Copy จาก
http://www.automagwheel.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=287623&Ntype=5ทำไม ล้อสั่น ? และวิธีการแก้ไข
ปัญหาที่มักพบกัน ที่ท่านผู้ขับรถ มักไม่ชอบ ก็คือเวลาวิ่ง แล้วเกิดอาการ ล้อสั่น ซึ่งทำให้เกิดความรำคาญและเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งเราจะได้กล่าวถึงสาเหตุคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
1. ช่วงล่าง ชุดขับเคลื่อน เกิดการชำรุด หลวม สั่นคลอน เวลาวิ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิด การสั่นของล้อได้เหมือนกัน
2. ล้อแม็ก เกิดการดุ้ง บิดเบี้ยวเสียรูปทรง
3. ยาง เกิดหมดสภาพ โครงสร้าง ผิดรูป ไม่สมดุลย์
แต่ก็มีอีกสาเหตุหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่ มองข้ามไป ก็คือ โดยปกติของการผลิตล้อออกมาจำหน่ายนั้น เขาจะทำค่าของรูตรงกลางล้อ ( Hub Bore ) เป็นค่าออกกลางๆ เช่น 67 มม. หรือ 73 มม. เสียส่วนใหญ่ ยกเว้นล้อที่ผลิตออกมาโดยเฉพาะกับรถนั้นๆ ก็จะมีค่าดุมล้อกับล้อแม็กพอดีกัน แต่หากมีการซื้อหรือเลือกใช้ล้ออื่น โอกาสของความพอดีของดุมก็อาจผิดไป
จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง ดุมล้อ กับ ล้อแม็ก ซึ่งมีผลทำให้การร่วมศูนย์ของดุม กับ ล้อแม็กซ์ ลดลง ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดอาการ ล้อสั่น และทำให้เรารู้สึกได้ในขณะขับ ( ดูรูปภาพด้านล่าง )
สำหรับปัญหานี้ เราได้จัดหาอุปกรณ์เสริม เพื่อลดช่องว่างและทำให้เกิดความกระชับ มีความร่วมศูนย์มากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์เสริม นี้เราเรียกว่า Hub Ring หรือ วงแหวนเสริมช่องว่างในรูดุม นั้นเอง
รูปภาพ ก่อน และ หลังแก้ไข

Hub Ring คืออะไร ?
HubRing หรือ เรียกแบบภาษาชาวบ้าน ว่า ปลอกกันสั่น อุปกรณ์ตัวนี้ มีลักษณะเป็น วงแหวน ที่ใช้สำหรับสวมใส่ตรง รูกลางของล้อ ( Center Bore ) เพื่อประคอง และ ทำให้ ล้อแม็ก กับ ดุมล้อ เป็นศูนย์ ( Center ) เดียวกันมากที่สุด ดังนั้น จึงทำให้ การสั่นของล้อลดลง ในขณะวิ่ง
เมื่อไร ถึงต้องใส่ ?
1. ) แนะนำกับ ล้อแม็กใหม่ ที่เปลี่ยนแทน ล้อแม็ก ติดรถเดิม ( OEM ) เนื่องจากส่วนใหญ่ ขนาดรู Hub Bore ของ ล้อแม็ก มักผลิตมาใหญ่กว่าเดิม เช่น เส้นผ่าศูนย์กลาง 67 มม. หรือ 73 มม. เป็นต้น
2.) เมื่อมีความรู้สึก หรือ สงสัยว่า ทำไม ? เมื่อเปลี่ยนล้อใหม่ มาแล้ว ทำการ ตั้งศูนย์ , ถ่วงล้อ แล้ว ยังคงมีรู้สึกว่าพวงมาลัยสั่น ซึ่งมักเกิดขึ้นได้ ที่ช่วงความเร็ว 70 - 100 หรือ 110 - 140 กม. / ชม. เป็นต้น
คุณสมบัติพิเศษของ Hub Ring
1. ทำจากวัสดุชนิดพิเศษ น้ำหนักเบา ไม่สะสมความร้อน
2. มีขนาดที่ถูกต้อง เหมาะสมกับรถยนต์ ในแต่ละค่าย ผลิตจากเครื่องมือทันสมัย ไม่คับ หรือ หลวมเกินไป
3. ไม่เป็นสนิม , ไม่ทำให้ล้อเป็นริ้วรอย
4. เมื่อต้องการเปลี่ยนล้อใหม่ สามารถถอดออกได้ง่าย ไม่เกาะติด กับดุมของรถ สามารถนำมาใช้ได้อีก

วิธีการใส่หรือประกอบ HUB RING ได้ด้วยตนเอง จะทำอย่างไร ? ( D.I.Y )

ประการที่หนึ่ง ต้องทราบว่ารถของเรามีค่า เส้นผ่าศูนย์กลาง ( Hub Bore ) อยู่ที่เท่าไร ? ดูได้จากคู่มือประจำรถ หรือวัดจากของจริง

ประการที่สอง เมื่อเราทราบค่าที่รถของเราแล้ว เราจะต้องหาขนาดรูตรงกลางดุมของ ล้อแม็ก ของเราด้วย ซึ่งเราจะทราบได้ด้วยวิธีการวัด ดังรายละเอียดและวิธีการ ด้านล่างนี้..
ถอด ล้อแม็ก ออกมาจากรถ หงาย ล้อแม็ก แล้วใช้ไม้บรรทัดเล็กๆ วัดตามรูป

อ่านค่าที่วัดได้
ซึ่งส่วนใหญ่ ผู้ผลิตล้อแม็ก มักจะทำรูตรงกลาง ( Hub Bore ) นี้ไว้ที่ Ø 67 มม. หรือ Ø 73 มม.
สมมุติ วัดได้ Ø 67 มม. ( O.D. )

นำ Hub Ring มาใส่ที่ ล้อแม็ก ของเรา

นำล้อที่ประกอบ Hub Ring เสร็จแล้ว ไปใส่กลับที่รถของเรา
* หมายเหตุ * แต่หากขนาดนอกเหนือจาก ค่าที่ Ø 67 มม.หรือ Ø 73 มม. เราก็สามารถทำได้ดังนี้...
1. คว้านรูที่ ล้อแม็ก โดยกำหนดให้มีค่าเท่ากับ Ø 67.1 มม. หรือ Ø 73.1 มม ตามแต่ยี่ห้อของ ล้อแม็ก
2. แต่สำหรับรถ ที่มีรูดุมกลางใหญ่กว่า เราจะต้องสั่งทำ Hub Ring ชนิดพิเศษ เช่น พวกรถ BMW หรือ Pick up เป็นต้น
