AE. Racing Club
20 พฤศจิกายน 2024 17:15:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์  (อ่าน 30158 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
A'_Chai
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 217



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 06:27:03 »

เคยเจอรถที่มาทำที่อู่เป็นอาการนี้อยู่เหมือนกัน เลยไม่ได้นำมาแจ้ง พิมพ์มะเก่ง พอดีอ่านข้อความนี้จากเมลล์
เลยนำมาฝากเพื่อนๆ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้แก็ส แต่ขอไม่เติมแก็สโซฮอล์ หรือถ้าจำเป็นจริงๆก็ใช้ให้หมดถังซะ ซุบซิบ


เตือนผู้ที่ใช้น้ำมัน Gasohol ไม่ควรเติมน้ำมันแล้วทิ้งไว้นานไม่ใช้ *~๏



 

'ผมเป็นคนแรกๆที่ติด LPG ให้กับ Mazda3 2.0 Sport ของผมมาปีกว่า ใช้งานร่วมกับแก๊สโซฮอล์ตั้งแต่เริ่มออกรถ ใช้งานได้ดีมาตลอดไม่มีปัญหาให้กวนใจ จนกระทั้งมาช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รู้สึกว่ารถสตารท์ติดยากกว่าปกติ มีกลิ่นน้ำมันออกมาตอนสตารท์ บางครั้งต้องสตาร์ทถึง 2 ครั้งถึงจะติด และก็ขับได้ตลอดไม่มีปัญหา

แต่เมื่อวานนี้ พอเลิกงานจะขับรถกลับบ้าน พอสตาร์ทรถเครื่องก็ติดปกติ แต่ยังไม่ทันออกรถ เครื่องยนต์ก็ค่อยๆหมดแรงและเครื่องก็ดับ สตาร์ทใหม่หลายครั้งก็ไม่ได้ ระบบไฟของรถไม่มีปัญหาใช้งานได้ปกติ เลยคิดว่าเป็นระบบจ่ายน้ำมันแน่ๆ เลยต้องจอดรถทิ้งไว้ พอตอนเช้าก็โทรเรียกรถลากลากไปศูนย์มาสด้าซิตี้ พระราม 4 ซ.แสนสบาย

ทางศูนย์ก็เลยเช็คพบว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ในถังเน่า ข้นและดำ เหม็นมากๆ ทำให้ปั้มติ๊กน้ำมันเสียใช้งานไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ โชคดีที่รถยังใช้ไม่ถึง 3 ปียังเหลือประกันอยู่จึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทางศูนย์จึงถอดถังน้ำมันออกมา เพื่อเอาปั้มติ๊กที่อยู่ที่ถังน้ำมันออกมาเปลี่ยนใหม่ กลิ่นน้ำมันคลุ้งไปทั้งศูนย์ พอเปลี่ยนปั้มติ๊กแล้วก็สตารท์ได้ปกติ

ส่วนสาเหตุที่ปั้มติ๊กเสียได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์น่าจะมาจากสาเหตุเหล่านี้ อาจจะมาจากที่ผมเติมแก๊สโซฮอล์ โดยผมจะเติมน้ำมันให้เต็มถังตลอด พอน้ำมันเหลือครึ่งถังก็เติมเต็มเดือนละครั้ง และเนื่องจากผมใช้ LPG ด้วย จึงไม่ค่อยได้ใช้น้ำมัน ทำให้แกสโซฮอล์ค้างอยู่ในถังนานจนข้นและดำ ปั้มติ๊กจึงทำงานหนักและเสียในที่สุด

ทางศูนย์แนะนำว่า
1. ควรจะเปลี่ยนมาใช้เบนซิน 95 แทน เพราะอาการปั้มติ๊กเสียมาจากแกสโซฮอล์มีมาหลายคันแล้ว โดยส่วนใหญ่มักใช้แกสโซฮอล์แล้วจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ค่อยวิ่งทำให้แกสโซฮอล์ค้างอยู่ในถังนานเกินไป
2. ควรใช้น้ำมันให้หมดถังบ้าง และใช้ LPG บ้าง เพื่อให้น้ำมันมีการถ่ายเทออกไป อย่าใช้ LPG อย่างเดียว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมาแชร์ให้เพื่อนๆที่ใช้พลังงานทางเลือกกัน เพื่อจะได้ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้นานขึ้น และที่ผมคิดว่าจะทำเพิ่มคือสิ้นปีนี้คงต้องทำโปรแกรมฉลาดรักษ์รถกับมาสด้าซะแล้ว ก่อนจะรถครบ 30 เดือน เพราะว่าอุปกรณ์และอะไหล่ราคาค่อนข้างสูง รู้สึกว่ารถยังใช้ไม่ถึง 3 ปีก็เริ่มต้องเปลี่ยนอะไหล์แล้ว'


E20 สาระที่ควรรู้


อาการรถมันจะเป็นเฉพาะตอนขับน้ำมัน แรกๆ คือสตาร์ทติดยาก ไม่ต่ำกว่าสองชึ่ง  พอสตาร์ทติดแล้ว รอบเดินเบาสวิงๆ เร่งขึ้นจะบอดๆ ขับไม่ได้เลย  ผมต้องถอดแอร์โฟลว์ช่วย  แต่ก็ต้องสูญเสียในเรื่องอัตราเร่งที่อืดมากๆ  กินแก๊สกินน้ำมันกว่าปกติด้วย   อีกวันผมลองใส่เจ้าแอร์โฟลกลับไปเหมือนเดิมก็วิ่งได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  จึงไม่รู้สาเหตุแน่ชัด ว่าเป็นที่อะไร  พอดีจำได้ว่าล่าสุดเราเติมโซฮอล์ 95 ไว้ ก็เลยต้องวิ่งให้โซฮอล์หมดถัง จึงเปลี่ยนกลับเป็น 95 เพียวครับ      ตอนนี้กำลัง monitor ว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า    กลัวอยู่ว่าจะต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กโดนเืกือบหมื่นแน่ๆ  .....=='.....




เจอเหมือนกันครับ ตอนนี้เปลี่ยนปั้มติ๊กไปเรียบร้อยแล้ว(ดีที่เคลมได้ ... ) ตอนนี้เลยเติม 95 เท่านั้น   



ระวังนะครับ  สำหรับรถที่ใช้ น้ำมันโซฮอล์ร่วมกับ แก๊ส LPG/ CNG รถผมก็กำลังเจอเหตุการณ์คล้ายๆ หลายคน  เกี่ยวกับเรื่องปั๊มติ๊กอุดตัน   อ่านบทความนี??แล้วตรงเลย


ไปพบข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์มติชน เลยลอกมาให้อ่านกันสำหรับความรู้ของเครื่องยนต์ E20 ที่จะเริ่มมีมาก
ขึ้นในอนาคตอันใกล้                                                             
                                                                   
                                                                   
E20 เจ๋งแน่ แต่ต้องระวัง... รู้ทัน ก่อนใช้จริงหลังปีใหม่                                 
                                                                                                                     
ช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ทดแทน   
น้ำมันเบนซิน 95 จนเพิ่มขึ้นกว่า 30% ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงเดินหน้าขยายการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์มากขึ้น
โดยเริ่มให้มีการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ขึ้น ในต้นปี 2551 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนผู้ใช้ 
รถต้องรู้จักความแตกต่างของ E10 และ E20 รวมถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์       
                                                                   
ผศ.ดร.จำนง สรพิพัฒน์ ประธานสายวิชาพลังงาน บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม     
(JGSEE) แนะนำว่า ปัจจุบันประเทศไทยใช้เป็นแก๊สโซฮอล์ E10 ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 10%   
ด้วยคุณสมบัติหลายประการที่ใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน กระนั้น การเพิ่มสัดส่วนแอลกอฮอล์ในน้ำมันอีก   
10% กลายเป็นแอลกอฮอล์ 20% (ที่เหลือเป็นน้ำมันเบนซิน 80%) ทำให้คุณสมบัติของเชื้อเพลิงในส่วนที่
เป็นองค์ประกอบของแอลกอฮอล์ ซึ่งแตกต่างจากน้ำมันปรากฏมากขึ้น จึงอาจมีปัญหากับเครื่องยนต์และ 
รถบางรุ่น                                                                   
                                                                   
'แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ มีคุณสมบัติเด่นต่างจากเบนซิน เช่น จุดเดือดของแอลกอฮอล์ต่ำกว่าน้ำมัน ทำให้มี 
แรงดันไอมากกว่า ซึ่งจะมีปัญหากับรถบางรุ่น โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าที่ใช้คาบูเรเตอร์ที่มีถังน้ำมันติดตั้ง   
ห่างจากตัวเครื่องยนต์มากเกินไป หรือรถยนต์ที่มีขนาดของท่อเชื้อเพลิงที่เล็กเกินไป อาจมีผลทำให้   
แอลกอฮอล์ที่อยู่ในท่อเชื้อเพลิงเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นไอได้ง่าย เนื่องจากความฝืดของท่อมีมาก
เกินไป ทำให้มีลักษณะเป็นฟองอยู่ในท่อดูดเชื้อเพลิง ส่งผลให้การหมุนของเครื่องยนต์มีความเร็วรอบไม่
สม่ำเสมอ เครื่องจะกระตุกหรือดับในบางช่วง                                         
ผศ.ดร.จำนง สรพิพัฒน์                                                         
                           
'แอลกอฮอล์ยังมีคุณสมบัติการกัดกร่อนสูง ยิ่งสัดส่วนของแอลกอฮอล์ในน้ำมันมากขึ้น ยิ่งเพิ่มคุณสมบัติการ
กัดกร่อนเพิ่มมากด้วย จะกัดกร่อนยาง พลาสติคบางชนิด และโลหะประเภททองเหลือง ทองแดง ดังนั้น
รถยนต์ที่มีอะไหล่เป็นยาง หรือโลหะทองเหลือง ทองแดงที่ไม่ได้รับการออกแบบและผลิตออกมาให้ทนต่อ
การกัดกร่อนของแอลกอฮอล์เป็นพิเศษจะไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ อาจส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันไปจน
ถึงถังน้ำมันเกิดการผุกร่อนจนทะลุได้ภายในระยะเวลาประมาณครึ่งปี-1 ปี ด้วยเหตุนี้ รถยนต์ที่สามารถ
ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ได้จึงต้องเป็นรถที่ผลิตด้วยยางหรือพลาสติคพิเศษที่ทนต่อการกัดกร่อนได้
รวมถึงต้องออกแบบองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมกับเชื้อเพลิงด้วย เพื่อให้เชื้อเพลิงสามารถเผาไหม้
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด'                                                   
                                                                   
ปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตในประเทศจะออกแบบมาให้กับน้ำมันเบนซินล้วน เมื่อนำมาใช้กับแก๊สโซฮอล์ จึง   
สามารถใช้ได้เฉพาะกับแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ในระดับที่มีความเข้มข้นไม่สูงนักคือเพียง E10
เท่านั้น มีผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่ผลิตหรือประกาศว่าจะนำเข้ารถยนต์บาง
รุ่นที่สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เช่น บริษัท ฟอร์ดและฮอนด้า ได้มีการรับรองรถบาง
รุ่นว่าสามารถใช้ E20 ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ซื้อสามารถสังเกตได้ง่ายจากสัญลักษณ์มาตรฐาน E20 ที่
ข้างรถ ทั้งนี้ ผศ.ดร.จำนงให้ข้อคิดเห็นว่าการนำรถเก่าเพื่อไปปรับแต่งเครื่องยนต์ให้สามารถใช้ E20
ได้นั้น ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์บริษัทใดที่ให้การรับรอง                                       
                                                                   
อย่างไรก็ดี สำหรับประชาชนที่ยังมีปัญหากับแก๊สโซฮอล์ E10 ผศ.ดร.จำนงกล่าวว่า ผู้ที่ใช้ E10 แล้วมี
ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้รถที่มักจะจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้ใช้รถเป็นประจำ ทำให้แอลกอฮอล์กับ
น้ำมันเกิดการแยกตัวออกจากกันเพราะไว้เป็นเวลานานเกินไป แอลกอฮอล์ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าจะลอย
อยู่ด้านบน ดังนั้น เมื่อมีการใช้รถ บางส่วนของเชื้อเพลิงที่ถูกสูบเข้าไปในห้องเครื่องจะไม่ใช่น้ำมันแก๊ส
โซฮอล์ แต่จะเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงมากหรือเทียบได้กับการใช้แอลกอฮอล์ล้วนๆ เป็นเชื้อ   
เพลิง ทำให้เกิดปัญหากับระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ หากรถยนต์ที่ใช้ E10 แล้วมีปัญหา   
เรื่องน้ำมันระเหยเร็วผิดปกติ ควรตรวจเช็คปะเก็นยางของฝาปิดถังน้ำมัน เพราะอาจเสื่อมสภาพและ 
เป็นเหตุให้แอลกอฮอล์ระเหยเล็ดลอดออกไปได้           

Confidentiality Notice: This e-mail transmission may
บันทึกการเข้า
NOBETA
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 91

I love AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 06:56:12 »

 สุดยอด สุดยอด เยี่ยมครับได้ความรู้ดีครับ +++++
บันทึกการเข้า

MT MU'44
DARKSTAR
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,369



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 07:57:54 »

 อ่านหนังสือ
บันทึกการเข้า

Jo_AE92
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,620



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 08:30:41 »

ขอบคุณครับข้อมูลดีๆ  คำนับ คำนับ คำนับ
บันทึกการเข้า

maximus
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 123


ถึงมาทีหลัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักน้อยกว่า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 08:47:05 »

ขอบคุณครับ  บวกให้ 1    ลิงจั๊กๆ
บันทึกการเข้า
GuuArT_V
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 89


I Love AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 09:02:47 »

ใช้อยู่ด้วยสิ อ่านแล้ว รู้สึกกลัว มะกล้าใช้เลย -*-+
บันทึกการเข้า
Pencom.CZ 49
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 09:05:11 »

เวรกรรม ต้องขับน้ำมันบ้างแล้วสิเรา  เอ๋อ เอ๋อ
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
ปิแอร์...แซ่บี้
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,425


Gonna BE Minor Change


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:06:43 »

เสียวตอนมันเน่าเนี่ยแหละคับ
บันทึกการเข้า


11 ปีแล้วจ้า AE RACING CLUB NORTHERN THAILAND
เพียว@พระนคร
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,554


Tel Me 081-689-5113


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:20:30 »

ตอนนี้ 91 กับ 95 เท่านั้น ครับ
บันทึกการเข้า

too RollinHard
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 494



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:39:29 »

 สุดยอด รู้ไวไม่เสียหาย  สุดยอด
บันทึกการเข้า

ople8124
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:59:25 »

ขอขอบคุณ
บันทึกการเข้า
AT35 TZ#054
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,473


หล่อว่ะ................


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 13:19:23 »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

PheeSajIII
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 148

บ้าบอมีสติ หน้าเหมือนกะปิ แต่อยากสวย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 14:07:45 »

เหอะๆ  เอ่อ..
บันทึกการเข้า
Chaiyanan77
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 568


เป็นต่อไปแบบนี้แหละ...ดีแล้ว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:24:28 »

รถใหม่ๆ ยังมีปัญหาแล้ว รถเก่า อย่างเราจะรอดมั๊ยเนี่ย ยกธงขาว
บันทึกการเข้า

++พอใจเท่าที่มี(AE92)...ยินดีเท่าที่ได้(ขับAE92)++
Chan
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 942


BZ-Turing


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:36:13 »

555 อย่าว่าแต่โซออล เลยครับ ของผมเติม 95 ธรรมดายังเน่าเลยครับ 2 ปีเน่าไป 2 ครับ  แต่ก็มีอีกสาเหตุนะคือหลังจากสวิทต์เป็น GAS ปั๊มติกจะต้องตัดไฟครับเพื่อไม่ให้มันทำงานตลอดครับ เนื่องจากปั๊มมันดันแล้วน้ำมันมันไม่มีที่ระบายกว่าจะย้อนกลับเข้าถังอีก พังกันพอดี
บันทึกการเข้า
Familia junior
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,352



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:47:54 »

 คำนับ คำนับ
บันทึกการเข้า
mafialady
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 23:03:49 »

 สุดยอด สุดยอด สุดยอด
บันทึกการเข้า
bigBird
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2008 23:16:15 »

รถที่บ้านก็ LPG ครับ เติม95ตลอด เพราะรู้ว่าGasoholมันมีปัญหานี้

แต่95ก็เป็นนะครับอาการน้ำมันบูดเนี่ย แต่ช้ากว่าเท่านั้นเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!