AE. Racing Club
10 มกราคม 2025 18:57:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 [3] 4  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อ่านดูเพื่อสุขภาพของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง มีประโยชน์ครับ  (อ่าน 12943 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 16 กันยายน 2009 08:53:31 »

โยเกิร์ตวันละถ้วย ช่วยดูแลสุขภาพ   เต้น


 ทุกวันนี้ สุขภาพของเราถูกบั่นทอนอยู่ตลอดเวลาด้วยปัญหาความเครียด และรูปแบบการดำรงชีวิตยุคใหม่ที่รีบเร่งรัดตัว จะหาเวลากิน นอน พักผ่อน หรือออกกำลังกายกันแต่ละทีก็ช่างยากเย็น ถ้าคิดจะดูแลสุขภาพด้วยวิธีง่าย ๆ ตามคติฝรั่งสมัยก่อน ด้วยการกินแอปเปิ้ลวันละผลเห็นจะไม่พอ คติฝรั่งสมัยนี้เค้าหันมากินโยเกิร์ตวันละถ้วย กันแล้ว  โยเกิร์ตวันละถ้วยให้อะไรกับเราบ้าง? โยเกิร์ตเนื้อครีมข้น รสธรรมชาติ 1 ถ้วย ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ใกล้เคียงกับนมสด 1 แก้ว ได้แก่ แคลเซียม โปรตีนคุณภาพสูง คาร์โบไฮเดรต รวมทั้งวิตามิน เอ บี2 และบี12 แต่ให้พลังงานน้อยกว่า โดยคุณสมบัติที่เหนือกว่านมสดประการสำคัญก็คือ โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์สุขภาพที่มีชีวิตผสมอยู่ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น “โพรไบโอติก” ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราหลายประการ ทั้งช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตส ทำให้ผู้ที่ดื่มนมวัวไม่ได้ มีโอกาสได้รับสารอาหารจากนมได้เต็มที่ โดยไม่เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง หรือท้องเสีย ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก ควบคุมระบบนิเวศน์ในระบบทางเดินอาหารให้อยู่ในภาวะสมดุล ช่วยป้องกันจุลินทรีย์ก่อโรคไม่ให้ทำอันตรายกับร่างกาย และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารภูมิคุ้มกันออกมาต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บจากการศึกษา พบว่า ผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวันและมีจุลินทรีย์สุขภาพเหล่านี้อยู่ในร่างกายมาก ๆ นั้น นอกจากจะมีระบบขับถ่ายที่ดี มีรูปร่างผิวพรรณดีแล้ว ยังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยเป็นอะไรกับใครเขาอีกด้วย เพราะอย่างนี้ โยเกิร์ตถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นยาอายุวัฒนะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  
 
                           รักและดูแลสุขภาพครับ
 
                                 ตรบมือ
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 18 กันยายน 2009 17:14:32 »

 ประกาศ  ปวดหัว - ให้กินปลามากฯ ทั้งปลาทะเล และ น้ำจืด เพราะน้ำมันจากตัวปลา
 
                      มีสรรพคุณ ป้องกันการปวดหัว กินพร้อมฯ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลงได้
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
-- James _ Za --
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,068


ทำดีอยากหวังให้ใครเห็น แค่เรารู้ว่าทำดีก็พอ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 18 กันยายน 2009 17:42:46 »

เป็นวุ่นในตาเสื่อมอยู่ แต่ก่อนติดเกม เล่นทั้งวัน

แต่เป็นแค่จุดเดียวเล็กๆนะ จะเห็นเป็นจุด ดำๆ จางๆ ลอยอยู่ข้างหน้า ทีแรกนึกว่าอะไรมาติดที่ตา

ถ้ามองไปหากำแพงสีขาวจะเห็นชัด ในกรณีที่มองวัตถุที่อยู่ใกล้กว่ากำแพง แต่ถ้ามองอะไรทั่วไป หรือเพ่งไปที่กำแพงจะไม่เห็น

บางทีก็ลืมว่าตัวเองเป็นอยู่

อย่าเล่นคอมแล้วปิดไฟ แล้วก็พยายามพักสายตาบ่อยๆ  กาดึ๊บ.. กาดึ๊บ..
บันทึกการเข้า

aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 18 กันยายน 2009 17:45:05 »

เป็นวุ่นในตาเสื่อมอยู่ แต่ก่อนติดเกม เล่นทั้งวัน

แต่เป็นแค่จุดเดียวเล็กๆนะ จะเห็นเป็นจุด ดำๆ จางๆ ลอยอยู่ข้างหน้า ทีแรกนึกว่าอะไรมาติดที่ตา

ถ้ามองไปหากำแพงสีขาวจะเห็นชัด ในกรณีที่มองวัตถุที่อยู่ใกล้กว่ากำแพง แต่ถ้ามองอะไรทั่วไป หรือเพ่งไปที่กำแพงจะไม่เห็น

บางทีก็ลืมว่าตัวเองเป็นอยู่

อย่าเล่นคอมแล้วปิดไฟ แล้วก็พยายามพักสายตาบ่อยๆ  กาดึ๊บ.. กาดึ๊บ..

 
คอมนี่ น่ากัวเหมือนกันนะเนี่ยย   ไม่ไหวแล้ว...
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
TON VIP < RZ >
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 398


พิเรณทีม เวอร์ชั่น สุกี้ ยากี้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 21 กันยายน 2009 09:32:26 »

 ซูม ซูม
บันทึกการเข้า
NosDriVe
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11,178


พิเรณทีม = มิตรภาพ + ความจริงใจ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 22 กันยายน 2009 06:47:16 »

ข้อมูลอ้างอิง

ต้มจืดฟัก >>>>  หน่วยทหารมักต้มให้ทหารเกณฑ์กิน เนื่องจากว่า ทหารเกณฑ์มาฝึก ห่างไกลสาว ๆ .... นกเขาโดดเดี่ยว
น้ำมะตูม >>>>  จะเห็นว่า หลวงพี่ หลวงพ่อ ชอบฉัน...ซดเช้า กลางวัน เย็น... จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
ต้นลั่นทม >>>> ปลูกมากในวัด กลิ่นมันจะช่วยทำให้ใจสงบ นกเขาหลับสนิท...อิอิ



ลั่นทมนี่ ลีลาวดี ช่ายปะป้า
บันทึกการเข้า


ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
NosDriVe
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11,178


พิเรณทีม = มิตรภาพ + ความจริงใจ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 23 กันยายน 2009 18:17:53 »

ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง

ข้าวโพดสุก ต้านมะเร็ง การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า

ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด

เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป

สู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป

เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที

พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ

ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชราต่างๆ

อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก

อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวกพฤกษเคมี

ซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่างอื่น

การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

 
บันทึกการเข้า


ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
จี่จี๋ รักในหลวง
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,892



ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 23 กันยายน 2009 19:12:04 »

 ซูม ซูม ซูม ซูม สุดยอด สุดยอด
บันทึกการเข้า
aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 24 กันยายน 2009 09:12:40 »

ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง

ข้าวโพดสุก ต้านมะเร็ง การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า

ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด

เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป

สู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป

เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที

พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ

ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชราต่างๆ

อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก

อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวกพฤกษเคมี

ซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่างอื่น

การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

 


 
       สุดยอด
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
TON VIP < RZ >
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 398


พิเรณทีม เวอร์ชั่น สุกี้ ยากี้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 24 กันยายน 2009 13:27:20 »

โรคแผลในกะเพาะอาหาร
 
- ให้กินกะหล่ำปลี เพราะมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกะเพาะอาหาร และลำไส้หายขาดได้  ลิงจั๊กๆ
บันทึกการเข้า
NosDriVe
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11,178


พิเรณทีม = มิตรภาพ + ความจริงใจ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 26 กันยายน 2009 12:29:48 »

เวลาได้กินน้ำเย็นๆ ซักแก้ว หลังอาหาร   รู้สึกมันชื่นใจดีใช่มั้ยครับ

แต่ว่า น้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี๊จับตัวเป็นไขขึ้นมา

ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง

ถ้าคราบไขมันเหล่านี้ไปทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วจะถูกดูดซึมไปที่ลำไส้   

ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไป  แล้วก็จะเริ่มเคลือบลำไส้ของเราไว้  (ด้านใน)

ในไม่ช้า  มันก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อนๆ  และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด     

ดังนั้น ควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า   
บันทึกการเข้า


ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
NosDriVe
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11,178


พิเรณทีม = มิตรภาพ + ความจริงใจ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 26 กันยายน 2009 12:30:45 »

ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจ 

เวลาที่เกิดอาการ  ไม่จำเป็นว่าจะต้องเจ็บที่แขนซ้ายเสมอไป

ถ้าคุณมีอาการปวดกรามหรือขากรรไกรก็อาจจะเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้

แม้ว่าคุณจะเป็นโรคหัวใจ  แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้อง มีอาการเจ็บหน้าอก   

อาการเหงื่อออก คลื่นไส้ ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับโรคทั่วๆไป     

60%  ของคนที่โรคหัวใจกำเริบขณะหลับมันจะไม่ตื่น  (อีกเลยรึเปล่าก็ไม่รู้) 

แต่อาการปวดกราม อาจจะทำให้คุณตื่นขึ้นมากลางดึกได้   

ก็ให้ระวังดูและตัวเอง ถ้ามีอาการเหล่านี้
บันทึกการเข้า


ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
cliff
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #52 เมื่อ: 26 กันยายน 2009 12:34:25 »

ข้อมูลอ้างอิง

ต้มจืดฟัก >>>>  หน่วยทหารมักต้มให้ทหารเกณฑ์กิน เนื่องจากว่า ทหารเกณฑ์มาฝึก ห่างไกลสาว ๆ .... นกเขาโดดเดี่ยว
น้ำมะตูม >>>>  จะเห็นว่า หลวงพี่ หลวงพ่อ ชอบฉัน...ซดเช้า กลางวัน เย็น... จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
ต้นลั่นทม >>>> ปลูกมากในวัด กลิ่นมันจะช่วยทำให้ใจสงบ นกเขาหลับสนิท...อิอิ



ลั่นทมนี่ ลีลาวดี ช่ายปะป้า

มิน่า...เจ๊ เล่นปลูกที่หน้าบ้านเลย 3 ต้น
บันทึกการเข้า
aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 26 กันยายน 2009 13:30:51 »

เวลาได้กินน้ำเย็นๆ ซักแก้ว หลังอาหาร   รู้สึกมันชื่นใจดีใช่มั้ยครับ

แต่ว่า น้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี๊จับตัวเป็นไขขึ้นมา

ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง

ถ้าคราบไขมันเหล่านี้ไปทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วจะถูกดูดซึมไปที่ลำไส้   

ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไป  แล้วก็จะเริ่มเคลือบลำไส้ของเราไว้  (ด้านใน)

ในไม่ช้า  มันก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อนๆ  และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด     

ดังนั้น ควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า   

 
ผมอดไม่ได้หรอก ถ้าน้ำอุ่นอะ
 
(แต่ถ้าอาบอะไม่แน่) อิอิ
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
kong_AE101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 757



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 27 กันยายน 2009 13:16:46 »

ที่กำลังมีความรัก วันนี้มีวิธีสังเกตว่าความรักที่มีอยู่นั้น เป็นรักแท้หรือเปล่ามาให้อ่านกัน...


 1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัส กับความสุขร่วมกับคน ๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ ก็กระโดดโลดเต้นดีใจ
 
2. ต้องให้ความเคารพนับถือคน ๆนั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูกไม่เคยให้ความเคารพ ในความเป็นเขา แล้วคนอื่น ๆ จะเคารพคน ๆ นั้น ของเราได้อย่างไรและเราจะภูมิใจหรือ กับการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใคร ๆ เขาดูถูก

3. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ
 
4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน สัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน

5. ต้องเข้าถึงความต้องการอารมณ์ และความรู้สึกของคน ๆ นั้นอย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเอง ด้วยความเต็มใจ

6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคน ๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน

7. ต้องรู้สึกว่าเรา สามารถจะพูดคุยกับคน ๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจ ขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้ว เราจะอับอายหรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยิน แล้วจะเดินหายไปจากชีวิต

8. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคน ชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป
 
9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลาย ๆ ด้าน เป็นต้นว่าความคิดอารมณ์ และเวลาแต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง

10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่าร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆนั้น

ลองนำไปสังเกตความรักของคุณดูได้ ว่าเป็นรักแท้แบบไหน.
 
บันทึกการเข้า
EviL tO LauGh
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #55 เมื่อ: 28 กันยายน 2009 09:34:53 »

ข้อมูลอ้างอิง

ต้มจืดฟัก >>>>  หน่วยทหารมักต้มให้ทหารเกณฑ์กิน เนื่องจากว่า ทหารเกณฑ์มาฝึก ห่างไกลสาว ๆ .... นกเขาโดดเดี่ยว
น้ำมะตูม >>>>  จะเห็นว่า หลวงพี่ หลวงพ่อ ชอบฉัน...ซดเช้า กลางวัน เย็น... จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
ต้นลั่นทม >>>> ปลูกมากในวัด กลิ่นมันจะช่วยทำให้ใจสงบ นกเขาหลับสนิท...อิอิ



ลั่นทมนี่ ลีลาวดี ช่ายปะป้า

มิน่า...เจ๊ เล่นปลูกที่หน้าบ้านเลย 3 ต้น







 ?? ??
บันทึกการเข้า
4a71
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 462


F-CON V-PRO


ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 28 กันยายน 2009 17:32:46 »

 ซูม ซูม
บันทึกการเข้า
kong_AE101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 757



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2009 09:25:03 »

วิธีลดความมันที่ใบหน้า

คุณๆ ที่มีปัญหาเรื่องอาการหน้ามันทุก 5 นาที อาการสาวๆ หน้ามันเนี่ยมันทำให้หนุ่มที่เดินข้างๆ รู้สึกเสียอารมณ์สุดๆ ช่วยโบ๊ะหน่อยก็ดี แต่บางคนยิ่งโบ๊ะก็ยิ่งเยิ้ม ไปกันใหญ่เลยค่ะคุณ เอาเป็นว่าเรามาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันดีกว่า ด้วยวิธีแสนจะง่ายและปราศจากผลข้างเคียงแน่นอนค่ะ 

      1. นำสตอเบอร์รี่ 2 ลูกล้างให้สะอาด แตงกวา 1 ลูกล้างให้สะอาด

     2. นำมาใส่เครื่องปั่นผสมกันให้ละเอียด

     3. แล้วนำมาพอกหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและรอบปาก ประมาณ 20 นาที

     4. เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ

     แค่นี้ก็ช่วยได้แล้วจ้า เพราะจะช่วยกระชับรูขุขนให้ระเอียดขึ้นด้วย และอาจจะใช้สัปปะรดฝานบางๆ แช่เย็นไว้ แล้วนำมาวางบนหน้า ซัก 10 นาทีต่อ ก็จะช่วยเรื่องหน้ามันได้อีกด้วยค่ะ ขอแนะนำว่าอาทิตย์นึงทำซักครั้งก็พอนะคะ รับรองว่าผิวหน้าคุณๆ ก็จะสดใส เนียนนุ่ม และไม่มันได้แน่นอนค่ะ

บันทึกการเข้า
aragon < RZ >
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16,575


พิเรณทีม < มิตรภาพที่ดีกับทุกคน > Ramintra Zone


ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2009 09:29:05 »

วิธีลดความมันที่ใบหน้า

คุณๆ ที่มีปัญหาเรื่องอาการหน้ามันทุก 5 นาที อาการสาวๆ หน้ามันเนี่ยมันทำให้หนุ่มที่เดินข้างๆ รู้สึกเสียอารมณ์สุดๆ ช่วยโบ๊ะหน่อยก็ดี แต่บางคนยิ่งโบ๊ะก็ยิ่งเยิ้ม ไปกันใหญ่เลยค่ะคุณ เอาเป็นว่าเรามาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันดีกว่า ด้วยวิธีแสนจะง่ายและปราศจากผลข้างเคียงแน่นอนค่ะ 

      1. นำสตอเบอร์รี่ 2 ลูกล้างให้สะอาด แตงกวา 1 ลูกล้างให้สะอาด

     2. นำมาใส่เครื่องปั่นผสมกันให้ละเอียด

     3. แล้วนำมาพอกหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและรอบปาก ประมาณ 20 นาที

     4. เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ

     แค่นี้ก็ช่วยได้แล้วจ้า เพราะจะช่วยกระชับรูขุขนให้ระเอียดขึ้นด้วย และอาจจะใช้สัปปะรดฝานบางๆ แช่เย็นไว้ แล้วนำมาวางบนหน้า ซัก 10 นาทีต่อ ก็จะช่วยเรื่องหน้ามันได้อีกด้วยค่ะ ขอแนะนำว่าอาทิตย์นึงทำซักครั้งก็พอนะคะ รับรองว่าผิวหน้าคุณๆ ก็จะสดใส เนียนนุ่ม และไม่มันได้แน่นอนค่ะ



 
แต่ตอนนี้ สตอบอรี่หายาก อะ  อยากทำเหมือนกัน เค้าคนหน้ามัน   เต้น
บันทึกการเข้า

ขายของ http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=58023.0
ขายซันรูฟ และ รับติดตั้ง http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=94966.0
NosDriVe
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11,178


พิเรณทีม = มิตรภาพ + ความจริงใจ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2009 09:40:53 »

นกเขาก็ต้องการออกกำลังกายนะ‏

พูดถึงกันมาหลายเรื่องแล้วสำหรับการออกกำลังเสิรมกล้ามเนื้อ หรือเพื่อความแข็งแรงของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แล้วส่วนสำคัญอย่างน้องชายคุณจะไม่พูดถึงได้ไง คุณอาจมองข้ามกันไปว่า น้องชายเราจะแข็งแรงได้เองโดยไม่ต้องไปทำอะไรราวกับเป็นพรจากสรรค์… ผมอยากขอให้คิดกันใหม่นะครับ เพราะจริง ๆ การออกกำลังกายน้องชายเนี่ยเป็นเรื่องจำเป็นเลยล่ะ มาดูกันดีกว่าต้องทำยังไงกันบ้าง หรือใครที่ทำอยู่แล้ว นั่นทำถูกวิธีหรือเปล่า

การแข็งบ่อย
    อวัยวะเพศก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ร่างกายจะแข็งแรงต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน อวัยวะเพศก็เช่นกัน ต้องให้มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศบ่อยๆ เพราะขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวจะมีเลือดไปเลี้ยงมากที่สุด ละเป็นเลือดที่มีออกซิเจนมากที่สุด ทำให้มีการสร้างเนื้อเยื่อเพิ่ม

การแข็งตัวของอวัยวะเพศจะทำให้มีการสร้าง Prostaglandin E1 สารตัวนี้จะมีหน้าที่สองประการคือ ทำให้หลอดเลือดแดงไม่แข็งตัวเลือดแดงไปเลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่มขึ้น ประการที่สองคือสารนี้จะลดการสร้าง collagen ซึ่งทำให้เกิดพังผืดในอวัยวะเพศ ทำให้การแข็งตัวไม่ดี ร่างกายของคนเรามีระบบให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศโดยมีการแข็งตัวของอวัยวะ เพศในตอนนอนเพื่อให้อวัยวะเพศสร้างสาร Prostaglandin E1(เป็น ฮอร์โมนที่มีบทบาทช่วยให้ร่างกายเกิดความสบาย ตลอดจนป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ความดันดลหิตสูง บรรเทาอาการแทรกซ้อนจากโรค เบาหวาน และที่สำคัญที่สุด ยังมีประโยชน์กับผู้หญิงด้วยนั่นคือ รักษาอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน)

ในเด็กวัยรุนจะมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศ 3-5 ครั้งต่อคืน แต่ละครั้งใช้เวลา 20-30 นาที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบริหาร แต่สำหรับคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ระดับฮอร์โมนเริ่มลดลง การแข็งตัวในตอนกลางคืนลดลง และไม่นาน จึงมีความจำเป็นต้องบริหารให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัวบ่อยเพื่อให้มีเลือดไป เลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่ม และมีการสร้าง Prostaglandin E1

การบริหารอวัยวะเพศจะต้องทำให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัว 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ และแข็งแต่ละครั้งนาน 20-30 นาทีเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และป้องกันเส้นเลือดแข็ง

การหลั่งบ่อย
     ต่อมลูกหมากจะมีการสร้างน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงเชื้ออยู่ตลอดเวลา การหลั่งบ่อยจะเป็นการลดอาการบวมของต่อมลูกหมาก ซึ่งจะทำให้สุขภาพของต่อมลูกหมากดีขึ้น มีการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อในต่อมลูกหมากทำงานดีขึ้น ทำให้มีปริมาณน้ำเชื้อเพิ่มขึ้น และการฉีดของน้ำเชื้อเพิ่มขึ้น

ส่วนเรื่อง การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่ง จะเป็นการเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการหลั่งเร็วและใช้รักษาโรคกามตายด้าน นั้นผมจะได้หยิบเอามาเล่าให้ฟังอีกทีต่อไปนะครับ ^_^

ที่มา menblog.co.cc
บันทึกการเข้า


ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
หน้า:  «  1 2 [3] 4  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!