เมื่อหลายเดือนที่แล้ว ผมมีความคิดจะขายโดเรม่อน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ที่ไฉไลกว่า
ผมเลยลองโพสขายรถทางเนต(ลงแต่ราคา+ รายละเอียด แต่ไม่ได้ลงรูปภาพ)
แล้วจู่ๆ ก็มีคนๆ นึงโทรมาหาผม ตอนช่วงค่ำๆ ของคืนวันศุกร์
เรียกให้ผมขับรถไปให้มันดู แถวๆ ปิ่นเกล้า
ผมบอกมันว่าตอนนี้มืดแล้ว ถึงดูก็ไม่รู้เรื่องหรอก
เอาไว้รุ่งขึ้นค่อยมาดูตอนที่ฟ้ายังไม่มืดดีกว่า จะได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ทั้งหมด
แต่มันไม่ยอม พยายาม ตื้อๆๆๆ อยู่นั่นแหล่ะ ว่าจะรีบใช้รถ อยากได้จริงๆ
เตรียมเงินสดไว้แล้ว ถ้าถูกใจก็จะเอาเลย
โดยบอกว่าเพิ่งได้เงินโบนัสมา เลยอยากซื้อรถให้น้องสาวไว้ใช้ซักคัน
(ผมก็สงสัยนิดๆว่า นี่มันกลางๆ ปีแล้ว ทำไมเพิ่งมาได้โบนัสหว่า ..แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร)
และก็แสดงท่าทีว่า สนใจอยากได้รถไว้ใช้จริงๆ
ผมเลยต้องขับรถจากบ้านผมไปหามัน แถวปิ่นเกล้า จากบ้านผมไปที่นัดหมายเกือบๆ 20กิโลได้
นัดเวลากันไว้ที่ 2 ทุ่ม แต่มันโผล่มาเกือบ 3 ทุ่ม
โดยเป็นผู้ชายอายุน่าจะประมาณ 3 สิบกว่าๆ รูปร่างใหญ่ๆ ท้วมๆ ใส่แว่นสายตา
(แต่ดูท่าทางเป็นคนขี้โม้ ขี้คุยสารพัดและชอบทำท่าทางเป็นพวกตลกโปกฮา)
มากับผู้หญิงตัวเล็กๆ โดยมันบอกว่าเป็นน้องสาวมันๆ กะลังหารถให้น้องสาวมันอยู่
เสร็จแล้วก็มาลองขับรถผม แล้วก็ขับแบบเหยียบๆ บี้ๆ ลากเกียร์ยาวๆ ลากๆๆๆๆๆๆ
ลองกันเป็นระยะทางยาวๆ จนผมนึกในใจ " ตัวผมเองยังไม่เคยขับรถ ตัวเองแบบตะบี้ตะบันแบบนี้เลยนะ(ลากรอบสูงๆ)
แล้วถ้าเกิดไม่เอาขึ้นมารถผมไม่ช้ำเหรอเนี่ย "
(คือผมเป็นคนขับรถแบบถนอนมากๆ ไม่ชอบลากรอบสูงๆ ปกติจะขับอยู่รอบ 2000-2500
แต่นี่มันลากถึงเกือบ RED LINE แต่ผมพยายามคิดเชิง + ว่า เค้าคงต้องการลองรีดสมรรถนะดูมั้ง)
หลังจากลองรถเสร็จ มันก็โม้ๆๆๆ สารพัดสารเพ แล้วก็ต่อรองราคา
ต่อลงมาหนักๆ จนทีแรกผมไม่อยากจะขายมันละ แต่มันก็บอก ถ้ายอมขายในราคาที่มันต่อ มันเอาทันที
ว่าแล้วก็เอาเงินสดมาอวดให้ผมดูว่าเอาแน่ๆ มีตังค์มาด้วยนะ (เงินมันเอาใส่ไว้ในซอง จ.ม.)
ผมขี้เกียจจะอะไรกับมันมาก เพราะในใจอยากขายรถเต็มแก่แล้วด้วย จะได้รีบไปออกคันใหม่ตามที่ตั้งใจไว้ซะที
ก็เลยบอก OK กับมัน แต่บอกมันว่าขอมัดจำไว้ซัก 500-1000หน่อยละกัน
แต่มันไม่ยอมให้ บอกว่า เอาแน่นอนแล้ว ทำไมต้องมัดจำ
แถมยังยื่นมือมาจับมือกับผมแล้วบอกว่า ไม่ต้องบอกขายใครแล้ว มันเอาแน่นอน สัญญาลูกผู้ชาย (จาอ้วกแตก)
พรุ่งนี้มาเจอกันที่เดิมนี่แหล่ะ
นัดเวลาเจอกันตอนเที่ยง 12โมง
(ยังมีหน้ามาบอกผมว่า จะพาผมไปเลี้ยงข้าวด้วยนะ)
ให้ผมเตรียมเอกสารมาให้พร้อมด้วย
และให้ผมเอารถไปตั้งรอบเครื่องกับเติมน้ำยาแอร์มาด้วยแล้วค่อยเอาบิลมาเบิกส่วนต่างเพิ่ม
วันรุ่งขึ้นผมเลยเอารถไปเติมน้ำยาแอร์กับให้ช่างช่วยตั้งรอบเครื่องให้ใหม่
หมดไปประมาณ 400บ.
แล้วก่อนเที่ยงประมาณ 10โมงกว่าๆ ผมโทรไปหามันอีกครั้ง มันกลับบอกว่าขอเลื่อนเวลานัดเป็นบ่าย 3 โมง
เพราะมันจะพาแม่มันไปทานข้าวก่อน(แล้วเมื่อวานดันมาบอกว่า จะพาผมไปกินข้าว)
ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ขับรถออกจากบ้านไปรอมันตอนบ่าย 2 โมงกว่าๆ
รอมันจนบ่าย 3 โมงนิดๆ มันก็ยังไม่โผล่มา ผมเลยโทรหามัน
มันก็บอกว่าติดธุระนิดหน่อย ให้รอไปอีกพักนึงเดี๋ยวมันจะรีบมา
ผมรอมันต่อไปจนถึง บ่าย 4 โมงกว่าๆ ก็เลยโทรไปหามันใหม่อีกครั้ง ว่าถึงไหนแล้ว
คราวนี้มันกลับบอกว่า คุณแม่มันป่วย ต้องเข้าห้องไอซียู ด่วนที่ ร.พ. แถวๆ พญาไท
ให้ผมรอไปก่อน เดี๋ยวมันเคลียร์ตรงนี้เสร็จ
มันจะรีบมาทันที โดยมันยังมีหน้ามาบอกผมอีกว่า เรื่องรถ ไม่ต้องห่วงมันเอาแน่ๆ สบายใจได้
ผมเริ่มมีลางสังหรณ์ประหลาดๆ ขึ้นมาในใจตะหงิดๆ แต่พยายามคิดเชิงบวกให้มากที่สุด
แล้วผมก็รอๆๆๆๆๆ มันต่อไปอีก จนถึง 5 โมงกว่าๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงโทรเข้าเบอร์ผม
โดยเป็นผู้หญิงคนที่มาดูรถผมพร้อมกับผู้ชายคนนี้นี่แหล่ะ
(คนที่มันบอกว่าเป็นน้องสาวอ่ะครับ)
แล้วเค้าก็บอกว่า" ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีมีเพื่อนรู้ว่าจะซื้อรถ
ก็เลยหารถมาให้แล้วอ่ะคะ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ"
เท่านั้นแหล่ะ ผมปี๊ดแตกทันที เก็บอารมย์ไม่อยู่แล้ว
ก็เลยบอกเค้าไปว่า " นี่คุณ มาดู มาลองขับรถผม แล้วถ้าจะไม่ซื้อก็
ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ไม่ควรมาทำแบบนี้นะครับ
มาบอกว่าโอเคๆ เอาแน่ๆ แล้วก็นัดให้ผมมานั่งรอคุณตั้งหลายชั่วโมง
รู้มั้ยวันนี้ผมต้องลางานที่บริษัทเพื่อมารอคุณโดยเฉพาะเลยนะครับ
ถ้าไม่เอาก็ควรรีบบอกมาตั้งแต่แรกๆ ไม่ใช่มาบอกให้นั่งรอๆ แล้ว
ก็มาอ้างนู้นอ้างนี่แบบนี้ "
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า " ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ขอโทษจริงๆ นะค่ะ "
แล้วก็รีบวางสายทิ้งไป
บอกตามตรงผมโมโหสุดๆเลยครับ ไม่ได้โมโหที่ขายรถไม่ได้นะ
แต่โมโหที่ไม่เอาก็ควรบอกมาตรงๆ เลย ไม่ใช่มาโกหกอ้างนู้นอ้างนี่แบบนี้
แถมยังมาบอกว่า แม่ตัวเองเข้าห้อง I C U อีก( ถ้าไม่จริงนะ มรึงคงเจริญหรอก)
สรุป วันนั้นนอกจากผมต้องลางานที่บริษัท (โดยบอกว่า ขอลากิจ เพื่อไปทำธุระเกี่ยวกับการขายรถ)
ผมต้องเสียเงินค่าน้ำมันเพื่อวิ่งเอารถไปให้มันดูตั้งแต่เมื่อวาน+วันรุ่งขึ้น
แล้วยังต้องจ่ายค่าตั้งรอบเครื่อง+ค่าเติมน้ำยาแอร์อีก
(ทั้งๆ ที่มันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องทำ แต่มันบอกให้ผมเอาไปทำ แล้วมาเก็บตังค์ที่มัน)
คิดดูเอาเองแล้วกันครับว่า "มันแสบ" หรือเปล่า
อันนี้ไม่มีไรแค่เล่าสู่กันฟังครับ
