เห็นว่าใกล้จะถึงวันงาน Drag ขึ้นมาทุกทีแล้ว วันนี้เลยขอมาแชร์ประสบการ์ณการ จากการแข่งขันครั้งผ่านๆมา ให้ลองอ่านกันนะครับ
เผื่อจะได้เพิ่มบรรยากาศ ความมันส์ ความสนุกสนาน ของนักแข่ง หรือทางด้านกองเชียร์ก็จะได้ ร่วมลุ้นและตื่นเต้นกัน ไม่มากก็น้อยล่ะ
ขอยกตัวอย่างในรุ่นการแข่งขัน Bracket ละกันครับ ผมว่ารถทุกคันสามารถร่วมสนุกได้มากสุดแล้ว
ไม่จำเป็นต้องโมดิฟายรถให้แรงมากมาย ก็วิ่งได้แบบสบายๆ แต่ก็ต้องให้อยู่ในพื้นฐานความจริง ที่รถสามารถทำเวลาได้
มาทำความรู้จักกับกติกา คร่าวๆของ Bracket กันก่อนดีกว่า อย่างเช่น Bracket รุ่น 18 วินาที
ดูท่าแล้วน่าจะลงกันเยอะ เพราะเครื่อง 4a, 7a, 4a-ge ทั้งฝาขาว ฝาดำ ฝาลาย เกียร์ธรรมดา หรือออโต้ ก็น่าจะได้หมด
ชื่อรุ่นก็เป็นตัวกำหนดแล้วว่า ทำยังไงก็ได้ ให้รถเราวิ่งได้ในพิกัด 18 วินาที ผุ้ใดทำเวลาได้ใกล้เดียงสุด ก็ได้เข้ารอบไป
แต่ก็มีข้อกำหนดอยู่ว่า ถ้าวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนเวลาที่กำหนด เวลาทะลุไป ถึงเวลาจะใกล้เคียงกว่า แต่ก็ถือว่าตกรอบนะครับ
อย่างเช่น
Track A วิ่งได้เวลา 17.90 แต่
Track B วิ่งได้ 18.30 ก็ให้ถือว่า
Track B เป็นผู้ชนะได้เข้ารอบไป
แต่ถ้า
Track A วิ่งได้เวลา 18.10 แต่
Track B วิ่งได้ 18.30 อันนี้แน่ๆครับ Track A ชนะแบบไม่มีข้อกังขามาถึงเรื่องของสัญญาณไฟในสนาม ดูจากตัวอย่างภาพด้านล่างได้เลยครับ น่าจะพอเข้าใจ
ที่ผ่านๆมา การเข้าไฟของนักแข่ง ค่อนข้างทำให้การแข่งขันทุกครั้งยืดออกไปพอสมควร จะพาทำให้บรรยากาศน่าเบื่อ
ไม่ยากครับ วันนี้เอาทริคมาแนะนำ เริ่มแรกเลย ต้องใจเย็นๆก่อนครับ ค่อยๆขับเข้าจุดสตาร์ทอย่างช้าๆ ไม่ต้องตื่นเต้น
สังเกตดูสัญญาณไฟแถวบนสุด (Pre Stage Light) ถ้าติดแล้ว แล้วก็ค่อยๆเคลื่อนรถเข้าไปเบาๆ อีกนิดให้สัญญาณไฟ
ในแถวที่สองติด (Stage Light) พอติดพร้อมกันทั้งสองแถวแล้ว (ตามตัวอย่างรูปด้านล่าง) ทีนี้ก็เตรียมความพร้อมที่จะได้มันส์กันได้แล้ว
ฝากไว้นิดนึงครับ ที่เคยเห็นมา มีนะครับ ประเภทว่า ขับเข้ามาเร็ว แล้วเลยออกไป เลยต้องขับถอยหลังเพื่อเข้าจุดสตาร์ท
พอกรรมการสนามปล่อยไฟเขียว คงจะตื่นเต้นมาก ดันใส่เกียร์ถอยหลังไว้ แล้วกดคันเร่งออกตัวไป
ปรากฎว่า รถเคลื่อนตัวออกไปด้านหลัง ไปชนกับรถ ที่รอปล่อยตัวในรอบต่อไป หวาดเสียวมากๆ
ต่อมาเป็นเรื่องของการชิงไฟออกตัวครับ จำเป็นมากๆในช่วงตอนซ้อม ยิ่งซ้อมเยอะ ยิ่งได้เปรียบมากๆ
เพราะจะได้รู้เวลาใกล้เคียงมากที่สุด ที่รถเราสามารถทำได้ หรือพยายามทำให้ใกล้เคียงกับเวลา ET มากที่สุด
ตอนลงแข่งจริงค่อยใช้วิธีทดเวลาเอา ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการขับรักษาระดับให้ได้ แล้วก็ดวงมาช่วยล่ะครับ ฮิๆ
อย่างตอนผมวิ่งในรุ่น 18 วิ ตอนซ้อมได้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 16.20-16.30 เกือบทุกๆรอบที่ซ้อม
พอตอนลงแข่งจริง ก็ใช้วิธีทดเวลาเอา โดยมองจากป้ายเวลา ทดไปวินาทีเศษๆ แล้วค่อยกดคันเร่งส่งออกไป ก็ได้เวลาออกมาใกล้เคียงสุด
ก่อนถึงปลายเส้น จะมีป้ายเวลาตัวใหญ่ๆอีก ไม่ต้องไปสนใจแล้วครับ กดให้เต็มที่ที่เราซ้อมมาเลย
เพราะส่วนมากจะตกม้าตายตรงนี้แหละ พอมองเห็นเวลายังไม่ถึง ก็ยกคันเร่งกันเป็นแถว ผลออกมา เลยไปเป็นวิเลย ฮิๆ
ก็เป็นประสบการ์ณเล็กๆน้อยๆ เอามาฝากละกันนะครับ เผื่อว่าจะเอาไปลองใช้ดูได้บ้าง
สุดท้ายแล้วยังไง ก็เอามันส์มากกว่าครับ ถือซะว่าเข้ามาร่วมกิจกรรมที่ทางคลับเค้าจัดให้
แต่ถ้ายังไง คราวนี้ โซนธนบุรี ได้คว้าถ้วยรางวัลของทุกรุ่นมา ก็จะดีใจมากครับ
ทำงานก่อนละครับ เด๋วนึกไรดีๆได้อีก จะเอามาเล่าสู่กันฟังนะครับกระผม