AE. Racing Club
06 มีนาคม 2568 20:07:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 ... 8  »  [5»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บทความ เรื่องราว ที่มามอบให้ชาวAE (ใครจะมาเก็บไว้ก็ได้นะครับ)  (อ่าน 17382 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 31 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
poky
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 10:41:27 »

 
** คน ที่เป็น เพื่อน **
ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับเดียวกัน
ไม่จำเป็นต้องมีฐานะเท่าเทียมกัน
ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าเทียมกัน
ถ้าคิดแบบนั้น คุณจะไม่มีเพื่อนแท้ดีๆเลยสักคน
คอยเตือน               ยามเพื่อนพลั้ง
คอยฟัง                   ยามเพื่อนขอ
คอยรอ                   ยามเพื่อนสาย
คอยพาย                 ยามเพื่อนพัก
คอยทัก                   ยามเพื่อนทุกข์
คอยปลุก                 ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ                   ยามเพื่อนงอน
คอยสอน                 ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด               ยามเพื่อนเผลอ
คอยเจอ                   ยามเพื่อนหา
คอยลา                   ยามเพื่อนกลับ
คอยปรับ                 ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน               ยามเพื่อนเที่ยว
คอยเคี่ยว               ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น                 ยามเพื่อนร้อน
คอยหอน                 ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า                   ยามเพื่อนฟุบ
คอยอุบ                   ยามเพื่อนปิด
คอยคิด                   ยามเพื่อนถาม
คอยปราม               ยามเพื่อนหลง
คอยปลง                 ยามเพื่อนแกล้ง
คอยแบ่ง                 ยามเพื่อนหมด
คอยอด                   ยามเพื่อนทาน
คอยคาน                 ยามเพื่อนล้ม
คอยชม                   ยามเพื่อนชนะ
คอยสละ                 ยามเพื่อนชอบ
รักเราหาไม่ง่ายเลย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดีดี รักกันไว้ให้มาก ๆ ไม่มีอีกแล้วถ้า

เราเสียเพื่อนที่ดีไปเพราะ แค่เหตุผล โง่โง่
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ตุลาคม 2552 10:55:03 โดย POKY » บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 10:50:06 »

บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง   เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้น

ด้วย.. ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ




ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง

เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง

เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง

เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น

เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า

แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น...........

เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง

เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง

เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง

ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ

เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว

จงแสวงหา การหยั่งรู้

จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…

จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป

ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด

เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย

น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้

เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม

บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น

ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย

เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง

…..

และเวลานี้….

ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ copy ข้อความนี้ไปให้คนที่คุณรักอ่าน…… แล้วคิดว่า….

สักวันหนึ่ง…........ค่อยส่ง.. จงอย่าลืมคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาส

มานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 10:52:45 »

18 สาเหตุทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง +อ่อนเพลีย 18 คำตอบ เวลาที่คุณรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง เวลาที่เราอ่อนเพลีย

เรามักโทษความเครียดและการนอนน้อย

แต่ยังมีสิ่งผิดปกติอื่นอีกที่สามารถสูบพลังจนหมดตัวคุณได้

โชคดีที่เรามีวิธีเรียกพลังใจและกายกลับคืนมา

1. ใช้โทรศัพท์มากเกินไป

คุณจะเสียน้ำในร่างกายไปทางปากขณะพูด

ซึ่งเป็นอาการที่เรียกว่า Phone-Fatigue

ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพนักงานตามศูนย์บริการลูกค้า

อาการขาดน้ำทำให้เลือดแข็งตัวและลดปริมาณออกซิเจนในระบบที่เป็นตัวให้พลังงาน

ดังนั้น ถ้าคุณใช้โทรศัพท์นาน ควรดื่มน้ำมากๆ ระหว่างคุย

2. ความดันเลือดต่ำ

ความดันเลือดต่ำคือสาเหตุใหญ่ที่คุณหมดแรง

แพทย์ยังไม่รู้ว่าทำไม แต่เป็นไปได้ว่ามันทำให้เลือดส่งไปยังสมองไม่เต็มที่

ซึ่งอาจทำให้อ่อนเพลีย

อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในคนที่มีความดันเลือดต่ำคือ

รู้สึกหน้ามืดเวลาลุกขึ้นปุบปับ

หรือเวลายืนนานๆ

ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์

3. เล่นเน็ตดึกเกินไป

ฮอร์โมนเมลาโตนิน (Melatonin)

จะกระตุ้นให้เรานอนหลับ

แต่แสงจากจอคอมพิวเตอร์อาจทำให้เราหลับยาก

โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังดูสิ่งที่สนใจอยู่ ซึ่งทำให้คุณมักนอนดึก

และมีเวลานอนหลับน้อยลง ให้คุณทำอย่างอื่นที่ผ่อนคลายกว่า

เช่นอ่านหนังสือแล้วดูสิว่าคุณจะตื่นตัวมากกว่าเดิมในวันใหม่หรือเปล่า

4. กินอาหารไม่เต็มที่

การเฝ้ารออาหารจะเพิ่มปริมาณน้ำย่อย

และทำให้เราดูดซับสารอาหารได้มากขึ้นที่มันเกี่ยวกับอาการอ่อนเพลียก็เพราะการขาดธาตุเหล็กคือหนึ่งในสาเหตุของความอ่อนเพลียที่พบมากในผู้หญิง

ดังนั้นไม่ว่าอะไรที่เพิ่มระดับสารอาหารให้คุณ

ก็จะเพิ่มพลังใจและกายให้ด้วย

5. ไม่ออกกำลัง

นักวิจัยพบว่าคนที่ออกกำลังอย่างน้อย 20 นาที

แม้จะแค่อาทิตย์ละครั้งก็จะรู้สึกอ่อนเพลียน้อยกว่า

คนที่ไม่ออกกำลังเลยประมาณ 30%

ถ้าเห็นว่าออกกำลังเป็นเรื่องยากเกินไปให้คุณกินผักและผลไม้เพิ่ม

คนที่กินผักผลไม้อย่างน้อย 4 – 5 จานต่อวันจะออกกำลังได้อย่างสบายๆ

6. อิทธิพลของเดือนเกิด

ถ้าคุณเกิดเดือนธันวาคมหรือมกราคม

จะอ่อนเพลียในช่วงเย็นมากกว่าคนที่เกิดเดือนมิถุนายน

หรือกรกฎาคมที่จะขี้เซาในยามเช้า

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า

การสัมผัสของแสงแดดยามเช้าประมาณ 15 นาที

จะทำให้คนประเภทหลังตาสว่าง

ส่วนกาแฟยามบ่ายจะเพิ่มพลังให้กับคนประเภทแรก

7. กรามแข็ง

คุณสามารถใส่นิ้ว 3

นิ้วเรียงเป็นแนวตั้งเข้าปากพร้อมกันหรือเปล่า

ถ้าไม่ได้ คุณคงมีปัญหาที่เรียกว่า

โรค TMJ ( TemporomandiBular Joint Disorder )

แพทย์บอกว่ามันคือความไม่สมดุลระหว่างกล้ามเนื้อใกล้กราม

และตำแหน่งของฟัน

อาการทั่วไปคืออ่อนเพลีย

และปวดหัว ปวดคอหรือไหล่ ควรปรึกษาทันตแพทย์

8. ธรณีหน้าต่างสกปรก

จากการวิจัยพบว่า 88%

ของบ้านทั่วไปจะมีราขึ้นตามหน้าต่าง

และการแพ้เชื้อราเหล่านี้เองคือ

สาเหตุหนึ่งของความอ่อนเพลีย

ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาดและตรวจดูผ้าม่านอาบน้ำของคุณด้วยว่ามีราหรือเปล่า

9. ไม่ได้เอาผ้าห่มไปผึ่งแดด

ระดับความขึ้นสูงทำให้ไรฝุ่นเติบโตได้ดี

มันอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบตามหลอดลมในปอด

ทำให้หายใจติดขัดและนอนหลับไม่สนิท

และเป็นสาเหตุของความอ่อนเพลียในวันต่อมา

นำผ้าห่มผึ่งแดด เป็นประจำเมื่อความชื้นหมดไป ก็ไม่มีไรฝุ่น

10.เชื่องช้า งุ่มง่าม

ร่างกายจะใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อคุณงุ่มง่าม

เพราะปริมาณกลูโคสเข้าสู่สมองน้อยลง

คุณเลยอ่อนเพลีย

การผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดทำได้โดยเหวี่ยงแขนไปหน้าและหลัง

สลับทีละแขน

11.อยู่ใกล้คนมองโลกในแง่ร้าย

คนที่มองทุกอย่างในแง่ร้ายจะฉุดพลังคุณหดหายไปด้วย

เพื่อลดอิทธิพลของพวกเขาให้จินตนาการว่า คุณกำลังใส่เสื้อคลุมสีดำเวลาคุยกันก็จะยับยั้งไม่ให้คุณดูดพลังแง่ลบจากพวกเขาได้

12.อยู่ใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากเกินไป

ขั้วบวกที่มาจากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์

หรือเครื่องปรับอากาศอาจกระตุ้นให้เกิดฮอร์โมนที่ทำให้เราอ่อนเพลียและซึมเศร้า

ให้เสียบปลั๊กตัวแปลงขั้วไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระดับของขั้วลบที่เสริมพลังในอากาศ

13.ลืมดื่มกาแฟตอนเช้า

ถ้าคุณไม่ได้ดื่มกาแฟยามเช้า

พลังกายและใจอาจตกวูบในวันนี้

จากงานวิจัยพบว่าผู้ร่วมวิจัย m50%

มีอาการอ่อนเพลียถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟถ้วยแรกของวัน

ซึ่งมีถึง 13% ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

14.บ้าน รก

ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยบอกว่ากองสิ่งของรกเกะกะจะทำให้สถานที่นั้นขาดพลังและกระตุ้นให้คุณขาดพลังไปด้วย คุณไม่ต้องถึงกับเก็บทุกอย่างในทันที

แค่สะสางพื้นที่อาทิตย์ละครั้งก็ใช้ได้

15.ร่างกายมีปัญหา

แม้ว่าการเจ็บหน้าอกคือสัญญาณหลักๆ

บอกถึงอาการโรคหัวใจ

แต่สำหรับเพศหญิงสัญญาณนั้นอาจเป็นความอ่อนเพลีย

ซึ่งมีมากถึง 70%

ที่อ่อนเพลียภายในเดือนนั้น nก่อนหัวใจกำเริบ

สัญญาณอื่นๆ อาจ

รวมถึงการนอนไม่หลับ

หายใจขาดห้วง อาหารไม่ย่อย

และความเครียด 43%ของผู้หญิงไม่มีอาการเจ็บ หน้าอกเลย

แม้โรคหัวใจจะกำเริบก็ตาม

พบผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนเป็นโรคหัวใจน้อยมาก

แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีควรตรวจร่างกาย

โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น สูบบุหรี่

ความดันเลือดสูงคลอเรสเตอรอลสูง

เป็นเบาหวาน หรือคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ

16.กลั้นหาว

การหาวเป็นวิธีธรรมชาติที่ร่างกายของเรากระตุ้นให้เราตื่น

นักจิตวิทยาบอกว่าการเคลื่อนไหวของ

กรามจะบีบหลอดเลือดบนใบหน้า

ซึ่งส่งเลือดไปยังสมองการกลั้นหาวจึงเป็นการยับยั้งกระบวนการนี้

และทำให้คุณยิ่งง่วงนอนมากขึ้น

17.ใช้ชีวิตตามตาราง

ตารางกิจกรรมที่เตือนคุณทุกอย่างว่าต้องทำอะไรบ้างคือตัวดูดพลังชั้นดี

นักวิจัยพบว่าคนที่คิดว่าเขา

ทำอะไรไปได้มากแค่ไหนมักจะอ่อนเพลียง่ายกว่าคนที่ทำสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อยๆ

18.หมอนเก่าเกินไป

ถ้าหมอนของคุณยวบยาบไม่แข็งพอ

จะทำให้ลำคอของคุณไม่ได้ระนาบเดียวกับลำตัว

ซึ่งไม่เพียงทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวซึ่งทำให้คุณนอนไม่หลับแล้ว

ยังไปกีดขวางระบบการหายใจเวลาคุณหลับด้วย

ถ้าหมอนของคุณอ่อนนิ่มจนโอบรอบแขนคุณได้ก็ถึงเวลาซื้อใบใหม่แล้ว
 

 

บันทึกการเข้า
OrangeLime@RYZ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,711


คิดถึง AE ที่สุด


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:01:15 »

โห !!

บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:01:57 »

มาลองอ่านกันดีกว่า เน๊อะ

 
วันก่อนเพื่อนส่งเมลมาให้ฉบับหนึ่ง หัวข้อก็คือ "คุณอ่านได้มั้ย"

พออ่านแล้วรู้สึกสนุกดี ว่า....เอ้ !! แปลกจังเลย นี่เราก็ยังอ่านมันได้นี่หน่า แม้เหมือนจะงง ไม่เข้าใจ

แล้วทำให้เกิดข้อคิดบางอย่างขึ้นมา ท่ามการดำเนินชีวิตในสถานการณ์ที่ดูสับสนอลหม่านวุ่นวายในยุคปัจจุบันนี้

ไม่รู้ว่าคุณเคยอ่านหรือยัง  แต่เอาล่ะ  เราไปอ่านกันดู ดูสิว่าคุณอ่านมันได้มั้ย แล้วค่อยมาคุยกันต่อ

ณุอาน่ได้มยั้

 


 ถ้าคณุอาน่บทคาวมนี้ได้
คณุมีความคดิที่แขง็แรงพอสวคมรเลยนะ
คณุอาน่ได้หรอืเลป่าล่ะ
 มีแค่ 55 คนจาก 100 เท่านนั้แล่หะที่อาน่ได้

 

ฉนัไม่อายกจะเชอื่เลยว่า
 ฉนัเข้าใจสงิ่ที่ฉนักำลงัอาน่อู่ยนี้
 มนัเปน็ปฎกราากรณ์ของคาวมคดิของม์ษุยน
 ผลการศกึาษวจิยัจาก มวหายิทัาลย แบมคิร์จด ก่าลวว่า

 

มนัไม่สคำญเลยว่าตวัอรัษกเยีรงถตอ้กูงหรอืไม่ในคำคำหนงึ่
 มนัสคำญแค่ว่า ตวัอษักรแรกและตวัอษกัรตวัสดุทาย้ของคำ
 นนั้อู่ยในตนำแห่งที่ถกูตอ้ง ที่เลืหอนนั้มนัจะมวั่ซวั่อ่ายงไร
 คณุก็อาน่มนัได้อู่ยดี ไม่มีปหญัา

 


 ที่เปน็อาย่งนี้เราพะคาวมคดิของมษุน์ยนนั้
 ไม่ได้อาน่ตวัอษกัรทกุตวัซกัหอน่ย
 แต่อาน่เปน็คำเตม็ ๆ คำ
 สดุยอดเลยใช่มยั้ล่ะ...ใช่เลย
 แต่ยงัไงฉนัก็คดิว่าการสกะดมนัสคำญันะ
 ถ้าคณุอาน่บควาบมนี้ได้ ชว่ยสง่ตอ่หอน่ยนะ

 

 


ฉะนั้น ความสับสันวุ่นวายไม่ได้เป็นเหตุทำให้เราไปต่อไม่ได้ และเราไม่ควรจะวิตกจริตกับสิ่งต่างๆที่ประดังประดาถ่าโถมเข้ามาในชีวิตจน เกินเหตุ

จงเผชิญกับมันเถิด แล้วคุณจะรู้ว่า

คุณสามารถอ่านปัญหาที่ดูงงงวยได้ไม่ยาก และสามารถเผชิญหน้ามันต่อไปได้ และไปจนถึงความสำเร็จ

ใช่.....คุณยังไหว.....และคุณอ่านมันได้

 
บันทึกการเข้า
KaRiLaO
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:33:45 »

 
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:40:51 »

ใครมีบทความอ่านสนุก อ่านแล้วซึ้ง หรือได้ความรู้ เอามาลงไว้นะครับ มีสาระกันบ้างไร้สาระกันบ้าง ชีวิตจะมีแต่ความสุข
ถ้าเครียดมากไปชีวิตก็ทุกข์ สนุกจนเกินไปเค้าก็หาว่าปัญญาอ่อน(เหมือนผมไง)
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:49:08 »

เมื่อก่อน กูหวาน ทำเป็นอาย        กูนัวเนีย รอบกาย ที่รักจ๋า                     
เดี๋ยวนี้ กูหวาน 'อาวกระโถนมา'  กูนัวเนีย ขอเหอะว่ะ 'ไกลๆตีน'               
 &n bsp;                                                           
เมื่อก่อน กูอ้อน น่ารักจัง             เดี๋ยวนี้ อ้อนมั่ง 'อย่าเล่นลิ้น'                 
เมื่อก่อน หอมแก้ม เป็นอาจิณ      เดี๋ยวนี้ ได้กลิ่น เป็นอาเจียร                     
                                                             
เมื่อก่อน เจอกัน อ่ะของฝาก       เดี๋ยวนี้ เมิงอยาก ก็ซื้อดี๊                     
เมื่อก่อน ขับรถ รับส่งฟรี            เดี๋ยวนี้เฮ้ย! แท๊กซี่ เอาอีนี่ไป               
                                                               
เมื่อก่อน ร้องไห้ คอยกอดปลอบ       ป่าวประกาศ ช๊อบชอบบบบ คนอ่อนไหว             
เดี๋ยวนี้ กูร้องไห้ โอ้ย....เป็นรัย       อ่ะ กระแดะเข้าไป  อยากได้อะไร บอกดีๆ   
                                                           
เมื่อก่อน ยิ้มให้ โหย..ใจเต้น         เดี๋ยวนี้ยิ้ม ให้เห็น  'กูปวดขี้'             
เมื่อก่อน เฮ้ย..ขาว ว๊าว ดูดี๊ดี           เดี๋ยวนี้ซีด ยังกะผี  ดูมันชม               
                                                             
เมื่อก่อน ข้ามถนน เดินจูงมือ        ข้าวของเงี้ย ช่วยถือ กลัวเราล้ม                 
เดี๋ยวนี้ ยกมือ ขึ้นพนม                 โอมพี้ยง...ให้มันล้ม รถเหยียบคอ           
     &nbs p;                                                       
เมื่อก่อน สาวมอง ทำเป็นเงียบ           เดี๋ยวนี้ขอ เบอร์เพียบ ไอ้หน้าม่อ                   
เมื่อก่อน จะไปไหน เดี๋ยวป๋มรอ         เดี๋ยวนี้ ไม่ง้อ จะไปไม่ไป…               
                                                             
เมื่อก่อน ทำอะไรผิด โอ้ย …นิดหน่อย      เดี๋ยวนี้ เดี๊ยะต่อย…ดีๆหน่อยได้มั้ย?           
เมื่อก่อนใคร มองก็โกรธ เป็นฟ ืนไฟ       เดี๋ยวนี้ใคร อยากได้ กูให้ฟรี               
                                                           
เมื่อก่อน กินข้าว เดี๋ยวป๋มจ่าย           ก็นะ …เกรงจัยคุณ เป็นเลดี้                   
เดี๋ยวนี้…หลอก..หม่ำ.. กูฟรีๆ             เซ็งจัง อีนี่ เกาะกูกิน                     
                                                             
เมื่อก่อน กูงอน ทำเป็นง้อ         โวยวาย ตัดพ้อ ชีวิตจะสิ้น                     
เดี๋ยวนี้ กูงอน ทำท่าจะบิน         ' งั้นเลิก' ฟังจนชิน ต้องง้อมัน                 
                         &nb sp;                                   
เมื่อก่อน โทรตาม เอาใจใส่     เดี๋ยวนี้ โทรไป ปิดซะงั้น                     
เมื่อก่อน เมจเสจ ส่งทั้งวัน       เดี๋ยวนี้ ความจำสั้น ลืมจ่ายตังค์
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:51:36 »

ดู หรือ อ่าน แล้ว      อย่าคิดมาก

ถ้า คิดมาก ............ก็ อย่า คิด ให้ มาก

จะปวด หัว เปล่าๆ

เข้าใจ บ่





 

 

" ความเชื่อ " มีอยู่ในตัวคนเราทุกคน บ้างก็เชื่อว่าผีมีจริง วิญญาณมีจริง เชื่อเรื่องดวง
เรื่องเคล็ด และก็เชื่อเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่ตัวบุคคลว่าผูกพันหรือคุ้นเคยกับสิ่งไหนมามากกว่า
เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้เรามีเรื่องดีๆ มาฝากคนที่เชื่อเรื่อง " เคล็ดเสริมดวง " ใครอยาก
โชคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาด... (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)   


                                เตียงนอน
อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ เพราะจะทำให้เสื่อมโชคอับโชค
อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค


                              สุนัข แมวจรจัด
แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง ในวันฝนตกก็อนุญาตให้สัตว์จรจัด
เข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน การทำบุญทำทานกับสัตว์นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล


                                ห้องครัว
ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ครัว
สกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่าย
ออกไป เจริญรุ่งเรืองช้านัก


                              ผ้าเช็ดหน้า
อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี ถือเป็นของ
ขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมี 'serif'">ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ ดวงชะตาของ
คนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น


                                วันบริสุทธิ์
วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือวันโกน วันพระ วันเกิด และวันเข้าพรรษา
ตามธรรมเนียมโบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป


                              เหรียญนำโชค
เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้ ให้ถือเสมือน
เป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น ถือเป็นการ
ดูถูกเงินทอง ไม่เห็นคุณค่าของเงิน คนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวัน หรือในช่วง 3 -
7 วันนั้น


                              แหวนเสริมดวง
เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิต
ถ้าอยากเสริมดวงการเงิน  - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงิน แหวนหยกและแหวนหัว
พลอยสีที่ถูโฉลก
ถ้าอยากเสริมดวงความรัก - ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว เลือกแหวนเพชรหรือ
เทอร์ควอยส์ก็ได้
วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ - จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์
การสวมแหวน
สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี   
สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย - เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก


                              ทำบุญโลงศพ
ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงิน ร่วมกันซื้อโลงศพให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลง
ศพจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน และมีทุกข์มีเคราะห์


                            พระพรหมศักดิ์สิทธิ์
หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพ ก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์
โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งนั้น พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกัน
มากว่า บนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง


                                หิ้งพระ
หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่างๆ หรือ ร. 5, ในหลวงของ
เรา เมื่อตั้งหิ้งบูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนดอกไม้ พวงมาลัย
ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรก มีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหด
หาย ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง


                              ไข่ และ ส้ม
ในบ้านเรือนควรมีไข่ และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุข
เข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี
บันทึกการเข้า
ดาวหางสีฟ้า
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 658


บรรลัยไม่ว่า..ขายหน้าไม่ได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 11:59:36 »

ดีๆๆๆ จัดไปอีก
บันทึกการเข้า

เจ้าชู้เพราะ..กูเลือกได้
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:01:09 »

กรุณา สละ เวลาสัก 2-3 นาที

พ่อทำงาน...อาบแดด...ถูกแผดเผา
ลูกดื่มเหล้า..ฟังเพลง...ครื้นเครงเหลือ


แม่ขายผัก...กินข้าว...เคล้ากับเกลือ
ลูกเอื้อเฟื้อ...พาสาวเที่ยว...เลี้ยวโฮเตล


พ่อหาเงิน...ส่งลูกเรียน...เพียรอุตส่าห์
ลูกติดยา...คบเพื่อนชั่ว...มั่วให้เห็น


แม่กระหาย...ดื่มน้ำคลอง...ตอนกลองเพล
ลูกทะเล้น...จิบวายแดง...แพงจับใจ


พ่ออดอยาก...ไม่เคยบ่น...ทนลำบาก
ลูกมักมาก...เพศสัมพันธ์...มันส์ชิบหาย


แม่ทอผ้า...ปลูกหม่อน...หารายได้
ลูกหญิงชาย...เที่ยวสนุก....โรคติดตัว


พ่อสูบน้ำ...เข้าแปลงนา...ปลูกข้าวกล้า
ลูกมัวเมา...การพนัน...หมั่นหาผัว


แม่หาบน้ำ...เลี้ยงเป็ดไก่...ทำสวนครัว
ลูกใจชั่ว...ใช้เงินเพลิน...เดินหลงทาง


พ่อขายวัว...ส่งควายเรียน...เวียนศรีษะ
ลูกตะกละ...กินฟาสฟู๊ต...พูดกว้างขวาง


แม่ปวดเมื่อย...สู้งานหนัก...ไม่ละวาง
ลูกสำอาง...ใช้ของแพง...แข่งสังคม


พ่อผอมแห้ง...เรื่ยวแรงน้อย...ด้อยอาหาร
ลูกประพฤติ...อันตพาล...ล่าเสพสม


แม่เป็นดอก...ทบต้น...หมดอารมณ์
ลูกเขี้ยวคม...ฆ่าพ่อแม่...ก่อนแก่ตาย

บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:01:46 »

ดีๆๆๆ จัดไปอีก
มีตรึม!
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:03:47 »


 > ด้วยความห่วงใย
>     แค่ช่วยส่งต่อก็ได้บุญแล้ว.....
>
>     สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อ '
>     ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ' เช่น
>     1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด
>     น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
>
>     2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
>     3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมัน
>     ไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
>
>     4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ
>     สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
>
>     5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
>
>     6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
>     ( ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง )
>     น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง
>
>     7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก
>     และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป
>
>     8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว)
>     กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้
>
>     9.. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย
>     ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้
>
>     10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด
>     ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้
>
>     11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ
>     ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี
>
>     12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง
>     กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
>
>     13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง
>
>     14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี
>     โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี
>     ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม
>     ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต
>
>     15. มะเร็งปอด กิน ส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ
>     อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน
>
>     16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี
>     ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้
>
>     17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก
>     ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง
>
>     18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี ' โมโรอันแซตเทอเรต '
>     ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้
>
>     19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี
>     ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง
>
>     20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง
>     ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้
>
>     พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง
>     คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร
>     โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน
>     ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ
>     เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า
>     และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้
>     ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.
>
>     อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
>     1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ
>     ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
>     หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด
>     เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
>
>     2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์
>     หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
>
>     3. มะเร็งรังไข่ อาการ
>     ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
>     มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
>
>     4. มะเร็งในเม็ดเลือด ( ลูคีเมีย)
>     อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว
>     หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง
>     ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
>
>     5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ
>     มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ
>     เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
>
>     6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร
>     น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
>
>     7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
>
>     8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ
>     และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า
>     และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ
>     การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว
>     ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
>
>     9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก
>     หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
>
>
>     10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที
>     มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมใน
>     ลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้
>
>     11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
>     อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย
>     รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
>
>     12. มะเร็งทรวงอก
>     อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้
>     บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10
>     คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น
>     เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์
>     ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
>
>     13. มะเร็งลำไส้ อาการ
>     น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
>     **** ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ
>     ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ
>     อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
>
>     14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
>     อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้
>     เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
>
>     15. มะเร็งผิวหนัง
>     อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง
>     ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา
>     (Melanoma) คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น
>     กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด
>     ทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ
>     ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล
>     ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับมะเร็งจะหายภายใน      6 วัน วิธีรักษา - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน
>     นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม
>     สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ
>     นำส่วนที่เหลือมารับประทาน
>     ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ
>     เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ
>
>     *** ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา
>     และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด
>     หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน
>     ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข ความสมหวังทุกประการ
>
บันทึกการเข้า
pooky 2009
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 493


รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือคุณสมบัติของคนไทย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:28:02 »

ยาวจังเลย

ขี้เกียจอ่าน


           5555555555555555555555++++++++++++++
บันทึกการเข้า

รอคอยอย่างมีความหวัง   ขอให้สมหวังในทุกสิ่ง

เพราะเป็นคนดี   ฟ้าคงเห็นใจ  บันดาลสิ่งดีดีมาให้
ดาวหางสีฟ้า
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 658


บรรลัยไม่ว่า..ขายหน้าไม่ได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:29:16 »

ว่างจัดจิงๆ
บันทึกการเข้า

เจ้าชู้เพราะ..กูเลือกได้
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:48:09 »

ยาวจังเลย

ขี้เกียจอ่าน


           5555555555555555555555++++++++++++++
เจ๊ แวะไปทุกโซนเลยนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ตุลาคม 2552 13:30:15 โดย POKY » บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 12:48:36 »

14 ที่สุดในชีวิตเรา

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ   ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้! บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ   การให้ทาน
บันทึกการเข้า
ดาวหางสีฟ้า
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 658


บรรลัยไม่ว่า..ขายหน้าไม่ได้


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 13:14:52 »

14 ที่สุดในชีวิตเรา

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ   ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้! บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ   การให้ทาน

ชอบอันนี้จิงๆ ขอนะ
บันทึกการเข้า

เจ้าชู้เพราะ..กูเลือกได้
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 13:29:46 »

จัดไปครับ
บันทึกการเข้า
poky
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2552 14:10:43 »

 

สูตรแห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน By สุทธิชัย หยุ่น
 

พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น “สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”
 ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...
 
ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
 เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ตำราแห่งชีวิต” ซึ่งผมคิดว่าเหมาะเจาะกับเนื้อหา
 และคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้,
 เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน, แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไร
 ให้กับชีวิตของตนเอง, ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุน สมควรที่จะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง
 
 
สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
      ๑.   ดื่มน้ำให้มาก     
    ๒.   กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น,
          ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยง
           และตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
      ๓.   กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
      ๔.   ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น
           และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
      ๕.  หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
      ๖.   เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
      ๗.  อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
      ๘.  นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
      ๙.  นอนวันละ 7 ชั่วโมง
     ๑๐.   เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะกวด, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน,
            ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
     ๑๑.   ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม
 
     นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร,
   ชีวิตก็จะแจ่มใส,แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลา
   ของตนเอาไว้ วันนี้ทำไม่ได้, พรุ่งนี้ทำก็ได้ แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการ
   ผัดวันประกันพรุ่ง, ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
 
 
  สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้ครับ
 
        ๑.  อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณ
           อย่างไรบ้าง
      ๒.   อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
      ๓.  อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
      ๔.  อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
      ๕.  อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะ
         ทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
      ๖.  จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
      ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็น
         ต้องมีแล้ว
      ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของ
         อีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
      ๙.  ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
      ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
      ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
      ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร
         ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
      ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
      ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่าง
         กันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
       
 แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?
      ๑.      อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
      ๒.    จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
      ๓.     จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
      ๔.     จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
      ๕.     พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
      ๖.      คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก  หน่อย
      ๗.     งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณ
          ในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 
 
  และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
       ๑.   ทำสิ่งที่ควรทำ
       ๒.   อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง
          ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
       ๓.   เวลาย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
       ๔.  ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
       ๕.  ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุกจากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้า
          คนที่เราร่วมงานด้วย...get up, dress up and show up.
       ๖.   สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
       ๗.   ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า  หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
       ๘.  เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

 
และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด
 
ส่งบทความที่ต่อไปให้คนที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 8  »  [5»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!