต้องมีใบอนุญาติ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าของมัน ต้องผ่าน มาตรฐานอะไรต่างๆนาๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องมี สมอ. รับรอง ต้องขออนุญาติ ก่อนนำเข้า โดยต้องยื่น ก่อนจะนำเข้ามา วึ่งใช้เวลานาน กว่าจะได้ใบอนุมัติ บางครั้ง ต้องถึงกับ บินไปตรวจสอบ คุณภาพสินค้าที่ โรงงานที่ผลิตที่ต้นทาง (อันนี้สำหรับเคสผู้ประกอบการ)

2. ไม่ลงคลัง..... ผู้ให้บริการขนส่ง จะแจ้ง มาทางผู้รับลายทางให้ ยืนยันให้ เขาทำการปล่อยสินค้า ซึ่งค่าใช้จ่าย ไม่กี่ร้อยบาท แถมไม่ต้องเสียภาษี ด้วย

ซึ่ง สินค้าจะลง หรือไม่ลง ขึ้นอยู่กับอะไร

1.ขึ้นอยู่กับ ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมันมีเหตุผลประกอบไม่กี่ส่วน คือ
- มูลค่าเหมาะสมกับ สินค้าหรือไม่ เช่น ซื้อ Power bank จาก ลงมูลค่าสินค้าใน Invoice แค่ USD1 ราคามันไม่สมเหตุผลกับ ที่ขายในท้องตลาดบ้านเรา ก็ โดน ล๊อคแจ้งจับได้ข้อหา แจ้งราคาต่ำเกินจริง ซึ่งจะ ลิ้ค์กับหลักฐานการโอนเงินไป ต่างประเทศอีกที ถ้าจะเอามาแย้งกัน

- ชื่อสินค้า ถ้าชื่อสินค้า เข้าค่ายที่ต้องผ่านหน่วยงาน ที่ต้องตรวจสอบคุณภาพสินค้า ก่อนที่จะนำมาใช้ใน ราชอาณาจักรไทยได้ เช่น น้ำหอม เป็นสินค้าที่ใช้โดยตรง และสัมผัสร่างกาย อย. ก็ต้องอนุญาติก่อนที่จะให้นำเข้ามา ซึ่งการขอ ก็ นานแสนนานเป็นเดือน


อินเคส มีกรณี ส่ง ช๊อคโกแลตมาจาก เมืองนอกมาให้แฟนที่ไทย ส่งมาไม่กี่กิโล โดนจับลงคลัง ขอตรวจใบอนุญาติ อย. ซึ่งไม่มีแน่นอน เพราะ ส่งมาเป็นของขวัญ ในวันวาเลนไทน์ สุดท้าย ต้องส่งกลับ เพราะ ไม่สามารถเคลียร์กลับได้ ไม่มีใบอนุญาติก้โดนค่าปรับด้วยนะครับ

ซึ่งมันก็แล้วแต่ "ดุลพินิจเจ้าหน้าที่" จำคำนี้ไว้ให้แม่นครับ เพราะเขามีอำนาจอยู่ในกำมือ ซึ่งอีกหน่อย ก็จะไม่มีระบบคนตรวจสอบครับ ให้ คอมพิวเตอร์ ออนไลน์กันครับ ไม่ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบบนี้มาพร้อม AEC นี่แหละครับ

สินค้าที่ จะต้องมีการรับรองมาตรฐาน สมอ. ก็ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ตุ๊กตา กีตาร์ เหล็ก  ฯลฯ เครื่องใช้ทุกอย่างที่มันต้องได้มาตรฐานแก่ผู้บริโภค


ส่วน ทำไม คสช. ถึงเกี่ยวข้องกับการนำเข้า สินค้า
- ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา คสช. เข้ามา ควบคุมดูแลการตรวจปล่อยสินค้า ที่ กรมศุล ทุกด่านครับ ซึ่ง ทำให้ การทำงานเจ้าหน้าที่ จากเดิมที่ นิดๆหน่อยๆก็ ช่วยๆกันไป (จ่ายใต้โต๊ะ) ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าทำ ครับ กลัวโดนเด้ง กล้องวงจรปิด ติด ทุกซอกมุมในหน้าด้านครับ ตอนนี้ ทุกหน่วยงาน ที่หน้าด่าน โดนตรวจสอบ โดย คสช. ครับ

จบข่าว.... พิมซะยาวเลย

[illusionx<NC.Z>]

ส่วนตัวผมคิดว่าสั่งเครื่อง วัดความดัน ตัวนี้เข้ามาจริงๆ ลองเอาเข้ามา ตัวเดียวก่อนครับ  อีก 2 ตัว ค่อย เว้นระยะห่างสัก 2 -3 อาทิด อย่า เอาเข้ามาพร้อมกัน ทั้งหมด เพราะ ชื่อ ผู้รับ เป็นชื่อน้าคนเดียว

ปล. ผมก็ไม่คอนเฟิร์มนะ ว่าจะไม่โดนเสียภาษี เพราะ คสช. เก๊า เข้มมว๊ากกก ช่วงนี้ทำไรยากครับ ทำงานเกร็งกันไปหมด

[THanasak]

อุบ๊ะ ว่าจะสั่งตุ๊กตายางจากยุ่น ตอนสแกนคงพิลึกเนอะ 555
แล้วสินค้ามันต้องสัมผัสร่างกายโดยตรง ต้องแจ้ง อย.มาทดลองใช้ให้ดูหรือเปล่าเนี่ย
.
.
.
.
.
.
พาออกทะเลซะแล้ว

[ne_dnet]

สอบถามหน่อยนะครับ ถ้าผมจะซื้อ CPU NB สักตัวสินค้ามาแบบ free shipping จะมีโอกาสเสียภาษีมากไหมครับ สินค้าราคาประมาณ 150us ครับ ขนาดไม่ใหญ่เพราะไม่มีพัดลมมาด้วย ก็ประมาณ ซองจดหมายกันกระแทกใส่มา กำลังคิดว่าจะสั่งดีไหม (ประเทศต้นทางยังไม่แน่ใจเพราะมีหลายที่ หลัก ๆ ก็ ออสสเตเรีย, จีน แล้วก็โรมาเนีย)