AE. Racing Club
10 มกราคม 2025 01:09:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดโวลท์สำคัญยังไง  (อ่าน 5139 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nb
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 59


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 กันยายน 2009 01:49:14 »

สังเกตุหลายๆ คนที่ติดเกจ์มากกว่า 1 ตัวนี่ ตัวที่มักจะไม่พลาดเลยคือวัดโวลท์ อยากรู้ว่ามันสำคัญขนาดไหนอ่ะครับ วัดน้ำอันนี้ผมตั้งใจจะติดอยู่แล้ว เพราะถ้าร้อนเกินนี่ถึงเครื่องพัง แล้ววัดโวลท์ล่ะครับ
บันทึกการเข้า
arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 06:39:52 »

ติกเพราะ  หน้าปัดรถเดิมๆ มันไม่มีมาคับ
บันทึกการเข้า
wasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 08:04:28 »

ของผม หน้าปัทม์  เดิมๆ มันมี มาอยู่แล้ว ครับ

ประโยชน์ ก็ คือ ให้ ตรวจดู แบตเตอรี่ กับ ระบบไฟ ให้ รถ ครับ ว่า แรงดัน มัน เพียงพอ หรือไม่  น่ะครับ
บันทึกการเข้า
สมถวิล@ปทุมNO.9
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,670


ลำปางไม่หนาวเท่าลำพัง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 08:18:39 »

ไม่ได้ติดเหมือนกัน แต่อาศัยไปดูที่คาปาเอา ซุบซิบ
บันทึกการเข้า
Night54
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,394



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 08:24:19 »

ผมคนนึงที่ไม่ชอบติดเกจเท่าไหร่ ด้วยเหตผลที่ว่ากลัวมันบดบังวิวทิวทัศน์ อิอิ
แต่ก็อยากได้วัดโวลท์คับ เลยซื้อเรือนไมล์ FX 9000rpm มาใส่แทน
แต่ก้อไม่รู้ว่ามันมีประโชยน์อะไรบ้าง ตอนนี้คงยังไม่ได้ใช้อะไรนอกจากดูเข็มมันขยับเวลาสตาร์ท
บันทึกการเข้า
noomtp
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 694



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 09:12:32 »

ไว้ดูกำลังไฟแบตอ่ะครับ ผมว่าเหมาะสำหรับ auto มากกว่านะครับ กัวไฟไม่พอสตาร์ท ถ้าเกียร์ธรรมดายังพอเขนกระตุกสตาร์ทได้
บันทึกการเข้า

ขายผ้าเบรคN SPORTS,N BRAKE,PROJECT MU ราคาพิเศษ
081-649-1275,083-222-7368(หนุ่ม)
noohnu
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,857


ค่อยๆ กลับมาหล่ออย่างต่อเนื่อง


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 09:21:36 »

ไว้ดูกำลังไฟแบตอ่ะครับ ผมว่าเหมาะสำหรับ auto มากกว่านะครับ กัวไฟไม่พอสตาร์ท ถ้าเกียร์ธรรมดายังพอเขนกระตุกสตาร์ทได้
ของผมเกียร์ ธรรมดาครับ ไฟหมดไปก็หลายที ไม่เคยเข็นกระตุกซ๊ากที

ปล. ผมก็ใช้ดูกำลังไฟของ Battery น่ะครับ เพราะแบตมันก็จะ 3 ปีหล๊ะ บางครั้งบิดกุญแจมันก็ตกมาที่ 11 Volt......เสี๊ยว เสียว...กลัวสตาร์ทม่ะติด ถอนหายใจ
บันทึกการเข้า

เจ้าแม่ SRC ™
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,659


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 09:52:17 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้  
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 09:57:52 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
ตรบมือ
บันทึกการเข้า
yuky
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,462


Raceclub ศรีนครินทร์60 เครื่อง,แก๊ส,ช่วงล่าง 089-6616752คับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 09:59:00 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้  
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ


ด้านบนชัดเจนคับ
ผมก็ติดคับใว้ดูว่าแบตฯและไดชาร์ตทำงานปกติหรือไม่
ใว้กันกินข้าวลิงคับ
บันทึกการเข้า



RN3 type RS/BB5 type Si
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 12:35:52 »

แล้วถ้า เปิดไฟเลี้ยวแล้ว เข็มกระดิก ละ ปกติไหมครับ
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
Night54
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,394



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 12:41:42 »

ขอผมก้อกระดิกเหมือนกัน แต่ว่าแบตผม2ปีแล้ว ตามอายุแบตแล้ว ใกล้ได้เวลาเปลี่ยนแล้วซิ แหะหๆ
บันทึกการเข้า
~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,930


: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 15:05:12 »

แล้วถ้า เปิดไฟเลี้ยวแล้ว เข็มกระดิก ละ ปกติไหมครับ

ปกติครับแต่จะกระดิกไม่ค่อยมาก เพราะไฟเลี้ยวกระพริบ 1 ครั้งเท่ากับไฟ 3 หลอดกระพริบพร้อมกัน ย่อมมีผลบ้างล่ะกินหลายวัตต์อยู่ (ไฟหน้าปัด, ไฟเลี้ยวหน้า, ไฟเลี้ยวท้าย บางคนมีที่แก้มอีก) ถ้าเปิดไฟฉุกเฉินอันนี้แกว่งเห็นๆ ครับ

...........................................

ส่วนเรื่องสำคัญไม๊ มีไว้มันก็ดีอ่ะครับ ไว้ดูค่าโวลท์ของแบตว่ามีพอให้สตาร์ทรถรึเปล่า หรือระหว่างขับอยู่ไดชาร์จป้อนไฟเข้าแบตปกติหรือไม่ บางท่านชอบดับเครื่องเปิดวิทยุนอนดูหนังฟังเพลงพอจะสตาร์ทรถดันไม่ติดต้องลำบากคนอื่นให้เข็นให้พ่วงแบตก็มีเยอะ ก็เพราะไม่มีเครื่องมือให้เช็คว่าไฟเหลืออยู่เท่าไหร่ หรือบางคนเชื่อว่าไดจะอยู่ยงคงกระพัน พอมีปัญหาขึ้นมาทีก็ร้อนๆ หนาวๆ เพราะไม่รู้เกิดปัญหาที่จุดไหน บางคนเปลี่ยนไดทั้งลูกเป็นพันทั้งที่แค่เปลี่ยนถ่านได 300 ก็หายแล้ว หรือบางคนแค่แบตเสื่อมแต่โดนช่างหลอกให้รื้อระบบไฟจ่ายกันบานและไม่มีรถขับหลายวัน ตอนรับรถพร้อมรับบิลก็แทบหงาย ล้วนมีตัวอย่างให้เห็นประปรายครับ

การมีเครื่องมือพวกนี้ช่วยไว้ ถ้าเงินพอเหลือบ้างก็เลือกเฉพาะตัวสำคัญมาติดไว้ก็ไม่เสียหายครับ ส่วนรูปแบบก็มีหลากหลายขึ้นอยู่กับประโยชน์ใช้สอยและความชอบครับ มีทั้งเป็นเกจ์ตั้ง และวัดแบบดิจิตอล (ผมชอบอย่างหลังมากกว่าเพราะละเอียดดี รวมถึงเราเลือกได้ว่าจะดูหรือไม่ดูก็แค่ปิดสวิตช์เท่านั้น) ก็เลยเอามาขายซะเลย ถูกกว่าแบบเกจ์ด้วยอ่ะครับ อิอิ

มีข้อมูลอยู่ที่ทู้นี้ --->
  http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=49386.0
บันทึกการเข้า

smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 08 กันยายน 2009 21:00:25 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
ความรู้สุดๆ
บันทึกการเข้า

jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 09 กันยายน 2009 06:03:24 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ

 ตรบมือ ตรบมือ ตรบมือ สุดยอด คำนับ
บันทึกการเข้า

khan_ae++101++
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 734



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 09 กันยายน 2009 09:39:27 »

ขอบคุณครับ คำนับ
บันทึกการเข้า

ช้าก่อน!!! ท่านผู้เจริญแล้ว........................
เค้าว่ากันว่า รถแรงอยู่อู่.........แล้วรถกรูไม่แรงเสีอกไปอยู่กับเค้าทำไม???แสรดดดดด
katawutc
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 239



ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 09 กันยายน 2009 10:51:09 »

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
ชัดเจนครับ
บันทึกการเข้า

ไม่มีมิตรแท้  ไม่มีศัตรูถาวร
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!