มาดูกันก่อนดีไหมครับว่า Dogbox คืออะไร มีระบบการทำงานอย่างไร รวมถึงระบบการเข้าเกียร์แบบต่างๆ
ทำไมถึงต้อง Dogbox
ปกติเวลาเราเข้าเกียร์เราต้องทำอย่างไรบ้าง 1.ถอนคันเร่ง 2. เหยียบรัช 3.เข้าเกียร์ 4. ถอนรัช 5. เหยียบคันเร่งต่อ เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง คุณคิดว่าเสียเวลามากแค่ไหนในขั้นตอนทั้ง 5 นี้ อย่างถ้าเป็นลุงๆ ป้าๆ จบ 5 ขั้นตอนอาจจะเวลาล่วงเลยถึง 1- 2 วินาทีต่อเกียร์ อย่างผู้ที่ขับแบบเอาแรงอย่างเดียว พังช่างมัน ก็ต้องมีซักเศษ 1 ส่วน 3 วิ เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าเราเอารถไปวิ่งในสนาม สับสัก 4 เกียร์ล่ะจะเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกกี่วินาที แล้วถ้ารถแรงๆ แบบซ้ายก็จะมา ขวาก็จะไป ยุ่งกันไปใหญ่ ยิ่งรถเซอร์กิต วิ่งกันเป็นชั่วโมง เข้าเกียร์อีกหลายพันครั้ง คงเสียเวลาไปอีกเพียบ
Dog-box ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดขั้นตอนนี้ เพียงแค่ส่งคันเร่ง ปล่อยมือจากพวงมาลัย แล้วยัดเกียรอย่างเดียว (เหมือนเกมส์ตู้) คงจะมันไม่น้อย แต่ก็ต้องแลกด้วยกลไกลที่สลับซับซ้อน วัสดุที่ดีเลิศ ความสึกหรออย่างรวดเร็ว และราคาที่แพงตามมา
Syncho VS Dogbox
ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักเกียร์ Dogbox เรามาทำความรู้จักกับเกียร์ Synchro แบบปัจจุบันที่เราใช้กันอยู่ก่อนดีกว่า เกียร์แบบ Syncho
เกียร์ที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เรียกกันว่าระบบ Synchro ฟันเฟืองเกียร์เป็นลักษณะฟันเฉียง และเฟืองทองเหลือง มาเป็นตัวเบรกให้เฟืองเกียร์หยุดการทำงานก่อน ถึงจะสลับฟันเฟืองเพื่อเปลี่ยนเกียรได้ ปกติ แม้ว่าเวลาเราถอนคันเร่ง เหยียบรัชเพื่อตัดกำลังจากเครื่องยนต์ ให้ผ้าครัชหมุนฟรีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เป็นการทำให้ฟันเฟืองเกียร์หยุดหมุน เพราะยังไง ฟันเฟืองเกียรอีกด้านหนึ่งที่ต่อไปยังเพลา และเฟืองท้ายยังคงหมุนอยู่ตามความเร็วของรถ ส่วนเฟืองอีกด้านหนึ่งยังหมุนต่อเนื่องตามแรงเฉื่อย ดั้งนั้นการที่จะสลับฟันเฟืองเกียร์ได้คือต้องทำให้ฟันเฟืองทั้งสอง หมุนด้วยความเร็วใกล้เคียงกันเสียก่อน ในระหว่างที่เรากำลังลักคันเข้าเกียร์ เฟืองทองเหลืองตัวนี้หรือ (Synchromesh) ซินโครเมต ตามศัพท์ช่าง จะเป็นตัวสร้างแรงหนืดด้วย ผิวด้านในที่เป็นร่อง ความหนืดของน้ำมันเกียร ทำหน้าที่คล้ายเบรก ชลอความเร็วจนฟันเฟืองหมุนเท่ากัน ถึงจะทำการสลับฟันเฟืองภายในเพื่อเปลี่ยนเกียรได้ ซึ่งโดยทั่วๆไปจะใช้ฟันเฟืองเกียรแบบเฉียง เพื่อเป็นการลดเสียงดัง และลดอาการสึกหรอได้ดีกว่า
เกียร์แบบ Dogbox
Dog-box หรือเต็มก็ Dog-engagement เกียร์แบบนี้ มีฟันเฟืองเกียร์เป็นลักษณะฟันตรง ฟันเฟืองแบบนี้เน้นที่การส่งกำลังได้ดีกว่า การใช้งานอย่างหนัก แข็งแรงกว่า แต่จะมีเสียงดังมากกว่า การสลับฟันเฟืองก็คล้ายกับแบบ Syncho คือยังไงก็ต้องทำให้ฟันเฟือง หมุนเท่าๆกันก่อนด้วย อุปกรณ์ที่เรียกว่า Dog-ring เป็นแหวน มีตุ่ม กลมๆ เป็นตัวนำร่องทำให้ฟันเฟืองตรงกัน ถึงจะทำการสลับฟันเฟืองเปลี่ยนเกียรได้ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าแบบ Synchro ที่มีปัญหาเมื่อเครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามากๆ ที่รอบเครื่องสูงๆ Synchromesh จะไม่สามารถชะลอความเร็วของฟันเฟือง จึงทำให้เกิดการเข้าเกียร์ติดขัด หรือไม่สามารถเข้าเกียร์ได้
การใช้งานเกียรแบบ Dogboxอย่างที่ทราบกันว่าเกียร์ Dog-box นั้น สามารถเข้าเกียร์โดยไม่ต้องเหยียบรัช (แล้วจะมีครัชไว้ทำไมล่ะ?) แน่นอนครัชมีไว้สำหรับการออกตัวที่เกียร์แรกเท่านั้น คือ เหยียบครัช เข้าเกียร์ 1 แล้วก็เหยียบคันเร่ง พอได้รอบก็ปล่อยครัชจนสุด รถออกตัว เหยียบคันเร่งส่งต่อ จนถึงรอบเครื่องที่ต้องการ แล้วโยกคันเกียร์ สับสอง แบบไม่ถอนคันเร่ง สังเกตวัดรอบจะตกเพราะอัตราทดเฟืองเกียร์ที่เปลี่ยนไป พอสุดรอบอีกครั้งก็จะจับคันเข้าเกียร์ ยัดเกียร์ 3 ต่อเลย หรือไม่พอใจก็โยกคันเข้าเกียร์ 1 ซะเลยได้หรือไม่ ?
จริงๆแล้ว แม้ Dogbox จะไม่จำเป็นต้องเหยียบรัช เพื่อเปลี่ยนเกียร์ แต่ก็จำเป็นที่ต้องผ่อนคันแร่ง เพื่อตัดภาระ Load ระหว่างเครื่องยนต์ และเกียร์บ้าง โดยเฉพาะที่เครื่องยนต์ที่มีแรงม้าสูงๆ อย่างพวกรถแข่ง มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้าเกียร์ได้เช่นกัน มีอยู่หลายวิธีที่นักแข่งนิยมใช้กัน เช่น การถอนคันเร่งแล้วกระชากคันเกียร์ เพื่อเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็ว หรือการกระทืบคันเร่งจนถึงจังหวะรอบเครื่องตัด แล้วจึงยัดเกียร์ แต่ที่สมบูรณ์ที่สุดคือการจูนจาก ECU โดยนำคำสั่งจากคันเข้าเกียร์ เข้ากล่องคอมพิวเตอร์ ให้สั่งลดรอบเองแบบอัตโนมัติ คนขับกระทืบคันเร่งให้มิด หมดรอบแล้วก็ยัดเกียรอย่างเดียว อย่างนี้ก็สบายหน่อย แต่ความยากลำบากจะมาอยู่ที่ Tuning ซี่งนักจูนแต่ละท่านต้องคำนวณกันอย่างมาก เพื่อหาช่วงเวลาการสับคันเกียร์ของนักขับแต่ละคนให้สอดคล้องกัน มิฉะนั้นความเสียหายก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
Dogbox & Close Ratio เกียร์ dogbox หมายถึงระบบเกียร์ที่ไม่ต้องเหยียบครัชแล้วเปลี่ยนเกียร์ได้ แต่ Close Ratio จะหมายถึงเฟืองเกียร์ที่มีอัตราทดชิด หมายความว่า อัตราทดในแต่ละเกียร์จะใกล้เคียงกันมากที่สุด เพื่อลดปัญหารอบเครื่องตก
เช่นในเกียร์แบบธรรมดารถบ้านทั่วๆไป เปลี่ยนเกียร์ 1 ที่ 6,800 รอบ ยัดเกียร์ 2 ถอนครัช ส่งคันเร่ง สังเกตเข็มรอบจะตกลงไปเหลือแค่ 4,500 รอบ ถ้าเป็นเครื่องเทอร์โบใหญ่ๆ แบบบูชมาเต็มๆที่ 5000 รอบล่ะ การรอรอบก็จะเกิดขึ้น
ส่วนเกียรแบบ Close Ratio จะทำเฟืองมาให้อัตราทดชิดกว่า เมื่อเปลี่ยนเกียรที่ 6,800 รอบ สับเกียร์ 2 วัดรอบตกมาอยู่ที่ 5,500 รอบ บูชเทอร์โบยังคงมาเต็มที่ ก็จะทำให้อัตราเร่งของรถต่อเนื่องกว่า ในเกียร์ Dogbox เป็นเกียร์ที่ทำมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน อัตราทดของ Dogbox จะจับคู่มากับ Close Ratio ซึ่งเป็นลักษณะฟันเฟืองตรง ส่วนประกอบภายในห้องเกียร์สามารถแยกออกได้ทีละชิ้น ฟันเฟืองทุกตัวจะทำมาในลักษณะชุด Kit ที่จะมีฟันเฟืองมาให้เลือกมากมาย สามารถสับเปลี่ยนได้อย่างง่ายๆ ตามความพอใจ สำหรับการ Setup อัตราทดเกียร์ให้เหมาะสมกับ เฟืองท้าย ขนาดล้อ-ยาง Power Band ของเครื่องยนต์ นิสัยนักแข่ง และรูปแบบของสนามแข่งขันได้ง่ายดายกว่า เกียร์แบบธรรมดาอยู่มาก
Dogbox & Sequential Shifter
Sequential Shifter หมายถึงคันเข้าเกียร์แบบผลักขึ้น และดึงลงทีละเกียร์ Dogbox ต่างจากพวก Syncho อยู่ที่ว่า การเข้าเกียร์นั้นต้องทำให้ได้ไวที่สุด (มือลิงที่สุด) ยิ่งเข้าเกียร์ได้ไวเท่าไหร่ เกียร์ Dog-box ก็จะสึกหรอน้อยลงเพียงนั้น ต่างจากพวก Syncho ยิ่งเข้าได้ไว้เท่าไหร่ก็พังไวเท่ากัน ทั้งนี้เพราะในเกียร Dogbox อย่างที่ทราบแล้วว่า ระบบการชะลอฟันเฟืองจะใช้ แหวน Dog ring เป็นตัวสัมผัสนำร่อง ยิ่งสัมผัสนานเท่าไหร่ ความสึกหรอก็จะมากขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่กำลังเปลี่ยนจากเกียร์หนึ่ง ไปสู่อีกเกียร์หนึ่ง ช่วงเวลานี้เขาเรียกกันว่า Dog Zone คือช่วงเวลาที่ฟันเฟือง ย้ายจากตัวหนึ่งไปสู่อีกตัวหนึ่ง ยิ่งนานมากยิ่งสึกหรอมาก ยิ่งถ้าเข้าเกียร์ผิด แบบวิ่งเกียร์ 2 เต็ม แล้วยัดผิดมาเกียร์ 1 ละก็ผลกระจายแน่ๆ การแก้ปัญหาของเกียร์ Dogbox ส่วนมากจะจับคู่กับคันเข้าเกียร์แบบ Sequential คือเป็นระบบเปลี่ยนเกียร์แบบเลื่อนขึ้น และเลื่อนลง เช่นเวลาเปลี่ยนที่สูงขึ้น Shift Up ก็แค่ดันคันเกียร์ไปข้างหน้า 1 ครั้ง พอจะ Shift Down ลดเกียร์ก็ดึงกลับทีละเกียร์ แบบนี้จะทำให้ไม่สามารถข้ามเกียร์ได้ คันเกียร์แบบ Sequential นี้มีราคาแพงมากๆ ระหว่างหลักหลายหมื่น จนถึงหลักแสน ยิ่งแพงเท่าไหร่ ความแม่นยำ และจังหวะเวลาในการเกิด Dog Zone ก็จะน้อยเพียงนั้น ส่วนคันเกียร์ที่เราใช้อยู่ทั่วๆไป เรียกกันว่า H-Patten คือการเข้าเกียร์เป็นแบบรูปตัว H โยกขึ้น - โยกลง ? ซ้าย ? ขวา สลับกันไปทีละเกียร์ แบบนี้ถ้าเป็นในรถแข่ง แบบเข้าโค้งแรงๆ (แรง G ในโค้งสูงๆ ) โอกาสข้ามเกียร์นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า ความเสียหายก็แค่เกียร์กระจาย แต่ในนักแข่งที่ชำนาญระบบ H-Patten ก็ยังมีใช้กันอยู่ เราจึงเห็นว่ารถแข่ง จึงเลือกใช้คันเกียร์แบบ Sequential เสียส่วนมาก
Dogbox & Air Shifterสุดยอดของการเปลี่ยนเกียร์ต้อง Air Shifter เป็นระบบการเปลี่ยนเกียร์ด้วย แรงดันลม หรือระบบนิวเมตริก ส่วนมากเกียร์ Dogbox ที่ถูกพัฒนาทำมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน แบบควอเตอร์ไมล์ มักจะนิยมใช้การเปลี่ยนเกียร์ด้วยระบบนี้ Air Shifter จะไม่มีสาย หรือขาโยงคันเข้าเกียร์ ที่คันเกียร์ระบบนี้จะทำงานด้วยสวิทย์ไฟฟ้า ไปสั่งงานแม่ปั้มไฮโดลิคไฟฟ้า ให้เปิดลมจากถังลม เข้าไปดันชุดไฮโดรลิกที่อยู่ภายในห้องเกียร์ เพื่อให้ชุดเปลี่ยนเกียร์เลื่อน แบบนี้นักขับ เพียงแค่เหยียบรัช แล้วออกตัวที่เกียร์แรกเท่านั้น พอขึ้นเกียร์ 2 ก็ทำการโยกคันเกียรสวิทย์เท่านั้น ระบบเปลี่ยนเกียร์ก็จะทำงาน จนหมดรอบ ก็ทำการโยกคันเกียร์ขึ้นไปเลื่อยๆ ทีละเกียร์ Air Shifter นั้นจะทำการเปลี่ยนเกียร์ลักษณะ Shift Up หรือเกียร์สูงขึ้นที่ละเกียร์เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนลง หรือลดเกียร์ต่ำได้ ซึ่งเหมาะกับรถแข่งทางตรง เป็นป้องกันการเข้าเกียร์ผิดพลาด หรือว่าวเกียร์ หรือควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยคอมพิวเตอร์