ssf (Super Saving Fund) หรืออีกชื่อก็คือกองทุนรวมเพื่อการออม เป็นกองทุนรวมที่ส่งเสริมการออมระยะยาวที่ไม่กำหนดการลงทุนขั้นต่ำ แต่กำหนดระยะการขายคืนไว้ที่ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อการลงทุนในอนาคต แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้จ่ายในวัยเกษียณ ผู้ลงทุนควรมีอายุไม่เกิน 45 ปี เพราะหากอายุเกินกว่านี้ rmf ดูจะเป็นกองทุนรวมที่เหมาะสมกว่า นอกจากนี้ ssf ยังเหมาะกับผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในระยะเวลาที่ถือครองหน่วยลงทุนด้วย
กองทุน ssf ถือว่ามีความคล่องตัวมากกว่า rmf เพราะ ssf มีเงื่อนไขการซื้อหน่วย
การลงทุนในกองทุนรวมที่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี สามารถเลือกซื้อได้เฉพาะปีที่มีรายได้สูงเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีรายได้
กองทุน ssf ลดหย่อนภาษี ได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกับ rmf และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ฯลฯ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ตัวอย่างคำนวณสิทธิการลดหย่อน สมมติว่าผู้ลงทุนมีรายได้พึงประเมิน 500,000 บาท ผู้ลงทุนสามารถได้สิทธิลดหย่อน ssf ได้สูงสุด 150,000 บาท เป็นต้น
ssf และ rmf แม้จะเป็นกองทุนรวมที่สามารถใช้สิทธิทางภาษีได้เหมือนกัน โดยลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน และไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่มีข้อแตกต่างหลายข้อรวมถึงวัตถุประสงค์ในการซื้อหน่วยลงทุนด้วย คือ
1. ssf เป็นกองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว ในขณะที่ rmf เป็นกองทุนรวมเพื่อการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ
2. ssf และ rmf สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับ ssf และไม่เกิน 500,000 บาทสำหรับ rmf อย่างไรก็ตามหากมีเงินกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ รวมอยู่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
3. ssf ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี ส่วน rmf ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับปีชนปี
4. เงื่อนไข ssf คือ ไม่กำหนดให้ลงทุนทุกปี แต่ rmf กำหนดให้ต้องลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี สามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี หรือปีเว้นปี โดยปีที่ไม่มีการลงทุนจะไม่ถูกนับเข้าไว้ด้วย
5. ssf เมื่อครบกำหนดแล้ว สามารถขายคืนได้โดยไม่คำนึงถึงอายุของผู้ลงทุน แต่ rmf ผู้ลงทุนต้องอายุเกินกว่า 55 ปี โดยนับตามวันเกิด จึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้
6. ssf ลดหย่อนภาษี ได้จนถึงปี พ.ศ. 2567 แต่ rmf ยังไม่มีการกำหนดระยะสิ้นสุดของสิทธิการลดหย่อนภาษี
7. ssf มีทั้งแบบจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล ส่วน rmf มีเฉพาะแบบไม่จ่ายเงินปันผล
กองทุนแนะนำ ssf เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวและไม่มีเวลาติดตามข้อมูลสภาวะของตลาดทุน รวมถึงคนที่ต้องการลดภาระภาษีแม้จะมีเงินลงทุนไม่มาก
