|
offkung
|
 |
« เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 21:48:44 » |
|
การทำงานเป็นแบบไหน การกดบูสคืออะไร การอมบูสคืออะไร อยากรู้ครับช่วยกันอธิบายหน่อย  ปล.รถมีเทอโบมันขับยากป่าว |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
wasabi
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 21:56:29 » |
|
เอ๊า สาวก ชอบหอยทั้งหลาย มาอธิบาย หน่อย ส่วนผม อธิบาย ตามความเข้าใจ ผมนะ การกดบูสท์ ก็ คือ การที่เรา ใช้ รอบ เครื่อง ให้ ถึง ประมาณ ที่สเป็ค เทอร์โบ จะให้ กำลังปั่นได้ เต็มที่น่ะครับ ทีนี้ พอมัน ปั่นได้ เต็มที่ ได้ แรงลม อัดเข้าไอดี เต็มที่ ถ้าเราไม่กดคันเร่งมากไปกว่านี้ หรือ ไม่ถอนคันเร่ง เลี้ยงให้มันอยู่ประมาณนี้ ก็ น่าจะเป็นที่มาของ อมบูสท์ ครับ คือ พอ คันหลัง ซัดเข้ามาใกล้ๆ เราก็ ซัด ออกไป ได้ เลย อ่ะ ประมาณ นี้ มั๊ง ไม่เคยเซ็ทโบ เหมือนกัน รถ เทอร์โบ ขับ ไม่ยาก หรอกครับ ขนาดฝีมือ ห่วยๆอย่างผม ไปลอง ขับ RB25DET 3S-GTE เมื่อสมัยหนุ่มๆ ก็ ว่า มันขับไม่ยาก ครับ สนุกมากกว่า  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
offkung
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 22:08:14 » |
|
ขอบคุณมากครับสำหรับคำอธิบาย
น้าตอบคำถามผมทุกเรี่องเลย ขอบคุณคับสำหรับความรู้ดีๆ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Moon_night
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 22:12:01 » |
|
ไม่อยากอธิบายยาวเลยครับ
เอาสั้นๆง่ายๆแล้วกันครับ
บูส ก็คือ อากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดูดอากาศปกติของเครื่องยนต์ในระบบNA ซึ่งแรงดันที่ว่านี้จะถูกสร้างด้วยตัวปั่นอัดอากาศที่เรียกกันว่าเทอร์โบ และซูปเปอร์ชาต์ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเทอร์โบเท่านั้นครับ ซึ่งการทำงานของเทอร์โบก็จะทำงานโดยภายในตัวเทอร์โบจะมีกังหันไว้ปั่นลม ซึ่งกังหันจะปั่นได้จะต้องมีตัวการมากระทำ ในที่นี้คือไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ไอเสียนี้จะไปดันให้กังหันปั่น ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปั่นได้ไม่เร็วนักแรงดันอากาศจากเทอร์โบจะยังมีไม่มากพอที่จะมีแรงดันมากกว่าแรงดูดอากาศ ในช่วงนี้จะยังไม่มีบูสเกิดขึ้น ซึ่งดันบูสจะเกิดขึ้นเมื่อกังหั่นปั่นเร็วมากพอที่แรงดันอากาศจะมีมากจนดันเร็วกว่าแรงดูดอากาศ โดยเทอร์โบแต่ละตัวก็จะมีการสร้างบูสช้าเร็วแตกต่างกันไปอันมาจากขนาดของเทอร์โบ ใบพัดที่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้นครับ
การอมบูส คือ การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แรงดันบูสจะยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการใช้รอบเครื่องที่แรงดูดและแรงดันบูสอยู่ที่ 0 ซึ่งการขับแบบนี้เป็ฯการขับที่ใช้เพื่อการประหัยก โดยใช้แรงดูดอากาศของเครื่องทำงานมากว่าการใช้แรงดันจากเทอร์โบ ที่ว่าประหัยดเพราะ หากให้มีแรงดันบูสเกิดขึ้น แปลว่าอากาศเข้ามากกล่องECU จะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อากาศ แล้วประมวลผลเพื่อสั่งให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมแก่อัตราส่วนผสมในการเผาไหม้นั่นเอง ซึ่งเมื่อฉีดน้ำมันมากขึ้นมันก็กินน้ำมันมากขึ้นนั่นเองละครับ
การขับรถเทอร์โบนั่นไม่ยาก หากแต่ต้องเคยชินและรู้ใจเทอร์โบ ที่จะทำงานว่าจะมาเมื่อใด และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องรู้เพราะเครื่องเทอร์โบนั่นจะมีการรอรอบบ้างในช่วงที่บูสยังไม่มา และหากบูสมาก็จะมีกำลังขึ้นมาอย่างกระทันหันจำเป็นต้องปรับตัวและรู้ใจมันครับ
ส่วนการใช้งานนั่นไม่ควรขับให้บูสเต็มตลอดเวลาที่เรียกว่า เหยียบแช่ ไม่สามารถทำได้นานๆได้ เพราะเครื่องจะเจอแรงดันที่มากแรงเทอร์โบจะหมุนด้วยความเร็วสูงจัดจนความร้อนสูงระบบระบายความร้อนของเทอร์โบทำงานระบายความร้อนไม่ทัน ก็อาจทำให้เทอร์โบเสียหายได้ครับ ด้วยเหตุนี้เครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่จะติดตัวดับเครื่องอัตโนมัติ เรียกว่า เทอร์โบทามเมอร์ เพื่อใช้วอร์มเครื่องหลังจากการใช้งานให้น้ำมันเครื่องได้ไประบายความร้อนจากเทอร์โบ อันเป็นการยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบนั่นเองครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
arTO-TRD
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 22:41:44 » |
|
ความรู้ๆ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
colt rampant
มือใหม่หัดขับ
 ออฟไลน์
กระทู้: 46
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 23:26:48 » |
|
สุดยอดเลยครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
__Da__
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551 23:39:18 » |
|
ไม่อยากอธิบายยาวเลยครับ
เอาสั้นๆง่ายๆแล้วกันครับ
บูส ก็คือ อากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดูดอากาศปกติของเครื่องยนต์ในระบบNA ซึ่งแรงดันที่ว่านี้จะถูกสร้างด้วยตัวปั่นอัดอากาศที่เรียกกันว่าเทอร์โบ และซูปเปอร์ชาต์ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเทอร์โบเท่านั้นครับ ซึ่งการทำงานของเทอร์โบก็จะทำงานโดยภายในตัวเทอร์โบจะมีกังหันไว้ปั่นลม ซึ่งกังหันจะปั่นได้จะต้องมีตัวการมากระทำ ในที่นี้คือไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ไอเสียนี้จะไปดันให้กังหันปั่น ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปั่นได้ไม่เร็วนักแรงดันอากาศจากเทอร์โบจะยังมีไม่มากพอที่จะมีแรงดันมากกว่าแรงดูดอากาศ ในช่วงนี้จะยังไม่มีบูสเกิดขึ้น ซึ่งดันบูสจะเกิดขึ้นเมื่อกังหั่นปั่นเร็วมากพอที่แรงดันอากาศจะมีมากจนดันเร็วกว่าแรงดูดอากาศ โดยเทอร์โบแต่ละตัวก็จะมีการสร้างบูสช้าเร็วแตกต่างกันไปอันมาจากขนาดของเทอร์โบ ใบพัดที่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้นครับ
การอมบูส คือ การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แรงดันบูสจะยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการใช้รอบเครื่องที่แรงดูดและแรงดันบูสอยู่ที่ 0 ซึ่งการขับแบบนี้เป็ฯการขับที่ใช้เพื่อการประหัยก โดยใช้แรงดูดอากาศของเครื่องทำงานมากว่าการใช้แรงดันจากเทอร์โบ ที่ว่าประหัยดเพราะ หากให้มีแรงดันบูสเกิดขึ้น แปลว่าอากาศเข้ามากกล่องECU จะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อากาศ แล้วประมวลผลเพื่อสั่งให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมแก่อัตราส่วนผสมในการเผาไหม้นั่นเอง ซึ่งเมื่อฉีดน้ำมันมากขึ้นมันก็กินน้ำมันมากขึ้นนั่นเองละครับ
การขับรถเทอร์โบนั่นไม่ยาก หากแต่ต้องเคยชินและรู้ใจเทอร์โบ ที่จะทำงานว่าจะมาเมื่อใด และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องรู้เพราะเครื่องเทอร์โบนั่นจะมีการรอรอบบ้างในช่วงที่บูสยังไม่มา และหากบูสมาก็จะมีกำลังขึ้นมาอย่างกระทันหันจำเป็นต้องปรับตัวและรู้ใจมันครับ
ส่วนการใช้งานนั่นไม่ควรขับให้บูสเต็มตลอดเวลาที่เรียกว่า เหยียบแช่ ไม่สามารถทำได้นานๆได้ เพราะเครื่องจะเจอแรงดันที่มากแรงเทอร์โบจะหมุนด้วยความเร็วสูงจัดจนความร้อนสูงระบบระบายความร้อนของเทอร์โบทำงานระบายความร้อนไม่ทัน ก็อาจทำให้เทอร์โบเสียหายได้ครับ ด้วยเหตุนี้เครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่จะติดตัวดับเครื่องอัตโนมัติ เรียกว่า เทอร์โบทามเมอร์ เพื่อใช้วอร์มเครื่องหลังจากการใช้งานให้น้ำมันเครื่องได้ไประบายความร้อนจากเทอร์โบ อันเป็นการยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบนั่นเองครับ
นี้ขนาดสั่นๆ นะเนี้ย อิอิ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
kampol
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 07:37:20 » |
|
ความรู้ๆ
ความรู้ๆ
ไม่อยากอธิบายยาวเลยครับ
เอาสั้นๆง่ายๆแล้วกันครับ
บูส ก็คือ อากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดูดอากาศปกติของเครื่องยนต์ในระบบNA ซึ่งแรงดันที่ว่านี้จะถูกสร้างด้วยตัวปั่นอัดอากาศที่เรียกกันว่าเทอร์โบ และซูปเปอร์ชาต์ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเทอร์โบเท่านั้นครับ ซึ่งการทำงานของเทอร์โบก็จะทำงานโดยภายในตัวเทอร์โบจะมีกังหันไว้ปั่นลม ซึ่งกังหันจะปั่นได้จะต้องมีตัวการมากระทำ ในที่นี้คือไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ไอเสียนี้จะไปดันให้กังหันปั่น ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปั่นได้ไม่เร็วนักแรงดันอากาศจากเทอร์โบจะยังมีไม่มากพอที่จะมีแรงดันมากกว่าแรงดูดอากาศ ในช่วงนี้จะยังไม่มีบูสเกิดขึ้น ซึ่งดันบูสจะเกิดขึ้นเมื่อกังหั่นปั่นเร็วมากพอที่แรงดันอากาศจะมีมากจนดันเร็วกว่าแรงดูดอากาศ โดยเทอร์โบแต่ละตัวก็จะมีการสร้างบูสช้าเร็วแตกต่างกันไปอันมาจากขนาดของเทอร์โบ ใบพัดที่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้นครับ
การอมบูส คือ การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แรงดันบูสจะยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการใช้รอบเครื่องที่แรงดูดและแรงดันบูสอยู่ที่ 0 ซึ่งการขับแบบนี้เป็ฯการขับที่ใช้เพื่อการประหัยก โดยใช้แรงดูดอากาศของเครื่องทำงานมากว่าการใช้แรงดันจากเทอร์โบ ที่ว่าประหัยดเพราะ หากให้มีแรงดันบูสเกิดขึ้น แปลว่าอากาศเข้ามากกล่องECU จะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อากาศ แล้วประมวลผลเพื่อสั่งให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมแก่อัตราส่วนผสมในการเผาไหม้นั่นเอง ซึ่งเมื่อฉีดน้ำมันมากขึ้นมันก็กินน้ำมันมากขึ้นนั่นเองละครับ
การขับรถเทอร์โบนั่นไม่ยาก หากแต่ต้องเคยชินและรู้ใจเทอร์โบ ที่จะทำงานว่าจะมาเมื่อใด และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องรู้เพราะเครื่องเทอร์โบนั่นจะมีการรอรอบบ้างในช่วงที่บูสยังไม่มา และหากบูสมาก็จะมีกำลังขึ้นมาอย่างกระทันหันจำเป็นต้องปรับตัวและรู้ใจมันครับ
ส่วนการใช้งานนั่นไม่ควรขับให้บูสเต็มตลอดเวลาที่เรียกว่า เหยียบแช่ ไม่สามารถทำได้นานๆได้ เพราะเครื่องจะเจอแรงดันที่มากแรงเทอร์โบจะหมุนด้วยความเร็วสูงจัดจนความร้อนสูงระบบระบายความร้อนของเทอร์โบทำงานระบายความร้อนไม่ทัน ก็อาจทำให้เทอร์โบเสียหายได้ครับ ด้วยเหตุนี้เครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่จะติดตัวดับเครื่องอัตโนมัติ เรียกว่า เทอร์โบทามเมอร์ เพื่อใช้วอร์มเครื่องหลังจากการใช้งานให้น้ำมันเครื่องได้ไประบายความร้อนจากเทอร์โบ อันเป็นการยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบนั่นเองครับ
 |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ปัจจุบัน  ก่อนหน้า  |
|
|
|
wasabi
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 10:33:58 » |
|
อ่อ งั้น ผม ก้ เข้าใจ ผิดเรื่อง อมบูสท์ น่ะซิ น่าจะเรียกเป็น เลี้ยงบูสท์ นะของผม อ่ะ ฮ่าๆๆ ถ้า ความหมาย ที่ คุณมูน อธิบาย อมบูสท์ มา ผมเรียก วิ่งแวค อ่ะ คือ ขับโดย ไม่ให้ มันบูสท์ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
AMELY
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 11:00:39 » |
|
ความรู้ อมบูสไม่เคยมีไม่มีโบ มีแต่อมตังค์
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
panaejorn
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 11:06:06 » |
|
มาเก็บความรู้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
AE Racing Club Panaejorn @ AE Racing Club.Net No More Game-Friend Indeed All Zone ปากขมก็อมยา ปากหมาก็อมตีน |
|
|
|
COROLLABOY
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 11:11:43 » |
|
แล้วมี ดูดกับเลีย บูสไหมพี่ อุอุ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
โน่ SRC ™
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 16:29:28 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นัส@นิคมพัฒนา
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 17:16:07 » |
|
ไม่อยากอธิบายยาวเลยครับ
เอาสั้นๆง่ายๆแล้วกันครับ
บูส ก็คือ อากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดูดอากาศปกติของเครื่องยนต์ในระบบNA ซึ่งแรงดันที่ว่านี้จะถูกสร้างด้วยตัวปั่นอัดอากาศที่เรียกกันว่าเทอร์โบ และซูปเปอร์ชาต์ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเทอร์โบเท่านั้นครับ ซึ่งการทำงานของเทอร์โบก็จะทำงานโดยภายในตัวเทอร์โบจะมีกังหันไว้ปั่นลม ซึ่งกังหันจะปั่นได้จะต้องมีตัวการมากระทำ ในที่นี้คือไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ไอเสียนี้จะไปดันให้กังหันปั่น ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปั่นได้ไม่เร็วนักแรงดันอากาศจากเทอร์โบจะยังมีไม่มากพอที่จะมีแรงดันมากกว่าแรงดูดอากาศ ในช่วงนี้จะยังไม่มีบูสเกิดขึ้น ซึ่งดันบูสจะเกิดขึ้นเมื่อกังหั่นปั่นเร็วมากพอที่แรงดันอากาศจะมีมากจนดันเร็วกว่าแรงดูดอากาศ โดยเทอร์โบแต่ละตัวก็จะมีการสร้างบูสช้าเร็วแตกต่างกันไปอันมาจากขนาดของเทอร์โบ ใบพัดที่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้นครับ
การอมบูส คือ การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แรงดันบูสจะยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการใช้รอบเครื่องที่แรงดูดและแรงดันบูสอยู่ที่ 0 ซึ่งการขับแบบนี้เป็ฯการขับที่ใช้เพื่อการประหัยก โดยใช้แรงดูดอากาศของเครื่องทำงานมากว่าการใช้แรงดันจากเทอร์โบ ที่ว่าประหัยดเพราะ หากให้มีแรงดันบูสเกิดขึ้น แปลว่าอากาศเข้ามากกล่องECU จะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อากาศ แล้วประมวลผลเพื่อสั่งให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมแก่อัตราส่วนผสมในการเผาไหม้นั่นเอง ซึ่งเมื่อฉีดน้ำมันมากขึ้นมันก็กินน้ำมันมากขึ้นนั่นเองละครับ
การขับรถเทอร์โบนั่นไม่ยาก หากแต่ต้องเคยชินและรู้ใจเทอร์โบ ที่จะทำงานว่าจะมาเมื่อใด และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องรู้เพราะเครื่องเทอร์โบนั่นจะมีการรอรอบบ้างในช่วงที่บูสยังไม่มา และหากบูสมาก็จะมีกำลังขึ้นมาอย่างกระทันหันจำเป็นต้องปรับตัวและรู้ใจมันครับ
ส่วนการใช้งานนั่นไม่ควรขับให้บูสเต็มตลอดเวลาที่เรียกว่า เหยียบแช่ ไม่สามารถทำได้นานๆได้ เพราะเครื่องจะเจอแรงดันที่มากแรงเทอร์โบจะหมุนด้วยความเร็วสูงจัดจนความร้อนสูงระบบระบายความร้อนของเทอร์โบทำงานระบายความร้อนไม่ทัน ก็อาจทำให้เทอร์โบเสียหายได้ครับ ด้วยเหตุนี้เครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่จะติดตัวดับเครื่องอัตโนมัติ เรียกว่า เทอร์โบทามเมอร์ เพื่อใช้วอร์มเครื่องหลังจากการใช้งานให้น้ำมันเครื่องได้ไประบายความร้อนจากเทอร์โบ อันเป็นการยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบนั่นเองครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
NosDriVe
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 18:13:02 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม |
|
|
|
offkung
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 19:43:14 » |
|
ไม่อยากอธิบายยาวเลยครับ
เอาสั้นๆง่ายๆแล้วกันครับ
บูส ก็คือ อากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดูดอากาศปกติของเครื่องยนต์ในระบบNA ซึ่งแรงดันที่ว่านี้จะถูกสร้างด้วยตัวปั่นอัดอากาศที่เรียกกันว่าเทอร์โบ และซูปเปอร์ชาต์ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเทอร์โบเท่านั้นครับ ซึ่งการทำงานของเทอร์โบก็จะทำงานโดยภายในตัวเทอร์โบจะมีกังหันไว้ปั่นลม ซึ่งกังหันจะปั่นได้จะต้องมีตัวการมากระทำ ในที่นี้คือไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ไอเสียนี้จะไปดันให้กังหันปั่น ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปั่นได้ไม่เร็วนักแรงดันอากาศจากเทอร์โบจะยังมีไม่มากพอที่จะมีแรงดันมากกว่าแรงดูดอากาศ ในช่วงนี้จะยังไม่มีบูสเกิดขึ้น ซึ่งดันบูสจะเกิดขึ้นเมื่อกังหั่นปั่นเร็วมากพอที่แรงดันอากาศจะมีมากจนดันเร็วกว่าแรงดูดอากาศ โดยเทอร์โบแต่ละตัวก็จะมีการสร้างบูสช้าเร็วแตกต่างกันไปอันมาจากขนาดของเทอร์โบ ใบพัดที่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้นครับ
การอมบูส คือ การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แรงดันบูสจะยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการใช้รอบเครื่องที่แรงดูดและแรงดันบูสอยู่ที่ 0 ซึ่งการขับแบบนี้เป็ฯการขับที่ใช้เพื่อการประหัยก โดยใช้แรงดูดอากาศของเครื่องทำงานมากว่าการใช้แรงดันจากเทอร์โบ ที่ว่าประหัยดเพราะ หากให้มีแรงดันบูสเกิดขึ้น แปลว่าอากาศเข้ามากกล่องECU จะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อากาศ แล้วประมวลผลเพื่อสั่งให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมแก่อัตราส่วนผสมในการเผาไหม้นั่นเอง ซึ่งเมื่อฉีดน้ำมันมากขึ้นมันก็กินน้ำมันมากขึ้นนั่นเองละครับ
การขับรถเทอร์โบนั่นไม่ยาก หากแต่ต้องเคยชินและรู้ใจเทอร์โบ ที่จะทำงานว่าจะมาเมื่อใด และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องรู้เพราะเครื่องเทอร์โบนั่นจะมีการรอรอบบ้างในช่วงที่บูสยังไม่มา และหากบูสมาก็จะมีกำลังขึ้นมาอย่างกระทันหันจำเป็นต้องปรับตัวและรู้ใจมันครับ
ส่วนการใช้งานนั่นไม่ควรขับให้บูสเต็มตลอดเวลาที่เรียกว่า เหยียบแช่ ไม่สามารถทำได้นานๆได้ เพราะเครื่องจะเจอแรงดันที่มากแรงเทอร์โบจะหมุนด้วยความเร็วสูงจัดจนความร้อนสูงระบบระบายความร้อนของเทอร์โบทำงานระบายความร้อนไม่ทัน ก็อาจทำให้เทอร์โบเสียหายได้ครับ ด้วยเหตุนี้เครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่จะติดตัวดับเครื่องอัตโนมัติ เรียกว่า เทอร์โบทามเมอร์ เพื่อใช้วอร์มเครื่องหลังจากการใช้งานให้น้ำมันเครื่องได้ไประบายความร้อนจากเทอร์โบ อันเป็นการยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบนั่นเองครับ
เข้าใจแล้วครับขอบคุณมากๆ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Moon_night
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 19:52:13 » |
|
อ่อ งั้น ผม ก้ เข้าใจ ผิดเรื่อง อมบูสท์ น่ะซิ น่าจะเรียกเป็น เลี้ยงบูสท์ นะของผม อ่ะ ฮ่าๆๆ ถ้า ความหมาย ที่ คุณมูน อธิบาย อมบูสท์ มา ผมเรียก วิ่งแวค อ่ะ คือ ขับโดย ไม่ให้ มันบูสท์ จริงๆมันก็จะใกล้เคียงกันกับวิ่งแวคแหละครับ เพียงแต่ว่าการวิ่งอมบูสมันจะเป็นลักษณะที่แวคและบูสที่เกตุวัดจะอยู่ที่ 0 พอดี แต่เวลาเพิ่มคันเร่งนิดนึงบูสจะมาทันทีเลย เราเลยเรียกว่าอมบูสไว้ เรียกว่าอมไว้ก่อนแล้วเวลาใช้จะมาทันที จะไม่เหมือนวิ่งแวค แต่ถ้าวิ่งแวคนั้น ปกติแวคมันจะมีช่วงทำงานอยู่แล้ว ถ้าวิ่งแวคกันทั่วไปก็อาจจะไม่ได้วิ่งแวคอยู่ที่0 ตลอดเวลาครับ แต่วิ่งอมบูสมันต้องอยู่ที่ 0 และอยู่ในช่วงที่บูสมาทันทีหลักจากเติมคันเร่งลงไป |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Moon_night
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 19:54:06 » |
|
แล้วมี ดูดกับเลีย บูสไหมพี่ อุอุ
เดี๋ยวผมหาคนชื่อบูส มาให้เบสดูด เลีย จะอมด้วยก็ได้นะ เอามั้ย ส่วนใหญ่มันผู้ชายนะชื่อบูสเนี่ย อิอิ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
NonG_<TPZ#02>_<NC.Z>
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551 21:17:26 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Trang-Phattalung Zone / Nongchok Zone
|
|
|
|
HipPO_kUnG
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 16 กันยายน 2551 13:55:39 » |
|
ขอบคุณคับสำหรับความรู้
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
