AE. Racing Club
19 พฤศจิกายน 2024 04:51:15 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 [3] 4  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอถามความคิดเห็น เรื่องสคู๊ปดักลมหน้า LEVIN กันนิดนึงนะครับ  (อ่าน 18158 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 15:28:56 »


คิดแล้วก็ไปซื้อมาทำเลย เจาะครับเจาะ

ออกมาเป็นงี้ คำณวนแล้วลมจะวนตรงเบ้าโช๊ค มาเข้ากรองเปลือยพอดี ถ้าฝนตกน้ำก้ไม่ถึง ตัวกรอง

ด้านในเป็นงี้ครับ เข้าทางนี้ออกทางครีบหลัง

อันนี้ตอนยังไม่ใส่


อันนี้ใส่แล้ว  เหอๆๆ
บันทึกการเข้า

N o a h
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,097



ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 15:51:23 »

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ได้มาแลกเปลี่ยนกัน

ผมคิดเหมือน กะ  คุณ 4@FE~LPG92  หลักการที่ทำอยู่ก็มาทางเดียวกัน  คือห้องเครื่องร้อน แล้วไม่ชอบยกฝากระโปรงขึ้นเหมือนกัน  คือไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่กลัวอะไรต่อมิอะไร เข้าไป ในห้องเครื่องได้ง่าย   ยิ่งถ้ามีสคู๊ป แล้วยกฝากระโปรงขึ้นด้วยนะ เรื่องลมร้อนในห้องเครื่อง ตอนวิ่งคงหมดไปแต่ไม่ได้ทำ
 ไหนๆในเมื่อเจาะใส่สคู๊ป เสียฝากระโปรงไปแล้ว เลยมีความคิดที่อยากทำให้มันเย็นกว่าที่ควรจะเป็น เลยมีความคิดจะทำตรงนี้โดย เสียค่าใช้ที่น้อยที่สุด ซึ่งตอนที่ติดครั้งแรกยังมีความคิดที่จะกลับด้านอยู่ แต่ใจไม่กล้าพอ อยากลองแบบโรงงานก่อน และคิดว่าทำตามแบบโรงงานแล้วคงจะระบายความร้อนได้ดีพอ  แต่ยังไม่พอใจเท่าที่ควร

 ซึ่งจิงๆแล้ว การติดตั้งสคู๊ปหน้า ที่ถูกหลัก  สำหรับ 92 ที่คิดจะติดสคู๊ปเลวิน นั้น ตามปกติ ขอบบนของสคู๊ปต้องชิด ๆกะตัวฉีดน้ำ ห่างกันโดยประมาณ  2เซน  จะติดตามใจฉันเหมือนผมไม่ควร ดูไม่ตรงรุ่น 55+  มันจะออกไปกลางฝากระโปรงหน้ามากเกินไป   คราวนี้จะกลับด้านเลยเอาขอบให้ชิดตัวฉีดน้ำกันเลยทีเดียว   เส้นสันบนฝากระโปรงของ 92กะ เลวินไม่เหมือนกัน  การกลับด้านของสคู๊ปอาจะเป็นผลดี(ทางใจ) ทำให้ตัวสคูปดูกลมกลืม กับสันเดิมของฝากระโปรงด้วย ดูไม่ขัดแย้งกัน (ปลอบใจตัวเอง)

สังเกตุจากรูป ดูจากจุกที่ฉีดน้ำ ของผมห่างกันเป็นนิ้วกว่า 





หารูป 92 ตัวขับสี่ ที่มีสคู๊ปจากโรงงาน ไม่เจอ จำได้ว่าแปะชิดๆ เหมือนคันขาว ข้างบน

สุดท้าย ๆ ผมไปค้นหารูป รถเพื่อนที่เคยทำมาแล้วเมื่อ6-7ปีก่อน ตอนผมเข้ามาaeใหม่ๆ  แนวคิดนี้ได้มาจากรถเพื่อนคนนี้  หา เพิ่งเจอ  ลองเอามาให้ดู  วาง 3S และยกฝากระโปรงด้วย เคยถามๆดู ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลย



บันทึกการเข้า
T o n t_[AE.]
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,232



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 16:26:08 »

มุ่งมั่น 
   ตั้งใจ
      สำเร็จ
บันทึกการเข้า

yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 16:52:39 »

มันมีสองอย่างว่างั้น...เอาลมนอกไปเป่าเครื่องให้เย็น...กะเอาลมร้อนในเครื่องออกมา...เท่านั้นแหละ
แล้วทำไมไม่มีใครคิดถึงระบบว่าบังคับลมให้มันเข้าและออกตรงใหนบ้างล่ะครับ...
1. ลมเข้าสคูปตอนวิ่งเร็วไหลผ่านเครื่อง และออกด้านล่าง....หรอ?
2. ลมเข้าจากกระจัง ผ่านเครื่อง(อากาศร้อนลอยขึ้นที่สูงซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งใต้กระโปรงหน้า)
   เลยพัดเอาลมร้อมออกตามสคูปคันแดง....หรอ?

ไม่รู้นะ...ผมมองว่าของพวกนี้คิดได้...แต่มันก็แล้วแต่ประโยชน์ที่เราต้องการจากมันมากกว่าครับ....เอาไปให้คิดเล่นๆ แคะเข้มูก
บันทึกการเข้า

<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 16:59:52 »

ไม่ทันแล้วล่ะ เจาะแล้ว เหอๆๆ
บันทึกการเข้า

yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 17:13:39 »

ขอถามต่ออีกนิดฮะ....
เวลาเราวิ่งทางไกลๆ...เราจอดรถ...เราบอกว่าพักเครื่อง...เราเปิดฝากระโปรง...เพื่อให้ความร้อนออก...เพื่องให้ภายในห้องเครื่องเย็นขึ้น...งั้นถ้าเราใส่สคูป...ไม่ว่าทางใดก็ตาม...เราจอดรถพักเครื่อง...เราไม่ต้องเปิดฝากระโปรง...หรอ?

แล้วประโยชน์ที่เราได้จากสคูปคืออะไรล่ะ...เพราะผมเองคงไม่เจาะเพื่อให้น้ำมันเข้าๆไปเฉยๆหรอกนะ....มันต้องมีประโยชน์และชัวร์สิ...ถึงมั่นใจว่าการเจาะสคูป อย่างน้อยก็ไม่ได้แต่สวยอย่างเดียว...

แต่ผมชอบสคูปของ skyline c-10 นะสวยดี.... สุดยอด
บันทึกการเข้า

อู๋ อยุธยา
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,687



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 18:33:04 »

ขอถามต่ออีกนิดฮะ....
เวลาเราวิ่งทางไกลๆ...เราจอดรถ...เราบอกว่าพักเครื่อง...เราเปิดฝากระโปรง...เพื่อให้ความร้อนออก...เพื่องให้ภายในห้องเครื่องเย็นขึ้น...งั้นถ้าเราใส่สคูป...ไม่ว่าทางใดก็ตาม...เราจอดรถพักเครื่อง...เราไม่ต้องเปิดฝากระโปรง...หรอ?

แล้วประโยชน์ที่เราได้จากสคูปคืออะไรล่ะ...เพราะผมเองคงไม่เจาะเพื่อให้น้ำมันเข้าๆไปเฉยๆหรอกนะ....มันต้องมีประโยชน์และชัวร์สิ...ถึงมั่นใจว่าการเจาะสคูป อย่างน้อยก็ไม่ได้แต่สวยอย่างเดียว...

แต่ผมชอบสคูปของ skyline c-10 นะสวยดี.... สุดยอด

ฝากระโปรงไฟเบอร์ ฝาคาร์บอน ฝามีรู ของพวกนี้ดั้งเดิม เริ่มมาจากสนามแข่งนะ พวกทำฝากระโปรงดำก็เช่นกัน

อย่าลืมว่า ในสนามแข่ง ทุกอย่างต้องมีประโยชน์ ทุกอย่างต้องใช้งานได้ ไม่งั้นเค้าไม่ทำหรอก เพราะการทำทุกอย่าง มีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย

ฝาแบบมีช่องระบายออก เวลารถวิ่ง ลมก็จะอัดจากหน้ารถ ผ่านแผงแอร์ หม้อน้ำ เฮดเดอร์ แล้วลอยยกตัวสูงขึ้นออกทางช่องนั้น
โดยลมจะไหลโฟลวกันแบบต่อเนื่อง

ส่วนเวลาจอด อากาศร้อน จะลอยตัวขึ้นอยู่แล้ว อากาศร้อนดังกล่าว ก็จะลอยขึ้นและหาทางออก ซึ่งเมื่อฝามันมีรู มันก็ออกตรงนั้นเลย
อากาศเย็นจากด้านล่างก็จะไหลเข้ามาแทนที่เองครับ

แต่

ต้องอย่าลืมว่า รถสนาม กับรถบ้านมันไม่เหมือนกัน
รถสนาม ฝนตก พวกก็หยุดวิ่ง แอร์ก็ไม่มี ค้ำโน่นค้ำนี่เต็มไปหมด ฝากระโปรง จะเจาะขนาดไหนก็ได้ ขอให้อากาศถ่ายเทดีที่สุดเป็นพอ

แต่รถบ้าน ทำได้แต่ไม่ทั้งหมด ฝาที่รูใหญ่ ๆ เยอะ ๆ ถ้าไม่ทำถาดดักน้ำไว้ รายไหนรายนั้น ฝนตก จอดใต้ทางด่วนเป็นมอไซด์เลย

เราต้องเลือก อันที่ทำแล้วได้ประโยชน์คุ้มค่า ค่อยทำตาม แต่ต้องรู้ที่มาที่ไป หลักการและเหตุผลของมันก่อน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ตุลาคม 2009 18:36:38 โดย nortel » บันทึกการเข้า

นาน ๆ แวะมาที
nut_spoon.CZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,168


AE เสือเหลือง STYLE แรงไม่เท่า...เงาไว้ก่อน!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 18:37:02 »

อย่างของผม ผมว่ามัน เย็นขึ้นนะ

แล้วก็เบาๆขึ้นด้วย

ลมร้อนก็ออกไปตรงช่องอ่ะ
บันทึกการเข้า

 
SETUP BY TORNTO
AE SUPERCARBON
Oke...Pat TZ#042
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 991


---รอไปทะเลๆๆๆ---


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 19:06:29 »

ต้องติดๆ....ซะแล้ว
บันทึกการเข้า
<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 20:46:29 »

ส่วนตัวนะครับ ประโยชน์ที่ได้จะเห็นผลวันเสาร์นี้แน่นอน เพราะจะไปโคราช อย่างที่พี่ nortel บอกทำแล้วมันต้องมีประโยชน์ การที่รถวิ่งในเมืองไม่เห้นผลแน่ แต่ผมวิ่งต่างจังหวัดบ่อย แน่นอนรถยนต์ทุกชนิดต้องมีระบบระบายความร้อน ซึ่งบริษัทที่ผลิตก็คำนวนมาเรียบร้อยแล้ว การที่เราทำแบบนี้1ความชอบ 2ใช้ระบายความร้อนเท่าที่ลองสังเกตุ ลมร้อนที่พัดลมต่างๆไม่ว่าจะดูดหรือเป่าออก มันจะวนอยู่ในฝากระโปรงอยู่พอสมควร ทำให้อุณหภูมิสะสม ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เย็นลงซักเท่ารั่ย แต่มันต้องดีกว่าแน่นอน ถ้ามันมีที่ระบายก็อย่างที่บอก มองดูก็เห็นว่ามันมีไอร้อนขึ้นมาเห็นๆ ก็เหมือนเวลาเรากินของร้อนละครับ ยังต้องเป่าเลย เครื่องก็น่าจะเหมือนกัน การที่มีลมมาประทะมันก็ลดความร้อนได้เหมือนกัน ไม่งั้นพี่ๆน้องๆคงไม่ต้องเสียตังไปซื้อ ผ้ามาพันท่อเฮดเดอร์กันหรอกครับ ลองนึกถึงหลังคาโรงงานอุตสาหกรรมดูครับ ความร้อนมันจะลอยขึ้นด้านบน เขาเลยต้องมีไอ้ตัวหมุนๆไว้ระบายความร้อน ลมร้อนในรถก็คงไม่ต่างกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ตุลาคม 2009 20:56:47 โดย 4@FE~LPG92 » บันทึกการเข้า

smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 21:18:02 »


คิดแล้วก็ไปซื้อมาทำเลย เจาะครับเจาะ

ออกมาเป็นงี้ คำณวนแล้วลมจะวนตรงเบ้าโช๊ค มาเข้ากรองเปลือยพอดี ถ้าฝนตกน้ำก้ไม่ถึง ตัวกรอง

ด้านในเป็นงี้ครับ เข้าทางนี้ออกทางครีบหลัง

อันนี้ตอนยังไม่ใส่


อันนี้ใส่แล้ว  เหอๆๆ
ทำแล้วสวยจังชอบ หาของมา DIY เก่งนะ วันหลังผมฝากหาด้วยสิ อิอิ เรื่องไฟยังไม่ได้ใส่เลยอ่ะ ยังหากรอบไฟหน้าไม่ได้เลย แล้วยยังยุ่งๆ อีก2 อาิทิตย์คงได้เห็น
บันทึกการเข้า

Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,158


3S-GE Doraemonster 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2009 21:38:48 »

ผมก็อยากเจาะ ตรงเฮดอะครับ  กับดักเข้ากรองแต่กลัวน้ำเข้ากรอง

ตอนรถวิ่งไม่น่ากลัวแต่ตอนจอดติดแล้วฝนตกหนักๆนี้น่าจะลงไปเยอะอยู่

อยากทำแบบนี้แต่เป็นอันเดียวยาวเลย

http://media.photobucket.com/image/scoop%20%2525E0%2525B8%25259D%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B9%252582%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%252587/slash-fit/JS-FF01.jpg

บันทึกการเข้า

yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 01:11:10 »

ขอถามต่ออีกนิดฮะ....
เวลาเราวิ่งทางไกลๆ...เราจอดรถ...เราบอกว่าพักเครื่อง...เราเปิดฝากระโปรง...เพื่อให้ความร้อนออก...เพื่องให้ภายในห้องเครื่องเย็นขึ้น...งั้นถ้าเราใส่สคูป...ไม่ว่าทางใดก็ตาม...เราจอดรถพักเครื่อง...เราไม่ต้องเปิดฝากระโปรง...หรอ?

แล้วประโยชน์ที่เราได้จากสคูปคืออะไรล่ะ...เพราะผมเองคงไม่เจาะเพื่อให้น้ำมันเข้าๆไปเฉยๆหรอกนะ....มันต้องมีประโยชน์และชัวร์สิ...ถึงมั่นใจว่าการเจาะสคูป อย่างน้อยก็ไม่ได้แต่สวยอย่างเดียว...

แต่ผมชอบสคูปของ skyline c-10 นะสวยดี.... สุดยอด

ฝากระโปรงไฟเบอร์ ฝาคาร์บอน ฝามีรู ของพวกนี้ดั้งเดิม เริ่มมาจากสนามแข่งนะ พวกทำฝากระโปรงดำก็เช่นกัน

อย่าลืมว่า ในสนามแข่ง ทุกอย่างต้องมีประโยชน์ ทุกอย่างต้องใช้งานได้ ไม่งั้นเค้าไม่ทำหรอก เพราะการทำทุกอย่าง มีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย

ฝาแบบมีช่องระบายออก เวลารถวิ่ง ลมก็จะอัดจากหน้ารถ ผ่านแผงแอร์ หม้อน้ำ เฮดเดอร์ แล้วลอยยกตัวสูงขึ้นออกทางช่องนั้น
โดยลมจะไหลโฟลวกันแบบต่อเนื่อง

ส่วนเวลาจอด อากาศร้อน จะลอยตัวขึ้นอยู่แล้ว อากาศร้อนดังกล่าว ก็จะลอยขึ้นและหาทางออก ซึ่งเมื่อฝามันมีรู มันก็ออกตรงนั้นเลย
อากาศเย็นจากด้านล่างก็จะไหลเข้ามาแทนที่เองครับ

แต่

ต้องอย่าลืมว่า รถสนาม กับรถบ้านมันไม่เหมือนกัน
รถสนาม ฝนตก พวกก็หยุดวิ่ง แอร์ก็ไม่มี ค้ำโน่นค้ำนี่เต็มไปหมด ฝากระโปรง จะเจาะขนาดไหนก็ได้ ขอให้อากาศถ่ายเทดีที่สุดเป็นพอ

แต่รถบ้าน ทำได้แต่ไม่ทั้งหมด ฝาที่รูใหญ่ ๆ เยอะ ๆ ถ้าไม่ทำถาดดักน้ำไว้ รายไหนรายนั้น ฝนตก จอดใต้ทางด่วนเป็นมอไซด์เลย

เราต้องเลือก อันที่ทำแล้วได้ประโยชน์คุ้มค่า ค่อยทำตาม แต่ต้องรู้ที่มาที่ไป หลักการและเหตุผลของมันก่อน




นี้แลที่ผมคิด... สุดยอด
บันทึกการเข้า

<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 07:52:47 »

upไปเหตุผลดีๆ แต่ผมเจาะเล็กๆ คงไม่เป้นรัยมั้ง แต่ออกต่างจังหวัดน่าจะเจอฝน เด๋วจะมารายงาน
 มอไซด์ เหอๆๆ
บันทึกการเข้า

N o a h
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,097



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 10:20:48 »

ส่วนตัวนะครับ ประโยชน์ที่ได้จะเห็นผลวันเสาร์นี้แน่นอน เพราะจะไปโคราช อย่างที่พี่ nortel บอกทำแล้วมันต้องมีประโยชน์ การที่รถวิ่งในเมืองไม่เห้นผลแน่ แต่ผมวิ่งต่างจังหวัดบ่อย แน่นอนรถยนต์ทุกชนิดต้องมีระบบระบายความร้อน ซึ่งบริษัทที่ผลิตก็คำนวนมาเรียบร้อยแล้ว การที่เราทำแบบนี้1ความชอบ 2ใช้ระบายความร้อนเท่าที่ลองสังเกตุ ลมร้อนที่พัดลมต่างๆไม่ว่าจะดูดหรือเป่าออก มันจะวนอยู่ในฝากระโปรงอยู่พอสมควร ทำให้อุณหภูมิสะสม ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เย็นลงซักเท่ารั่ย แต่มันต้องดีกว่าแน่นอน ถ้ามันมีที่ระบายก็อย่างที่บอก มองดูก็เห็นว่ามันมีไอร้อนขึ้นมาเห็นๆ ก็เหมือนเวลาเรากินของร้อนละครับ ยังต้องเป่าเลย เครื่องก็น่าจะเหมือนกัน การที่มีลมมาประทะมันก็ลดความร้อนได้เหมือนกัน ไม่งั้นพี่ๆน้องๆคงไม่ต้องเสียตังไปซื้อ ผ้ามาพันท่อเฮดเดอร์กันหรอกครับ ลองนึกถึงหลังคาโรงงานอุตสาหกรรมดูครับ ความร้อนมันจะลอยขึ้นด้านบน เขาเลยต้องมีไอ้ตัวหมุนๆไว้ระบายความร้อน ลมร้อนในรถก็คงไม่ต่างกัน

 สุดยอด
บันทึกการเข้า
<Art @ cz>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,535



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 12:04:30 »

สังเกตจากการใช้รถในชิวิตประจำวันที่ขับเคลื่อนด้วย lpg   ฝากระโปงเดิมปิดสนิท  vs ยกฝากระโปง 1 นิ้ว

ใช้เส้นทางเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน  สภาพการจราจร เหมือนกัน(โล่ง) ความเร็วเฉลี่ยเท่าๆ กัน
ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. เวลาในการวิ่งเท่าๆ กัน ขับรถเข้าจอดรถที่บ้าน เมื่อดับเครื่อง
จะบิดสวิทช์กุญแจ on เพื่อให้พัดลมหม้อน้ำทำงานดูด เอาความร้อนออกจากหม้อน้ำเข้าห้องเครื่อง  และออกทางใต้ท้องรถ
จะรู้สึกได้เลยว่ามีลมอุ่นไหลผ่านมาทางใต้ท้องรถ กระทบกับเท้ารู้สึกได้
พัดลมหม้อน้ำจะทำงาน จนถึงอุณหภูมิที่เซ็นเซอร์ตัดการทำงาน ผมค่อยปิดรถเข้าบ้าน (วิธีนี้จะทำเมื่อไม่รีบทำอะไร  อิอิ)
ซึ่งจากการทดลองกับชีวิตประจำวันดังกล่าวเป็นประจำ  สรุปได้ว่า
1.ฝากระโปงเดิมปิดสนิท >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ พัดลมทำงาน ประมาณโดยเฉลี่ย 40 วินาที
2.ยกฝากระโปง 1 นิ้ว    >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ    พัดลมไม่ทำงานเลย หรือทำงานไม่เกิน 10 วินาที

สรุปว่า     ฝากระโปงที่มีช่องระบายลมออก (ในกรณีนี้ยก 1 นิ้ว)  สามารถช่วยลดความร้อนสะสม
           และระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องได้ดี   เหมือน "สคูปกลับด้าน"  น่าจะระบายความร้อนในห้องเครื่องได้ดีเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ตุลาคม 2009 12:06:57 โดย <Art_L@ksi> » บันทึกการเข้า
yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 12:26:25 »

สังเกตจากการใช้รถในชิวิตประจำวันที่ขับเคลื่อนด้วย lpg   ฝากระโปงเดิมปิดสนิท  vs ยกฝากระโปง 1 นิ้ว

ใช้เส้นทางเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน  สภาพการจราจร เหมือนกัน(โล่ง) ความเร็วเฉลี่ยเท่าๆ กัน
ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. เวลาในการวิ่งเท่าๆ กัน ขับรถเข้าจอดรถที่บ้าน เมื่อดับเครื่อง
จะบิดสวิทช์กุญแจ on เพื่อให้พัดลมหม้อน้ำทำงานดูด เอาความร้อนออกจากหม้อน้ำเข้าห้องเครื่อง  และออกทางใต้ท้องรถ
จะรู้สึกได้เลยว่ามีลมอุ่นไหลผ่านมาทางใต้ท้องรถ กระทบกับเท้ารู้สึกได้
พัดลมหม้อน้ำจะทำงาน จนถึงอุณหภูมิที่เซ็นเซอร์ตัดการทำงาน ผมค่อยปิดรถเข้าบ้าน (วิธีนี้จะทำเมื่อไม่รีบทำอะไร  อิอิ)
ซึ่งจากการทดลองกับชีวิตประจำวันดังกล่าวเป็นประจำ  สรุปได้ว่า
1.ฝากระโปงเดิมปิดสนิท >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ พัดลมทำงาน ประมาณโดยเฉลี่ย 40 วินาที
2.ยกฝากระโปง 1 นิ้ว    >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ    พัดลมไม่ทำงานเลย หรือทำงานไม่เกิน 10 วินาที

สรุปว่า     ฝากระโปงที่มีช่องระบายลมออก (ในกรณีนี้ยก 1 นิ้ว)  สามารถช่วยลดความร้อนสะสม
           และระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องได้ดี   เหมือน "สคูปกลับด้าน"  น่าจะระบายความร้อนในห้องเครื่องได้ดีเช่นกัน

คุณสมบัติของสคูปกลับด้านไม่น่ามีผลในการระบายความร้อนเหมือนกับการยกฝากระโปรงขึ้นครับ
เพราะการยกฝากระโปรงขึ้นเหมือนกับการเปิดช่องหลังคามันรอบตัว(เหมือนโรงยิม/โรงอาหาร)
แต่การการเจาะสคูปที่กลางฝากระโปรง ความลาดของฝากระโปรงก็ไม่น่าเท่ากันอยู่แล้ว
การระบายความร้อนส่วนนี้อาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่คาดว่าไม่น่าจะเท่ากันการยกฝาแน่นอนครับ...ด้วยจิตคารวะ คำนับ
บันทึกการเข้า

<Art @ cz>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,535



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 13:00:22 »

สังเกตจากการใช้รถในชิวิตประจำวันที่ขับเคลื่อนด้วย lpg   ฝากระโปงเดิมปิดสนิท  vs ยกฝากระโปง 1 นิ้ว

ใช้เส้นทางเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน  สภาพการจราจร เหมือนกัน(โล่ง) ความเร็วเฉลี่ยเท่าๆ กัน
ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. เวลาในการวิ่งเท่าๆ กัน ขับรถเข้าจอดรถที่บ้าน เมื่อดับเครื่อง
จะบิดสวิทช์กุญแจ on เพื่อให้พัดลมหม้อน้ำทำงานดูด เอาความร้อนออกจากหม้อน้ำเข้าห้องเครื่อง  และออกทางใต้ท้องรถ
จะรู้สึกได้เลยว่ามีลมอุ่นไหลผ่านมาทางใต้ท้องรถ กระทบกับเท้ารู้สึกได้
พัดลมหม้อน้ำจะทำงาน จนถึงอุณหภูมิที่เซ็นเซอร์ตัดการทำงาน ผมค่อยปิดรถเข้าบ้าน (วิธีนี้จะทำเมื่อไม่รีบทำอะไร  อิอิ)
ซึ่งจากการทดลองกับชีวิตประจำวันดังกล่าวเป็นประจำ  สรุปได้ว่า
1.ฝากระโปงเดิมปิดสนิท >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ พัดลมทำงาน ประมาณโดยเฉลี่ย 40 วินาที
2.ยกฝากระโปง 1 นิ้ว    >> เมื่อจอดรถดับเครื่องแล้ว บิด on สวิทช์กุญแจ    พัดลมไม่ทำงานเลย หรือทำงานไม่เกิน 10 วินาที

สรุปว่า     ฝากระโปงที่มีช่องระบายลมออก (ในกรณีนี้ยก 1 นิ้ว)  สามารถช่วยลดความร้อนสะสม
           และระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องได้ดี   เหมือน "สคูปกลับด้าน"  น่าจะระบายความร้อนในห้องเครื่องได้ดีเช่นกัน

คุณสมบัติของสคูปกลับด้านไม่น่ามีผลในการระบายความร้อนเหมือนกับการยกฝากระโปรงขึ้นครับ
เพราะการยกฝากระโปรงขึ้นเหมือนกับการเปิดช่องหลังคามันรอบตัว(เหมือนโรงยิม/โรงอาหาร)
แต่การการเจาะสคูปที่กลางฝากระโปรง ความลาดของฝากระโปรงก็ไม่น่าเท่ากันอยู่แล้ว
การระบายความร้อนส่วนนี้อาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่คาดว่าไม่น่าจะเท่ากันการยกฝาแน่นอนครับ...ด้วยจิตคารวะ คำนับ
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ยกฝา  และ สคูปกลับด้าน ระบายความร้อนได้ดีกว่าปิดฝาสนิท
แล้วมันก็ไม่ได้ยกทั้งฝา จะเห็นว่าฝากระโปง ยกชัดเจนก็ช่วงโช๊ค

ส่วนทำสคูปกลับด้านมันก็ระบายความร้อนได้ดีกว่าปิดฝาเช่นกัน
 เนื่องจากฝาปิดสนิท แต่มีช่องสคูปกลับด้าน ที่ไม่ได้ดักลม  แต่ระบายลมออกเช่นเดียวกับยกฝา แต่ช่องเล็กกว่าเท่านั้นเอง

สรุป  มันก็มีคุณสมบัติเหมือนกันคือช่วยระบายลมร้อนที่ หมุนโฟล์ อยู่ในห้องเครื่องออกไป อาจจะไม่มากเท่ายกฝา  แต่ก็ช่วยระบาย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ตุลาคม 2009 13:32:52 โดย <Art_L@ksi> » บันทึกการเข้า
<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #58 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2009 13:28:05 »

  มอไซด์
บันทึกการเข้า

<"เป็นคนเลวซํกพักนะ">
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,722


<"เหตุผลของเราใครจะเข้าใจ ไม่ลืมครับคำว่าบุญคุญ">


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 08:34:33 »

ลองมาแว้ว วิ่งทางใกลเห็นผลเลย ลมเย็นเข้าลมร้อนออก ลุยฝนมาแล้วด้วย ผมคิดว่าสกู๊ปกลับด้านเวริคแน่ๆ เพราะผมเจาะแค่ด้านหลัง
แต่ถ้าตรงนั้น มันเป็นเครื่องซึ่งตรงนั้นความร้อนมากสุด ลองเอามือจับดูได้ครับ ที่ผมคิดว่ามันช่วยได้คือ ตอนจอดพักลองเอามือจับท่อกรองเปลือย ตอนยังไม่ทำจับไม่ได้เลยร้อนมากๆ แต่ทำแล้วจับได้ครับร้อนเหมือนกันแต่น้อยกว่าเดิม และอีกอย่างคือดูพัดลมครับคิดว่ามันทำงานน้อยลงนะ(คิดไปเองป่าวหว่า เหอๆๆ)แต่สรุปได้เลยครับว่าระบายความร้อนดีขึ้นแน่นอน  ตรบมือ
ปล.ถ้ามีทางลมเข้าเพิ่มอีกก็ดีขึ้นอีกครับ
บันทึกการเข้า

หน้า:  «  1 2 [3] 4  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!