ตารางจูนนี่แหละ ที่น่าสนใจ คือ อยากจะรู้ สเปกเดิม หรือ ค่าตารางเดิมของกล่อง ECU เพื่อเปรียบเทียบ อัตราส่วน การเปลี่ยนแปลงค่าน้ำมัน ในช่วงรอบต่างๆ
แล้วไปเห็นผลการทดสอบ ในโครงงาน นิพนธ์ การเปลี่ยนมาเติม E85 ให้เครื่องยนต์ ดูจากตารางเปรียบเทียบ อัตราส่วน AF ต่างกันมากที่สุดในช่วงประมาณ 2 000 และ 4500
แต่ความแตกต่าง และค่าการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงรอบนั้น ก็ยังอยู่ในช่วงปลอดภัย คือประมาณ +/- 1 กว่าๆ ในค่า AF
ประกอบกับ การดูข้อมูลการทำงานของระบบ DCI ที่ทำให้รับข้อมูลประมวลผลจากกล่อง ECU ปรับค่าองศาไฟ ในแต่ละช่วงรอบ+ภาระการโหลด อัตโนมัติ ซึ่งมีค่าเปลี่ยนแปลงที่ยึดหยุ่น แม้เกิดการติดตั้งจานจ่ายที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งองศาที่ดีที่สุด เพียงการตั้งที่คลาดเคลื่อนที่ไม่มากเกินไป ก็ยังคงได้ องศาไฟ ในแต่ละช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ ที่ดีที่สุดตามค่ามาตรฐานที่ตั้งมาจากโรงงาน ซึ่งผลการทดสอบก็บอกได้ว่า จาก ค่า AF และ องศาไฟ จากการใช้ E85 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ปลอดภัยต่อระบบการทำงานของเครื่องยนต์ ภายใต้เงื่อนไข ปรับตั้งจานไฟขึ้นนิดหน่อย เพื่อไม่ให้อยู่ห่างเกินจากค่าที่กล่องสามารถปรับให้ได้
กล่องไฟที่มี ตารางการจูน น่าจะช่วยในการรีดประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละช่วงความเร็วรอบเครื่อง แต่การเติมที่ E85 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่า ในแต่ละช่วงรอบ ที่น้อยมาก จนอาจจะรู้สึกแทบไม่ได้เลย แม้มีการปรับตั้งค่าการเผาไหม้ไปหาตแำหน่งที่ดีที่สุด ซึ่งต่างจากเดิมนิดเดียว (ค่ามาตรฐานโรงงานที่ กั๊กเอาไว้ด้วยเงื่อนไขในด้านการควบคุมมลพิษ) แต่สำหรับคนที่ต้องการ โมดิฟาย การปรับจูนค่า เพื่อให้ได้แรงบิด อัตตราเร่ง ที่ดีขึ้น หรือ ดีที่สุด น่าจะต้องมีกล่องครับ
อ่านแล้วค่อนข้าง งง พอสมควร
ตกลงคุณรู้แล้วหรือไม่รู้กันแน่
ออกตัวก่อนว่าผมก็ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้มากนัก แค่หาอ่านข้อมูลมาบ้าง และพูดคุยกับช่างและจูนเนอร์ ที่ซ่อมและปรับแต่งให้ผม
จากย่อหน้าแรก คุณบอกอยากรู้ค่าโรงงาน และนำให้หารถเดิมๆ เครื่องเดิมๆ กรองอากาศในกล่องควรสะอาด หัวเทียนเปลี่ยนใหม่ได้ยิ่งดี สายหัวเทียนสภาพดีๆ เซนเซอร์ต่างๆต้องสภาพดีไม่เสีย
ถ้าได้ทั้งล้อและยางขนาดเดิม ท่อเดิมๆ แต่แคทอาจจะตันและตัดออกไปแล้วก็ไม่เป้นไร ความสูงเท่าเดิมอย่าโหลด
ต่อกล่องที่ปรับได้ทั้งน้ำมันและองศาจุดระเบิด และมีค่าเอาพุตออกมาต่อกับโน็ตบุ๊ค เราจะได้อ่านค่าและเก็บค่าได้ ตัวท่อ ต้องเจาะฝัง a/f มิเตอร์แบบไวด์แบน เท่านั้น และควรห่างจาก จุดรวมไอเสียที่เป็นท่อเดียวแล้วไม่เกินหนึ่งฟุต ถ้ารถเดิมๆก็ประมาณหน้าแคตนั่นแหละครับ ไม่ใช่แบบแนโรวแบนติดรถและฝังอยู่ที่ไอเสียสูบสี่
ถ้าทำได้ทั้งหมดนี้ จากนั้นก็ลองออกวิ่ง แนะนำให้เติม เบนซิน95 บางปั๊มน่าจะยังหาได้ ลองวิ่ง ค่อยๆกดคันเร่งไล่รอบ ไปเรื่อยๆจนรอบตัด ทุกๆเกียร์ เซฟตารางนั้นไว้ให้ครบทุกตาราง ทุกๆเกียร์
เกียร์ห้าอาจจะรอบไม่ตัด ถ้าถนนยาวไม่พอ แต่บอดี้ 110 เครื่องห้าเอ ผมเคยวิ่งจนกล่องตัดที่เกียร์ห้ามาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ระยะทางโล่งที่ต้องมีประมาณห้าถึงหกกิโลเมตร สำหรับเกียร์ห้า
ถ้าทำได้ตามนี้ คุณก็จะได้ค่าที่ใกล้เคียงโรงงานมากที่สุด เกือบทุกรอบเครื่องของทุกเกียร์ ที่นี้คุณก็จะรู้แล้วว่า ที่รอบเครื่องเดียวกัน เมื่อต่างเกียร์ต่างความเร็ว การต้านลม โหลดจริงๆ เมื่อวิ่งบนถนน องศาไฟและน้ำมัน ค่าโรงงานแตกต่างกันแค่ไหน พูดถึงแรงต้านลม วิ่งต้านลมกัยตามลมก็มีผลนะครับ ลองดูได้จากการกดคันเร่งหรือเวลาและระยะทางที่ความเร็วหนึ่งไปถึงอีกความเร็วหนึ่งเช่น จาก150-180 ยิ่งความเร็วสูงๆจะเห็นผลชัดเจนมาก
ทีนี้ อยากรู้ความต่างของเชื้อเพลิง ก็วิ่งให้น้ำมันหมดหรือ ถ่ายออก แล้วเติมน้ำมันที่อยากรู้ลงไป แล้วทำการทดลองแบบเดิม เอาค่ามาเปรียบเทียบกัน
แนะนำว่า ตอนวิ่งอ่านค่าดีๆโดยเฉพาะรอบสูงๆ ถ้าค่าเอเอฟบางเกินไป ความร้อนน้ำมันเครื่องและน้ำในระบบขึ้นสูงผิดปรกติ อย่าฝืนวิ่งต่อ เดี๋ยวจะได้เปลี่ยนเครื่องใหม่เน้อ จ๊ะ