Share knowledge and technique

[Red-Car@RYZ]

คุณสามารถ "ดาวน์โหลด" โปรแกรมนี้ได้ โดยการคลิกลิงค์ด้านล่างนี้  Skype ล่าสุดครับ... ผมว่าเป็นโปรแกรมที่เสียงชัดใช้ได้ แต่ต้องใช้ ไมค์ หรือต้องการให้เห็นภาพก็ได้ ขณะนี้ผมกำลังทดลองใช้อยู่
 
>>>>   http://www.download.com/Skype/3000-2349_4-10225260.html

[Anukool Jumpa]

 

[Anukool Jumpa]

UP

[Anukool Jumpa]

ผมซื้อมา 2 ขวด  ใช้ไป แค่ขวดเดียวครับ  ที่เหลือว่าจะติดท้ายรถไป meeting ใครสนใจแสดงตัวนะครับ  ให้ฟรีครับ  (ไม่รู้จะเก็บไว้ทำใม...เพราะจริงๆซื้อแค่ขวดก็เหลือเฟือแล้ว)

ขอขอบคุณพี่ เสกสรรค์มากๆครับสำหรับน้ำยาล้างแอร์

[P.K.FX101]

ทำมุมส้มครับ  ข้อมูลจากเสี่ยวัช
สี Layland P4 + แลคเกอร์ ตราผึ้ง + กระดาษทราย เบอร์ 1000 + ครีมขัดหยาบ

- เอากระดาษทราบขัดเบา ๆ ที่ ไฟมุม
- แล้วล้างให้สะอาด รอให้แห้งสนิท
- พ่นสีส้ม รอบแรก บาง ๆ พยายามพ่น ตามขอบ /จุดที่พ่นยากก่อน แนะนำให้พ่นทีเดียวพร้อมกัน จะตัดปัญหาเรื่อง สีไม่เท่ากัน
- รอบที่สองพ่นสีส้มให้ทั่วทั้งชิ้นงาน ทิ้งไว้ให้แห้ง
- พ่นแลคเกอร์ ทับหน้าอีก 1- 2 ครั้ง รอจนแห้งสนิท
- ขัดด้วยครีมขัดหยาบให้เงา

[P.K.FX101]

ทำมุมส้มครับ  ข้อมูลจากเสี่ยวัช
สี Layland P4 + แลคเกอร์ ตราผึ้ง + กระดาษทราย เบอร์ 1000 + ครีมขัดหยาบ

- เอากระดาษทราบขัดเบา ๆ ที่ ไฟมุม
- แล้วล้างให้สะอาด รอให้แห้งสนิท
- พ่นสีส้ม รอบแรก บาง ๆ พยายามพ่น ตามขอบ /จุดที่พ่นยากก่อน แนะนำให้พ่นทีเดียวพร้อมกัน จะตัดปัญหาเรื่อง สีไม่เท่ากัน
- รอบที่สองพ่นสีส้มให้ทั่วทั้งชิ้นงาน ทิ้งไว้ให้แห้ง
- พ่นแลคเกอร์ ทับหน้าอีก 1- 2 ครั้ง รอจนแห้งสนิท
- ขัดด้วยครีมขัดหยาบให้เงา

ทำแล้วเนียนๆเลย

[Anukool Jumpa]

ทำมุมส้มครับ  ข้อมูลจากเสี่ยวัช
สี Layland P4 + แลคเกอร์ ตราผึ้ง + กระดาษทราย เบอร์ 1000 + ครีมขัดหยาบ

- เอากระดาษทราบขัดเบา ๆ ที่ ไฟมุม
- แล้วล้างให้สะอาด รอให้แห้งสนิท
- พ่นสีส้ม รอบแรก บาง ๆ พยายามพ่น ตามขอบ /จุดที่พ่นยากก่อน แนะนำให้พ่นทีเดียวพร้อมกัน จะตัดปัญหาเรื่อง สีไม่เท่ากัน
- รอบที่สองพ่นสีส้มให้ทั่วทั้งชิ้นงาน ทิ้งไว้ให้แห้ง
- พ่นแลคเกอร์ ทับหน้าอีก 1- 2 ครั้ง รอจนแห้งสนิท
- ขัดด้วยครีมขัดหยาบให้เงา

ทำแล้วเนียนๆเลย

โอ้...ซื้อมาไส่ซะแว้ว.ไม่ทัน

[โน่ SRC ™]

ทำมุมส้มครับ  ข้อมูลจากเสี่ยวัช
สี Layland P4 + แลคเกอร์ ตราผึ้ง + กระดาษทราย เบอร์ 1000 + ครีมขัดหยาบ

- เอากระดาษทราบขัดเบา ๆ ที่ ไฟมุม
- แล้วล้างให้สะอาด รอให้แห้งสนิท
- พ่นสีส้ม รอบแรก บาง ๆ พยายามพ่น ตามขอบ /จุดที่พ่นยากก่อน แนะนำให้พ่นทีเดียวพร้อมกัน จะตัดปัญหาเรื่อง สีไม่เท่ากัน
- รอบที่สองพ่นสีส้มให้ทั่วทั้งชิ้นงาน ทิ้งไว้ให้แห้ง
- พ่นแลคเกอร์ ทับหน้าอีก 1- 2 ครั้ง รอจนแห้งสนิท
- ขัดด้วยครีมขัดหยาบให้เงา

ทำแล้วเนียนๆเลย

โอ้...ซื้อมาไส่ซะแว้ว.ไม่ทัน

แหม...ทั่นส้มแท้นั่นดีแล้ว 

[น้าเสก LOG.RYZ]

Ø > > > TIPS ON PUMPING GAS
> > > น้ำมันแพง ต้องฉลาดเติม (ภาคพิสดาร)
Ø ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไง
Ø แต่ที่ California ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมัน
Ø เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า
Ø ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี เล่าว่า
Ø เขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose , CA ซึ่งมีคลังเก็บ
Ø 34 คลัง ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ ที่นั่นแต่ละวันจะจ่าย
Ø น้ำมันประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม.
Ø โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์
Ø เกรดต่างๆ สลับกัน
Ø เขาบอกว่า
Ø จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่
Ø อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็น
Ø น้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันก็จะขยายตัวตาม
Ø ดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน
Ø แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
Ø ธุรกิจค้าน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ามันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบิน
Ø เอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะ
Ø มีบทบาทสำคัญ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา หมายถึงเงินมหาศาลในธุรกิจนี้
Ø แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า
Ø ขณะเติมน้ำมัน อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว
Ø (ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง) หากคุณสังเกต จะเห็นว่า
Ø กลไกเหนี่ยวมี 3 ระดับ คือ low, middle, และ high
Ø เมื่อตั้งในระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด
Ø หากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย
Ø และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใต้ดิน นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร
Ø เคล็ดลับอีกอย่างคือ ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง
Ø (แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอ
Ø จะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้และทั้งนั้น
Ø ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน―หมายเหตุผู้แปล)
Ø เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย
Ø เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิด
Ø ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดาล
Ø ลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ
Ø ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน
Ø จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ
Ø > > >ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง
Ø ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊ม
Ø ถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน
Ø จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น เพราะตอน"ลงของ" สิ่งแปลกปลอม
Ø ซึ่งปรกติจะตกตะกอนอยู่ใต้ถัง ถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากคุณเติมน้ำมัน
Ø ช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้

[Takumi.]

up

[โน่ SRC ™]

ไม่รู้เจ้าของกระทู้หายไปใหน เงียบไปเลย

[BigToe 1983]

ใช่ใด้จริง ครับ ผมเคยเห็นพี่เขาเล่น อยู่  ฟันธง   

[P.K.FX101]

Ø > > > TIPS ON PUMPING GAS
> > > น้ำมันแพง ต้องฉลาดเติม (ภาคพิสดาร)
Ø ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไง
Ø แต่ที่ California ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมัน
Ø เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า
Ø ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี เล่าว่า
Ø เขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose , CA ซึ่งมีคลังเก็บ
Ø 34 คลัง ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ ที่นั่นแต่ละวันจะจ่าย
Ø น้ำมันประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม.
Ø โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์
Ø เกรดต่างๆ สลับกัน
Ø เขาบอกว่า
Ø จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่
Ø อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็น
Ø น้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันก็จะขยายตัวตาม
Ø ดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน
Ø แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
Ø ธุรกิจค้าน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ามันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบิน
Ø เอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะ
Ø มีบทบาทสำคัญ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา หมายถึงเงินมหาศาลในธุรกิจนี้
Ø แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า
Ø ขณะเติมน้ำมัน อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว
Ø (ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง) หากคุณสังเกต จะเห็นว่า
Ø กลไกเหนี่ยวมี 3 ระดับ คือ low, middle, และ high
Ø เมื่อตั้งในระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด
Ø หากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย
Ø และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใต้ดิน นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร
Ø เคล็ดลับอีกอย่างคือ ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง
Ø (แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอ
Ø จะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้และทั้งนั้น
Ø ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน―หมายเหตุผู้แปล)
Ø เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย
Ø เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิด
Ø ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดาล
Ø ลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ
Ø ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน
Ø จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ
Ø > > >ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง
Ø ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊ม
Ø ถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน
Ø จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น เพราะตอน"ลงของ" สิ่งแปลกปลอม
Ø ซึ่งปรกติจะตกตะกอนอยู่ใต้ถัง ถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากคุณเติมน้ำมัน
Ø ช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้

[aodae]

 

[watcharapong]

Diagnostic Trouble Codes

12� �Engine RPM Signal.�
13� �Engine RPM Signal.�
14� �Ignition Signal.�
16� �ECT Control Signal.�
21� �Oxygen Sensor (OS) Signal.�
22� �Water Temperature Sensor (THW) Signal.�
24� �Intake Air Temperature Sensor (THA) Signal.�
25� �Air/Fuel ratio lean.�
26� �Air/Fuel ratio rich.�
27� �Sub-oxygen sensor signal.�
31� �Air Flow Meter Signal.�
32� �Air Flow Meter Signal.�
41� �Throttle Position Sensor (TPS).�
42� �Vehicle Speed Sensor (VSS) Signal.�
43� �Starter Circuit Signal.�
51� �Switch Condition Signal.�
52� �Knock Control Signal.�
71� �EGR system malfunction

Extracting Trouble Codes:
1. Turn the ignition switch to ON. Do not start the engine.
2. Using a jumprt wire, short terminals Te1 and E1 of the check connector.
3. Read the diagnostic code as indicated by the number of flashes of the "CHECK" engine warning light.

4A FE 4A GE 4E FE 7A FE
แบบ 2 ตัวเลข เช่น 12 หมายถึง กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 3 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 3 วิ จะเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
ถ้ามีปัญหา 2 code ขึ้นไป เช่น 14, 16 หมายถึง กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 4 ครั้ง เว้น 2 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 6 ครั้ง เว้น 3 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 4 ครั้ง จะเป็นอย่างนี้วนไปเรื่อยๆ
12 สัญญาณความเร็วรอบ
13 สัญญาณความเร็วรอบ
14 สัญญาณการจุดระเบิด
16 สัญญาณควมคุม ECT
21 สัญญาณตรวจจับปริมาณออกซิเจน
22 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิน้ำ
24 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
25 สัญญาณส่วนผสมบาง
31 สัญญาณตัวตรวจจับสูญญากาศ
41 สัญญาณการตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
42 สัญญาณการตรวจจับความเร็วรถยนต์
43 สัญญาณการสตาร์ด
52 สัญญาณการตรวจจับการน็อก
51 สัญญาณสวิตช์

4A GE มีสองอันน่ะครับ อันนี้เป็นแบบ 1 ตัวเลข

2 สัญญาณแรงดันอากาศ
3 สัญญาณการจุดระเบิด
4 สัญญาณตัวตรวจอุณหภูมิน้ำ
6 สัญญาณความเร็วรอบเครื่องยนต์
7 สัญญาณตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
8 สัญญาณตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
9 สัญญาณตัวตรวจจับความเร๋วรถยนต์
10 สัญญาณการสตาร์ต
11 สัญญาณสวิตช์

โค้ดดังกล่าวจะกระพริบเป็นจังหวะๆ ครับผม ลองเช็ครถตัวเองด้วยแล้วกันครับ
ถ้าปรกติจะกระพริบ ติดต่อกันไม่มีเว้นช่วงครับ

การเช็คโค้ด ก็คือ ให้นำสายไฟ ปอกปลายสองด้าน จิ้มบริเวณปลั๊ก ช่องที่ใช้จิ้มก็สีดำที่ผมทำไว้อ่ะคับผม
(TE1 กับ E1) จั้มเพื่อให้มันช๊อตกันคับ แล้วมาบิดกุญแจ on ไว้ ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะกระพริบครับผม 

[โน่ SRC ™]

มาดูอัตราทดของเกียร์กันคับ

4a-ge 16v ฝาลาย
1=3.166
2=1.904
3=1.310
4=0.969
5=0.815
เฟืองท้าย 4.312

4a-ge 20v ฝาบรอน
1=3.166
2=1.904
3=1.310
4=0.969
5=0.815
เฟืองท้าย 4.312

4a-ge 20v ฝาดํา
1=3.166
2=1.904
3=1.392
4=1.031
5=0.815
เฟืองท้าย 4.312

4a-ge 20v ฝาดํา 6 เกียร์
1=3.166
2=2.050
3=1.481
4=1.166
5=0.916
6=0.725
เฟืองท้าย 4.529

4a-fe & 5a-fe
1st : 3.545
2nd : 1.904
3rd : 1.310
4th : 0.949
5th : 0.815
4a-fe เฟืองท้าย 4.058

7a-fe
รหัสของ 7a-fe
1st : 3.166
2nd : 1.904
3rd : 1.310
4th : 0.949
5th : 0.815
เฟืองท้าย 4.058


-------------------------------------------------

4a-fe (ไทย) จะเป็นตัวนี้คับ
1st : 3.166
2nd : 1.904
3rd : 1.310
4th : 0.949
5th : 0.815
final drive: 4.058

ส่วน 4a-fe spec American AE101 version 93-97 Corolla
1st: 3.545
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: .969
5th: .815
final drive: 3.722

4a-gze Map
1=3.214
2=2.045
3=1.333
4=0.972
5=0.820
เฟืองท้าย 3.944

4a-gze Airflow
1=3.230
2=2.045
3=1.333
4=0.972
5=0.820
เฟืองท้าย 3.933

4a-gze MR2
1=3.230
2=1.913
3=1.258
4= 0.918
5=0.731
Reverse= 3.583
เฟืองท้าย MR2 (145 PS) 4.285

-------------------------------------------------

C50 North American AE102 version 93-97 Corolla 4AFE
1st: 3.545
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: .969
5th: .815
final drive: 3.722

C52 North American AE102 version 93-97 Corolla 7AFE
1st: 3.166
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: .969
5th: .815
final drive: 3.722

C52 88-91 AE92 4AGE
1st: 3.166
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: 0.969
5th: 0.815
Final: 4.312

C56 North American Celica ZZT230 00-05, AE101, AE111 Levin/Trueno
1st: 3.166
2nd: 1.904
3rd: 1.392
4th: 1.031
5th: .815
final drive: 4.312

C59 North American Corolla ZZE110 98-02 1ZZFE
1st: 3.166
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: .885
5th: .725
final drive: 3.722 03-UP ZZE130 Corolla ratios are the same except for a 3.941 final drive.

C60 All North American 2ZZGE(Celica, Matrix, Corolla XRS, Elise, *not Exige*)
1st: 3.166
2nd: 2.050
3rd: 1.481
4th: 1.166
5th: .916
6th: .725
final drive: 4.529

The 03-05 MR2 Spyder SMT(C65M)
1st: 3.166
2nd: 1.904
3rd: 1.392
4th: 1.031
5th: .815
6th: .725
final drive: 4.312(thanks naviles16v)

C150
1st: 3.545
2nd: 1.904
3rd: 1.310
4th: 0.969
5th: 0.815
Final: 3.526

C160 Levin/Trueno AE111 6 Speed
1st: 3.166
2nd: 2.050
3rd: 1.481
4th: 1.166
5th: 0.916
6th: 0.725
Reverse: 3.250
Final Drive: 4.529

E51 Levin/Trueno AFM 4AGZE
1st - 3.230
2nd - 2.045
3rd - 1.333
4th - 0.972
5th - 0.820
Final-3.933

E52 89-91 Camry 2VZFE North America
1st: 3.230
2nd: 2.045
3rd: 1.333
4th: .972
5th: .820
final drive: 3.933

E53 92-93 Camry 3VZFE North America
1st: 3.538
2nd: 2.045
3rd: 1.333
4th: 1.028
5th: .820
Final drive: 3.625

E58 Levin/Trueno MAP 4AGZE
1st - 3.214
2nd - 2.045
3rd - 1.333
4th - 0.972
5th - 0.820
Final-3.944

-------------------------------------------------

Japanese manual transaxles:

C40 4M/T
C51 5M/T
C52 5M/T
C50 5M/T
C56 5M/T
C160 6M/T
S50 5M/T
E59F 5M/T
E55F 5M/T (4WD)

Japanese automatic transaxles:

A240L 4A/T
A254E 4A/T
A246E 4A/T
A241L 4A/T
A132L 3A/T
A241H 4A/T (4WD)

http://coronacarclub.com/board/index

[watcharapong]

 

[TMN_Rescue_ry]

 

[โน่ SRC ™]

มาดูคำศัพท์ เกี่ยวเครื่องยนต์กันคับ
ปะเก็น - gasket (แกสเก็ต)
ลูกเบี้ยว - Cam (แคม) เพลาลูกเบี้ยว - Camshaft
ข้อเหวี่ยง - Crank (แคร้ง) เพลาข้อเหวี่ยง - Crankshaft
เพลา - Axle (แอ็กซ์)
ลิ้น - Valve (วาวล์)
ลูกสูบ - Piston (พิสตั้น)
หัวเทียน - Spark Plug (สปาค ปลั๊ก)
หัวฉีดเชื้อเพลิง - Fuel Injection (ฟิว อินเจ็คชั่น)
เฟือง - Gear (เกียร์)
จานจ่าย - Distributor (ดิสทริบิวเตอร์)
ปั๊มน้ำ - Water Pump (วอเตอร์ ปั๊ม)
ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง - Fuel Pump (ฟิว ปั๊ม)
ปั้มน้ำมันเครื่อง - Oil Pump (ออย ปั๊ม)
กรอง - Filter (ฟิวเตอร์)
หม้อน้ำ - Radiator (เรดิเอเตอร์)
สายพาน - Belt (เบลท์)
อ่างน้ำมันเครื่อง - Oil Pan (ออย แพน)
เกจวัดน้ำมันเครื่อง - Dip Stick (ดิพ สติก)
แป้นเหยียบ - Padel (แพดเดิ้ล)
พวกมาลัย - Steering Wheel (สเตอริ่ง วิลล์)
แตร - Horn (ฮอร์น)
กระจกมองข้าง (คันฉ่องส่องข้าง) - Mirror (มายเริ่อ)
ไฟหน้า - Headlamp (เฮดแล้มป์)
ไฟท้าย - Taillamp (เทลแล้มป์)
ฝากระโปรงท้าย - Trunk (ทรั้งค์)
ฝากระโปรงหน้า - Hood (ฮู้ด)
ใบปัดน้ำฝน - Wiper (ไวเปอร์)
ยางปัดน้ำฝน - Wiper Blade (ไวเปอร์ เบลด)
กระจกหน้า - Windshield (วีนซิลด์)
พูเล่ย์ - Pulley (พูเล่ย์)

[AMELY]