โกหกแบบเบนเรื่อง
การโกหกแบบนี้คล้ายกับแบบแรก เพียงแต่แทนที่จะอ้างโน่นอ้างนี่ เช่น รถติด ไฟไหม้ ฯลฯ เป็นการโยนความผิดไปให้สิ่งอื่นหรือบุคคลอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คนที่เป็นแบบนี้คือพวกที่กลัวและขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่เชื่อว่าจะมีใครได้รับโอกาสครั้งที่สองเพื่อแก้ไขความผิด ดังนั้นแทนที่จะยอมรับความผิด ก็ใช้การโกหกแทน
การแอบอ้างเอาความคิด ผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มนี้ บางคนรับคำยกย่องชมเชยในสิ่งที่ตนเองไม่สมควรจะได้รับ โดยโกหกตนเองว่าเหมาะสมที่จะได้ เลือกที่จะไม่แก้ไขความเข้าใจผิดนั้นโดยทำเฉย ปล่อยให้คนอื่นคิดว่าจริง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
อู๊ย อันนี้ เข้าท่า .
โกหกแบบสร้างภาพลวงตา
บางครั้งเราเปลี่ยนข้อเท็จจริงบางอย่างไปจากเดิมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี ให้ผู้อื่นประทับใจ
การโกหกแบบนี้มักจะเกี่ยวกับสิ่งที่เราเองขาดความมั่นใจอยู่เดิม อาทิ อายุ น้ำหนัก การศึกษา เงินเดือน ตำแหน่งการงาน ฯลฯ คนที่โกหกในลักษณะเช่นนี้จะเหมือนติดกับ ดิ้นไม่หลุด เพราะต้องโกหกต่อเนื่อง
การแก้ไขที่ดีคือบอกความจริงไปซะ ตัดเส้นใยของการโกหกให้ขาดสะบั้นลง เพื่อนแท้จริงไม่เลิกคบกันเพราะเราเกิดเป็นลูกคนขับสามล้อ หรือเรียนจบโรงเรียนวัดหรอก แต่ถ้าจะมีคนคิดอย่างนั้น เรายังจะคบเป็นเพื่อนอีกหรือ?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ว้าววววววววววว อันนี้โดนใจ วัยรุ่นว่ะ
ใครวัยรุ่น ?