ช่วยด้วยคับท่าน ติดแก๊สแบบหัวฉีด AG แล้วออกตัวสะดุดคับ 7a

อาการประกายไฟย้อนกลับ
แบ็คไฟร์ (Back-fire) คืออะไร และป้องกันอย่างไร

1.แบ็คไฟร์คือการจุดระเบิดนอกห้องเผาไหม้นั่นคือจุดระเบิดในท่อไอดี
2.เกิดจากการที่อุณหภูมิห้องเผาไหม้สูงเกินไปเนื่องจากการปรับส่วนผสมของแก๊สน้อยเกินไป

รายละเอียด (สำหรับผู้ที่เข้าใจหลักการทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ)
ในจังหวะดูดวาล์วไอดีจะเปิด ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลงเพื่อสร้างแรงดูดอากาศที่ผสมแก๊สเข้ามาในห้องเผาไหม้ ในระหว่างนั้นหากอุญหภูมิในห้องเผาไหม้สูงจนถึงจุดวาบไฟก็จะเกิดการจุดระเบิดทั้นทีทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา

เมื่อเกิดการจุดระเบิด แก๊สร้อนที่ได้จากการระเบิดก้จะลุกลามในท่อไอดีด้วยแรงดันที่สูงอย่างรวดเร็ว หากท่อไอดีเป็นพลาสติกก็มีโอกาสสูงมากที่จะแตก รวมทั้งไส้กรองอากาศก็จะไหม้ด้วย นอกจากนี้แอร์โฟลว์เซ็นเซอร์หรือเครื่องบางรุ่นใช้แม็บปิ้งก็จะมีโอกาสเสียหายได้สูงมาก

การเปลี่ยนท่อร่วมไอดีเป็นโลหะไม่ว่าเหล็กหรือสเตนเลสจะแก้ปัญหาเพียงไม่ให้ท่อร่วมไอดีแตกเท่านั้น ส่วนความเสียหายอื่นนั้นป้องกันไม่ได้

3. วิธีป้องกันในรถที่ติดตั้งระบบดูด(มิกเซอร์) คือ
ก. การปรับแต่งส่วนผสมไม่ให้บางเกินไป แค่นี้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ก็จะไม่สูงจนทำให้เกิดแบ็คไฟร์ในจังหวะดูดแล้ว
สาเหตุนี้เกิดกับแท็กซี่บ่อยมากเพราะโชเฟอร์ที่เช่าขับจะไปหมุน Power value หรือวาล์วกลางสายเพื่อลดปริมาณแก๊สที่เข้าท่อร่วมไอดี จุดประสงค์เพื่อการประหยัดเงินค่าแก๊สที่ต้องเติมคืนเมื่อส่งกะ ผลก็คือไส้กรองอากาศและบางทีหม้อกรองอากาศ แตกเพราะแบ็คไฟร์ ซึ่งตามอู่แท็กซี่มีให้เห็นมากมาย

ข. อย่าใช้แก๊สจนหมดถัง เพราะช่วงที่แก๊สใกล้หมดส่วนผสมจะบางลงอาจส่งผลให้เกิดการแบ็คไฟร์ได้ นั่นคือเมื่อแก๊สใกล้หมดถังก็เติมเข้าไปใหม่

ระบบหัวฉีดมีโอกาสเกิดแบ็คไฟร์หรือไม่

มีครับ...แต่น้อยมากเพราะแก๊สถูกจ่ายเข้าที่ท่อไอดีจุดที่ใกล้ห้องวาล์วมากที่สุด ทำให้ท่อร่วมไอดีตลอดมาจนแยกออกแต่ละสูบมีแต่อากาศ(ไอดี)ไม่มีแก๊ส เช่นเดียวกับหัวฉีดน้ำมัน และนอกจากนี้ ECU ของระบบแก๊สจะควบคุมปริมาณแก๊สที่จ่ายเข้าให้มีค่า A/F ที่เหมาะสมตามที่ตั้งค่าไว้ ในระบบหัวฉีดจึงเบาใจเรื่องแบ็คไฟร์ได้เกือบ 100 %

แล้วจะกล้าหาญชาญชัยใช้ระบบฟิกซ์มิกเซอร์กับ 3SZ-VE ได้หรือ

คำตอบก็คือ ได้ครับ เวลาปรับแก๊สใช้ A/F Meter ช่วยเพื่อให้ส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงเหมาะสม

ส่วนการแก้ปัญหา ECU ขึ้ฟ้องและชอบเข้า Safe mode ในโหมดน้ำมันของเครื่องตระกูล vvt-i ของโตโยต้า ก็ใช้ O2 Emulator ทำการหลอก ECU เมื่ออยู่ในโหมดแก๊ส

เท่านี้ก็ใช้ฟิกซ์มิกเซอร์ได้อย่างสบายใจ

ค่าติดตั้งมัน 17000-18000 บาทซึ่งถูกกว่าหัวฉีดมาก และที่สำคัญหากมีความรู้เชิงช่างอยู่แล้ว เวลามีปัญหากลางทาง ระบบมิกเซอร์แก้ไขด้วยตนเองง่ายกว่าระบบหัวฉีดมาก หากอุปกรณ์หมดอายุเช่น หม้อต้ม ก็เลือกยี่ห้อใดก็ได้ที่ต้องการ

แบ๊คไฟร์มีเหตุหลักจากการติดตั้งระบบแก๊สที่ใช้ Mixer ไม่ถูกต้องตามเทคนิคการจ่ายแก๊สให้เครื่องยนต์ (และไม่มีแบบถูกต้องให้เลือกซื้อง่ายๆจากร้านขายอุปกรณ์แก๊ส) ระบบไฟจุดระเบิดที่ไม่สมบูรณ์ก็มีส่วนช่วยให้เกิดแบ็คไฟร์ การจูนอาจจะช่วยลดอาการได้บ้าง แต่คงหวังได้ยาก
มีอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงดันจากแบ็คไฟร์ เป็นโบลว์ออฟวาล์ว ทำจากอลูมิเนียม หาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์แก๊ส อันละประมาณ 150 บาท เอาไปขันติดไว้กับท่อยางระหว่างแอร์โฟล์วกับท่อไอดี ถ้ามีแบ็คไฟร์..แรงระเบิดจะกระแทกให้วาล์วเปิด ทำให้แก๊สที่ระเบิดมีทางออก ลดแรงดันกระแทกที่ทำให้แอร์โฟลว์เสียหาย เคยเห็นรถบางคันกลัวขนาดต้องใส่ไว้ 2 อัน

ว่ากันตามทฤษฎี ก่อน
แบ็กไฟร์ (Backfire) เป็นอาการที่เกิดจากการสันดาปของเชื้อเพลิงภายนอกกระบอกสูบ เป็นเรื่องที่พบได้ในรถยนต์ที่ใช้แก็สเป็นเชื้อเพลิง หรือแม้กระทั่งน้ำมันเองก็มี
อาการเบื้องต้น ก็จะมีการระเบิดย้อนในท่อร่วมไอดี พวกท่อระบบประจุอากาศ กรองอากาศ หม้อกรอง ลิ้นปีกผีเสื้อ แอร์โฟร์ ท่อยาง แตก กระเด็นหลุดออกจากกัน
การเกิดแบ็กไฟร์ ส่วนใหญ่จะเกิดจากในกรณีที่ส่วนผสมบางเกินไป แต่จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ และจะเผาไหม้เพลิงที่ตกค้างในท่อร่วมไอดี ส่วนผสมที่บางก็จะสันดาปตัวเองได้ง่าย เมื่อมีอุณหภูมิถึงจุดสันดาป โดยไม่ต้องพึ่งพาเปลวไฟจากเขี้ยวหัวเทียน ให้ดูรูปตาม ข้อ 8 กับตาราง จุดติดไฟ

ทำไมเครื่องยนต์ ที่มีระบบวาวล์แปรผัน เลื่อนองศา เปิดของวาวล์ไอดี ประมาณ vvt-I, vtec, จึงไม่สามารถติดตั้งแก็สระบบดูดได้ ช่างทั่วไปชอบมั่วว่า สาเหตุมาจาก ท่อร่วมไอดีเป็นพลาสติค ไม่ได้เป็นอลูมิเนียม จึงไม่สามารถติดระบบดูดได้ ให้ติดแต่หัวฉีด ปัญหาจริงๆมาจาก ระบบวาวล์แปรผันไอดี เมื่อระบบนี้ทำงาน ค่าการไหลของอากาศจะมากขึ้น เฉียบพลัน แต่หม้อต้มแบบมิกเซอร์ ไม่สามารถจ่ายแก็สให้ได้ทันในช่วงเวลานึง จึงทำให้ส่วนผสมบาง จนอากาศที่ผสมกับแก็ส อยู่ในช่วงที่พอเหมาะ(บางเกินไป) สามารถลุกไหม้ได้เอง สามารถดูจากรูป ได้ว่า แก็สสามารถลุกไหม้ได้เองที่อุณหภูมิเท่าใด ส่วนผสม ระหว่างแก็สกับอากาศ อยู่ที่อัตราส่วนเท่าใด
ซึ่งถ้าเป็นระบบหัวฉีด จะฉีดเวลามากขึ้นทันที เครื่องยนต์ที่มีระบบวาวล์แปรผันจึงไม่สามารถคบกับระบบ ดูดได้ แต่ช่างบ้านๆ ก็ยังอุตส่าห์หาทางผลิตท่อไอดี เป็นแสตนเลสบ้าง อลูมิเนียมบ้าง แต่ก็ไม่วาย ที่ต้องเจอกับ แบ็กไฟร์อยู่ เพียงแต่ ความเสียหาย ไม่มี เนื่องจาก ได้มีการติดตั้งตัวกันจาม one way value ไว้ที่ ท่อร่วมไอดี อย่างน้อย 2 ตัว
ต่อไปในอนาคต อาจมีหม้อต้มที่สามารถจ่ายได้อีกจังหวะ ก็เป็นไปได้ ก็แค่มีผ้าหม้อต้มเพิ่มอีก 1 แผ่น หรือใช้ไฟฟ้าจากระบบวาวล์มาเปิดแก็ส ราคาติดตั้ง ก็จะไม่แพง ทำให้ราคาหัวฉีด ลดต่ำลงอีกด้วย
การลดการเกิดแบ็คไฟร์ได้ต้องจ่ายแก็ส ให้มีมากกว่าปริมาณต้องการ ถ้ายังจูนประหยัด จบปัญหานี้ยาก
การเกิดแบ็กไฟร์ อาจเกิดจาก ระบบไฟจุดระเบิดบกพร่อง ได้อีกส่วนนึง เช่น สายหัวเทียนรั่ว คอยส์แยกรั่ว หรือแม้กระทั่งระยะห่างเขี้ยวหัวเทียน หรือ จำนวนเขี้ยวหัวเทียน ก็สามารถทำให้เกิดแบ็คไฟร์ได้
ทำไมเปลี่ยนหัวเทียน แล้วลดการเกิดแบ็คไฟร์ลงได้ล่ะ ? หรือรถที่เกิดปัญหา เปลี่ยนแค่หัวเทียนแล้วก็ไม่เกิด แบ็คไฟร์.
รถใช้แก็สที่ส่วนผสมยิ่งบาง เนี่ยจะทำให้ความร้อนสูงมาก มันก็ยังสะสมบริเวณ ขั้วหัวเทียน นานวันเข้า ฉนวนที่ใช้ในการเก็บถ่ายเทความร้อนเสื่อม หัวเทียนเลยมีความร้อนสะสมสูงมาก ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนสู่ ฝาสูบได้ จึงเกิดการชิงจุดก่อน ระหว่างลำเลียง เชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ การเปลี่ยนหัวเทียน ก็เลยหายจากอาการ แบ็คไฟร์
การเกิดแบ็กไฟร์ กับ มิสไฟร์ ต่างกันที่ เกิด ท่อร่วมไอดี กับ ท่อร่วมไอเสีย
เชื้อเพลิงทุกประเภท มีสิทธิ์ เกิด แบ็กไฟร์

ความเสียหายจากการเกิดแบ็คไฟร์ ยังไม่รุนแรงเท่า ทำให้ใจคุณตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย อานุภาพของมันรุนแรงมากด้วย กระจาย ทั้งกรองอากาศ ฝาครอบกรอง ฐานกรอง อาจจะกระเด็น หลุดจากตัวถัง แตกเป็นชิ้นๆเลย

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ช่วยด้วยคับท่าน ติดแก๊สแบบหัวฉีด AG แล้วออกตัวสะดุดคับ 7a (อ่าน 7676 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้