AE. Racing Club
30 กันยายน 2024 02:24:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
โพลล์
คำถาม: .
. - 2 (66.7%)
. - 1 (33.3%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 3

หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 191 192 [193] 194 195 ... 1149  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวม (กระทู้) กิจกรรมต่าง ๆ ของชาว Rayong Zone  (อ่าน 2013792 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 48 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Pachara@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,090



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3840 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:15:04 »

สู้ต่อไปคับ
ขอบคุณครับ...
บันทึกการเข้า
โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3841 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:20:28 »

น่าจะครัวคุณจันทร์หล่ะมั๊ง
บันทึกการเข้า
โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3842 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:21:56 »

เดี๋ยวขอถ่ายรูปก่อนนะครับ..

งั้นต้องเอาไปล้างอีกอ่าดิ่  อิอิ
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3843 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:22:08 »

ศุกร์นี้เสร็จจากสนามแล้วไปไหนกันต่อ

สนามเข้าเริ่มซ่อมตอนไหนอ่ะเสี่ยต่อ...

บันทึกการเข้า

Nutty@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,763



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3844 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:22:47 »

ไปด้วยคนนะครับ... แหะ.. แหะ.. แหะ.. แหะ..
บันทึกการเข้า

Pachara@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,090



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3845 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:23:48 »

เดี๋ยวขอถ่ายรูปก่อนนะครับ..

งั้นต้องเอาไปล้างอีกอ่าดิ่  อิอิ
ถูกต้องครับน้า...ถ้าไม่ล้างเดี๋ยวเลอะ...555++
บันทึกการเข้า
Nutty@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,763



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3846 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:24:49 »

เดี๋ยวขอถ่ายรูปก่อนนะครับ..

งั้นต้องเอาไปล้างอีกอ่าดิ่  อิอิ
เด๋วนี้เค้า UpLoad ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต ได้แล้วครับ..ไม่ต้องไปล้างแล้ววว อิอิ ไม่รู้ไม่ชี้
บันทึกการเข้า

โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3847 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:25:29 »

ไปด้วยคนนะครับ... แหะ.. แหะ.. แหะ.. แหะ..

 เหวอสิงห์กับแกล้ม
บันทึกการเข้า
Nutty@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,763



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3848 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:26:49 »

ผมไม่ใช่อย่างนั้นซักกะหน่อยย...ผมไม่เน้น L ก ฮ ครับ ไม่รู้ไม่ชี้ แหะ.. แหะ..
บันทึกการเข้า

โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3849 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:31:47 »

เค้ากินเหล้ากินเบียร์แสดงออกทางสีหน้า แต่เอ็งแสดงออกทางพุง
555555555555555555555
บันทึกการเข้า
-TOR@RAYONG-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,459


081-939-5609


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3850 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:33:00 »

ศุกร์นี้เสร็จจากสนามแล้วไปไหนกันต่อ

สนามเข้าเริ่มซ่อมตอนไหนอ่ะเสี่ยต่อ...



รอเสี่ยวัชแจ้งมาครับ
บันทึกการเข้า

Pachara@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,090



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3851 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:33:52 »

ขุนขยับกับพินาศ...เหรอครับท่าน
บันทึกการเข้า
Pachara@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,090



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3852 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:35:50 »

เดี๋ยวขอถ่ายรูปก่อนนะครับ..

งั้นต้องเอาไปล้างอีกอ่าดิ่  อิอิ
เด๋วนี้เค้า UpLoad ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต ได้แล้วครับ..ไม่ต้องไปล้างแล้ววว อิอิ ไม่รู้ไม่ชี้

เหรอออออ.......
บันทึกการเข้า
โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3853 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:41:22 »

ยังไม่ได้ยางเลย ถอนหายใจ
บันทึกการเข้า
โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3854 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:42:18 »

ศุกร์นี้เสร็จจากสนามแล้วไปไหนกันต่อ

สนามเข้าเริ่มซ่อมตอนไหนอ่ะเสี่ยต่อ...



รอเสี่ยวัชแจ้งมาครับ

น่าจะช่วงเย็นคับ ต้องรอเสี่ยวัชอีกทีหนึ่งกำลังเดินทางมาจากบ้านนอกอยู่
บันทึกการเข้า
-TOR@RAYONG-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,459


081-939-5609


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3855 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:43:20 »

อ้างจาก http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=64452.0

ที่น้องเอ Phanlop อธิบายให้ฟังไว้นะครับ (ขอบคุณน้องเอด้วย  คำนับ)

ลองอ่านเพื่อเป็นแนวทางครับ

--------------------------------------------------------------------------------

    

ลองอ่านบทความนี้ครับ    มีหลายหลาย    กลุ่มนักซิ่งรุ่นใหญ่   ได้ทำบทความนี้ไว้สอนน้องๆ   รุ่นถัดไปเสมอว่า    เราต้องเรียนรู้การขับร่วมกับการอ่านอาการรถ    


      การเข้าโค้ง    สำหรับมือใหม่    ไม่ตรงคำถาม   แต่อยากให้ท่านทราบครับ   ว่าโครตตตตตตตตตตตตตต   จำเป็นครับ   รถแรง   ขับโง่ๆ   ผลที่ได้รับ   คือกองยางครับ  




วิธีการเข้าโค้งในสนามสำหรับมือใหม่หัดซิ่ง


การเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

เพื่อความเข้าใจโดยง่ายและปลอดภัย จะขอแบ่งการเข้าโค้งออกเป็น 4 ขั้นตอน

เมื่อรถวิ่งมาถึงทางโค้ง สิ่งที่จะต้องทำมีดังต่อไปนี้ (ห้ามทำสลับกัน)

1. เบรก เพื่อชะลอความเร็วให้เหมาะสมกับโค้งนั้นๆ การเบรกทำให้น้ำหนักรถถ่ายมาด้านหน้า ส่งผลให้รถหน้าทิ่ม ท้ายยก ยางหน้ามี traction มากกว่ายางหลัง(หน้าเกาะกว่าหลัง) ท้ายรถเบา ถ้าเบรกหนักเกินจนล้อล็อค ยางจะไถไปกับพื้นถนนและขาดการควบคุม ไม่ว่าจะหักพวงมาลัยยังไงรถก็จะไม่เลี้ยว(ยางรับภาระเกินความสามารถ) จนกว่าจะคลายเบรกเพื่อให้ยางรับภาระน้อยลงจึงจะสามารถควบคุมทิศทางได้อีก

2. เปลี่ยนเกียร์ลง (shift down) เพื่อให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมกับความเร็วระหว่างที่อยู่ในโค้งและกดคัน เร่งออกจากโค้ง หากเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถมีอาการหน้าทิ่ม น้ำหนักรถจะถ่ายมายังล้อหน้า

3. ปล่อยเบรก เมื่อลดความเร็วลงอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับโค้งแล้วให้ปล่อยเบรก ณ จุดนี้น้ำหนักรถจะเริ่มถ่ายไปข้างหลัง

4. เลี้ยวและเดินคันเร่ง น้ำหนักรถจะถ่ายไปข้างหลังมากขึ้นจากการเดินคันเร่ง และถ่ายไปด้านข้างจากการหักพวงมาลัยเลี้ยว น้ำหนักคันเร่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างน้อยที่สุดให้คลอคันเร่งตลอดเวลาที่อยู่ในโค้ง ไม่ควร เข้าโค้งแบบใส่เกียร์ว่างหรือไม่เหยียบคันเร่งเลย(ลอยเข้าไป) เพราะการคลอคันเร่งจะทำให้มีกำลังส่งถ่ายไปยังล้อตลอดเวลา ทำให้อาการรถมั่นคงขึ้น แต่ไม่ควรเกินลิมิตของยางที่รับได้เพราะจะทำให้รถ understeer หรือ oversteer ได้

แรกๆอาจจะยังไม่ค่อยคล่องและมีรอยต่อระหว่างการ เบรก เปลี่ยนเกียร์ ปล่อยเบรก เลี้ยว เดินคันเร่ง ฝึกไปเรื่อยๆครับ พยายามทำให้ไม่มีรอยต่อระหว่างแต่ละอย่าง แล้วก็ปรับน้ำหนักมากน้อยของแต่ละอัน ฝึกบนนถนนในชีวิตประจำวันด้วยก็ได้นะครับ จะช่วยให้ขับได้อย่างปลอดภัยขึ้น






สิ่งที่ควรระวังที่สุดสำหรับมือใหม่ คือ

ไม่ควรเหยียบเบรกในขณะที่พวงมาลัยไม่ตรง (เลี้ยวไปเบรกไป) การเลี้ยวไปเบรก(trail braking)ไปไม่ใช่สิ่งที่ผิด อันที่จริงเป็นสิ่งที่นักขับทุกคนต้องทำได้หากต้องการจะเร็ว แต่สำหรับมือใหม่แล้วมันยากที่ตัวท่านจะรู้ถึงลิมิตของยางและอาการต่างๆของ รถตลอดจนการแก้ไขการเสียการทรงตัวของรถ ดังนั้นมือใหม่จึงยังไม่ควรใช้เทคนิค trail braking หรือเบรกควบคุมน้ำหนักเบรกขณะเข้าโค้ง การเบรคขณะเข้าโค้งส่งทำให้รถได้รับแรงจากสองทางคือ

1. การเบรกทำให้น้ำหนักรถจะถ่ายไปอยู่ล้อหน้า ทำให้ล้อหน้าเกาะกว่าล้อหลัง น้ำหนักด้านหลังจะเบา ท้ายจะยก

2. การเลี้ยวทำให้น้ำหนักรถถ่ายไปด้านข้างในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศที่เราจะเลี้ยวไป ทำให้รถเอียงออกหนีโค้ง

ถ้าแรงสองอย่างนี้รวมกันแล้วเกินภาระที่ยางล้อหลังจะรับได้ จะทำให้ ท้ายออกหรือท้ายปัดนั่นเอง(oversteer) จนอาจถึงขั้นรถหมุนได้

การที่บอกไว้ด้านบนว่าให้เริ่มปล่อยเบรกและคลอคันเร่งก่อนที่จะเลี้ยวเป็น การถ่ายน้ำหนักให้ไปอยู่ล้อหลังเหมือนเดิม หน้ารถจะได้ไม่ทิ่มขณะอยู่ในโค้ง น้ำหนักรถจะกระจายอย่างสมดุล ไม่มีล้อใดรับภาระมากกว่าล้ออื่นเยอะๆจนทำให้เสียอาการ ล้อทั้งสี่จะเกาะถนนเท่าๆกัน รถจะไม่หมุน

แต่ขณะอยู่ในโค้งหากเราเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินกว่ายางจะรับภาระได้ รถก็จะไถลออกด้านนอก(แหกโค้ง หรือ understeer นั่นเอง) เพราะการเลี้ยวคือการที่รถต้องพยามยามฝืนแรงที่ส่งมาจากทางตรงโดยใช้ความฝืด (friction) ที่ยางทำกับถนน เป็นตัวเปลี่ยนทิศทางของรถให้เลี้ยว ถ้าหากแรงที่ส่งจากทางตรงสูงเกินไป เมื่อเราต้องการที่จะเลี้ยว ศักยภาพของยางในการที่จะฝืนรถให้เลี้ยวก็จะเหลือน้อยลง ถ้าหากหักพวงมาลัยมากเกิน รถก็จะแถออกด้านข้าง ทำให้เลี้ยวไม่เข้า วิธีแก้คือต้องชะลอความเร็ว(ยกคันเร่งหรือแตะเบรก แต่ถ้าจะแตะเบรกล้อต้องตั้งตรง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็น oversteer ทำให้ท้ายออก รถหมุน) เพื่อให้ยางมีประสิทธิภาพเหลือมากพอที่จะเลี้ยว






สรุปข้อห้ามและข้อควรกระทำขณะเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

1. ห้ามเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้ง

2. ห้ามเหยียบคลัชแช่ไว้ขณะเข้าโค้ง

3. เบรกให้เสร็จก่อนจะเริ่มเลี้ยว

4. ไม่เปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง เพราะการ shift down ที่ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถหน้าทิ่ม และผลจะเป็นแบบ oversteer

5. หลังจากเบรกเสร็จให้เริ่มคลอคันเร่ง (น้ำหนักคันเร่งแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าช้าไปก็เติมได้ ถ้าความเร็วสูงพอแล้วก็แค่คลอไป)

6. ถ้าไม่แน่ใจว่าโค้งนั้นต้องใช้ความเร็วเท่าใด ให้ใช้ความเร็วต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (ปลอดภัยไว้ก่อน)

7. หากมีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจ ให้ถามคนมีประสบการณ์ทันที

8. เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเข้าโค้งแล้วไม่มั่นใจหรือกลัว แสดงว่าเราขับเร็วเกินฝีมือ ให้ชะลอความเร็วลง

9. ไม่หักพวงมาลัยแบบฉับพลับ หรือกระตุกพวงมาลัยเวลาเลี้ยวหรือแซง เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว

10. อย่าเอาเวลาเป็นตัววัดฝีมือตัวเองเป็นอันขาด ขับช้ากว่าแต่กลับบ้านปลอดภัย ย่อมดีกว่าเร็วแต่เสียวและเสี่ยง

ผมเอง คงไม่ได้เน้นในเรื่องของเทคนิกมาก แต่คงจะเน้นเรื่องที่น่าจะทำให้ขับด้วยกันได้ปลอดภัยขึ้น (เนื้อหา มาจากสปีดซีเครทเล่มแรก)

๑. การที่เราจะต้องรู้ตลอดเวลา ว่ารถรอบๆตัวเรา อยู่ตรงไหนกันบ้าง เค้าพยายามจะทำอะไรกันอยู่ มีคนพยายามจะแซงเราไม๊ อันนี้ก็คล้ายๆกับเวลาวิ่งบนถนน ต้องดูรอบๆตัวให้ดี แต่ไม่ได้มัวแต่ดูข้างหลัง ไม่ดูทางนะ

๒. ตัวเราเอง ก็ต้องพยายามสังเกตุ ว่าคนที่เรากำลังจะแซง รู้ตัวไม๊ ว่าเรากำลังวิ่งไล่ หรือว่า กำลังจะเสียบแซงเค้าอยู่ ถ้าดูเหมือนกับว่าเค้าไม่รู้ตัวว่าเราจะแซง ต้องหาวิธีการทำให้เค้าเห็นเราก่อน เรื่องนี้ เราคงจะพอสังเกตุได้ คือ ถ้าคันหน้าเห็นเรา ขั้นแรก เค้าน่าจะเปลี่ยนไลน์ เพื่อที่จะพยายามบังเรา ถ้าเค้ายังขับไลน์ปกติ เราก็น่าจะต้องระวัง ถ้าคิดจะแซงเค้า

๓. การแซงที่ง่ายที่สุด คือ แซงทางตรง รองลงมาคือตอนเบรค ยากสุดคือแซงในโค้ง

๔. การแซงทางตรง ขั้นแรก เราต้องมั่นใจว่าเราออกจากโค้งด้วยสปีดที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อน ก็แปลว่า เราอาจจะต้องเว้นระยะจากคันหน้าบ้าง เพื่อที่จะสามารถทำให้ใช้พื้นที่ได้เต็มที่ ได้สปีดที่สูงที่สุด ถ้าเรามัวแต่จี้เค้าตลอด ทำให้เข้าโค้งได้ไม่เต็ม เราก็จะแซงเค้าทางตรงไม่ได้

๕. การแซงตอนเบรค โดยมารยาทคือ ถ้าเราเข้าไปได้ครึ่งคันทางด้านในของเค้าแล้ว เค้าควรจะให้เราไป แต่ก็เป็นแค่ไกด์ไลน์ ไม่แน่เสมอไป ที่ควรจะต้องทำก็คือ ไม่จำเป็นต้องเบรคลึกจนแซงเค้าไป เอาแค่ให้เท่ากับรถเค้าก็พอ ให้หัวพอๆกัน แต่เราอยู่ด้านใน และ ให้อยู่ใกล้เค้าให้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ โดยที่ไม่อันตรายเกินไป เนื่องจาก ถ้าเกิดชนกัน อยู่ใกล้ๆ ก็จะชนเบากว่า

๖. การบัง โดยมารยาท บังหนึ่งครั้ง กำลังดี ไม่ใช่โยกซ้ายขวาเพื่อจะบังให้ได้ แต่นี่ก็เป็นแค่ไกด์ไลน์เหมือนกัน ถ้าเป็นรอบเกือบเข้าเส้นชัย คงจะไม่ยอมกันง่ายๆ

๗. การศึกษาความหมายต่างๆของธงให้แม่นๆ แล้วคอยสังเกตุตลอดเวลา อันนี้ก็ตรงไปตรงมา ที่เพิ่มเติมคือ ให้ลองสังเกตุความจริงจังในการโบกธงของนายสนามด้วย คือ ถ้าดูว่าเค้าโบกจริงจังมากๆ ก็อาจจะแปลว่าเหตุการณ์มันอาจจะน่ากลัวมากด้วย

๘. การวิ่งในสนาม เค้าแนะนำว่า ให้มองคนอื่นให้เป็นส่วนนึงของสนาม ที่ไม่อยู่กับที่ เราก็แค่ปรับไลน์ของเราให้วิ่งผ่านพวกเค้าไป อย่าไปโฟคัสที่จะแซงเค้าให้ได้อย่างเดียวเกินไป จะทำให้ผ่อนคลายมากกว่า

๙. ในรอบซ้อม เราควรจะลองไปวิ่งในไลน์ที่เหมือนกับเราจะแซง เพื่อจะได้เห็นภาพ และ เป็นการตรวจสอบสภาพของพื้นสนามในไลน์แปลกๆนั้นไปด้วยในตัว

๑๐. การขับแข่ง กับการวิ่งให้เร็ว มันเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ทั้งสองอย่าง และ จะขาดอย่างใดอย่างนึงไป ก็ไม่ดี จะเน้นแข่งได้อย่างเดียว ก็ไม่ดี จะขับคนเดียวเร็ว ก็คงไม่ชนะในการแข่ง สำหรับคนที่แข่งมาตลอด ก็อาจจะลองดูเรื่องของการวิ่งคนเดียวให้เร็วได้ด้วย อาจจะทำให้ประสพความสำเร็จในการแข่งมากขึ้น สมดุลมากขึ้น

วิธีฝึกก็คือ เราจะต้องคุมน้ำหนักเบรค ให้หัวทิ่มเท่าเดิมตลอด ตั้งแต่เริ่มเบรค จนถึงตอนที่รถเกือบจะหยุด จะต้องค่อยๆคลาย ให้หัวทิ่มน้อยลงอย่างต่อเนื่อง จนหัวไม่ทิ่มเลยตอนที่รถหยุดพอดี

ที่จะยากก็คือ

๑. เราจะต้องเบรค แรง/เบา ขนาดไหน ถึงจะได้ระยะเบรคที่พอดี กับความหัวทิ่มที่จะต้องคงที่ตลอด คือ ไม่ทิ่มน้อยลง หรือ มากขึ้น จนกว่าจะถึงจุดที่เกือบจะหยุด

๒. พอความเร็วเริ่มลดลง ด้วยน้ำหนักเบรคเท่าเดิม หัวมันจะทิ่มมากขึ้น ดังนั้น เราจะต้องปรับน้ำหนักเบรคให้น้อยลง ถึงจะทำให้หัวทิ่มเท่าเดิมได้

๓. ตอนที่ค่อยๆลดน้ำหนักเบรคก่อนจะหยุด จะค่อนข้างคุมยาก เพราะต้องให้หัวค่อยๆทิ่มน้อยลงเรื่อยๆ

ผลทางตรงของการฝึกอันนี้ คือ การที่เราจะสามารถคุมเบรคได้ดีขึ้น ถ้าคนที่อยากจะไปวิ่งในสนาม ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก และ คนที่นั่งด้วย ก็จะนั่งสบายแน่ๆ แต่ก็ยังได้ผลทางอ้อมอื่นๆ เช่น การรับรู้เรื่องของ G-Force ที่เกิดขึ้นจากการเบรค และ สามารถปรับน้ำหนักของเท้า ตามแรง G-Force ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้สามารถคุมน้ำหนักการเบรค ให้ได้แรง G-Force ตามที่ต้องการ

เอาง่ายๆเรื่อง Heel and Toe ก่อนละกันนะครับ ตามหลักการง่ายๆ มันคือการบาลานซ์รถ เวลาที่เราต้องการลดเกียร์ลง

ตามที่เสธ.เอ๋ถามไว้ ว่า จะทำ down shifting ยังไง ไม่ให้รถมีอาการกระชาก หรือกระตุก หรือเสียอาการ

ในขณะที่เรา down shifting หรือ ลดเกียร์ลง รอบเครื่องจะตีขึ้นสูง เนื่องจากอัตราทดของเกียร์ที่ต่ำกว่า

ทีนี้ การจะทำให้มันนุ่มนวล ก็ต้องอาศัยการ Blip throttle(แย๊บคันเร่ง) เพื่อช่วยเร่งรอบเครื่องขึ้นไปรอ ในจังหวะที่เรากำลังจะปล่อยคลัทช์

แล้วถามว่า เกี่ยวกับคำว่า Heel and Toe ได้ไง? ก็นี่หละครับ กระบวนการลดเกียร์ลง มักจะอยู่ในขั้นตอนการลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง

โดยที่(ส่วนมาก) 1.เราจะใช้ด้านบนของเท้า(ตั้งแต่บริเวณนิ้วโป้งหรือ Toe)เป็นตัวกดแป้นเบรค---2.เท้าซ้ายเหยียบคลัทช์---ลดเกียร์ลง---3.ใช้ส้น เท้า(Heel)เป็นตัวแย๊บคันเร่ง

เพื่อเร่งรอบขึ้นไปรอ---4.ปล่อยคลัทช์ ทำซ้ำจะไปถึงเกียร์จะเราจะใช้ออกจากโค้งก็เป็นอันเสร็จพิธี ขั้นตอนทั้ง 4 ดูเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ว่ามันจะต่อเนื่องกันหมด

โดยมาก ผู้ที่หัดใหม่ๆ มักจะคุมน้ำหนักเบรคเท้าไม่อยู่ เวลาใช้ส้นเท้าแย๊บคันเร่ง ก็จะเผลอกดน้ำหนักปลายเท้าที่เบรคลงไปด้วย ไม่ต้องตกใจครับ เป็นอาการปกติของคนหัดใหม่




 
อ่านเล่นๆ   ให้รกสมองครับ      ลองดูครับสนุกดี      ฮีลแอนโท     แต่ถ้าดูคลิ๊ป     แล้วเห็นเท้าซ้ายเหยียบเบรคอย่าทำตามนะครับ   เซ็ตระบบมาคนละอย่างครับ        



ลองดูครับ    


  จบไป  1   เรื่องครับ      
ครั้งแรกไม่ได้ปรับแต่งใดกับ ช่วงล่างเลย เวลาไม่ค่อยดี  

ครั้งที่สอง ตั้ง camber หน้า-2.5 หลัง1.0
ใช้โช็ค tein type flex ปรับแข็งสุด สปริง หน้าค่าK น่าจะประมาณ 6 หลัง 4


โอ๊ว    พระเจ้า     ลงมา   6   วิ    เคยยขับได้เท่าไรครับ    ถ้าขับเสถียรแล้ว    ลง   6   วิ   ผมเรียก   สุดยอดครับ    






อ่า   ไม่ใช่ช่วงล่างอย่างเดียวอ่ะครับ          





ทำไมถึงตั้งแคมเบอร์เท่านี้ครับ    แคมเบอร์มีไว้ทำอะไร    เราจะใช้ยังๆไงหว่า    

การปรับแคมเบอร์     เท่าที่ผมเรียนรู้มา    เอ่อ เรียกการปรับแคมเบอร์ว่า การแบะล้อนะครับ   ภาษง่ายๆเลย   แบะนั้น     เพื่ออะไร  

บางครั้งเห็น   ล้อแบะๆสวยแฮะ    ยางกินไม่เท่ากันแน่นอน   วิ่งทางตรงก็กินหน้ายางวุ๊ย      แต่มันดีตอนเราเข้าโค้งครับ    

ขับช้า   ฝึกแบะน้อยๆ   ผมอบรมมา   ให้เริ่มจาก   -1  ลงไป  เรื่อยๆ    ขับช้าหัดเข้าลายลองดูว่าเวลาเร็วขึ้น   การสเตียอาการยังไง   แล้วค่อยๆปรับครับ   ไปจน  -3  -4  ก็ว่าไปครับ    

ยิ่งขับเร็ว   ยิ่งแบะเยอิ  ก็จะทำเวลาในโค้งได้ดีขึ้นครับ   แต่ไม่ใช่ว่า   ปรับแบะมาก   แล้วเราจะเข้าใจอาการเสมอไปนะครับ    ต้องหลายสนามอ่ะครับ   ผมไม่เก่งเรื่องขับซะด้วยซิครับ   แต่พอรู้ว่า   เท่าไรจะดี  


ทีนี้   สองข้างปรับเท่ากันมั๊ยอ่ะ

ร้านทั่วไป   มักจะปรับให้เสมอ   หรือ  เยื้องน้อยๆ   เช่น   ซ้าย  -1.5   ให้เท่ากัน  


แต่รถสนาม    เปลือยเรียบ   ถ่วงน้ำหนักบ้าง   หลากหลายชนิด      ซ้ายขวาเลยไม่เท่ากัน      เช่น   ซ้าย   -3    ขวาฝั่งคนขับ   จะประมาณ  -2.8  เผื่อน้ำหนักคนขับเอาไว้   ให้บาลานซ์เท่ากันพอดี    หรือ  เซ็ตติ้งแต่ละสนาม   ไม่เท่ากันครับ   ขึ้นอยู่กับคนขับ   และสภาพสนาม  

เอาเป็นว่า    รถสนาม   เปลือยๆ   ที่เห็น   เซ็ตซ้ายขวาไม่เท่ากัน    แต่นักแข่งทั่วไป   รานเซ็ตให้เท่าไร   กระผมก็จะใช้เท่านั้น   55   แต่ระดับรถสนามใหญ่  งานใหญ่ไม่ได้ครับ    โดนด่าแน่นอน


  ลองถามพี่    เต้ยดูครับ    รู้ดีแน่นอน         อุอุ            









ต่อ  ๆ    ผมโดนอบรมเรื่องช่วงล่างอยู่นานพอตัวครับ     โดนด่าทุกสนาม    เรียนรู้ไปเรื่อย   ก็พอจับใจความไตร่ตรองจากสมอง   อันน้อยๆ    ว่า



เพิ่ม ความหนืดให้กับสปริงคู่หน้า :     ทำให้เกิดอาการอันเดอร์สเตียร์มากขึ้น ทำให้สัดส่วนการถ่ายเทน้ำหนักมาด้านหน้ามากขึ้นเนื่องจากด้านหลังไม่ได้ปรับ ให้หนืดตาม ทำให้แรงยึดเกาะในด้านหน้าลดลง เมื่อไม่  ได้เพิ่มความหนืดให้กับด้านหลังด้วย
อาการ ของการปรับมากเกินไป  : ทำให้เกิดอันเดอร์สเตียร์ ด้านหน้าของรถจะโดดเวลาเข้าโค้ง เกิดอาการฟรีทิ้งของล้อด้านติดโค้ง สำหรับพวกรถขับหน้า


ลดความหนืดให้กับสปริงคู่หน้า : ทำให้อันเดอร์สเตียร์น้อยลง ลดสัดส่วนการถ่ายเทน้ำหนักมาด้านหน้าเมื่อไม่ได้ปรับสปริงในด้านหลัง เพิ่มแรงยึดเกาะในด้านหน้าหากในด้านหลังไม่ได้ปรับ
อาการ ของการปรับมากเกินไป : โอเวอร์สเตียร์มากเกินไป โอเวอร์สเตียร์เสร็จจะตามมาด้วยอาการอันเดอร์สเตียร์ในกรณีที่สปริงอ่อนเกิน ไป ท้ายรถจะกวาดออกเกินไป


เพิ่มความหนืดให้กับสปริงคู่หลัง : ทำให้โอเวอร์สเตียร์มากขึ้น ทำให้สัดส่วนการถ่ายเทน้ำหนักไปด้านหลังหากสปริงคู่หน้าไม่ได้ปรับ เพิ่มแรงยึดเกาะในด้านหลังถ้าในด้านหน้าไม่ได้ปรับ
อาการของการปรับมากเกินไป : จะโอเวอร์สเตียร์มาก รถจะกระโดดไปด้านข้างเวลาเข้าโค้ง กระตุก ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว




ลด ความหนืดให้กับสปริงคู่หลัง : เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์น้อยลง ลดอัตราสัดส่วนการถ่ายเทน้ำหนักมาด้านหลังหากด้านหน้าไม่ได้ปรับ เพิ่มแรงยึดเกาะในด้านหลังหากด้านหน้าไม่ได้ปรับ
อาการ ของการปรับมากเกินไป : รถจะอันเดอร์สเตียร์ หากสปริงนิ่มเกินไป หลังจากอันเดอร์สเตียร์จะต่อด้วยอาการโอเวอร์สเตียร์ ท้ายรถจะกวาดออกเกินไป




เอ๊างงเลย     มันคืออะไรอ่า     ผมก็ไม่ทราบครับ       มาจากหนังสือต่างชาติที่ผมนั่งอบรม     เฮ่อ    




เอ๊า    เรื่อง    โช๊คละ    อย่าลืมนึกถึงลมยางบ้างเน้อ      โครตสำคัญเช่นกัน    



เพิ่มแรงดันลมยางในล้อคู่หน้า : เพิ่มอาการอันเดอร์สเตียร์
อาการ ของการเติมลมยางมากเกินไป : ไม่มีแรงยึดเกาะทำให้เกิดอันเดอร์สเตียร์ได้ง่าย ทำให้ล้อฟรีทิ้งสำหรับรถขับหน้า ได้ความรู้สึกแข็งและสะเทือน กินส่วนกลางของหน้ายาง

ลดแรงดันลมยางในล้อคู่หน้า : ลดอาการอันเดอร์สเตียร์
อาการของการเติมลมยางอ่อนเกินไป : กินแก้มยางเนื่องจากยางแบน รู้สึกยวบยาบ ยางบวมเพราะแรงดันลมยางต่ำทำให้เกิดความร้อน

เพิ่มแรงดันลมยางในล้อคู่หลัง : เพิ่มอาการโอเวอร์สเตียร์
อาการ ของการเติมลมยางมากเกินไป : ไม่มีแรงยึดเกาะทำให้เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ได้ง่าย ทำให้ล้อฟรีทิ้งสำหรับรถขับหลัง ได้ความรู้สึกแข็งและสะเทือน กินส่วนกลางของหน้ายาง

ลดแรงดันลมยางในล้อคู่หลัง : ลดอาการโอเวอร์สเตียร์
อาการของการเติมลมยางอ่อนเกินไป : กินแก้มยาง ทำให้รู้สึกยวบยาบ ยางบวม

มุมแคมเบอร์ในด้านหน้าเป็นลบ : เกิดอันเดอร์สเตียร์น้อยลงเพราะแรงยึดเกาะด้านข้างที่ดีกว่าจากการที่ยางรับมุมเอียงข้าง
อาการของการปรับมากเกินไป : ทำให้เบรคไม่ค่อยอยู่ รถจะสะบัดไปมาง่าย กินแก้มยางด้านในของวงยาง

มุม แคมเบอร์ในด้านหลังเป็นลบ : เกิดโอเวอร์สเตียร์น้อยลงเพราะแรงยึดเกาะด้านข้างที่ดีกว่าจากการที่ยางรับ มุมเอียงข้าง เพิ่มแรงยึดเกาะในด้านหลัง
ช่วงการปรับที่สามารถทำได้ : ไม่เกิน 2.5 องศา
อาการของการปรับมากเกินไป : โอเวอร์สเตียร์มาก ด้านท้ายรถกระตุก กินแก้มยางด้านในวงยาง ทำให้ระยะเบรคมากขึ้นหากปรับมากเกินไป




เอ๊า      มีอีก    เอาเข้าไป    ขยะรกสมอง    




การ ปรับช๊อคให้มีค่าหนืดมากขึ้น : ทำให้เลี้ยวดีขึ้น ได้แรงตอบสนองที่ดีขึ้น ทำให้เกิดอาการโอเวอร์หรืออันเดอร์สเตียร์ได้ยากหรือช้าลง เนื่องจากทำให้การถ่ายเทน้ำหนักช้าลง ขึ้นอยู่กับว่าคุณปรับช๊อคในด้านหน้าหรือหลัง
อาการของการปรับมากเกินไป : ช่วงล่างจะทื่อ รถจะกระเทือนมาก รถจะกระโดด ทำให้สูญเสียแรงยึดเกาะ ทำให้เกิดการถ่ายเทน้ำหนักช้าลงทำให้รู้สึกแปลก ๆ ในการควบคุม เหมือนกับ อันเดอร์สเตียร์เสร็จแล้วพอพ้นโค้งไปก็โอเวอร์สเตียร์

การปรับช๊อคให้มีค่าหนืดน้อยลง : ให้การตอบสนองช้าลง ทำให้เกิดอาการอันเดอร์หรือโอเวอร์สเตียร์ได้เร็วขึ้น
อาการของการปรับมากเกินไป : รถจะโคลงเคลงเหมือนเรือ รถสะบัดเวลาเข้าโค้ง รู้สึกไม่เสถียร






มาๆๆ        มีอีกครับ   ไหนๆ   อยากรู้   เอาให้จบ  



เรื่องความสูงของรถ      เซอร์กิจ    มักจะทำให้    ท้ายห้อยนะครับ    อ่านไม่ผิดครับ    ท้ายเนี่ย  ห้อยกว่าหน้า   เหมือนฮาเล่      

เพราะ  ว่าท้าย   มักจะเบากว่า    หน้า     เราทำให้หลัง    มีค่าการไถลน้อยลง   เลยทำให้ใกล้    พื้นมากที่สุด        อาการที่เห็นได้เด่นชัดที่สุด    การเบรคครับ      เช่นขับเร็วๆ   เบรคแรงๆ   หน้ามุดเลย   มุดๆๆ    เลยให้หลังเยๆ   พอเบรคปุ๊บ    บาลานซ์    แล้ว     แก้อาการได้ง่ายขึ้น  




ผมเห็นหน้าทิ่มตูดโด่ง      ผมเห็นปุ๊บ        แนวไหนวะเนี่ย     ไม่เคยเรียนมา    555   แต่ผมก็ทำไว้หนีน้ำ   ที่บ้าน  





ผมไม่รู้นะครับ     ว่าจะแนะนำสปริงยังไง    เพราผมยังไม่รู้จัก   เทอิน   เทๆ   อะไรนั่นเลย    มองๆ   เหมือนข้าวหลาม   ผมก็ไม่สนใจ    เพราะกลุ่มผม   แปลงกันเองให้เข้ากับรถ    


เลยแนะว่าถ้าแข็งเกิดอาการยังไง    อ่อนเป็นแบบไหน    แล้วลองไปฝึกเอาละกันครับ   ยิ่งทำแบบฝึกหัดมาก   ยิ่งเข้าใจข้อสอบ   แล้วค่อยๆ  ปรับไปครับ    


ยาง    สำคัญมากนะครับ    ยางสนาม   ใช้ในสนาม    ยางทั่วไปใช้ถนนสภาพทั่วไปนะครับ   ถ้าเอายางสนามมาวิ่งถนน   ผมเรียกกว่าเหลือ   เอายางถนนไปวิ่งสนาม   ผมเรียกกว่ากล้า  




สุดท้ายครับ    คงสงสัยว่า   ไอ้นี่มันเป้นใครวะ      อวดดีจัง   ทำมาเตือน   ทำมาสอน    ขับเป็นป่าวแข่งกันป่าว      ผมแค่เคยถูกอบรม  มาเองครับ    มีแต่ตัวหนังสือ   ประสบการณ์ยังน้ครับสำหรับการขับ
 
    ผมตอบว่า      ผมขับไม่เป็นครับ    ไม่กล้าครับ       ผมขอนั่งส่งยิ้ม    ข้างสนาม   ทุกๆ  สนามละกันครับ   ไปสนามไหน   จังหวัดไหน   เจอผมแน่นอนครับ   ผมไปเสริฟน้ำครับ    




ยาวจริง    ผิดก็ขออภัยนะครับ      ถูกก็เซฟไว้ครับ     แล้วลองไปเข้าโค้งแข้งกับป้าแก่ๆครับ      เราจะรู้สึกว่าเราเข้าโค้งเป็นละ          ขอบคุณครับ    ไปละครับ  
 



อ่านกันให้เมาไปข้างนึงครับ          






 
 
 
บันทึกการเข้า

โน่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,361


086-6202798 โน่ SRC


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3856 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:51:33 »

แหล่มๆๆๆ
บันทึกการเข้า
นัส@นิคมพัฒนา
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,269


(*-*) 089-6021132


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3857 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 16:55:20 »

รับทราบครับ ซุบซิบ
บันทึกการเข้า
Red-Car@RYZ
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,738


ท่องเที่ยวไปตามใจฝัน T. 081-8617417


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3858 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 17:06:19 »

ตามที่อ่านมาผมว่า ยางนี้สำคัญมากตอนเข้าโค้งครับตูดมัน
จะปัด ขนาดตอนนั้นใช้ my01 มันก็ปัดเวลาเข้าโค้งแรง ๆ
ที่พีระ มีหลายโค้งเสียด้วย.... ระวังหน่อยครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กรกฎาคม 2010 17:42:13 โดย Carro Rojo.RYZ - سيارة حمراء » บันทึกการเข้า

sprinter111
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 661



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3859 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2010 20:39:34 »

 คำนับ คำนับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 191 192 [193] 194 195 ... 1149  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!