หากลิ้งค์เข้ามาก็ไม่ต้องสงสัย เพราะบางกระทู้เข้าไปแก้ไขไม่ได้ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 ศาลปกครองชั้นต้นตัดสินให้ประกาศของกรมการขนส่งทางบกชอบด้วยกฎหมาย และสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ. ที่ติดตั้งเครื่องทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อเท่านั้นที่สามารถตรวจสภาพรถยนต์ได้ แต่วันนี้ 23 กันยายน 2552 เปลี่ยนอีกแล้วครับท่าน กับคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดให้ทุเลาการบังคับใช้เครื่องทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อออกไปอีก จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอื่น แต่สำหรับผู้ประกอบการสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ. ที่ปฏิบัติตามกฎหมายและลงทุนกู้หนี้ยืมสินไปแล้ว กว่า 1,000 ราย ยังไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบหรือช่วยเหลือกันอย่างไร.....ก็ว่ากันไป
แต่ที่แน่ๆ นับจากวันที่ 23 กันยายน 2552 การตรวจสภาพรถยนต์ ของสถานตรวจสภาพรถเอกชนจะมี 2 แบบ คือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ. ที่ติดตั้งและให้บริการทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อ สามารถเก็บค่าบริการตรวจสภาพรถยนต์ได้ในราคา 200 บาท และ สำหรับสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ. ที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องทดสอบหรือติดตั้งแล้ว แต่ไม่ได้ให้บริการทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อให้จัดเก็บค่าบริการ 150 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถเป็นสำคัญ ดังนั้นประชาชนจะสามารถเลือกเข้าใช้บริการกับสถานตรวจสภาพรถยนต์แห่งใดก็ได้ และหากเล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบเบรคและศูนย์ล้อ ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญสูงสุดของการตรวจสภาพรถ ก็ให้เลือกเข้าใช้บริการกับสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ. ที่ติดตั้งและให้บริการทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อ เพราะเงินที่เพิ่มขึ้นอีกเพียงแค่ 50 บาท ต่อปี มันคุ้มค่ามากกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณเอง เนื่องจากความผิดพร่องของระบบเบรคนั้น ช่างจะไม่สามารถตรวจสอบให้ได้ด้วยสายตา เพราะปัจุบันการทดสอบระบบห้ามล้อและศูนย์ล้อรถของคุณ หากไม่ผ่านการตรวจสภาพก็ไม่มีผลใดๆ ต่อการเสียภาษีประจำปีไม่ได้ เพราะไม่บังคับใช้แล้ว แต่จะเป็นผลดี ในการแก้ไขให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
http://www.7insure.com/webboard_2_1_42317_TH.html4อ่านเอกสารชี้แจงเรื่องดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถ ที่ลิ้งค์นี้ครับ
http://www.dlt.go.th/dltnews/2552/sep52/kk0418-12141.pdf--------------------------------------------------------
ผมไปต่อภาษีช่วงต้นเดือนก.ย. มันดันยกเลิกหลังผมตรวจ เซ็งจัด...
