AE. Racing Club
19 พฤศจิกายน 2024 02:21:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบครับว่าเกียร์ auto ต้องดูแลอย่างไรบ้าง  (อ่าน 5229 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
beauty
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2009 23:02:53 »

ต้องเปลี่ยนอะไรบ้างตามเวลากี่ก.ม.ขอตามขั้นตอนนะครับผู้รู้ คำนับ
บันทึกการเข้า
AE80
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,427


2E-TE


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2009 12:01:03 »

เกียร์ออโตเมติก อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อนมากมาย ถ้าย้อน หลังกลับไปกว่า 50 ปี จะพบว่าเกียร์ออโตเมติกรุ่นแรกๆ ของรถแต่ละยี่ห้อ มีเกียร์ อยู่ 2 ถึง 3 เกียร์เท่านั้น ยังไม่มีระบบ Torque Converter ที่มี กลีบเทอร์ไบน์ซับซ้อนหมุนขับน้ำมันไฮดรอลิค เหมือนในปัจจุบันมีเพียง Fluid Coupling และใบพัดห่างๆ หมุนขับน้ำมันเท่านั้น แผ่นคลัทช์ (Friction Plate) คอยรองรับแรงบิดมหาศาลในยุคนั้นหนามาก ช่องทาง เดินน้ำมันห่าง กรองน้ำมันก็ไม่มี
การใช้เกียร์ออโตเมติกแบบเก่า เพียงแค่เร่งให้แรงขึ้นแล้วถอนคันเร่ง เกียร์เปี่ยนไปในเกียร์ที่สูงขึ้น แถมบางรุ่นใช้การกดปุ่มที่วาง เรียงเป็นแถว เรียกกันว่าเกียร์ไฟฟ้า
ถ้าในปัจจุบันนี้ บริษัทผลิตรถยนต์ยังใช้เกียร์ออโตเมติกแบบเดิม การล้างเกียร์ออโตเมติกเห็นจะไม่จำเป็น เพราะเป็นชิ้นส่วน ขนาดใหญ่ ไม่ละเอียดเหมือนเกียร์ออโตเมติกในปัจจุบัน ที่แผ่นความฝืดมีตั้งแต่ 10 กว่าแผ่นขึ้นไปจนถึงกว่า 30 แผ่นก็มี Valve Body หรือสมองกล ที่สั่งการเปลี่ยนเกียร์ละเอียดถี่ยิบ กรองน้ำมันเกียร์ ชนิดกรองกันเป็นไมครอน แถมก้นแคร้งค์ยังต้องมีแม่เหล็ก ไว้จับเศษโลหะอย่างน้อย 2 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสร้างปัญหากับเกียร์
ในเรื่องของเกียร์ออโตเมติกไม่มีสิ่งแปลกปลอมจะมีก็แต่สิ่งสกปรก ที่หลุดออกมาจากแผ่นความฝืด แผ่นเหล็กสปริง (Modul Plate) ซึ่งว่า กันว่าเกียร์ออโตเมติกลูกที่มีชิ้นส่วนน้อยที่สุด ก็มีชิ้นส่วนเกือบ 300 ชิ้น เศษ โลหะจากชิ้นส่วนจะหมุนวนอยู่ในจุดต่างๆ รวมทั้งทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อันจะเป็นผลให้การทำงานของเกียร์ผิดปกติ กระชากสะดุด
การขับรถยนต์อย่างผิดวิธีหรือน้ำมันเกียร์ไหม้หลังจากการโอเวอร์ฮีทของเครื่องยนต์ ทำให้ทั้งแผ่นความฝืดและ Band Brake ไหม้ หลุดล่อน เศษโลหะวนเข้าไปในระบบเกียร์

การล้างเกียร์ออโตเมติก (Flush & Filled Auto Trans) ไม่ใช่วิธีแก้หรือ ยาขนานเอก ที่จะทำให้แผ่นคลัทช์ที่ไหม้ไปแล้ว (บางส่วน) หรือชิ้นส่วนที่สึกหรอกลับฟื้นคืนสภาพขึ้นมาใหม่ได้ หากแต่ว่าการล้างเกียร์ออโตเมติก หรือที่เราเรียกย่อๆ ว่า F&F สามารถหยุดความเสียหายไว้ ณ จุดนั้นๆ ยกตัวอย่างเกียร์ที่เกิดความเสียหายหรือสึกหรอไป 25% ทำ F&F แล้วจะหยุดความเสียหาย ไว้ 25% เท่าเดิม (หากเกียร์มีชิ้นส่วนเสียหายเกิน 50% เกียร์ลูกนั้นถือว่าหมดสภาพการใช้งาน)

เพื่อป้องกันและขจัดสิ่งสกปรกออกมาภายในเกียร์ ซึ่งจะเป็นการถนอม และช่วยให้เกียร์ออโตเมติกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรล้างเกียร์ ออโตเมติก ทุกๆ 30,000 กม. สำหรับสภาพการใช้งานปกติ ซึ่งหลังจาก ล้างเกียร์ออโตเมติกแล้ว จะพบว่าในการขับขี่อัตราการถ่ายกำลัง จะตอบสนอง ได้เร็ว เนื่องจากการจับตัวของแผ่นความฝืด และสัมผัสได้เต็มหน้า เช่นเดียว กับรถใหม่ๆ
บันทึกการเข้า

jhongkhon
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 43



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2009 16:12:46 »

พยายามอย่าเปลี่ยนเกียร์บ่อย ติดไฟแดง1-2 นาที ให้ใช้เบรดช่วย เกียร์จะทำงานเองโดยอัตโนมัติ
บันทึกการเข้า
KITTI 2616<NC.Z>
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 884


"ทฤษฏีมีไว้ทดสอบ ผลของมัน นั้นแระคือความจริง"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2009 20:30:03 »

 ตาปริบๆขอแสดงความเห็น นิดนุงนะครับ คือผมมีความเห้นอีกแบบนะครับเรีื่องเกียร์ ออโต้
1.การถ่ายน้ำมันเกียร์ควรถ่ายก่อนถึงระยะถ่ายตามคู่มือ ครึ่งหนึ่ง เนื่องจากน้ำมันเกียร์ไม่ได้แพงมากและใช้น้อย เช่น คู่มือให้ถ่ายทุก 40,000 กม. เราควรถ่ายที่ 20,000 กม.เป็นต้น จะทำให้การF&F ไม่จำเป้นอีกต่อไป
2.เกียร์ออโต้ทั้งในปัจจุบันหรือในอดีตที่ยังพอเหลือวิ่งอยู่บนถนนทุกวันนี้ ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ
2.1 เกียร์ที่เข้าขั้นใช้งานสมบุกสมบันเกิน สมรรถนะ อันนี้ต้องยกเว้นถ้ามันเกิดการเสื่อมเกินเยียวยา แล้วคิดจะกลับตัวอาจจะใช้การ F&F เพื่อเป็นการหยุดความเสียหายได้แล้วเริ่มทำตามข้อ 1.ต่อไป
2.2 เกียร์ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์หรือใช้งานแบบปกติ ดูแลตาม ข้อ 1. ผมว่าอายุน่าจะเกิด 300,000 กม.กว่าจะต้อง โอเวอร์ฮอล์ล กันใหม่ ผมว่ายังไง ค่าใช้จ่าย ถูกและดีกว่ากว่าการ F&F มาก

ปล.สุดท้ายนี้ ผมใช้รถ AE 101 4AFE AUTO วิ่งมา 23X,XXX แล้วเกียร์ก็ยังตอบสนองด้วยดี ในระดับหนึ่งโดยไม่เคย F&F แม้แต่ครั้งเดียว การ F&F แต่ละครั้ง ไม่ต่ำกว่า 2500-3000 บาท โปรดพิจรณาความคุ้มค่าด้วยครับ 
บันทึกการเข้า
KITTI 2616<NC.Z>
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 884


"ทฤษฏีมีไว้ทดสอบ ผลของมัน นั้นแระคือความจริง"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2009 20:34:14 »

พยายามอย่าเปลี่ยนเกียร์บ่อย ติดไฟแดง1-2 นาที ให้ใช้เบรดช่วย เกียร์จะทำงานเองโดยอัตโนมัติ
ผมเห็นต่างนะครับด้วยความเคารพ ผมเป็นคนนึงที่เปลี่ยนเกียร์เป็น N ทุกครั้งที่ติดไปแดง(เกิน 30 วินาที)เพราะการเหยียบเบรคคาไว้แบบนั้นเป็นการทำลายแผ่นครัชมากกว่าการถนอมนะครับเพราะการเหยียบครัชทิ้งไว้แบบนั้นเกียร์ยังไงก็ต้องทำงานตามรอบเครื่องอยู่ดี พิจราณา ความเห็นผมด้วยนะครับผมใช้แบบนี้มาตลอด 23X,XXX กม.แล้ว มันก็พอพิสูจน์อะไรได้หลายๆๆอย่าง (ไม่เหมื่อยด้วยนะ)
บันทึกการเข้า
DAY101T
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2009 22:50:30 »

ตกลงควรเข้า N หรือ D ไว้ตอนติดไฟแดงครับ ขอความกระจ่างคับ สุดยอด
บันทึกการเข้า

KITTI 2616<NC.Z>
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 884


"ทฤษฏีมีไว้ทดสอบ ผลของมัน นั้นแระคือความจริง"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2009 22:58:05 »

ตกลงควรเข้า N หรือ D ไว้ตอนติดไฟแดงครับ ขอความกระจ่างคับ สุดยอด
สำหรับผมแนะนำว่าเข้า N ครับแล้วดูแลเกียรืตามที่ผมแนะนำข้างบน ประหยัดค่าใช้จ่ายและยืดอายุเกียร์ได้อีกนานเกียร์ได้อีกนาน (ไม่เหมือยด้วยนะ)
บันทึกการเข้า
โก๋ต่อ วังเดิม
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 215


HS7UHN


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 เมษายน 2010 09:19:49 »

มายืนยัน เปลี่ยนเป็น N ตอนหยุดรถด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า

ฉลามวัยสะรุ่น COUNTER TERRORIST 

เกียรติยศ...เป็นของชาติ ภารกิจ...เป็นของข้าฯ

รู้จัก เป็นต่อ 8911

MAIL ถึง HS7UHN
ModmaniA.CBZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,449


เพราะชีวิต . . คือการแต่งรถ . .


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 เมษายน 2010 09:35:57 »

ไม่รู้ดีไม่ดีอะ แต่ผมเปลี่ยนเป็น N ตลอด ทั้งไฟแดงแระรถติด เนื่องจากมันสั่นอะ รำคาน  ก็เลยเปลียน N

ยิ่งวิ่งในเมืองนะ เปลี่ยนบ่อยมาก ติดนิดเปลี่ยน ติดนิดเปลี่ยน  แต่ผมเช็คและถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยเอาแทน

ถ้าเสียก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนเกียร์เอา เอาความสบายไว้ก่อน เพราะมันต้องทำให้เราสบาย ม่ายจ่ายยยมาปวดหัว

กับอาการสั้้น อะ

ผิดถูกขออภัยจร้าาาา 
บันทึกการเข้า


C i V i C  Si
DAY101T
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 เมษายน 2010 17:21:23 »

ตกลงควรเข้า N หรือ D ไว้ตอนติดไฟแดงครับ ขอความกระจ่างคับ สุดยอด
สำหรับผมแนะนำว่าเข้า N ครับแล้วดูแลเกียรืตามที่ผมแนะนำข้างบน ประหยัดค่าใช้จ่ายและยืดอายุเกียร์ได้อีกนานเกียร์ได้อีกนาน (ไม่เหมือยด้วยนะ)

ขอบคุณครับ จะนำไปปฏิบัติครับผม
บันทึกการเข้า

chipchip
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 221



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 เมษายน 2010 15:20:48 »

เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ประมาณค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับพี่ๆน้าๆ
บันทึกการเข้า

plew_ch
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,245


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 27 เมษายน 2010 10:22:26 »

น้ำมันลิตรละ170 *4 ค่าแรง 100
หรือแกลอน5ลิตร500+ค่าแรง100
ผมใชdex IIIมาตลอด มันหาง่าย เปลี่ยนทุก 3หมื่นโล
บันทึกการเข้า
kondee
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 27 เมษายน 2010 13:02:16 »

ปีหนึ่งเปลี่ยนที วิ่งทำงานจันทร์ถึง ศุกร์ วันละ 62กิโลเมตร เสาร์อาทิตยืวิ่งประมาณ 20โล
บันทึกการเข้า
homebell_ann
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 83



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2010 10:00:20 »

ขอบคุณ ที่ให้ความรูครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!