ขอคำแนะนำด้วยครับ วางเครื่อง 7A-FE

[pae2020]

รถผม EE101 เครื่อง 1300 หัวฉีด ติด NGV แบบดูด สภาพเครื่องตอนนี้หลวมแล้วครับ ช่างที่อู่ที่ผมรู้จักแนะนำให้ผมวางเครื่องใหม่ได้แล้ว...

จากการอ่านข้อมูลเก่าๆใน aeracingclub สนใจจะวางเครื่อง 7A-FE แต่ไม่รู้ว่าจะมีปัญหากับ NGV แบบดูดเดิมๆไหม ต้องปรับแก้หรือเพิ่มเติมอะไรหรือเปล่าครับเพื่อให้ใช้กับ NGV แบบดูดได้ (Twin Coil มันจะปรับไฟแก่ไม่ได้ใช่ไหมครับ) ผมไม่ต้องการupgrade NGV จากระบบดูดไปเป็นระบบฉีดเพราะงบมันจะบานปลายไปมาก

หรือผมควรตัดใจจาก 7A-FE แล้วเลือกลง 4A-FE แทน

[j-brc]

ถ้า กะไว้เล่น กับ ngv  แนะนำ  4a-fe ดีกว่าครับ ปรับไฟแก่ ได้   เครื่อง ไม่จุกจิกเรื่องสายไฟ   เหมาะสมสุดครับ   ถ้าเป็น 7a  ปรับไฟ ไม่ได้    ใช้แก๊ส ngv  ต้องปรับไฟแก่  หรือ  หา tap มาใส่ ถึงจะวิ่งเหมือนน้ำมัน

[onice cadet]

อยากทราบเหมือนกันเลยคร้าบ ae-111 จะเปลี่ยนเครื่องแล้วติด ngv ระบบดูด ยังสองจิตสองใจอยู่ระหว่าง 4a-fe กะ 7a-fe หรือจะข้ามไปเป็นรหัส ge ดี

[>> OaTzy << SZ#013]

เน้นใช้งาน ทน ๆ อะไหล่ถูก ๆ 4A-FE น่าจะเล่นได้ง่ายกว่า

ไม่ติดแกสเป็นหัวฉีดไปล่ะ ? ?

[iambeerse]

เครื่อง Taxi โลดครับ

[4d56]

จาก1300มาเป็น1600ก้อวื่งกว่ากันเยอะนะคับ ถ้าติดแก๊สคงเน้นใช้งานและประหยัดเป็นหลัก
ผมว่า4เอเอฟอีก้อดีคับ อะไหล่เยอะ ถูก เครื่องและการวางก้อไม่แพงคับ ถ้า7เอต้องหารุ่นจานจ่าย
ที่ปรับได้คับ (จานจ่ายขาเดียวก้อปรับไม่ได้ยกเว้นดัดแปลง)

[ガレージ7 タカラショップ￥￥￥んｰｰｰｰ]

จะ 4A หรือ 7A ผมว่า พอกันนะครับ เพราะพื้นฐานการทำงานพอๆกัน เอาเครื่องไหนก็ได้ที่มันดีๆๆสดดใช้งานอย่างน้อย อีกซัก 1-2 แสนโลคุ้มแล้วละครับ

[pae2020]

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ

อาจตัดใจไปลง 4A แทนเพราะจริงๆแค่ 4E เดิมๆผมยัง Happy ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร (ผมคงแก่แล้วมั้ง 555)

คุณแฟร์ครับ  อู่คุณแฟร์เปิดวันอาทิตย์ไหมครับ ว่าจะเอารถไปให้ดู

[optic 7a]

ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่วาง 7a twin coil เด็ดขาด ถ้าติดแก๊สเล่นอะไรก็ได้ที่มันตั้งไฟได้คับ  ความเห็นส่วนตัวผมนะคับ

[Skyline R92]

ถ้าจะวาง 7a twincoil นะคับ ก่อนอื่นนะ ผมว่าหาอู่ที่จะวางก่อนเลยอันดับแรก ต้องหาอู่ที่รู้จักเครื่องตัวนี้จิงๆ ไม่ใช่เก่งแต่ปาก แล้วทำเข้าจิงๆแล้วไม่ได้เรื่อง ทีนี้จะให้มันแก้ยังไงก็ไม่จบหรอกคับ ต้องไปหาอู่อื่นทำให้อีก เสียสองต่อเลย แล้วผมว่าเครื่อง 7a twincoil อ่ะ (จานจ่ายไม่รู้นะคับ อิอิ) เวลาเราจะทำอะไรแล้วส่วนมากอู่จะทำไม่ค่อยได้ (ถึงแม้ตอนก่อนทำมันบอกว่าขนม) เพราะตอนผมไปติดแก๊สหัวฉีดมา ช่างมันพูดคุยซะดิบดี พอทำแล้วไม่จบ มันก็บอกกับเราว่าไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว 5555 มันเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก กับเครื่องตัวนี้ สรุปแล้วผมเป็นหนูลองยา (อยากจะด่ามันเหลือเกิน) ขอให้โชคดีแล้วกันนะคับ

[Num_up]

ไม่รู้ดิ  เจ็ด เอ วาง แพง ครับ แต่ ขับ ทางไกล ดี  แต่ ค่อน ข้างจุกจิก   ผมว่า สี่เอ อีกเสียงอะ

[pae2020]

ขอบคุณกับหลายเสียงที่เพิ่มเติมเข้ามานะครับ

เป็น เวบบอร์ด ที่อบอุ่นดีจัง

ตัดสินใจจะลง 4A ล่ะ...

[smilegames]

ยินดีที่ได้เป็นเพื่อน 4AFE กัน แล้วคุณจะรู้ว่าคิดไม่ผิด สำหรับ GAS

[AE 115]

4a-feครับ

[optic 7a]

ขอบคุณกับหลายเสียงที่เพิ่มเติมเข้ามานะครับ

เป็น เวบบอร์ด ที่อบอุ่นดีจัง

ตัดสินใจจะลง 4A ล่ะ...

ยินดีด้วยกับการตัดสินใจที่จะวาง 4a

[Tong KKT OBD]

เห็นพูดกันเรื่อง  7A-FE กัน และที่ผ่านมาเห็นหลายคนมีปัญหากันเยอะครับ มีเรื่องอยากจะบอกกับ 7A-FE และ 4A-FE twin coil ครับ

1. 7A-FE และ 4A-FE twin coil ที่ออกมาเมื่อประมาณปี 1997 นั้นเป็นเครื่องรุ่นแรก ๆ ของ Toyota ที่ปรับปรุงมาเป็นเครื่องแบบ Lean Burn
   หรือเครื่อง ที่บางจังหวะ จะฉีดน้ำมันแบบ บางมาก ประมาณ 22:1 AFR เช่นเมื่อโหลดต่ำ ๆ เพื่อความประหยัด การทำเช่นนี้ได้ เพราะ มีการปรับปรุงการระบบการ
   ฉีดน้ำมันใหม่ครับ โดยเอาหัวฉีดผังไว้ที่บริเวณใกล้ห้องเผา่ไหม้เลย ไม่ได้ฝังไว้ที่ ท่อไอดีแบบเดิม ซึ่งจะช่วย Lean barn ให้ทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น
   
   ข้อดีของการ Lean Burn ก็คือความประัหยัด ที่ได้ครับ

   ส่วนข้อเสียการการ Lean Burn นั้นก็เยอะเช่นกัน ก็คือ
   
   1. จะเกิดความร้อนสูงมากที่ห้องเผาไหม้ แต่เครื่อง 7A-FE twin coil ก็น่าจะออกแบบให้รองรับความร้อนที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอนอยู่แล้ว
   2. เพื่อเกิดความร้อนสูงมาก จาก AFR ที่บาง ก็จะเสี่ยงต่อการ Knock เยอะเช่นกัน 7A-FE twin coil น่าจะมีระบบจัดการตรงนี้ที่ดี
   3. จะเกิด ไอเสียชนิด NOx มากเพราะการเผาใหม่บาง และความร้อนสูงก็จะได้ NOx  ซึ่งถือเป็นแก๊สพิษที่มีอัตรายเยอะเหมือนกัน
       แต่ 7A-FE twin coil เครื่องที่ออก จากโรงงานจะมีระบบ แก้ไขไอเสีย หรือ Emission control ที่ดี ทั้ง EGR และ CAT
       แบบพิเศษ
       
   ปกติแล้ว เมื่อวิ่ง แบบมีอัตราเร่งเยอะ เกียร์ 1-3 เครื่องจะไม่เข้า Lean Burn จะจ่ายน้ำมันแบบปกติ 14.7:1 ส่วน ตอน เดินเบา เข้า Lean  Burn ไหม
   ผมขอเช็คดูก่อน และจะมาบอก 

   การ Lean Burn เท่าที่ผมรู้มา จะเกิดเมื่อ เกียร์ O/D หรือเกียร์ 4 และวิ่งที่ความเร็วประมาณ 120 km/h ขึ้นไป หรือจะ Lean Burn ได้เมื่อเกียร์ 4
   (Auto) แต่ โหลดน้อย ๆ (เหยียบคันเร่งเบา)   

   คำถามคือ หลายคนเคยเจออาการนี้แล้วทั้งนั้น วิ่ง ๆ ไป พอเกียร์ 4 และเหรียบคันเร่งเบา A/F บางลงมาก ไปจน 20 - 22 AFR 
   บางคนไม่มีปัญหาอะไร บางคน อัตราเร่งลดลงไปเยอะ เรียกว่าอืดเลย

    บางคนก็เขกกระจาย

    บางคนก็เครื่องร้อนจัด จนผิดปกติ

    สิ่งเหล่านี้แสดงว่า 7A-FE twin coil ของเราน่าจะมีปัญหาที่เข้า Lean Burn ได้ไม่สมบูรณ์ครับ คงตั้งเช็คว่าเกิดอะไขึ้นกับระบบ   

    เรื่องเกี่ยวกับแก๊สก็เช่นเดียวกัน Lean Burn จะสมบูรณ์ได้ดี เพราะ อาศัยการฉีดน้ำมันตรง ๆ เข้าห้องเผาไหม้เลย ไม่ได้ฉีดที่ท่อไอดี
    เมื่อติดแก๊สแล้ว ไม่ว่าแบบ Fix หรือ หัวฉีด เมื่อเข้า Lean Burn แล้ว แก๊สที่เข้าห้องเผาไหม่ จะมีสภาพเหมือนกับการฉีด ตรง ๆ จากหัวฉีดน้ำมัน
    ได้หรือไม่ อันนี้น่าคิดครับ?  ปัญหาต่าง ๆ ของ 7A-FE twin coil มาจากตรงนี้หรือเปล่า?

    การดูง่าย ๆ ว่าเครื่องเข้า Lean Burn หรือยัง ผมทราบว่า รถที่ญี่ปุ่นบางรุ่นจะมี ไฟ "ECONO" ที่เกจ์วัด โดยต่อตรงมาจาก ECU
    ลองเช็คดูนะครับว่า  7A-FE twin coil ของท่านมีขาตรงนี้อยู่ที่กล่อง ECU หรือเปล่า ก็อาจจะต่อออกมาดูได้ว่า เข้า Lean Burn หรือยัง

    วันนี้ฝากไว้แค่นี้ก่อนครับ ใครมีประสบการณ์อะไร ก็ Post ต่อได้เลยนะครับ
 
 
   
   
   

 

[4d56]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับคุณโต้ง จากที่คุณโต้งว่ามาอาการอืดๆของ7เอทวินคอยล์ที่เกียร์โอเวอร์ไดรฟ์
น่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเครื่องตัวนี้ใช่มั้ยคับ เพราะว่ามันเป็นเกียร์ที่ทำไว้สำหรับการประหยัด ไม่รู้ว่า
ฝาสูบตัวอื่นมีหรือไม่นะคับ แต่ที่ผมเคยเห็น7เอมันจะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิห้องเผาที่ฝาสูบในตำแหน่ง
สูบที่1 ซึ่งมันสอดคล้องกับที่คุณโต้งว่าเลยคับ เครื่องอื่นอาจจะมีแค่น็อคเซ็นเซอร์แต่ทวินคอยล์มีเซ็นเซอร์
วัดอุณหภูมิห้องเผาไหม้เพิ่มมาด้วย ดังนั้นถ้าใครคิดจะเล่นทวินคอยล์ไม่ว่า4เอหรือ7เอ ต้องทำสายไฟ
ให้ครบคับ ไม่งั้นมันจะเป็นเครื่อง"ออทิสติค"คับ คือฉลาดความสามารถสูงแต่ใช้ไม่ได้คับ จากที่ผมเคย
ใช้มาสำหรับ7เอทวินคอยล์เกียร์ออโต้ถ้าจะเอาสมรรถนะเต็มที่ต้องoff o/dคับ ถึงจะทำความเร็วสูงสุดได้คับ
แต่พอได้สัก180-190แล้วกด on o/d มันก้อจะตกลงมาที่160-170แค่นั้นคับ ที่พูดถึงนี่เกียรออโต้นะคับ
ส่วนน้องที่สนิทกัน ใช้7เอทวินคอยล์ เปลี่ยนจากเกียร์ออโต้มาเป็นเกียร์ธรรมดาของ4เอเอฟอี ก้อสามารถ
ลากได้ทะลุ190สบายๆคับ (แก๊สหัวฉีด) ตอนเป็นเกียร์ออโต้ก้อทำได้ประมาณ160-170เช่นกันคับ
ส่วนเครื่องรุ่นใหม่ๆเช่นยาริส ที่ผมเคยใช้ลักษณะก้อคล้ายๆ7เอเช่นกันคับ คือถ้าจะทำความเร็วปลายใน
รถเกียร์ออโต้ต้องoff o/d คับ ถ้า on o/d ไว้มันก้อจะได้ประมาณ160-170เช่นกันคับ แล้วรอบเครื่อง
กับความเร็วของยาริสนี่ใกล้เคียงกับ7เอเลยคับ คือ3000รอบจะได้ประมาณ120ส่วนตัวที่ผมใช้อยู่ขับออก
ต่างหวัด ยาริสจะทำความประหยัดได้พอๆกับ7เอคับ อัตราเร่งไม่หนีกัรมากเท่าไรคับ แต่ถ้ายาริสเกียร์ออโต้
เทียบกับ101เกียร์ออโต้4เอเอฟอี เรื่องอัตรเร่งยาริสทำได้ดีกว่าคับ แต่ความเร็วปลาย101ทำได้ดีกว่าคับ
   ที่ออกนอกเรื่องไม่ใช่อะไรคับ แค่อยากจะบอกว่าเครื่องทวินคอยล์ไม่ว่าจะ4เอหรือ7เอ มันเป็นต้นแบบ
ของเครื่องปัจจุบันคับ เซ็นเซอร์จะเยอะ ดังนั้นสายไฟต้องครบคับถึงจะทำให้เครื่องวมบูรณ์ได้คับ ก่อนจะซื้อเครื่อง
ต้องดูสายไฟด้วยครับว่าได้มาครบเพียงใด ถ้าได้สายไฟครบจะได้เปรียบในเรื่องของความสมบูรณ์คับ ผมเคยเจอ
หลายตัวคับที่เซียงกง สายไฟจะมาไม่ครบ ควรเลือกตัวที่มีพวกกล่องต่างๆมาให้ครบคับ จะใช้หรือไม่ใช้ค่อยว่ากันคับ
ช่างไฟทั่วไปถ้าไม่รู้ระบบ ได้สายไฟมาแค่ไหนเค้าก้อทำแค่นั้นคับ เค้าทำให้เครื่องติดได้เป็นพอคับ บางตัวกล่องdiagnosis
ไม่มีมา เค้าก้อไม่ติดตั้งให้เราเพราะบอกว่าไม่สำคัญ มันจะไม่สำคัญได้ยังไงคับเพราะมันเป็นตัวเช็คเครื่องว่าระบบ
สมบูรณ์มั้ย เป็นต้นน่ะคับ ก่อนทำเครื่องตัวนี้ผมหาช่างไฟมาหลายคนคับ ถามว่าทำไฟ7เอจบมั้ย เค้าบอกว่าจบ ผมยิงคำถาม
ต่อเลยว่า ต้องทำอะไรกับเกียร์มั้ยเพราะเคยได้ยินมาว่าความเร็วมันไม่ขึ้น เค้าบอกว่าไม่ต้องทำอะไร ที่ความเร็วไม่ขึ้น
เพราะสายไฟไม่ครบ แค่นี้ผมก้อเดินออกเลยคับเพราะเค้าไม่รู้ระบบของ7เอทวินคอยล์แล้วคับ ส่วนช่างที่ผมทำไฟด้วย
ผมบอกว่าจะลง7เอทวินคอยล์ เค้าถามผมเลยว่าได้เฟืองท้าย สับเฟืองไมล์มาด้วยหรือป่าว แค่นี้ผมก้อรู้เลยว่าเค้ารู้ระบบคับ
ฉะนั้นก่อนทำเราต้องศึกษาให้รู้ก่อนคับว่าเครื่องมันทำงานด้วยระบบไหน เพราะไม่มีใครบอกเราได้คับว่าช่างคนไหนรู้จริงหรือไม่จริง
ดังนั้นเราต้องรู้ก่อนถึงจะตามหาคนทำให้สิ่งที่เรารู้มาใช้งานได้คับ เอาประสบการณ์มาแชร์กับเพื่อนๆคับ
     

[Hunter_JIK.CZ48]

ผมว่าเปลี่ยนเป็น LPG จะดีกว่านะครับไม่หนักรถมาก+ค่าใช้จ่ายถูกกว่า

[Random]

เห็นพูดกันเรื่อง  7A-FE กัน และที่ผ่านมาเห็นหลายคนมีปัญหากันเยอะครับ มีเรื่องอยากจะบอกกับ 7A-FE และ 4A-FE twin coil ครับ

1. 7A-FE และ 4A-FE twin coil ที่ออกมาเมื่อประมาณปี 1997 นั้นเป็นเครื่องรุ่นแรก ๆ ของ Toyota ที่ปรับปรุงมาเป็นเครื่องแบบ Lean Burn
   หรือเครื่อง ที่บางจังหวะ จะฉีดน้ำมันแบบ บางมาก ประมาณ 22:1 AFR เช่นเมื่อโหลดต่ำ ๆ เพื่อความประหยัด การทำเช่นนี้ได้ เพราะ มีการปรับปรุงการระบบการ
   ฉีดน้ำมันใหม่ครับ โดยเอาหัวฉีดผังไว้ที่บริเวณใกล้ห้องเผา่ไหม้เลย ไม่ได้ฝังไว้ที่ ท่อไอดีแบบเดิม ซึ่งจะช่วย Lean barn ให้ทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น
   
   ข้อดีของการ Lean Burn ก็คือความประัหยัด ที่ได้ครับ

   ส่วนข้อเสียการการ Lean Burn นั้นก็เยอะเช่นกัน ก็คือ
   
   1. จะเกิดความร้อนสูงมากที่ห้องเผาไหม้ แต่เครื่อง 7A-FE twin coil ก็น่าจะออกแบบให้รองรับความร้อนที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอนอยู่แล้ว
   2. เพื่อเกิดความร้อนสูงมาก จาก AFR ที่บาง ก็จะเสี่ยงต่อการ Knock เยอะเช่นกัน 7A-FE twin coil น่าจะมีระบบจัดการตรงนี้ที่ดี
   3. จะเกิด ไอเสียชนิด NOx มากเพราะการเผาใหม่บาง และความร้อนสูงก็จะได้ NOx  ซึ่งถือเป็นแก๊สพิษที่มีอัตรายเยอะเหมือนกัน
       แต่ 7A-FE twin coil เครื่องที่ออก จากโรงงานจะมีระบบ แก้ไขไอเสีย หรือ Emission control ที่ดี ทั้ง EGR และ CAT
       แบบพิเศษ
       
   ปกติแล้ว เมื่อวิ่ง แบบมีอัตราเร่งเยอะ เกียร์ 1-3 เครื่องจะไม่เข้า Lean Burn จะจ่ายน้ำมันแบบปกติ 14.7:1 ส่วน ตอน เดินเบา เข้า Lean  Burn ไหม
   ผมขอเช็คดูก่อน และจะมาบอก 

   การ Lean Burn เท่าที่ผมรู้มา จะเกิดเมื่อ เกียร์ O/D หรือเกียร์ 4 และวิ่งที่ความเร็วประมาณ 120 km/h ขึ้นไป หรือจะ Lean Burn ได้เมื่อเกียร์ 4
   (Auto) แต่ โหลดน้อย ๆ (เหยียบคันเร่งเบา)   

   คำถามคือ หลายคนเคยเจออาการนี้แล้วทั้งนั้น วิ่ง ๆ ไป พอเกียร์ 4 และเหรียบคันเร่งเบา A/F บางลงมาก ไปจน 20 - 22 AFR 
   บางคนไม่มีปัญหาอะไร บางคน อัตราเร่งลดลงไปเยอะ เรียกว่าอืดเลย

    บางคนก็เขกกระจาย

    บางคนก็เครื่องร้อนจัด จนผิดปกติ

    สิ่งเหล่านี้แสดงว่า 7A-FE twin coil ของเราน่าจะมีปัญหาที่เข้า Lean Burn ได้ไม่สมบูรณ์ครับ คงตั้งเช็คว่าเกิดอะไขึ้นกับระบบ   

    เรื่องเกี่ยวกับแก๊สก็เช่นเดียวกัน Lean Burn จะสมบูรณ์ได้ดี เพราะ อาศัยการฉีดน้ำมันตรง ๆ เข้าห้องเผาไหม้เลย ไม่ได้ฉีดที่ท่อไอดี
    เมื่อติดแก๊สแล้ว ไม่ว่าแบบ Fix หรือ หัวฉีด เมื่อเข้า Lean Burn แล้ว แก๊สที่เข้าห้องเผาไหม่ จะมีสภาพเหมือนกับการฉีด ตรง ๆ จากหัวฉีดน้ำมัน
    ได้หรือไม่ อันนี้น่าคิดครับ?  ปัญหาต่าง ๆ ของ 7A-FE twin coil มาจากตรงนี้หรือเปล่า?

    การดูง่าย ๆ ว่าเครื่องเข้า Lean Burn หรือยัง ผมทราบว่า รถที่ญี่ปุ่นบางรุ่นจะมี ไฟ "ECONO" ที่เกจ์วัด โดยต่อตรงมาจาก ECU
    ลองเช็คดูนะครับว่า  7A-FE twin coil ของท่านมีขาตรงนี้อยู่ที่กล่อง ECU หรือเปล่า ก็อาจจะต่อออกมาดูได้ว่า เข้า Lean Burn หรือยัง

    วันนี้ฝากไว้แค่นี้ก่อนครับ ใครมีประสบการณ์อะไร ก็ Post ต่อได้เลยนะครับ
 
 
   
  
   

 

ขอบคุณ ครับ ที่ให้ข้อมูลที่เพิ่มเติมและได้ความรู้เพิ่มอีก ผมก็สาวก 7A เหมือนกันครับ
อ่านแล้วก็เลยมีคำถามต่อ ว่า  ของผมเป็นระบบจานจ่าย มันมีระบ Learn Burn ด้วยหรือเปล่าครับ
ตอนนี้ 7A ในรถผม รอบเดินเบา วัดค่า A/F ได้ 14.7:1 ครับ  ส่วนรอบสูงๆ มันจะสวิง จาก 14.7:1 ไปหนา สลับกันไปหล่ะครับ
แล้วที่ว่า กล่อง ECU ที่มีระบบ Learn Burn ถ้าเปิดฝากล่อง ECU มาแล้ว ที่ขั้วต่อ Conecter จะพิมพ์ตัวอักษรว่าอย่างไรบนแผ่นปริ้นท์ หรือขั้วที่เท่าไหร่ครับ  แล้วเวลาต่อหลอดไฟที่แสดงผลสัญญาณจะต่อเทียบกัยกราวด์หรือเทียบกับไฟบวกครับ
ผมลืมบอกไปว่า กล่อง ECU 7A ของผมเป็นกล่อง ECT แต่ผมไม่ได้ใช้ฟังชั่นมัน เพราะผมเอาเกียร์ธรรมดามาชนกับเครื่องตัวนี้ที่ว่าแหล่ะครับ 

[Tong KKT OBD]

รุ่นจานจ่าย คงยังไม่มี Lean burn ครับ เพราะ Lean burn ต้องฝ้งหัวฉีดใหม่ และ จุดระเบิด ด้วยคอยคู่

Lean burn มีหลังจากปี 1997 กับเครื่อง Twin coil เป็นต้นไปครับ จะอยู่ในตัว Carina AT220 ตัวนี้ที่ญี่ปุ่น มีทั้งแบบ ระบบจ่ายน้ำมัน ธรรมดา และแบบ Lean burn
คงเป็น option ให้เลือกซื้อได้ครับ   Twin coil  คงต้องดูที่ตำแหน่งฝังหัวฉีดครับ ถ้าอยู่ที่
ใกล้ห้องเผาใหม่ น่าจะเป็น Lean burn ครับ

ส่วนตัวผม  7A-FE Twin coil ที่เห็นพวก AE เราเอามาลงน่าจะเป็น Lean burn ทั้งหมดนะ

เคยถามเด็กที่เชียงกง เขาบอกว่าเคยเห็น 7A-FE Twin coil  แบบฝังหัวฉีดที่ท่อไอดี (ไม่ใช้ Lean burn) ก็มีหลุดเข้ามา

ผมเอา Wiring มาให้ดูครับ เกิดจะหาตำแหน่งต่อหลอดไฟ Econo เอาไว้ดูเวลา เข้า Lean burn
(อันนี้เป็นเครื่อง OBD2 นะครับ เครื่อง OBD1 จะมีจุดที่แตกต่างอยู่)