AE. Racing Club
16 มกราคม 2025 12:45:51 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสวนา เรื่องการอุ่นเครื่องรถอย่างไรให้ถูกวิธี !  (อ่าน 4048 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Corolla3Hoop
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 298



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 19:26:08 »

เครื่องยนต์ก็เหมือนร่างกายคนเรา ก่อนจะทำงานเต็มกำลังโดยไม่มีผลข้างเคียง ก็ต้องมีการอุ่นเครื่อง warm up กันซะก่อน

แต่การอุ่นเครื่องที่ถูกต้องนั้น ทำอย่างไร

จากที่ผมค้นหาข้อมูล ก็พอสรุปได้ 2 วิธี ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ก็ต้องการขาฟันทั้งหลายมาช่วยกันฟันหน่อย อย่างไหนถูกต้อง


วิธีแรก ก็ตามแบบฉบับที่เราๆท่านๆ ได้ยินกันมาบ่อยๆ คือ พยายามสตาร์ทรถตอนเช้าให้ติดภายในครั้งเดียว และปล่อยให้เครื่องวิ่งเดินเบาไปเรื่อยๆ จนอุณหภูมิของเครื่องเริ่มร้อน จึงจะนำไปใช้งานได้ตามปรกติ หรือถ้ามีเหตุด่วนเร่งรีบจริงๆก็ควรอุ่นอย่างน้อย 10 วินาที แล้วค่อยออกตัว
อันนี้คงจะเป็นที่ชินตากับทุกคน

วิธีที่สอง กลายเป็นหยินหยางกลับขั๋วกันเห็นๆ การอุ่นเครื่องวิธีนี้ ใช้หลักปั้มน้ำมันเครื่องที่ทำงานแรงตามรอบเครื่อง ฉะนั้นถ้าเราอุ่นเครื่องที่รอบต่ำน้ำมันเครื่องจะไม่สามารถถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ทั่วถึง และการอุ่นเครื่องอยู่กับที่จะทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่สตาร์ทรถได้แล้ว ให้รีบออกตัวรถภายใน 10 วินาที เพื่อรอบเครื่องจะได้สูงขึ้น และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ แต่ควรระวังไม่ให้รอบเครื่องสูงเกิน 2,000 รอบ เพราะบางชิ้นส่วนน้ำมันเครื่องยังส่งผ่านไม่ถึง และด้วยเครื่องยนต์ที่เป็นเหล็ก เมื่อเย็นตัวจะเกิดการหดตัวทำให้เกิดช่องว่างขึ้น จึงทำให้เกิดการเสียดสีที่รุ่นแรงได้ แต่ถ้าเครื่องยนต์ร้อนได้ที่แล้วเนื้อที่ว่างต่างๆจะหายไป ผนังเครื่องยนต์จะถูกแทนที่ด้วยน้ำมันเครื่อง จึงไม่มีทางเลยที่เครื่องยนต์จะสึกหลอ


รอคนฟัน  ถูกใจ.. ใช่เลย..


หวังว่าคงไม่ใช่ความเชื่อที่ผิดๆอย่างเดินทางไกล ให้เติมลมยางให้ลดลง 1-2 ปอนด์  แบบว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มีนาคม 2009 19:44:30 โดย Corolla3Hoop » บันทึกการเข้า
gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 19:41:49 »

เครื่องยนต์ก็เหมือนร่างกายคนเรา ก่อนจะทำงานเต็มกำลังโดยไม่มีผลข้างเคียง ก็ต้องมีการอุ่นเครื่อง warm up กันซะก่อน

แต่การอุ่นเครื่องที่ถูกต้องนั้น ทำอย่างไร

จากที่ผมค้นหาข้อมูล ก็พอสรุปได้ 2 วิธี ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ก็ต้องการขาฟันทั้งหลายมาช่วยกันฟันหน่อย อย่างไหนถูกต้อง


วิธีแรก ก็ตามแบบฉบับที่เราๆท่านๆ ได้ยินกันมาบ่อยๆ คือ พยายามสตาร์ทรถตอนเช้าให้ติดภายในครั้งเดียว และปล่อยให้เครื่องวิ่งเดินเบาไปเรื่อยๆ จนอุณหภูมิของเครื่องเริ่มร้อน จึงจะนำไปใช้งานได้ตามปรกติ หรือถ้ามีเหตุด่วนเร่งรีบจริงๆก็ควรอุ่นอย่างน้อย 10 วินาที แล้วค่อยออกตัว
อันนี้คงจะเป็นที่ชินตากับทุกคน

วิธีที่สอง กลายเป็นหยินหยางกลับขั๋วกันเห็นๆ การอุ่นเครื่องวิธีนี้ ใช้หลักปั้มน้ำมันเครื่องที่ทำงานแรงตามรอบเครื่อง ฉะนั้นถ้าเราอุ่นเครื่องที่รอบต่ำน้ำมันเครื่องจะไม่สามารถถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ทั่วถึง และการอุ่นเครื่องอยู่กับที่จะทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่สตาร์ทรถได้แล้ว ให้รีบออกตัวรถภายใน 10 วินาที เพื่อรอบเครื่องจะได้สูงขึ้น และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์


รอคนฟัน  ถูกใจ.. ใช่เลย..


หวังว่าคงไม่ใช่ความเชื่อที่ผิดๆอย่างเดินทางไกล ให้เติมลมยางให้ลดลง 1-2 ปอนด์  แบบว่า

ผมใช้วิธีที่ 2 ออกจากบ้านก็เร่งเลยครับ แต่ไม่ได้โหดนะ เร่งคือ เร่งให้รอบมันหมุนสัก 3000 รอบ อะไรประมาณนั้นคับ
บันทึกการเข้า
webslaf
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,368


ไม่วุ่นวาย ง่ายๆ อะไรก็ได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 20:51:33 »

ที่ได้ยิน มานาน และบ่อย เคยได้ ยินแต่แบบแรก ครับ แต่อย่างหลัง นี่ ไม่ค่อยคุ้นชิน....... คำนับ รอท่านต่อไป ชี้แนะ ครับ
บันทึกการเข้า

2E ปีศาจ... (น้าแม๊ก ว่ามางั้น) รอวันกลับมา....เหมือนเดิม
@~GID_GP Car Mods~@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,266



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:01:47 »

ผมว่าวิธีที่ 1  วิธีที่สอง เครื่องจะสึกหรอนะ เพราะว่า น้ำมันเครื่องจะยังส่งไปไม่ถึงแล้วเราเร่งมันจะทำให้ชิ้นส่วนต่างสึกหรอ ซุบซิบ
บันทึกการเข้า

รถซื้อแกง  แรงได้ไง
รับทำงานคาร์บอน-เครล่าแท้ (เต็มระบบ) รูปผลงาน http://www.facebook.com/G
gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:20:04 »

...อุ่นอย่างน้อย 10 วินาที...

ปกติกว่าผมจะออกมันก็เกิน 10 วิ นี่ครับ แสดงว่าทำถูกแล้วแบบไม่รู้ตัวผสมแบบที่ 2

ที่ทำแบบที่ 2 เพราะจะได้ทำให้เครื่องร้อนเร็ว(อยู่ตรงกลาง วาล์วน้ำจะได้เปิด-ปิดได้)
บันทึกการเข้า
arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:27:12 »

ของผม ไม่ได้ทำ ทั้งสองข้อเลยครับ  เพราะ รถผม ติดเครื่องปุ๊บ  รอบขึ้นไปโน่น เล่ย เกือบ 2000 พักใหญ่ๆครับ ถึงจะ 1ooo เอิ๊กๆๆ
บันทึกการเข้า
boatham
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 947


4A-GE 20 Valve Blacktop M/T 5 Speed LSD + E-Manage


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:39:50 »

แบบที่ 2 ก็น่าจะมีส่วนถูกนะครับ เพราะไม่ังั้นเวลาติดเครื่องตอนเช้าๆกล่อง ECU มันคงไม่ให้รอบเครื่องดีดไปซะ 1000++ หรอกครับ ของผมก้อเกือบ 2000 เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:43:38 »

แบบที่ 2 ก็น่าจะมีส่วนถูกนะครับ เพราะไม่ังั้นเวลาติดเครื่องตอนเช้าๆกล่อง ECU มันคงไม่ให้รอบเครื่องดีดไปซะ 1000++ หรอกครับ ของผมก้อเกือบ 2000 เหมือนกัน


อ่าวหรอครับ  แล้วค้างนานมั้ยครับ  ของผม ค่อยๆลง  แต่ค่อยๆลงแบบ ช้าๆนะครับ

ลงมาประมาณ 900 ที่เรือนไมล์นะครับ

แล้งเฮดเดอร์  ยังไม่รู้จะใส่หรือเปล่าวครับ ภรรยา ด่า  แม่บ่น 555
บันทึกการเข้า
Corolla3Hoop
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 298



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 21:50:17 »

ที่ให้รอบดีดไปสูงๆ ตอนสตาร์ทรถตอนเช้า เพราะเค้าจะให้เราสตาร์ทเครื่องสำเร็จภายในครั้งเดียว

สตาร์ทหลายรอบ ยิ่งเสียหายหนัก


บันทึกการเข้า
__Da__
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,849


ทีมงาน Brok-in


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 22:03:32 »

ของผม ไม่ได้ทำ ทั้งสองข้อเลยครับ  เพราะ รถผม ติดเครื่องปุ๊บ  รอบขึ้นไปโน่น เล่ย เกือบ 2000 พักใหญ่ๆครับ ถึงจะ 1ooo เอิ๊กๆๆ
ทำไมวอมสูงจัง ของ ดา ไม่เกิน 1500 อะครับ แล้วก็ตกลงมาตามปกติ ของรอบเครื่อง 20v คือ 850 อะครับ เปิดแอร์ก็จะดิดขึ้นไป 1100 แล้วตกลงมาที่ 1000
บันทึกการเข้า

gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 22:04:59 »

ของผม ไม่ได้ทำ ทั้งสองข้อเลยครับ  เพราะ รถผม ติดเครื่องปุ๊บ  รอบขึ้นไปโน่น เล่ย เกือบ 2000 พักใหญ่ๆครับ ถึงจะ 1ooo เอิ๊กๆๆ
ทำไมวอมสูงจัง ของ ดา ไม่เกิน 1500 อะครับ แล้วก็ตกลงมาตามปกติ ของรอบเครื่อง 20v คือ 850 อะครับ เปิดแอร์ก็จะดิดขึ้นไป 1100 แล้วตกลงมาที่ 1000

ตามนั้นคับ
บันทึกการเข้า
Christmas
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,213


4E-FE inside


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 23:07:29 »

ของผมวิธีที่ 1
บันทึกการเข้า

~RETRO RACE...つづく
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,909


ไข่ยานใส่JICไข่กระดิกใส่Tein


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 23:15:07 »

ผมไม่อยากเสียเวลามาก ก็ ตื่นมาอมขี้ฟันไปบิดกุญแจ ตั้งtimer ไว้ 3-5 นาทีก็แล้วแต่ แล้วก็ไปนอนต่อ ปิดปาก
บันทึกการเข้า



ฝากรูป>> http://image.ohozaa.com/
อยากทำCabonสวยๆ 
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=110314.0
อะไหล่ของแต่งจากญี่ปุ่น
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=112902.0
yuky
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,462


Raceclub ศรีนครินทร์60 เครื่อง,แก๊ส,ช่วงล่าง 089-6616752คับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 23:35:52 »

สตาร์ทซัก10วิแล้วผมก็ใช้วิธีที่2คับ
แต่เข้าบ้านใช้timerเหมือนกัน สุดยอด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มีนาคม 2009 23:39:22 โดย yuky » บันทึกการเข้า



RN3 type RS/BB5 type Si
Pencom.CZ 49
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 23:39:46 »

ใช้แต่วิธีที่ 1 อ่าครับ
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,158


3S-GE Doraemonster 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009 23:53:30 »

ผมเดินเบาให้ร้อนก่อน ถ้าจำเป็นก็ขับไปเรื่อยๆ ไม่ให้รอบเกิน2000 จนกว่าเขมความร้อนจะขึ้นถึง เกือบๆกลางๆ
บันทึกการเข้า

4d56
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,037


บินไปด้วยกัน


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009 00:45:05 »

ไม่อยากให้ซีเรียสอ่ะคับอิอิ เท่าที่เคยใช้รถมาอ่ะคับผมก้อแค่ถ่ายน้ำมันเครื่อง(ไม่ค่อยตรงเวลาด้วยซ้ำคับ)
ดูน้ำไม่ให้ขาด เปลี่ยนหัวเทียนตามระยะ เปลี่ยนวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ ทุกคันที่บ้านก้อทำอย่างนี้อ่ะคับ ก้อใช้งานมา
เกิน10ปีทั้งนั้นคับ คือดูแลรักษาตามความเหมาะสม ตามระยะคับ ยังไงก้ออยู่ได้คับ อย่าไปโหมเกินลิมิตของมัน
ยังไงก้อทนคับ ยังไงวัสดุที่มีการเสียดสีกันมันก้อสึกหรอคับ ที่ผมเปลี่ยนเครื่องไม่ใช่เพราะมันพัง แต่อยากได้
สมรรถนะเพิ่มขึ้นแค่นั้นคับ
ส่วนเรื่องการวอร์มเครื่องถ้าเอาตามวัตถุประสงค์จริงๆเลย ก้อคือให้น้ำมีความร้อนตามที่เค้าออกแบบมาคับก้อคือ
พอรอบเครื่องตกลงมาก้อถือว่าใช้ได้คับเพราะพออุณหภูมิน้ำถึงตามกล่องกำหนด ระบบiscวาล์วก้อจะปิดรูอากาศ
ให้อากาศเข้าได้น้อยลงเครื่องก้อจะค่อยๆรอบต่ำลงคับ ที่เค้าวอร์มก้อเพื่อให้เหล็กได้มีความร้อนที่คงที่คือขยายตัว
ตามระยะเคลียร์แรนซ์ที่ออกแบบไว้คับ เพื่อการสึกหรอจะได้ไม่มากจนเกินไป แต่ยังไงก้อสึกหรอคับ แล้วที่เค้าให้
วอร์มสักพักและที่รอบสูงพอประมาณ ไม่ใช่ว่าแรงดันน้ำมันเครื่องมันไม่พอหรอกคับ เพียงแต่ว่ากว่าที่น้ำมันเครื่องจะ
เดินทางจากแคร๊งค์ไปตามจุดต่างๆของเครื่องยนต์ได้มันต้องใช้เวลาคับเพราะมันมีระยะทางคับ แล้วที่เค้าให้รอบมันสูง
ประมาณ1500-2000ก้อเพื่อให้เครื่องมันร้นเร็วขึ้น ย่นระยะเวลาที่จะวอร์มแค่850รอบคับ แต่ถ้าวอร์มที่รอบสูงกว่านี้
น้ำมันเครื่องยังเดินทางไปไม่ถึงจุดหมุนต่างๆหรือจุดที่มีการเสียดสีกัน ก้อจะทำให้เกิดการสึกหรอที่สูงขึ้นคับ เหล็กที่ใช้
ทำเครื่องยนต์ถึงแม้ไม่มีน้ำมันเครื่องเลย มันก้อสามารถทนการเสียดสีได้พอสมควรคับ
แต่อย่าไปซีเรียสคับ ผมแทบไม่ได้วอร์มเลยด้วยซ้ำคับรถปี94 95 96 ทุกคันยังใช้งานได้ดีคับ แค่คุณถอยเข้าถอยออก
กว่าจะออกจากบ้าน กว่าจะเดินไปปิดประตู กว่าจะออกจากซอย รอบที่ใช้คงไม่เกิน2000เท่าไรมั้งคับ แค่นี้ผมก้อว่ามันอยู่
ในกรอบของการวอร์มเครื่องคับ ด้วยความเคารพคับ
บันทึกการเข้า



กำลังบ้าดีเซลโบควายคับ
4D56 รหัสเทพ
4M40 อิมก้ออิมเถอะ...ยาว
ไหนๆใครว่าดีเซลไม่แรง
ต้องลอง...ต้องลอง
NonG_<TPZ#02>_<NC.Z>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,479



ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009 04:05:58 »

ไม่เคยวอมเลยคับ

ขับช้าๆซักพัก กว่าจะถึงถนนใหญ่ (บ้านผม)

ผมว่าก็โออยู่นะ
บันทึกการเข้า

Trang-Phattalung Zone / Nongchok Zone
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009 04:49:19 »

ผมก็ไม่ซีเรียส เรื่องนี้นัก แต่เน้นหนักไปในส่วนของของเหลวที่สามารถปกป้องได้ทันทีก่อนสตาร์ทครับ จะเป็นพวกหัวเชื้อที่สามารถเคลือบชิ้นส่วนภายในติดเกาะอยู่ที่ชิ้นส่วนสำคัญๆ โดยไม่ไหลกลับมาท้องอ่างน้ำมันเครื่องหลังเราดับเครื่อง สตาร์ทปั๊ปก็เบิ้ลเครื่องสามสี่พันรอบเฉย รถทุกคันที่ใช้ก็เกินสิบปีหรือเจ็ดแปดแสนกิโลขึ้นทั้งนั้น สภาพเครื่องยังอยู่ในระดับแปดเก้าสิบเปอร์เฉยล่ะ ปลายท่อยังสีน้ำตาลอ่อนนวลสวยไม่มีเขม่า บางคันใช้งานมาระดับล้านกิโลขึ้นก็มี(ขายไปแล้ว) ผมว่าสารหล่อลื่นนั้นสำคัญที่สุดครับ  การสึกหรอของเครื่องยนต์นั้นมักเกินตอนสตาร์ทรถตอนเช้านี่ล่ะ แก้ที่ต้นเหตุก็ใช้ได้ยาวครับ บาย
บันทึกการเข้า

gewall
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009 07:07:36 »

ผมก็ไม่ซีเรียส เรื่องนี้นัก แต่เน้นหนักไปในส่วนของของเหลวที่สามารถปกป้องได้ทันทีก่อนสตาร์ทครับ จะเป็นพวกหัวเชื้อที่สามารถเคลือบชิ้นส่วนภายในติดเกาะอยู่ที่ชิ้นส่วนสำคัญๆ โดยไม่ไหลกลับมาท้องอ่างน้ำมันเครื่องหลังเราดับเครื่อง สตาร์ทปั๊ปก็เบิ้ลเครื่องสามสี่พันรอบเฉย รถทุกคันที่ใช้ก็เกินสิบปีหรือเจ็ดแปดแสนกิโลขึ้นทั้งนั้น สภาพเครื่องยังอยู่ในระดับแปดเก้าสิบเปอร์เฉยล่ะ ปลายท่อยังสีน้ำตาลอ่อนนวลสวยไม่มีเขม่า บางคันใช้งานมาระดับล้านกิโลขึ้นก็มี(ขายไปแล้ว) ผมว่าสารหล่อลื่นนั้นสำคัญที่สุดครับ  การสึกหรอของเครื่องยนต์นั้นมักเกินตอนสตาร์ทรถตอนเช้านี่ล่ะ แก้ที่ต้นเหตุก็ใช้ได้ยาวครับ บาย

ขอเสริม เปลี่ยนนมค.ทุก 6 เดือน/ธรรมดา

9 เดือนของSEMI และ SYN
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!