อยากรู้เกี่ยวกับ โช๊คหัวกลับ-ไม่กลับ ข้อดีข้อเสีย

[>> OaTzy << SZ#013]

ที่เค้าว่ากันว่าหัวกลับทนกว่า ทำไมถึงทนกว่า ทนกว่ายังไง มีข้อดียังไงอ้ะ อยากได้แบบวิชาการเลยอ้ะ รออาจารย์ใหญ่ทั้งหลายมาตอบดีก่า    

[6.9]

ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ค่อยแน่ใจ น่าจะเป็นที่ พอหัวมันกลับ แกนมันก็เลยใหญ่กว่าปรกติ ทำให้แข็งแรงขึ้น
แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ประโยชน์แบบพวกจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์วิบากหรือเปล่า เรื่องน้ำหนักใต้สปริงค์ ทำให้ช่วงล่าง ทำงานได้เร็วขึ้น และจุดยึดต่างๆรับแรงน้อยลง

รอเซียนๆเค้ามาตอบอีกที

จากรูปกระบอกด้านซ้ายเป็นหัวกลับ

[>> OaTzy << SZ#013]

อืมม....น้ำหนักใต้สปริงน่าจะมีส่วน

[carboys]

Upside-Down ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า กลับบนล่างกัน หมายถึงอะไร

เคยเห็นตู้เย็น Upside-Down ไหม ที่ช่องแช่แข็งมันอยู่ข้างล่างน่ะ เหมือนกันเลย
Shock Absorber แบบ Upside-Down มันเอาตัว Shock ที่ควรอยู่ในเสื้อ Strut ไปไว้
ด้านบน ส่วนที่เป็นแกนจริงๆ อันเล็กๆ น่ะ อยู่ในเสื้อ Strut ครับ

ที่นี้แล้วมันแข็งแรงได้อย่างไร
ที่มันแข็งแรงมากกว่า แบบธรรมดา เพราะว่า เวลาแรงกระทำกับ Shock Absorber นั้น
ในแนวขนาดหรือแนวเฉือน แกนจะเขย่า ทำให้เกิดการสึกหรอที่ตัวยึดภายในได้ และเกิดความ
ไม่มั่นคงของเสื้อและกระบอกด้วย การที่กลับด้านกันนั้น ทำให้ตัว shock ab มีความแข็งแรงขึ้น
เนื่องจากตัวกระบอก (อันใหญ่ๆ ที่เคยคิดว่าเป็นแกนนั่นแหล่ะ) เลือน อยู่กับเสื้อ Shock Absorber
แน่นอน ขนาดมันใกล้กัน เวลาเลื่อน ก็จะมั่นคงกว่า ด้วยความแข็งแรงแบบนี้ เลยนำมาใช้กับ
แมงกาไซด์ทุกๆ คันในส่วนตะเกียบล้อหน้า แล้วก็ในส่วนด้านหลังด้วย (สำหรับรุ่นแรงๆ)
นึกดูว่า ถ้าล้อหน้าใช้ shock แบบทั่วไป แกนอยู่ด้านบน แกนคงเขย่าหักไปแล้วใช่ไหม

แต่สำหรับรถยนต์ มันไม่จำเป็นต้องทำขายทุกคัน ทุกรุ่น เพราะมันมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้
ความแข็งแรงช่วงล่างเพิ่มขึ้นได้ และต้องทำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องการมาเก็บรายละเอียด
ตรงนี้ เพื่อความแข็งแรง ก็เลือกใช้ upside-down กันไป และเพราะว่า กระบอก shock ab มัน
อยู่ด้านบน เลยทำให้ดัดแปลงเป็นแบบ sub nitro tank กันง่ายขึ้นไปอีก แล้วก็เก็บ sub tank ที่ว่า
ไว้กับตัวรถเลย แบบธรรมดาก็ทำได้แต่มักจะติดกับเสื้อที่อยู่ด้านล่าง ทำให้น้ำหนักช่วงล่างเพิ่มขึ้น
ไปอีก (ไม่เป็นผลดีและเกะกะด้วย)

[Bank115PowerHaus]

ทนมากครับคอนเฟิมเลย

ซื้อมือสองมาใช้สองจะสามปีแล้วยังไม่แตกเลย

ขับเกือบทุกวันแข่งด้วย

[assduck]

อืมๆๆ รับทราบ

[ガレージ7 タカラショップ￥￥￥んｰｰｰｰ]

ทนมากครับคอนเฟิมเลย

ซื้อมือสองมาใช้สองจะสามปีแล้วยังไม่แตกเลย

ขับเกือบทุกวันแข่งด้วย

ขับโหดด้วยครับ ฝีมืออีก คันนี้ แอบชอบด้วยนะนี้

[wasabi]

ข้อดี คง เยอะแยะ อ่ะ  แต่ ข้อเสีย  คือ เสียตังค์ค่าตัวมัน แน่ๆ  55+

[Bank115PowerHaus]

ทนมากครับคอนเฟิมเลย

ซื้อมือสองมาใช้สองจะสามปีแล้วยังไม่แตกเลย

ขับเกือบทุกวันแข่งด้วย

ขับโหดด้วยครับ ฝีมืออีก คันนี้ แอบชอบด้วยนะนี้

ขอบคุณครับพี่ ใจมันไปแต่รถไม่ไปครับเลยต้องแค้นสุดๆ

[อู๋ อยุธยา]

Upside-Down ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า กลับบนล่างกัน หมายถึงอะไร

เคยเห็นตู้เย็น Upside-Down ไหม ที่ช่องแช่แข็งมันอยู่ข้างล่างน่ะ เหมือนกันเลย
Shock Absorber แบบ Upside-Down มันเอาตัว Shock ที่ควรอยู่ในเสื้อ Strut ไปไว้
ด้านบน ส่วนที่เป็นแกนจริงๆ อันเล็กๆ น่ะ อยู่ในเสื้อ Strut ครับ

ที่นี้แล้วมันแข็งแรงได้อย่างไร
ที่มันแข็งแรงมากกว่า แบบธรรมดา เพราะว่า เวลาแรงกระทำกับ Shock Absorber นั้น
ในแนวขนาดหรือแนวเฉือน แกนจะเขย่า ทำให้เกิดการสึกหรอที่ตัวยึดภายในได้ และเกิดความ
ไม่มั่นคงของเสื้อและกระบอกด้วย การที่กลับด้านกันนั้น ทำให้ตัว shock ab มีความแข็งแรงขึ้น
เนื่องจากตัวกระบอก (อันใหญ่ๆ ที่เคยคิดว่าเป็นแกนนั่นแหล่ะ) เลือน อยู่กับเสื้อ Shock Absorber
แน่นอน ขนาดมันใกล้กัน เวลาเลื่อน ก็จะมั่นคงกว่า ด้วยความแข็งแรงแบบนี้ เลยนำมาใช้กับ
แมงกาไซด์ทุกๆ คันในส่วนตะเกียบล้อหน้า แล้วก็ในส่วนด้านหลังด้วย (สำหรับรุ่นแรงๆ)
นึกดูว่า ถ้าล้อหน้าใช้ shock แบบทั่วไป แกนอยู่ด้านบน แกนคงเขย่าหักไปแล้วใช่ไหม

แต่สำหรับรถยนต์ มันไม่จำเป็นต้องทำขายทุกคัน ทุกรุ่น เพราะมันมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้
ความแข็งแรงช่วงล่างเพิ่มขึ้นได้ และต้องทำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องการมาเก็บรายละเอียด
ตรงนี้ เพื่อความแข็งแรง ก็เลือกใช้ upside-down กันไป และเพราะว่า กระบอก shock ab มัน
อยู่ด้านบน เลยทำให้ดัดแปลงเป็นแบบ sub nitro tank กันง่ายขึ้นไปอีก แล้วก็เก็บ sub tank ที่ว่า
ไว้กับตัวรถเลย แบบธรรมดาก็ทำได้แต่มักจะติดกับเสื้อที่อยู่ด้านล่าง ทำให้น้ำหนักช่วงล่างเพิ่มขึ้น
ไปอีก (ไม่เป็นผลดีและเกะกะด้วย)

เนียน

ใช้ Bilstein อยู่ โอเคเลย

[>> OaTzy << SZ#013]

Upside-Down ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า กลับบนล่างกัน หมายถึงอะไร

เคยเห็นตู้เย็น Upside-Down ไหม ที่ช่องแช่แข็งมันอยู่ข้างล่างน่ะ เหมือนกันเลย
Shock Absorber แบบ Upside-Down มันเอาตัว Shock ที่ควรอยู่ในเสื้อ Strut ไปไว้
ด้านบน ส่วนที่เป็นแกนจริงๆ อันเล็กๆ น่ะ อยู่ในเสื้อ Strut ครับ

ที่นี้แล้วมันแข็งแรงได้อย่างไร
ที่มันแข็งแรงมากกว่า แบบธรรมดา เพราะว่า เวลาแรงกระทำกับ Shock Absorber นั้น
ในแนวขนาดหรือแนวเฉือน แกนจะเขย่า ทำให้เกิดการสึกหรอที่ตัวยึดภายในได้ และเกิดความ
ไม่มั่นคงของเสื้อและกระบอกด้วย การที่กลับด้านกันนั้น ทำให้ตัว shock ab มีความแข็งแรงขึ้น
เนื่องจากตัวกระบอก (อันใหญ่ๆ ที่เคยคิดว่าเป็นแกนนั่นแหล่ะ) เลือน อยู่กับเสื้อ Shock Absorber
แน่นอน ขนาดมันใกล้กัน เวลาเลื่อน ก็จะมั่นคงกว่า ด้วยความแข็งแรงแบบนี้ เลยนำมาใช้กับ
แมงกาไซด์ทุกๆ คันในส่วนตะเกียบล้อหน้า แล้วก็ในส่วนด้านหลังด้วย (สำหรับรุ่นแรงๆ)
นึกดูว่า ถ้าล้อหน้าใช้ shock แบบทั่วไป แกนอยู่ด้านบน แกนคงเขย่าหักไปแล้วใช่ไหม

แต่สำหรับรถยนต์ มันไม่จำเป็นต้องทำขายทุกคัน ทุกรุ่น เพราะมันมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้
ความแข็งแรงช่วงล่างเพิ่มขึ้นได้ และต้องทำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องการมาเก็บรายละเอียด
ตรงนี้ เพื่อความแข็งแรง ก็เลือกใช้ upside-down กันไป และเพราะว่า กระบอก shock ab มัน
อยู่ด้านบน เลยทำให้ดัดแปลงเป็นแบบ sub nitro tank กันง่ายขึ้นไปอีก แล้วก็เก็บ sub tank ที่ว่า
ไว้กับตัวรถเลย แบบธรรมดาก็ทำได้แต่มักจะติดกับเสื้อที่อยู่ด้านล่าง ทำให้น้ำหนักช่วงล่างเพิ่มขึ้น
ไปอีก (ไม่เป็นผลดีและเกะกะด้วย)

เอ๊าะ ๆ ๆ อ๊ออออ เห็นภาพแล้ววว

[AE สี กะปิ]

ขนาด บินมายังไม่เป็นไรเลย

[COROLLABOY]

Upside-Down ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า กลับบนล่างกัน หมายถึงอะไร

เคยเห็นตู้เย็น Upside-Down ไหม ที่ช่องแช่แข็งมันอยู่ข้างล่างน่ะ เหมือนกันเลย
Shock Absorber แบบ Upside-Down มันเอาตัว Shock ที่ควรอยู่ในเสื้อ Strut ไปไว้
ด้านบน ส่วนที่เป็นแกนจริงๆ อันเล็กๆ น่ะ อยู่ในเสื้อ Strut ครับ

ที่นี้แล้วมันแข็งแรงได้อย่างไร
ที่มันแข็งแรงมากกว่า แบบธรรมดา เพราะว่า เวลาแรงกระทำกับ Shock Absorber นั้น
ในแนวขนาดหรือแนวเฉือน แกนจะเขย่า ทำให้เกิดการสึกหรอที่ตัวยึดภายในได้ และเกิดความ
ไม่มั่นคงของเสื้อและกระบอกด้วย การที่กลับด้านกันนั้น ทำให้ตัว shock ab มีความแข็งแรงขึ้น
เนื่องจากตัวกระบอก (อันใหญ่ๆ ที่เคยคิดว่าเป็นแกนนั่นแหล่ะ) เลือน อยู่กับเสื้อ Shock Absorber
แน่นอน ขนาดมันใกล้กัน เวลาเลื่อน ก็จะมั่นคงกว่า ด้วยความแข็งแรงแบบนี้ เลยนำมาใช้กับ
แมงกาไซด์ทุกๆ คันในส่วนตะเกียบล้อหน้า แล้วก็ในส่วนด้านหลังด้วย (สำหรับรุ่นแรงๆ)
นึกดูว่า ถ้าล้อหน้าใช้ shock แบบทั่วไป แกนอยู่ด้านบน แกนคงเขย่าหักไปแล้วใช่ไหม

แต่สำหรับรถยนต์ มันไม่จำเป็นต้องทำขายทุกคัน ทุกรุ่น เพราะมันมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้
ความแข็งแรงช่วงล่างเพิ่มขึ้นได้ และต้องทำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องการมาเก็บรายละเอียด
ตรงนี้ เพื่อความแข็งแรง ก็เลือกใช้ upside-down กันไป และเพราะว่า กระบอก shock ab มัน
อยู่ด้านบน เลยทำให้ดัดแปลงเป็นแบบ sub nitro tank กันง่ายขึ้นไปอีก แล้วก็เก็บ sub tank ที่ว่า
ไว้กับตัวรถเลย แบบธรรมดาก็ทำได้แต่มักจะติดกับเสื้อที่อยู่ด้านล่าง ทำให้น้ำหนักช่วงล่างเพิ่มขึ้น
ไปอีก (ไม่เป็นผลดีและเกะกะด้วย)

รูปประกอบคำอธิบายของพี่ boy ครับ