เชลล์เปิดตัวเบนซิน95เกรดใหม่ ยันไม่ส่งอี20แข่งไม่คุ้มรถน้อย
เชลล์ เปิดตัวเบนซินออกเทน 95 เกรดใหม่ รับลูกค้าระดับบน หวังกินเรียบในตลาดด้วยคุณภาพน้ำมันที่เฟอร์รารี่ใช้แข่ง และเตรียมเลิกจำหน่ายดีเซลทั่วไปในปั๊ม นำวี เพาเวอร์ ดีเซล ที่มาราคาสูงกว่าเสียบแทน สนองความต้องการลูกค้า โดยยันไม่ขายอี 20 แน่ เพราะรถยนต์ยังมีจำนวนน้อย แต่เพื่อส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ ได้เลิกขายเบนซิน 91 ในเขตกทม.แล้ว
นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงการดำเนินงานด้านการตลาดค้าปลีกน้ำมันว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยส่งเสริมให้มีการใช้เอทานอลผสมน้ำมันเบนซินในสัดส่วนที่มากขึ้น 20 % หรืออี 20 นั้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)(บมจ.) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)(บมจ.) ได้จำหน่ายอย่างแพร่หลายแล้วนั้น
แต่สำหรับเชลล์เองเวลานี้คงจะไม่ลงทุนหรือนำอี 20 ออกมาจำหน่ายแต่อย่างใด เนื่องจากมีข้อจำกัดของหัวจ่ายที่มีมากจนเกินไป ทำให้บริหารจัดการลำบาก เพราะ หากนำอี 20 มาจำหน่าย จะต้องไปยกเลิกหัวจ่ายน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ในขณะเดียวกันจะต้องดูแลกลุ่มลูกค้าที่ยังมีความต้องการใช้เบนซิน ออกเทน 95 อยู่ และจะต้องดูแลกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่มีความมั่นใจว่าอี 20 จะใช้กับรถยนต์ได้ด้วย ประกอบกับเวลานี้เอง รถยนต์สามารถใช้อี 20 ได้ก็ยังมีน้อยไม่ถึง 300,000 คัน การตัดสินใจที่จะลงทุนนำอี 20 ออกมาจำหน่ายจึงยังไม่คุ้มกับการลงทุนในเวลานี้
แต่อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลประกาศโดยการยกเลิกจำหน่ายอี 10 และมาส่งเสริมอี 20 ทั้งหมด หรือลูกค้าเรียกร้องให้จำหน่าย เชลล์ก็พร้อมที่จะนำอี 20 ออกมาจำหน่ายได้ทันที แต่เมื่อลูกค้ายังไม่เรียกร้องในเวลานี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปจำหน่าย
ที่สำคัญ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ยังมีความต้องการใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 อยู่ แม้ว่าตลาดโดยรวมของการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 จะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ลิตรต่อวัน จากการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินทั้งหมดประมาณ 18-19 ล้านลิตรต่อวัน ก็ตาม จะไม่มีการยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน ออกเทน 95 แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามเชลล์จะพัฒนาคุณภาพน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ให้ดีขึ้น โดยในวันที่ 4 มีนาคม 2552 นี้ ทางบริษัทจะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์"เชลล์ วี-เพาเวอร์เบนซิน" น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 เกรดพรีเมียม ที่ได้ร่วมพัฒนากับเฟอร์รารี่ เป็นทางเลือกตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับบนที่ยังต้องการใช้เบนซิน ออกเทน 95 อยู่ โดยจะนำไปจำหน่ายในปั๊มน้ำมันประมาณ 120 แห่ง โดยมองว่าจะช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายให้สูงขึ้นได้ ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้มากขึ้น ทางเชลล์ได้ตัดสินใจยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซินออกเทน 91 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลลง และหันไปจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 แทน
นางพิศวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลหรือ บี 5 นั้น ขณะนี้เชลล์ได้มีการจำหน่ายครบจะทุกปั๊มเป็นรายแรกแล้ว ส่วนการจำหน่ายน้ำมันดีเซลทั่วไปหรือบี 2 จะเหลือจำนวนปั๊มที่น้อยมาก จากจำนวนปั๊ม 573 แห่งที่มีอยู่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาน้ำมันวี เพาเวอร์ ดีเซลซึ่งมีราคาแตกต่างจากน้ำมันดีเซลทั่วไปเกือบ 2 บาทต่อลิตร ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ต้องขยายจำนวนปั๊มให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปการจำหน่ายน้ำมันดีเซลในปั๊มเชลล์ อาจจะเหลือเพียงวี เพาเวอร์ดีเซล และบี 5 เท่านั้น ส่วนน้ำมันดีเซลทั่วไปหรือบี 2 อาจจะเลิกจำหน่าย
สำหรับการเปิดปั๊มก๊าซเอ็นจีวีนั้น ทางบริษัทยังไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในการส่งเสริม และความไม่ชัดเจนของราคา แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอบสนองของลูกค้าในกลุ่มนี้ ในเร็วๆ นี้ทางเชลล์ จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีออกมา โดยมีทั้งประเภทกึ่งสังเคราะห์ และสังเคราะห์ ซึ่งเป็นรายแรกในภูมิภาคนี้
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี หลังจากที่เชลล์ประสบภาวการณ์ขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งในปีนี้เองคิดว่าผลประกอบการน่าจะดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และประชาชนมีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนการจำหน่ายน้ำมันให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ลูกค้าลดกำลังการผลิตลง ยอดการส่งน้อยลง จึงส่งผลให้การจำหน่ายน้ำมันในกลุ่มนี้ลดลงตามด้วย
http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0724052&issue=2404