AE. Racing Club
24 พฤศจิกายน 2024 18:00:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รถที่มีเต็ดเนี่ย เต็ดมีไว้ทำอะไรคับ  (อ่าน 9242 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
neung-ae
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 08:37:12 »

ไม่รู้จริงๆ
บันทึกการเข้า

aekarin26
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 08:43:50 »

 ตาปริบๆ
บันทึกการเข้า
Nick EE90->4A-GE
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


EE90 + 4A-GE 16v. ลายเสือดาว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 08:55:49 »

 เหวอ  นั่นสินะ   รอ  อ่านหนังสือ  ดีกว่า
บันทึกการเข้า
DARKSTAR
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,369



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 09:52:28 »

เพื่อให้กำลังส่งจากเครื่องยนต์ ไปยังล้อทั้ง 2 ข้าง มีแรงเท่าๆกัน
ลดอาการฟรีทิ้ง เวลาออกตัว ตอนเอาไปวิ่งควอเตอร์ไมล์
หรือถ้าในเซอร์กิต ก็คงเป็นเรื่องของการออกโค้งได้ดีกว่า ช่วยลดอาการหมุนได้เยอะ
ที่พอรู้มาก็มีเท่านี้ล่ะครับ
บันทึกการเข้า

1300 ก็แค่นั้น
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,166


ดีชั้วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 10:38:28 »

พี่หนึ่งจะจัดซักชุดหรอ
บันทึกการเข้า

ขอแค่มีน้ำใจ แม้ขับรถอะไรก็เพื่อนผม\\\\\\น้ำปั่นมาแว้วววววววววววว
O(><)BRABIE(><)O
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 771


ไม่ได้มั่ว..!! แต่ทั่วถึง...^O^'


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 12:13:22 »

รถผมมีป่ะไม่รุ
บันทึกการเข้า

O(><)BRABIE(><)O
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 771


ไม่ได้มั่ว..!! แต่ทั่วถึง...^O^'


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 12:14:05 »

อ่อ เครื่อง 4อี ไม่โบง่ะ มันมีเต็ดป่ะ แล้วมีแล้วจะดียังงัยคับ
บันทึกการเข้า

natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 12:18:56 »

เดิม ๆ โรงงานคงไม่มีอะ 4อี ไม่โบงะ
พี่โต้เคยลงไว้ ไม่น่าจำผิดนะ
ยกรถขึ้น แล้วหมุนล้อหน้า ข้างใดข้างหนึ่ง
ถ้าไม่มีเต็ด จะหมุนไปคนละด้านกัน
ถ้าเต็ดโรงงาน จะหมุนไปด้านเดียวกัน พร้อมกัน
ถ้าเต็ดแต่ง จะหมุนข้างเดียว (พี่โต้ บอก พี่เบส บอกมา หุหุ) ซุบซิบ
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
TTWO
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 12:54:42 »

ที่เคยรู้มานะครับ  ผิดถูกยังไงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

โดยปกติรถเดิมๆ แล้ว  เวลาล้อที่ขับเคลื่อน  จะส่งกำลังไปให้ล้อหมุนเพียงแค่ล้อเดียว (กระบะโตต้า หลังซ้ายหมุนข้างเดียว)

แต่ถ้ามีเฟืองท้ายลิมิเต็ดแล้ว  เวลาขับเคลื่อนล้อจะหมุนทั้งสองข้าง
บันทึกการเข้า
KENTENS@I <J>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,296


>< " ชอบง่า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 13:25:20 »

จากขับเคลื่อนล้อหน้า  ก็ เป็น ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า..

สุดยอด
บันทึกการเข้า
DARKSTAR
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,369



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 14:18:50 »

เดิม ๆ โรงงานคงไม่มีอะ 4อี ไม่โบงะ
พี่โต้เคยลงไว้ ไม่น่าจำผิดนะ
ยกรถขึ้น แล้วหมุนล้อหน้า ข้างใดข้างหนึ่ง
ถ้าไม่มีเต็ด จะหมุนไปคนละด้านกัน
ถ้าเต็ดโรงงาน จะหมุนไปด้านเดียวกัน พร้อมกัน
ถ้าเต็ดแต่ง จะหมุนข้างเดียว (พี่โต้ บอก พี่เบส บอกมา หุหุ) ซุบซิบ

สงสัยว่าข้อมูลจะบิดเบือนไปจากความจริงนะครับ เด๋วจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่

รถที่ไม่มี LSD  หรือรถที่มี LSD แบบ Helical LSD(เต็ดเฟืองติดเกียร์มา) ยกล้อลอยทั้ง 2 ข้างแล้ว ถ้าหมุนดู ล้อจะสวนทางกันนะครับ

แต่ถ้าเป็น LSD ของสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TRD หรือ CUSCO เมื่อยกล้อทั้ง 2 ข้าง แล้วหมุน ล้อจะไปในทิศทางเดียวกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 พฤศจิกายน 2008 14:24:21 โดย DARKSTAR_X » บันทึกการเข้า

Tae !!
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 790


อดีต.....


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 14:49:45 »

เดิม ๆ โรงงานคงไม่มีอะ 4อี ไม่โบงะ
พี่โต้เคยลงไว้ ไม่น่าจำผิดนะ
ยกรถขึ้น แล้วหมุนล้อหน้า ข้างใดข้างหนึ่ง
ถ้าไม่มีเต็ด จะหมุนไปคนละด้านกัน
ถ้าเต็ดโรงงาน จะหมุนไปด้านเดียวกัน พร้อมกัน
ถ้าเต็ดแต่ง จะหมุนข้างเดียว (พี่โต้ บอก พี่เบส บอกมา หุหุ) ซุบซิบ

สงสัยว่าข้อมูลจะบิดเบือนไปจากความจริงนะครับ เด๋วจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่

รถที่ไม่มี LSD  หรือรถที่มี LSD แบบ Helical LSD(เต็ดเฟืองติดเกียร์มา) ยกล้อลอยทั้ง 2 ข้างแล้ว ถ้าหมุนดู ล้อจะสวนทางกันนะครับ

แต่ถ้าเป็น LSD ของสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TRD หรือ CUSCO เมื่อยกล้อทั้ง 2 ข้าง แล้วหมุน ล้อจะไปในทิศทางเดียวกันครับ


โอ้ว...ความรู้ แอบจดก่อน




ต้องใส่เกียร์ด้วยนะครับ(แต่ไม่ต้องสตาร์ท) ไม่อย่างนั้นมันก็หมุนฟรีล้อเดียวเหมือนเดิม


บันทึกการเข้า
neung-ae
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 14:53:10 »

ขอบคุณเทพทุกองค์ ฮิฮิ
บันทึกการเข้า

P.O.M
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 14:55:07 »

 เหอๆๆ  เครื่องเราจะมีมั๊ย น๊า
บันทึกการเข้า
บอย บุเรงนอง<RZ>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,555


(โก๋หลังวัง)พิเรนทีมเซอร์วิส


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 17:01:05 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆคับ
บันทึกการเข้า
PonD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,554


zc72s


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 18:04:31 »

ขับยาก เลี้ยวยาก แต่ได้ฟีล  อิอิ
บันทึกการเข้า
AE สี กะปิ
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,938


จัดไป อย่าให้เสีย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 18:29:05 »

เดิม ๆ โรงงานคงไม่มีอะ 4อี ไม่โบงะ
พี่โต้เคยลงไว้ ไม่น่าจำผิดนะ
ยกรถขึ้น แล้วหมุนล้อหน้า ข้างใดข้างหนึ่ง
ถ้าไม่มีเต็ด จะหมุนไปคนละด้านกัน
ถ้าเต็ดโรงงาน จะหมุนไปด้านเดียวกัน พร้อมกัน
ถ้าเต็ดแต่ง จะหมุนข้างเดียว (พี่โต้ บอก พี่เบส บอกมา หุหุ) ซุบซิบ

สงสัยว่าข้อมูลจะบิดเบือนไปจากความจริงนะครับ เด๋วจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่

รถที่ไม่มี LSD  หรือรถที่มี LSD แบบ Helical LSD(เต็ดเฟืองติดเกียร์มา) ยกล้อลอยทั้ง 2 ข้างแล้ว ถ้าหมุนดู ล้อจะสวนทางกันนะครับ

แต่ถ้าเป็น LSD ของสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TRD หรือ CUSCO เมื่อยกล้อทั้ง 2 ข้าง แล้วหมุน ล้อจะไปในทิศทางเดียวกันครับ


ถ้าหมุนสวนทางกันก็ ดอกจอกเฟืองท้ายธรรมดาครับ 1000000% เลย
ไม่ใช่เต็ดเฟืองถ้า เต็ดเฟืองต้อง หมุนด้านนึงอีกด้านไม่หมุนครับ
บันทึกการเข้า

ขายของAE-> http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=80096.0
081-920-6990
089-053-2666
[[Badd]]
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: มากเกินบรรยาย


トヨタ カローラ 1.6 GTi


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 20:10:11 »



โดยปกติรถยนต์ทั่วไปจะมีชุดเฟืองท้ายเป็นเฟืองดอกจอก (Differential) ซึ่งทำหน้าที่รับแรงจากเฟืองบายศรี
แล้วเฉลื่ยแรงไปให้เพลาซ้าย-ขวาแยกกัน เพราะเวลาที่รถเลี้ยว ล้อซ้าย-ขวาจะมีระยะทางวิ่งไม่เท่ากัน
ดังนั้นถ้าทำให้เพลาซ้าย-ขวาหมุนเท่ากันจะทำให้มีการลื่นไถลที่ ยางได้และจะทำให้รถเลี้ยวเป็นวงกว้าง
แต่ถ้าล้อข้างใดข้างหนึ่งเกิดหมุนฟรีจะทำให้ล้อที่มีความฝืดมาก ไม่หมุน เช่น
กรณีที่ล้อตกหล่มข้างเดียวหรือเลี้ยวโค้งแรงๆนํ้าหนักรถจะถูกถ่ายไปข้างเดียว  ซึ่งจะทำให้การส่งกำลังไปพื้นถนนไม่ดีเท่าที่ควร
L.S.D. (Limited slip differential) จึงมีความจำเป็นขึ้นมาในกรณีที่กล่าวมา โดยที่ชุด L.S.D จะทำหน้าที่เหมือนDifferential
ทั่วไปคือการเฉลื่ยกำลังแบ่งส่งไปให้เพลาข้างซ้าย-ขวาในสภาพการ ใช้งานปกติ ในขณะที่มีแรงกระชากเครื่องแรงหมุนจากเครื่องไม่รุนแรง
แต่เมื่อความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันมากและมีแรงกระชากท ี่รุนแรง ชุดคลัตซ์ที่อยู่ภายใน Differential จะถูกกดให้
ชุดเฟืองดอกจอกล็อค ทำให้ความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันน้อยลง ซึ่งการที่คลัตช์จะจับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรง
ของการกระชากคือ ยิ่งกระชากแรง (เร่งเครื่องมาก)  คลัตช์ยิ่งจับแรง
 

รู้จักก่อนกับเฟืองขับ (Differential ) กันก่อน
เป็นส่วนที่สำคัญในระบบส่งกำลัง ทำหน้าที่รับกำลังจากเกียร ส่งต่อมายังเฟืองขับตัวนี้ ทำหน้าที่เปลี่ยนแนวการหมุนในแนวมุมฉาก เป็นแนวขนานผ่านเพลาขับไปยังล้อทั้ง 2 ด้าน เฟืองขับนั้นในระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะถูกติดตั้งมาใ นห้องเกียร ส่งกำลังจากเฟืองเกียรมายังเฟืองขับ โดยตรงเรียกว่า Front Differentias Gear แล้วจึงส่งกำลังผ่านเพลาข้างไปยังล้อทั้ง 2 ข้าง ส่วนในระบบขับเคลื่อนล้อหลังเฟืองขับจะได้รับการส่งก ำลังมาจากเพลากลาง ต่อมายังเฟืองขับแล้วจึงส่งกำลังมายังเพลาข้างและล้อ อีกทีเรียกว่า Rear Differential Gear

ส่วนประกอบของเฟืองขับ ( Differential )
1.เฟืองเดือยหมู ( Worm Gear ) มีลักษณะคล้ายเฟืองรูปกรวย โคนเฟืองมีขนาดโตกว่าส่วนด้านยอดจะมีขนาดเล็ก ทำหน้าที่รับแรงบิดจากเพลากลางในแนวตั้งฉากมาขับเคลื่อนให้เกิดการหมุนตัว
เมื่อเฟืองหมุนตัวจะไปขบกับเฟืองบายศรีทั้ง 2 ด้านให้หมุนตาม
2.เฟืองบายศรี ( Ring Gear ) มีลักษณะเป็นเฟืองวงแหวนมีฟันเฟืองอยู่ด้านข้าง เฟืองตัวนี้จะมีอยู่ 2 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวด้านในจะมีเฟืองต่อมายังเพลาขับทั้ง 2 ด้าน มีหน้าที่เปลี่ยนมุมการหมุนให้เป็นแนวขนาน
3.เฟืองดอกจอก ( Planet Gear ) เป็นเฟืองวงแหวน 2 ตัว ทำหน้าที่แยกการหมุนของเพลาขับทั้ง 2 ด้านเมื่อขณะรถวิ่งตรง เฟืองจะรับแรงกดให้ไปขับเพลาทั้ง 2 ด้านเท่ากัน แต่เมื่อเกิดการเลี้ยวเฟืองดอกจอกจะทำหน้าที่แยกการหมุนของล้อให้ส่งกำลังไปเพียงด้านเดียว
คุณสมบัติของเจ้าเฟืองขับแบบธรรมดานี้ คือการส่งกำลังจะส่งไปยังล้อที่รับภาระสูงสุดเพียงล้อเดียว สังเกตุเวลาขึ้นแม่แรงแล้วหมุน ล้อจะหมุนเพียงล้อเดียว อีกล้อฟรีทิ้งอยู่เฉยๆ หรือเวลารถติดหลุม เมื่อเข้าเกียรเร่งเครื่อง ล้อจะหมุนล้อเดียว คุณสมบัตินี้ใช้ในเวลารถเข้าโค้งจะทำให้ล้อที่อยู่ด้านในโค้งหมุนช้ากว่าล้อที่อยู่นอกโค้งรถจึงเข้าโค้งไ ด้อย่างนุ่มนวล

มารู้จักกับ Limited Slip Differential
บางคนเรียกกันสั้นๆว่า เต็ด หรือชื่อย่อๆคือ LSD เจ้าเฟืองท้ายแบบนี้ได้รับการพัฒนามาจาก Differential แบบธรรมดาเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีในขณะรถติดหลุ่มแ เจ้ากลไกในตัว LSD จะทำหน้าที่ล็อคล้อที่หมุนฟรีให้หมุนตามนิยมในพวกรถแ บบ 4WD และในรถแข่งที่ต้องอาศัยการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไป ยังล้อทั้ง 2 ด้านให้ใกล้เคียงกัน ภายในมักจะมีส่วนประกอบคล้ายกับเฟืองขับแบบธรรมดา แต่จะเพิ่มชุดฟันเฟืองพิเศษ ชุดสปริงกด และชุดครัชแบบเปียกที่จะคอยรับแรงกดจากจานกดที่เกิดจ ากแรงบิดจากเครื่องยนต์ และการทำงานของชุดกลไกภายในของ LSD มากดให้จานกดและครัชให้จับตัวกัน ยิ่งมีแรงบิดมากก็จะมีแรงกดมาก เปอร์เซ็นต์การจับตัวก็จะมาก แรงบิดน้อยแรงกดน้อยเปอร์เซ็นต์การจับตัวก็จะน้อยลง แรงกดนี้จะมีฟันเฟืองต่อไปยังเพลาขับเพื่อไปขับล้อแล ะยางให้หมุนตามกัน
ชนิดต่างๆของ LSD

1) 1 way LSD หรือระบบ limited Slip แบบทางเดียว LSD แบบนี้จะทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 2 ด้านได้ใกล้เคียงเวลาเฉพาะเหยียบคันเร่ง จะทำให้เกิดแรงบิดไปพลักดันกลไกลภายในให้ทำงาน แต่พอถอนคันเร่งก็หยุดการทำงานล้อที่ไม่ได้รับภาระก็ จะหมุนฟรีเป็นปกติ LSD แบบนี้มักจะติดตั้งมากับรถโรงงาน พวกนี้เวลารถเข้าโค้งแล้วถอนคันเร่งการทำงานจะมีลักษณะเหมือนเฟืองขับปกติ นิยมใช้กับรถทุกประเภทสามารถบังคับได้ง่าย เหมาะกับมือใหม่และการใช้งานบนท้องถนน L.S.D แบบนี้คลัตช์จะจับเฉพาะตอนเร่งเครื่อง

2) 1.5 way LSD พัฒนาการใช้งานระหว่าง 1 way และ 2 way แบบนี้จะทำงานเต็มที่เมื่อเหยียบคันเร่งแต่พอถอนคันเ ร่งจะทำงานน้อยกว่า ลดอาการ Understree ได้มาก
เหมาะกับรถขับเคลื่อนล้อหน้าโดยที่ L.S.D ชนิดนี้ คลัตช์จะจับตอนเร่งและเมื่อถอนคันเร่งจะจับแค่เพียงครึ่งเดียว ทำให้ออกจากโค้งได้เร็ว
ซึ่งเหมาะกับการแข่งขัน เช่น จิมคาน่า ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน

3) 2 way LSD หรือระบบ limied Slip แบบสองทาง แบบนี้จะทำงานทั้งในขณะเหยียบคันเร่งและยกคันเร่ง แบบนี้จะทำให้เวลาเข้าโค้งเกิดความยากลำบาก เพราะล้อด้านในโค้งจะหมุนตามด้วยความเร็วใกล้เคียงกั บล้อด้านนอกโค้ง ส่งผลให้เกิดการฟรีทิ้งของยางจนเกิดการควบคุมรถได้ยา กกว่า แต่ในทางตรงจะสามารถส่งกำลังไปยังล้อได้ดีกว่า LSD แบบนี้มักจะต้องซื้อมาติดตั้งที่เรียกกันว่า เต็ดซิ่ง ที่หลายสำนักผลิตกันออกมาจำหน่ายกัน แบบนี้เวลาเข้าโค้งรถจะเกิดอาการ Understree
เหมาะกับแข่งขันนิยมใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหลัง และ ขับเคลื่อน 4ล้อ  L.S.D. ชนิดนี้ จะจับทั้งตอนเร่งและถอนคันเร่ง
ทำให้ควบคุมรถในการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ


ข้อดีเมื่อทียบกับเฟืองท้ายแบบธรรมดา
1. ช่วยแก้ปัญหาเวลารถตกหล่ม ทำให้ล้ออีกด้านไม่หมุนฟรีสามารถใช้กับเส้นทางทุรกันดารได้ดีกว่า
2. ช่วยให้การออกตัวดีขึ้น ลดอาการฟรีของล้อ เหมาะสำหรับรถควอเตอร์ไมล์
3. ช่วยในการออกโค้งได้ดีกว่า ลดอาการหมุนกลับ และสามารถใช้เทคนิคจนควบคุมรถได้
4. เพิ่มลูกเล่นและเทคนิคการขับรถได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฝึกฝนหรือหาเทคนิคใหม่ๆ
ข้อเสีย
1. การเข้าโค้งจะยากกว่าและต้องระวังมากกว่า เพราะอาจทำให้รถเกิดการ Understeer ได้ง่าย
2. ยางสึกหรอเร็ว เพราะล้อที่ไม่หมุนฟรีต้องอาศัยการหมุนฟรีของยางที่สัมผัสกับถนนยางจะสึกหรออย่างรวดเร็ว และมีเสียงดัง
3. อายุการใช้งานของเพลาขับและลูกปืนล้อสั้นลงอย่างรวดเ ร็ว เพราะต้องรับแรงบิดเพิ่มขึ้น เพลาอาจขาดหรือลูกปืนแตกได้ง่าย
4. ดูแลรักษายาก ต้องดูแลอยู่เสมอ และมีการสึกหรอค่อนข้างสูง
5. ในรถแบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีการขัดขืนเวลาเข้าโค้ง อาจเกิดการ 0ver streer ได้ง่าย

การติดตั้งและการเลือกใช้
มีรถส่วนน้อยที่ได้ติดตั้ง LSD มาจากโรงงาน รถส่วนใหญ่ที่ติดตั้ง LSD มักจะเป็นรถจำพวก 4wd และรถที่เครื่องยนต์แรงเพื่อช่วยในการออกตัวที่ดี
สำหรับการติดตั้งในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าต้องทำการ ยกเกียร์ทั้งลูกลงมาแล้วทำการผ่าเกียรออกมาแล้วยกชิ้น ส่วน และถอดเฟืองขับแบบธรรมดาออกมา
แล้วจึงเอาชุด LSD ติดตั้งประกอบกับเฟืองขับเดิม หรือบางรุ่นจะมีเฟืองขับที่มีอัตราทดใหม่มาติดตั้งแทนได้เลย ในรถขับเคลื่อนล้อหลังแบบคานแข็งต้องทำการถอดเพลากลาง เพลาข้าง เฟืองเดือยหมู
หรือบางรุ่นมีหน้าแปลนถอดเปลี่ยนได้เลย ในรุ่นที่เป็นคานอิสระถอดเพลาข้างและเพลากลางออก แล้วจึงถอดชุดเฟืองท้าย ออกมาแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งเฟืองท้ายหรือถอดมาเปลี่ยนเฉพาะชุด LSD
แต่เฟืองท้ายเดิม การควบคุมการทำงานบางรุ่นใช้การควบคุมด้วยระบบลม และบางรุ่น การเลือกใช้ต้องคำนึงถึงรูปแบบการขับขี่เป็นสำคัญว่า จะใช้แบบ 1 way - 1.5 way หรือ 2 way
ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการแข่งขันที่แตกต่างกัน การเลือกยี่ห้อต้องดูที่
โครงสร้างภายในบางรุ่นใช้ระบบฟันเฟือง ( Helical LSD )ในการทำงาน บางรุ่นใช้ระบบผ้าครัช ( Multiplate LSD ) ที่มีจำนวนแตกต่างกันเช่น 4 แผ่น 8 แผ่น หรือ 12 แผ่น
ยิ่งมีผ้าครัชมากก็สามารลดอาการฟรีของล้อได้มาก สามารถกระจายแรงม้าลงพื้นได้มากกว่าเดิม
ในรถขับเคลื่อน 4 ล้อมักจะมี LSD ติดตั้งมาแล้ว แต่อาจเปลี่ยนใหม่ในรูปแบบแตกต่างกันได้เช่นด้านหน้า เป็นแบบ 1.5 way และด้านหลัง 2 way จะทำให้ขับขี่สนุกขึ้น

การดูแลรักษา
เนื่องจาก LSD มีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่าเฟืองขับแบบปกติ เช่นบางรุ่นมีฟันเฟืองพิเศษ ที่ต้องอาศัยเบอร์น้ำมันที่ไม่เหมือนกับเฟืองท้ายปกติ และบางรุ่นส่วนใหญ่จะมีผ้าครัชแบบเปียก จึงต้องใช้น้ำมันพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ LSD โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำมันเฟืองท้ายหรือผสมหัวเชื้อใดๆเพราะอาจจะทำให้ผ้าครัชลื่น น้ำมัน LSD ต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายไวกว่า เพราะจะมีเศษของชิ้นส่วนที่สึกหรอปนออกมามากกว่าและอาจจะไปทำอันตรายต่อชิ้นส่วนอื่น หรือทำให้สึกหรอเร็วยิ่งขึ้น ต้องป้องกันน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะผ้าครัชและสปริงกลัวน้ำมากจะเสียหายอย่างรวดเร็ ว ถ้าสงสัยว่าน้ำอาจเข้าต้องรีบเช็คหรือรีบเปลี่ยนถ่ายทันที


++ ไปหาจากหลาย ๆ เวปแล้วรวมมาให้อ่าน ++
บันทึกการเข้า

"ขำขำคลับ"
Lee Racing 086-063-7714
จะจบไหม
http://www.facebook.com/aeracingclub
arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 20:12:24 »

เดิม ๆ โรงงานคงไม่มีอะ 4อี ไม่โบงะ
พี่โต้เคยลงไว้ ไม่น่าจำผิดนะ
ยกรถขึ้น แล้วหมุนล้อหน้า ข้างใดข้างหนึ่ง
ถ้าไม่มีเต็ด จะหมุนไปคนละด้านกัน
ถ้าเต็ดโรงงาน จะหมุนไปด้านเดียวกัน พร้อมกัน
ถ้าเต็ดแต่ง จะหมุนข้างเดียว (พี่โต้ บอก พี่เบส บอกมา หุหุ) ซุบซิบ

สงสัยว่าข้อมูลจะบิดเบือนไปจากความจริงนะครับ เด๋วจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่

รถที่ไม่มี LSD  หรือรถที่มี LSD แบบ Helical LSD(เต็ดเฟืองติดเกียร์มา) ยกล้อลอยทั้ง 2 ข้างแล้ว ถ้าหมุนดู ล้อจะสวนทางกันนะครับ

แต่ถ้าเป็น LSD ของสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TRD หรือ CUSCO เมื่อยกล้อทั้ง 2 ข้าง แล้วหมุน ล้อจะไปในทิศทางเดียวกันครับ



คราดเคลื่อน นิส มิเป็นไร เนาะ  จด  จด  อิอิ
บันทึกการเข้า
arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2008 20:13:40 »



โดยปกติรถยนต์ทั่วไปจะมีชุดเฟืองท้ายเป็นเฟืองดอกจอก (Differential) ซึ่งทำหน้าที่รับแรงจากเฟืองบายศรี
แล้วเฉลื่ยแรงไปให้เพลาซ้าย-ขวาแยกกัน เพราะเวลาที่รถเลี้ยว ล้อซ้าย-ขวาจะมีระยะทางวิ่งไม่เท่ากัน
ดังนั้นถ้าทำให้เพลาซ้าย-ขวาหมุนเท่ากันจะทำให้มีการลื่นไถลที่ ยางได้และจะทำให้รถเลี้ยวเป็นวงกว้าง
แต่ถ้าล้อข้างใดข้างหนึ่งเกิดหมุนฟรีจะทำให้ล้อที่มีความฝืดมาก ไม่หมุน เช่น
กรณีที่ล้อตกหล่มข้างเดียวหรือเลี้ยวโค้งแรงๆนํ้าหนักรถจะถูกถ่ายไปข้างเดียว  ซึ่งจะทำให้การส่งกำลังไปพื้นถนนไม่ดีเท่าที่ควร
L.S.D. (Limited slip differential) จึงมีความจำเป็นขึ้นมาในกรณีที่กล่าวมา โดยที่ชุด L.S.D จะทำหน้าที่เหมือนDifferential
ทั่วไปคือการเฉลื่ยกำลังแบ่งส่งไปให้เพลาข้างซ้าย-ขวาในสภาพการ ใช้งานปกติ ในขณะที่มีแรงกระชากเครื่องแรงหมุนจากเครื่องไม่รุนแรง
แต่เมื่อความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันมากและมีแรงกระชากท ี่รุนแรง ชุดคลัตซ์ที่อยู่ภายใน Differential จะถูกกดให้
ชุดเฟืองดอกจอกล็อค ทำให้ความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันน้อยลง ซึ่งการที่คลัตช์จะจับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรง
ของการกระชากคือ ยิ่งกระชากแรง (เร่งเครื่องมาก)  คลัตช์ยิ่งจับแรง
 

รู้จักก่อนกับเฟืองขับ (Differential ) กันก่อน
เป็นส่วนที่สำคัญในระบบส่งกำลัง ทำหน้าที่รับกำลังจากเกียร ส่งต่อมายังเฟืองขับตัวนี้ ทำหน้าที่เปลี่ยนแนวการหมุนในแนวมุมฉาก เป็นแนวขนานผ่านเพลาขับไปยังล้อทั้ง 2 ด้าน เฟืองขับนั้นในระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะถูกติดตั้งมาใ นห้องเกียร ส่งกำลังจากเฟืองเกียรมายังเฟืองขับ โดยตรงเรียกว่า Front Differentias Gear แล้วจึงส่งกำลังผ่านเพลาข้างไปยังล้อทั้ง 2 ข้าง ส่วนในระบบขับเคลื่อนล้อหลังเฟืองขับจะได้รับการส่งก ำลังมาจากเพลากลาง ต่อมายังเฟืองขับแล้วจึงส่งกำลังมายังเพลาข้างและล้อ อีกทีเรียกว่า Rear Differential Gear

ส่วนประกอบของเฟืองขับ ( Differential )
1.เฟืองเดือยหมู ( Worm Gear ) มีลักษณะคล้ายเฟืองรูปกรวย โคนเฟืองมีขนาดโตกว่าส่วนด้านยอดจะมีขนาดเล็ก ทำหน้าที่รับแรงบิดจากเพลากลางในแนวตั้งฉากมาขับเคลื่อนให้เกิดการหมุนตัว
เมื่อเฟืองหมุนตัวจะไปขบกับเฟืองบายศรีทั้ง 2 ด้านให้หมุนตาม
2.เฟืองบายศรี ( Ring Gear ) มีลักษณะเป็นเฟืองวงแหวนมีฟันเฟืองอยู่ด้านข้าง เฟืองตัวนี้จะมีอยู่ 2 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวด้านในจะมีเฟืองต่อมายังเพลาขับทั้ง 2 ด้าน มีหน้าที่เปลี่ยนมุมการหมุนให้เป็นแนวขนาน
3.เฟืองดอกจอก ( Planet Gear ) เป็นเฟืองวงแหวน 2 ตัว ทำหน้าที่แยกการหมุนของเพลาขับทั้ง 2 ด้านเมื่อขณะรถวิ่งตรง เฟืองจะรับแรงกดให้ไปขับเพลาทั้ง 2 ด้านเท่ากัน แต่เมื่อเกิดการเลี้ยวเฟืองดอกจอกจะทำหน้าที่แยกการหมุนของล้อให้ส่งกำลังไปเพียงด้านเดียว
คุณสมบัติของเจ้าเฟืองขับแบบธรรมดานี้ คือการส่งกำลังจะส่งไปยังล้อที่รับภาระสูงสุดเพียงล้อเดียว สังเกตุเวลาขึ้นแม่แรงแล้วหมุน ล้อจะหมุนเพียงล้อเดียว อีกล้อฟรีทิ้งอยู่เฉยๆ หรือเวลารถติดหลุม เมื่อเข้าเกียรเร่งเครื่อง ล้อจะหมุนล้อเดียว คุณสมบัตินี้ใช้ในเวลารถเข้าโค้งจะทำให้ล้อที่อยู่ด้านในโค้งหมุนช้ากว่าล้อที่อยู่นอกโค้งรถจึงเข้าโค้งไ ด้อย่างนุ่มนวล

มารู้จักกับ Limited Slip Differential
บางคนเรียกกันสั้นๆว่า เต็ด หรือชื่อย่อๆคือ LSD เจ้าเฟืองท้ายแบบนี้ได้รับการพัฒนามาจาก Differential แบบธรรมดาเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีในขณะรถติดหลุ่มแ เจ้ากลไกในตัว LSD จะทำหน้าที่ล็อคล้อที่หมุนฟรีให้หมุนตามนิยมในพวกรถแ บบ 4WD และในรถแข่งที่ต้องอาศัยการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไป ยังล้อทั้ง 2 ด้านให้ใกล้เคียงกัน ภายในมักจะมีส่วนประกอบคล้ายกับเฟืองขับแบบธรรมดา แต่จะเพิ่มชุดฟันเฟืองพิเศษ ชุดสปริงกด และชุดครัชแบบเปียกที่จะคอยรับแรงกดจากจานกดที่เกิดจ ากแรงบิดจากเครื่องยนต์ และการทำงานของชุดกลไกภายในของ LSD มากดให้จานกดและครัชให้จับตัวกัน ยิ่งมีแรงบิดมากก็จะมีแรงกดมาก เปอร์เซ็นต์การจับตัวก็จะมาก แรงบิดน้อยแรงกดน้อยเปอร์เซ็นต์การจับตัวก็จะน้อยลง แรงกดนี้จะมีฟันเฟืองต่อไปยังเพลาขับเพื่อไปขับล้อแล ะยางให้หมุนตามกัน
ชนิดต่างๆของ LSD

1) 1 way LSD หรือระบบ limited Slip แบบทางเดียว LSD แบบนี้จะทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 2 ด้านได้ใกล้เคียงเวลาเฉพาะเหยียบคันเร่ง จะทำให้เกิดแรงบิดไปพลักดันกลไกลภายในให้ทำงาน แต่พอถอนคันเร่งก็หยุดการทำงานล้อที่ไม่ได้รับภาระก็ จะหมุนฟรีเป็นปกติ LSD แบบนี้มักจะติดตั้งมากับรถโรงงาน พวกนี้เวลารถเข้าโค้งแล้วถอนคันเร่งการทำงานจะมีลักษณะเหมือนเฟืองขับปกติ นิยมใช้กับรถทุกประเภทสามารถบังคับได้ง่าย เหมาะกับมือใหม่และการใช้งานบนท้องถนน L.S.D แบบนี้คลัตช์จะจับเฉพาะตอนเร่งเครื่อง

2) 1.5 way LSD พัฒนาการใช้งานระหว่าง 1 way และ 2 way แบบนี้จะทำงานเต็มที่เมื่อเหยียบคันเร่งแต่พอถอนคันเ ร่งจะทำงานน้อยกว่า ลดอาการ Understree ได้มาก
เหมาะกับรถขับเคลื่อนล้อหน้าโดยที่ L.S.D ชนิดนี้ คลัตช์จะจับตอนเร่งและเมื่อถอนคันเร่งจะจับแค่เพียงครึ่งเดียว ทำให้ออกจากโค้งได้เร็ว
ซึ่งเหมาะกับการแข่งขัน เช่น จิมคาน่า ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน

3) 2 way LSD หรือระบบ limied Slip แบบสองทาง แบบนี้จะทำงานทั้งในขณะเหยียบคันเร่งและยกคันเร่ง แบบนี้จะทำให้เวลาเข้าโค้งเกิดความยากลำบาก เพราะล้อด้านในโค้งจะหมุนตามด้วยความเร็วใกล้เคียงกั บล้อด้านนอกโค้ง ส่งผลให้เกิดการฟรีทิ้งของยางจนเกิดการควบคุมรถได้ยา กกว่า แต่ในทางตรงจะสามารถส่งกำลังไปยังล้อได้ดีกว่า LSD แบบนี้มักจะต้องซื้อมาติดตั้งที่เรียกกันว่า เต็ดซิ่ง ที่หลายสำนักผลิตกันออกมาจำหน่ายกัน แบบนี้เวลาเข้าโค้งรถจะเกิดอาการ Understree
เหมาะกับแข่งขันนิยมใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหลัง และ ขับเคลื่อน 4ล้อ  L.S.D. ชนิดนี้ จะจับทั้งตอนเร่งและถอนคันเร่ง
ทำให้ควบคุมรถในการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ


ข้อดีเมื่อทียบกับเฟืองท้ายแบบธรรมดา
1. ช่วยแก้ปัญหาเวลารถตกหล่ม ทำให้ล้ออีกด้านไม่หมุนฟรีสามารถใช้กับเส้นทางทุรกันดารได้ดีกว่า
2. ช่วยให้การออกตัวดีขึ้น ลดอาการฟรีของล้อ เหมาะสำหรับรถควอเตอร์ไมล์
3. ช่วยในการออกโค้งได้ดีกว่า ลดอาการหมุนกลับ และสามารถใช้เทคนิคจนควบคุมรถได้
4. เพิ่มลูกเล่นและเทคนิคการขับรถได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฝึกฝนหรือหาเทคนิคใหม่ๆ
ข้อเสีย
1. การเข้าโค้งจะยากกว่าและต้องระวังมากกว่า เพราะอาจทำให้รถเกิดการ Understeer ได้ง่าย
2. ยางสึกหรอเร็ว เพราะล้อที่ไม่หมุนฟรีต้องอาศัยการหมุนฟรีของยางที่สัมผัสกับถนนยางจะสึกหรออย่างรวดเร็ว และมีเสียงดัง
3. อายุการใช้งานของเพลาขับและลูกปืนล้อสั้นลงอย่างรวดเ ร็ว เพราะต้องรับแรงบิดเพิ่มขึ้น เพลาอาจขาดหรือลูกปืนแตกได้ง่าย
4. ดูแลรักษายาก ต้องดูแลอยู่เสมอ และมีการสึกหรอค่อนข้างสูง
5. ในรถแบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีการขัดขืนเวลาเข้าโค้ง อาจเกิดการ 0ver streer ได้ง่าย

การติดตั้งและการเลือกใช้
มีรถส่วนน้อยที่ได้ติดตั้ง LSD มาจากโรงงาน รถส่วนใหญ่ที่ติดตั้ง LSD มักจะเป็นรถจำพวก 4wd และรถที่เครื่องยนต์แรงเพื่อช่วยในการออกตัวที่ดี
สำหรับการติดตั้งในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าต้องทำการ ยกเกียร์ทั้งลูกลงมาแล้วทำการผ่าเกียรออกมาแล้วยกชิ้น ส่วน และถอดเฟืองขับแบบธรรมดาออกมา
แล้วจึงเอาชุด LSD ติดตั้งประกอบกับเฟืองขับเดิม หรือบางรุ่นจะมีเฟืองขับที่มีอัตราทดใหม่มาติดตั้งแทนได้เลย ในรถขับเคลื่อนล้อหลังแบบคานแข็งต้องทำการถอดเพลากลาง เพลาข้าง เฟืองเดือยหมู
หรือบางรุ่นมีหน้าแปลนถอดเปลี่ยนได้เลย ในรุ่นที่เป็นคานอิสระถอดเพลาข้างและเพลากลางออก แล้วจึงถอดชุดเฟืองท้าย ออกมาแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งเฟืองท้ายหรือถอดมาเปลี่ยนเฉพาะชุด LSD
แต่เฟืองท้ายเดิม การควบคุมการทำงานบางรุ่นใช้การควบคุมด้วยระบบลม และบางรุ่น การเลือกใช้ต้องคำนึงถึงรูปแบบการขับขี่เป็นสำคัญว่า จะใช้แบบ 1 way - 1.5 way หรือ 2 way
ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการแข่งขันที่แตกต่างกัน การเลือกยี่ห้อต้องดูที่
โครงสร้างภายในบางรุ่นใช้ระบบฟันเฟือง ( Helical LSD )ในการทำงาน บางรุ่นใช้ระบบผ้าครัช ( Multiplate LSD ) ที่มีจำนวนแตกต่างกันเช่น 4 แผ่น 8 แผ่น หรือ 12 แผ่น
ยิ่งมีผ้าครัชมากก็สามารลดอาการฟรีของล้อได้มาก สามารถกระจายแรงม้าลงพื้นได้มากกว่าเดิม
ในรถขับเคลื่อน 4 ล้อมักจะมี LSD ติดตั้งมาแล้ว แต่อาจเปลี่ยนใหม่ในรูปแบบแตกต่างกันได้เช่นด้านหน้า เป็นแบบ 1.5 way และด้านหลัง 2 way จะทำให้ขับขี่สนุกขึ้น

การดูแลรักษา
เนื่องจาก LSD มีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่าเฟืองขับแบบปกติ เช่นบางรุ่นมีฟันเฟืองพิเศษ ที่ต้องอาศัยเบอร์น้ำมันที่ไม่เหมือนกับเฟืองท้ายปกติ และบางรุ่นส่วนใหญ่จะมีผ้าครัชแบบเปียก จึงต้องใช้น้ำมันพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ LSD โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำมันเฟืองท้ายหรือผสมหัวเชื้อใดๆเพราะอาจจะทำให้ผ้าครัชลื่น น้ำมัน LSD ต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายไวกว่า เพราะจะมีเศษของชิ้นส่วนที่สึกหรอปนออกมามากกว่าและอาจจะไปทำอันตรายต่อชิ้นส่วนอื่น หรือทำให้สึกหรอเร็วยิ่งขึ้น ต้องป้องกันน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะผ้าครัชและสปริงกลัวน้ำมากจะเสียหายอย่างรวดเร็ ว ถ้าสงสัยว่าน้ำอาจเข้าต้องรีบเช็คหรือรีบเปลี่ยนถ่ายทันที


++ ไปหาจากหลาย ๆ เวปแล้วรวมมาให้อ่าน ++



ขอบคุณคร้าบ  ความรู้ อีกแว้ว คำนับ คำนับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!