เครื่องจะพังหรือไม่.... ขึ้นอยู่กับ
1. การดูแลบำรุงรักษาไม่ดี เช่น ปล่อยให้น้ำ , น้ำมันเครื่องแห้ง หรือใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
2. การจูนอัพไม่ดี เช่นการจูนเชื้อเพลิงที่บางเกินไป หรือการจูนองศาการจุดระเบิดที่ไม่ถูกต้อง - เหมาะสม
3. การประกอบเครื่องไม่ดี เช่นปรับค่าClearance ของชาร์ฟ , หรืออุปกรณ์ที่มีจุดหมุนในเครื่องยนต์ไม่ถูกต้อง
4. การเลือกใช้วัสดุไม่ดี เช่นใช้น๊อตก้านสูบที่คุณภาพต่ำ ทำให้น๊อตก้านขาดได้
5. การใช้วัสดุไม่เหมาะสม เช่นเอาลูกสูบของเครื่องN/A มาใช้กับเครื่องที่มีระบบอัดอากาศแล้วจูนให้Boostสูงๆ
6. การใช้เครื่องยนต์เกินขีดจำกัด เช่น Over Boost , Over RPM.
7. เทคนิคการขับขี่ การขับแบบไม่ดูข้อจำกัดของเครื่องยนต์ ก็ส่งผลให้เครื่องพังคาตรีนได้เช่นกันครับ
การพังของเครื่องยนต์ จึงเกิดขึ้นได้กับเครื่องทุกชนิด หากมีปัจจัยตามข้างบน ไม่จำเป็นว่าเครื่องนั้นมีTurboหรือไม่
บางคนบอกว่า.... ลากกันยาวๆ เครื่องTurbo จะพังก่อน
หลายคนเข้าใจผิดว่าเครื่องTurbo จะติดBoost ตลอด ลากยาวๆเลยจะพังง่าย
บอกเลยครับว่า มันไม่เกี่ยวกันหรอก และคนที่คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้เครื่องTurbo หรือรู้จักมันไม่ดีพอ
เครื่องยนต์แบบTurbo จะBoost ตอนที่มันรับภาระโหลดมากตอนเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อรถเริ่มลอยตัวก็จะไม่Boostแล้ว
มันไม่ได้Boostตลอดหรอก ยิ่งเครื่องมีแรงบิดมากเท่าไร ที่ความเร็วสูงๆ ยิ่งแทบไม่มีการBoostเลย
หากไล่กันจริงๆ N/A นั่นแหละจะพังซะก่อน
เพราะที่ Max. speed เครื่องN/A จะทำงานหนักตลอด ในขณะที่เครื่องTurbo วิ่งในภาวะ Off Boost แล้ว
เมื่อเครื่องยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้รับภาระโหลดแบบหนักๆได้มาก แต่โหลดที่ได้รับมีน้อย ( เพราะอยู่ในภาวะOff Boost )
โอกาสที่จะพังของเครื่องTurbo จึงมีน้อยกว่า N/A
หรือหากใครสงสัยว่าจริงหรือไม่ ...... ทดสอบได้ครับ
วิธีการ ... หากเครื่องN/A วิ่งได้ Max. speed 200 km/h
ก็วิ่งประกบกับเครื่องTurbo ที่ 200 km/h ตลอดทางดูครับ........ ใครจะไปก่อนกัน
